174 - ลวนลาม
174 - ลวนลาม
“เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวปี่เยว่มอบมันให้กับจี้เซี่ยะเพื่อให้นางสามารถค้นหาตัวข้าได้ ใครจะรู้สุดท้ายแล้วเครื่องรางนี้กลับเป็นตัวช่วยของข้า”
จี้จื่อเยว่หัวเราะเบาๆด้วยความมั่นใจ แสงสีทองเป็นประกายและรุ่งโรจน์ถูกปลดปล่อยออกจากตัวของนางไม่หยุด
ในเวลานี้นางเป็นเหมือนดอกไม้ที่บริสุทธิ์สูงส่งดุจสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ นางหันไปมองที่เย่ฟ่านรอยยิ้มบนใบหน้าของนางกว้างขึ้นและลักยิ้มเล็กๆก็ปรากฏที่แก้มซ้ายของนางอย่างซุกซน
“มีคนปฏิบัติต่อข้าอย่างดีในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เจ้าคิดว่าข้าควรขอบคุณเขาอย่างไร”
เมื่อมาถึงจุดนี้เย่ฟ่านก็ไม่มีความกังวลใดๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า
“เจ้าสามารถตอบแทนด้วยร่างกายของเจ้าได้”
จี้จื่อเยว่หัวเราะยังอ่อนหวาน นางบินเข้าหาเย่ฟ่านและใช้มือซ้ายบีบแก้มของเขาเบาๆ
“เด็กน้อยเจ้ากล้าที่จะปฏิบัติต่อข้าในลักษณะนั้นจริงๆ……”
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ จี้จื่อเยว่ ก่อนหน้านี้ข้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้า เจ้าไม่ควรตอบแทนความเมตตาด้วยความอกตัญญู”
“โชคดีนะที่เจ้ายังมีใจไม่ทิ้งข้าไว้ข้างหลัง ไม่อย่างนั้นข้าคงพักหัวใจเจ้าออกมาแล้วตอนนี้” จี้จื่อเยว่เอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้มสดใส
สิ่งนี้ทำให้เส้นขนทุกเส้นของเย่ฟ่านตั้งชันด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
จี้จื่อเยว่เผยรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหล
“ข้าอยากกัดเจ้า!”
เมื่อพูดเช่นนี้ฟันสีขาวของนางก็กัดกลับลงไปที่ใบหูของเย่ฟ่านอย่างรุนแรง
หลังจากถูกผนึกมาเป็นเวลานานสิ่งที่นางอยากทำมากที่สุดคือกัดเย่ฟ่านอย่างโหดเหี้ยมสักครั้ง ไม่เช่นนั้นความโกรธแค้นที่อยู่ในใจของนางจะไม่มีวันลบเลือนได้
เย่ฟ่านถูกนางผนึกไว้ เป็นการยากสำหรับเขาที่จะหลบเลี่ยงแม้ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
“ชายหญิงมีข้อห้ามพวกเราไม่ควรสนิทสนมกันเช่นนี้……” หลังจากที่พูดคำนั้นเย่ฟ่านก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากการถูกจี้จื่อเยว่แสดงความโปรดปราน
“ชายหญิงไม่ควรแตะต้องร่างกายของกันและกัน อย่าเป็นแบบนี้เลย เรื่องนี้มันจะทำให้เจ้าได้รับความเสียหาย” เย่ฟ่านยังคงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เจ้าจะพูดอะไรก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ ต่อให้เจ้าร้องจนคอหอยแตกเจ้าก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ไปได้……” คำพูดของจี้จื่อเยว่ทำให้เย่ฟ่านพูดไม่ออกจริงๆ
“จี้จื่อเยว่ อย่าใจร้ายนักเลย ยังไงซะข้าก็ต้องเป็นสามีของเจ้าในอนาคต”
“เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยอายุเพียงสิบสี่ปี แต่เจ้าก็ยังกล้ารังแกข้ามานาน…..” จี้จื่อเยว่บ่นเบาๆและลงมือต่อไป
เย่ฟ่านตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
“จี้จื่อเยว่ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการทำให้สำเร็จ ข้าจะกัดเจ้าให้ตาย…” รอยยิ้มของนางยังคงอยู่ที่นั่นขณะที่ฟันของนางงับเข้าไปที่คอของเขา
“การกระทำของเจ้าช่างห่างไกลจากการกระทำของหญิงสาวที่มีคุณธรรม หากเจ้าจะแก้แค้นเจ้าควรใช้วิธีการอื่น การใช้ปากกัดแบบนี้มันไม่ต่างจากสุนัขเลย……” เย่ฟ่านยังคงตะโกนด้วยความโกรธแค้น
“อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ…….”
