172 - ลูกพี่ลูกน้อง
172 - ลูกพี่ลูกน้อง
จี้จื่อเยว่พูดด้วยน้ำเสียงที่ใสราวกับไข่มุกที่หยดลงในชามหยกด้วยความยั่วยวนขณะที่นางพยายามเกลี้ยกล่อมเย่ฟ่าน
“ข้ารู้วิธีปลูกฝังจันทร์เจิดจ้าเหนือท้องทะเล…….”
“ยอดฝีมือในสมัยโบราณมีทักษะที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็มีความลับที่พวกเขาต้องการซ่อนไว้……”
“จริงๆ แล้วมีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่ภายในคัมภีร์ไร้รูปร่าง…...”
“เจ็ดพื้นที่ต้องห้ามภายในดินแดนรกร้างตะวันออกมี…….”
ปากเล็กๆของจี้จื่อเยว่ยังคงพูดต่อไปขณะที่นางพยายามเกลี้ยกล่อมและล่อลวง แต่นางจะหยุดทุกครั้งที่เย่ฟ่านทำท่าเหมือนตั้งใจฟัง
หลังจากที่มองเห็นความไม่จริงใจของนาง เย่ฟ่านก็เลิกที่จะสนใจซึ่งทำให้หญิงสาวโกรธเป็นอย่างมาก
“เจ้าได้ยินทุกอย่างที่ข้าเพิ่งพูดไปหรือเปล่า?”
“เรื่องที่เจ้าพูดแม้ว่าจะน่าสนใจแต่เจ้าไม่มีความจริงใจมากเกินไป ทุกครั้งที่พูดถึงเหตุการณ์สำคัญเจ้าก็จะหยุดและเปลี่ยนเรื่องใหม่มันทำให้ข้าเบื่อแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ปล่อยข้าไปสิ”
"ไม่!" เย่ฟ่านปฏิเสธอย่างหนักแน่น
“เจ้า…… ข้าพูดมากไปแล้ว แต่นี่เป็นคำตอบเดียวที่ข้าได้รับ? ทำไมเจ้าไม่พูดก่อนหน้านี้ ให้ตายเถอะแม้แต่คอข้าก็แห้งแล้ว” จี้จื่อเยว่รู้สึกว่าปากและลิ้นของนางแห้ง
“พูดต่อเถอะ ข้าเต็มใจฟังมากกว่า”
จี้จื่อเยว่มีสีหน้าบูดบึ้งและตะคอกออกไปว่า
"ถ้าเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าไปก่อนที่ตระกูลของข้าจะพบเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน!”
“ถูกต้อง นี่มันลำบากจริงๆ” เย่ฟ่านเอนกายพิงต้นไม้มือขวานวดคางขณะที่หยอกล้อว่า
“เอาล่ะข้าจะรับความสูญเสียนี้และแต่งงานกับเจ้าเอง เราจะอยู่ที่นี่อย่างสันโดษเป็นระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากนั้นอีกสองสามปี เราจะพาเด็กเล็กๆกลุ่มหนึ่งกลับไปเยี่ยมครอบครัวของเจ้า”
“เด็กน้อยเย่ฟ่านถ้าเจ้ายังคงพูดเรื่องไร้สาระต่อไป ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้า!”
“เจ้าจะทำอะไรข้าอย่างนั้นหรือ?” เย่ฟ่านหัวเราะแล้วยืนขึ้น
จี้จื่อเยว่เริ่มโวยวายทันที ในที่สุดเย่ฟ่านก็ได้รับคัมภีร์โบราณอีกส่วนหนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มศึกษามันอย่างจริงจัง
สองวันต่อมานกสีเขียวมรกตเข้มที่ดูเหมือนแกะสลักจากหินหยกก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมทะเลสาบ ดวงตาของมันเป็นสีแดงเข้ม ราวกับว่ามีถั่วแดงสองอันถูกติดไว้ที่นั่น
“เร็วเข้า จับมัน!” จี้จื่อเยว่อุทานออกมาทันที
"ทำไม?" เย่ฟ่านหยุดการฝึกฝน
ใบหน้าของจี้จื่อเยว่แสดงออกถึงความกลัวและกล่าวต่อไปว่า
“เร็วเข้า อย่าปล่อยให้มันหนีไป ไม่อย่างนั้นเราทั้งคู่จะได้ตายพร้อมกันจริงๆ” เย่ฟ่านบินขึ้นไปในอากาศการลงมือของเขารวดเร็วฝ่ามือของเขากระแทกเข้าใส่นกสีเขียวมรกต
อย่างไรก็ตามนกมรกตตัวนี้ได้รับการตระหนักรู้ทางวิญญาณมานานแล้วและเร็วมากเป็นพิเศษ มันเปลี่ยนเป็นริ้วสีเขียวหายวับไปในทันที
เย่ฟ่านส่งกระจกทองแดงไล่ตามออกไป กระจกนั้นเหมือนพระจันทร์เต็มดวงก่อนจะยิงลำแสงเจิดจ้ากล่องใส่นกสีเขียวมรกตทำให้มันกลายเป็นควันทันที
"เกิดอะไรขึ้น?เบื้องหลังนกมรกตตัวนั้นเป็นอย่างไร?”