จี้จื่อเยว่ที่งดงามบริสุทธิ์สูงส่ง แต่การกระทำในปัจจุบันของนางทำให้เย่ฟ่านพูดไม่ออก
“นี่คือการลวนลามอย่างชัดเจน!” เย่ฟ่านไม่ต้องการจะพูดแต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น
“เพ้ย! เจ้ายังเด็กจะรู้อะไรเกี่ยวกับการลวนลาม?” จี้จื่อเยว่หยิกแก้มเขาอีกครั้ง
“จี้จื่อเยว่ เจ้าจะเป็นผู้อมตะในอนาคต นี่มันไร้ศักดิ์ศรีเกินไป…..”
“ผู้อมตะก็เป็นคนเช่นกัน ผู้อมตะก็สามารถโกรธได้ เจ้ารังแกข้ามาเป็นเวลานานแล้ว ข้าต้องกัดให้สมใจ!”
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา!” เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วทั้งป่า
จี้จื่อเยว่กัดจนหนำใจแล้วจึงถอยหลังกลับ
“เจ้าตะโกนเพื่ออะไร?”
“ข้าถูกหญิงสาวไร้ยางอายขืนใจ!”
ใบหน้าของจี้จื่อเยว่เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
“เด็กน้อย ระวังคำพูดคำจาของเจ้าด้วย!”
"ข้ายอมแพ้แล้ว! อย่ากัดอีกเลยร่างกายของข้านิ่มไปหมดแล้ว”
“เพ้ย! คำพูดของเจ้าฟังยากจริงๆ” หลังจากระบายความหงุดหงิดของนางแล้วในที่สุดจี้จื่อเยว่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“เราสองคนหายกันแล้ว ปล่อยข้าได้แล้วใช่ไหม”
“เลิกเพ้อฝันไปได้เลย นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” จี้จื่อเยว่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์แล้วกล่าวว่า
“เด็กน้อยเจ้าต้องการคัมภีร์โบราณภายในตระกูลของข้า เจ้าหยอกล้อข้าตลอดทาง เจ้ามีความกล้าจริงๆ”
“เจ้าคิดจะทำอะไร” เย่ฟ่านรู้สึกโกรธแต่ไม่มีอำนาจที่จะต่อต้าน
“อย่าท้อแท้ มาเถิดเด็กน้อย ยิ้มให้พี่สาวคนนี้”
จี้จื่อเยว่หยิกแก้มเย่ฟ่านอีกครั้ง ดวงตาที่กรมโตของนางอยู่ในรูปพระจันทร์เสี้ยว รอยยิ้มของนางสดใสเป็นพิเศษ
“ข้ารู้สึกว่าด้วยการร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอย่างยาวนานพวกเราเป็นสหายกันแล้วใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ฟ่านรอยยิ้มของจี้จื่อเยว่ก็สดใสยิ่งขึ้น
“ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีในฐานะสหาย”
“อ๊าาาาา!” เย่ฟ่านกลับเข้าไปในห้วงแห่งความทุกข์
ผ่านไปครึ่งวันเต็มๆก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง ร่างกายของเย่ฟ่านเต็มไปด้วยรอยฟันที่เรียงกันอย่างประณีต
“ส่งส่วนหนึ่งของปราณต้นกำเนิดให้ข้า!”
“ข้าควบคุมมันไม่ได้ ไม่มีทางที่ข้าจะส่งออกไปได้”
“โกหก!”
จี้จื่อเยว่ถือได้ว่าเป็นคนใจอ่อนนางไม่ได้ทรมานเย่ฟ่านอย่างโหดร้ายอีกแล้ว
“มีความลับมากมายอยู่ภายในร่างกายของเจ้า ข้าจะค่อยๆขุด ก้อนทองเหลือง ต้นกำเนิดปราณรวมถึงร่างกายอันมีค่าของเจ้า……”
นางเอียงศีรษะจ้องไปที่เย่ฟ่านก่อนจะกล่าวต่อไปว่า
“ลูกพี่ลูกน้องของข้าต้องการฆ่าข้า ตอนนี้เราเป็นมดบนเชือกเดียวกันเราจะต้องร่วมมือกัน หากเราพบกับนางข้าจะสร้างโอกาสให้เจ้าเข้าใกล้นาง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าจะต้องฆ่านางได้อย่างแน่นอน!”
เย่ฟ่านกลอกตาทันที
“ถ้าข้าแข็งแกร่งพอ ข้าคงไม่ถูกเจ้าผนึกไว้หรอก”
“ข้ามีสมบัติล้ำค่าอยู่ในตัว ตราบใดที่พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน เจ้าจะไม่สามารถแสดงความสามารถของเจ้าในขณะที่อยู่ด้านข้างของข้าได้” จี้จื่อเยว่กลอกตาของนางก่อนจะกล่าวต่อไป
“ลูกพี่ลูกน้องของข้าจะไม่ระวังเจ้า ในเวลานั้นเจ้าจะมีโอกาสลงมืออย่างแน่นอน”
“หลังจากนี้ใครก็ตามที่คิดจะเป็นศัตรูกับข้า ข้าจะไม่ปล่อยมันไว้นะพวกมันต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส”
แม้ว่าจะพูดอย่างนั้นจี้จื่อเยว่ก็ไม่กล้าออกจากบริเวณข้างลำธารนี้เพราะกลัวว่าจะบังเอิญเจอเข้ากับจี้ปี่เยว่ดังนั้นนางจึงนั่งอยู่ข้างลำธารและพยายามใช้ความคิดเอาตัวรอด
“ตอนนี้เมื่อข้าคิดดูแล้วก็ถึงเวลาที่นิกายไท่ซวนจะรวบรวมศิษย์ใหม่ บางทีเราควรไปซ่อนตัวในนิกายไท่ซวน”
บริเวณนี้เต็มไปด้วยภูเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุดพื้นที่ที่นิกายไท่ซวนตั้งอยู่นั้นอยู่ไม่ไกลนัก พลังของนิกายไท่ซวนนั้นยิ่งใหญ่มาก ในบริเวณใกล้เคียงนอกจากตระกูลจี้แล้วไม่มีนิกายอื่นใดสามารถเจรจาอย่างเท่าเทียมกับพวกเขาได้
“แม้แต่ตระกูลจี้ของเราก็ไม่เต็มใจที่จะทำให้นิกายไท่ซวนโกรธเคือง หากไปอยู่ที่นั่นพวกเราจะปลอดภัยเป็นเวลานานอย่างแน่นอน”
สองวันต่อมาเย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่ปรากฏตัวในพื้นที่ภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของนิกายไท่ซวน ข้างหน้าเป็นทิวเขาสูงตระหง่าน งดงามราวกับภาพวาด
ในหมู่ยอดเขาทั้งร้อยแปดยอด มียอดเขาหลักซึ่งถือได้ว่างดงามมากที่สุด แต่ยอดเขาอื่นก็มีทิวทัศน์ที่แปลกประหลาดและงดงามไม่ด้อยกว่ากันมากนัก
ด้านหน้าของเย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่เป็นกลุ่มคนมากมายซึ่งกำลังเข้าแถวกันด้วยความตื่นเต้น วันนี้เป็นวันรับสมัครศิษย์ใหม่ของนิกายไท่ซวน จึงเป็นธรรมดาที่จะมีคนมากมายเข้ามาที่นี่
“มียอดเขาหลักหนึ่งร้อยแปดยอด เราควรเลือกอันที่เรียบง่ายและไม่โดดเด่นที่สุด” เย่ฟ่านปรึกษากับจี้จื่อเยว่ล่วงหน้า
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็เห็นร่างที่คุ้นเคย นางสวมชุดสีขาวปลิวไสวไปตามสายลม สง่างาม ปราณีต สว่างไสวและบริสุทธิ์สูงส่ง
“นางอยู่ที่นี่จริงๆ……”
เย่ฟ่านตกตะลึง เขาจำได้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือหลี่เสี่ยวม่านแม้ว่าเขาจะเดาได้ว่านางไม่ได้ตายภายในพื้นที่ต้องห้าม แต่ก็ยังน่าตกใจที่เห็นนางในนิกายไท่ซวน
“เจอคนคุ้นเคย?”
จี้จื่อเยว่มีรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหล
“เด็กน้อยจากการแสดงออกของเจ้าดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือนั่นจะเป็นศัตรูของเจ้า ต้องการให้พี่สาวคนนี้ช่วยเหลือเจ้าหรือไม่?”