“นั่นเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงหลายตัวที่ลูกพี่ลูกน้องของข้าเก็บไว้”
จี้จื่อเยว่ดูเป็นกังวล
“ปล่อยข้าเร็วๆไม่อย่างนั้นเราจะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ”
เย่ฟ่านตกตะลึง ผู้คนในตระกูลจี้ เป็นพวกวิปริตหรือไม่? เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่างรุนแรงในเรื่องนี้
“ลูกพี่ลูกน้องของเจ้ากำลังจะมา แต่เจ้าดูเหมือนจะกลัวนาง ทำไมเป็นอย่างนั้น?”
“เจ้าไม่เข้าใจ……” จี้จื่อเยว่ไม่ต้องการที่จะอธิบาย
“เร็วๆ ปล่อยข้า มิฉะนั้นนางจะไม่เพียงฆ่าข้าเท่านั้น นางยังจะฆ่าเจ้าเพื่อกำจัดพยานอีกด้วย”
“คนจากตระกูลเดียวกัน แต่นางต้องการจะฆ่าเจ้าจริงๆ……” เย่ฟ่านตกตะลึง
“อย่าเสียเวลาอีกเลย!” ใบหน้าของจี้จื่อเยว่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะที่นางตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป ข้าอาจเสียชีวิตทันที” เย่ฟ่านอุ้มจี้จื่อเยว่อย่างรวดเร็วก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในขณะนี้ได้ยินเสียงหัวเราะที่อ่อนหวานดังมาจากด้านหลัง
“จื่อเยว่ ไม่คิดว่าจะพบเจ้าที่นี่”
หญิงสาวที่มีเสน่ห์สวมชุดสีเขียวบินเข้ามาอย่างนุ่มนวล นางปรากฏตัวริมทะเลสาบและขวางทางออกของเย่ฟ่าน
“จี้เซี่ยะ มันคือเจ้าพี่ใหญ่ปี่เยว่อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?” จี้จื่อเยว่ถาม
“ปี้เยว่ยังไม่มา ผู้รับใช้ต่ำต้อยคนนี้ออกเดินทางเพียงลำพัง ใครจะรู้ว่าข้าจะค้นพบร่องรอยของคุณหนูจื่อเยว่ได้”
แม้ว่าหญิงสาวในชุดสีเขียวจะเป็นคนรับใช้ในตระกูลจี้ แต่นางก็ดูหยิ่งผยองมาก
“เอ่อ คุณหนูจื่อเยว่กำลังหนีตามใครอยู่หรือ”
“จี้เซี่ยะ เจ้าบังอาจเกินไปแล้ว!” จี้จื่อเยว่สะกิดเย่ฟ่านเพื่อส่งสัญญาณให้เขาปลดผนึก
จี้เซี่ยะยังคงมองเย่ฟ่านต่อไปก่อนที่จะหัวเราะ
“มันเป็นแค่เด็กหนุ่มที่เพิ่งอายุสิบสี่สิบห้า คุณหนูจื่อเยว่รสนิยมของเจ้าค่อนข้างแย่จริงๆ” คำพูดของนางดูไม่สุภาพอย่างยิ่ง นางเยาะเย้ยจี้จื่อเยว่โดยไม่สนใจเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านตกใจ ผู้คนในตระกูลจี้มาถึงที่นี่เร็วเกินไป มันเกินความคาดหมายของเขามาก และเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้มีเจตนาร้าย
จี้เซี่ยะดูเหมือนจะอายุประมาณยี่สิบห้า แม้ว่านางจะมีใบหน้างดงามแต่นางก็ไม่สามารถเทียบกับความงามของจี้จื่อเยว่ได้ อีกทั้งรอยยิ้มของนางยังดูจอมปลอมมากเกินไป
“คุณหนูจื่อเยว่ เจ้าป่วยเหรอ? ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเจ้าเคลื่อนไหวไม่ได้ แล้วข้ารับใช้ผู้นี้จะช่วยเจ้าได้อย่างไร”
“จี้เซี่ยะ เจ้าบังอาจเกินไปแล้ว เจ้ามาที่นี่เพื่อตามหาข้าเหรอ?”
“คุณหนูจื่อเยว่เจ้าหายตัวไปเป็นเวลานาน ผู้อาวุโสในตระกูลเป็นห่วงมาก พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าตกไปอยู่ในมือของเผ่าอสูร ดังนั้นพวกเขาจึงบุกทำลายถ้ำอสูรอย่างต่อเนื่อง ใครจะรู้ว่าเจ้าจะมาใช้ชีวิตคู่ชนิดที่เทพเซียนอิจฉาอยู่ที่นี่”
จี้เซี่ยะเริ่มกล่าววาจาน่ารังเกียจมากยิ่งขึ้น นางเพียงไม่ปฏิบัติต่อจี้จื่อเยว่ในฐานะคุณหนูของตระกูลแต่เยาะเย้ยออกมาทุกคำพูด
จี้จื่อเยว่ไม่ได้โกรธแต่ตอบอย่างใจเย็น
“จี้เซี่ยะ เจ้าได้รับคำสั่งจากปี้เยว่พี่สาวของข้าให้มองหาข้าแล้วฆ่าข้าใช่ไหม”
จี้เซี่ยะหัวเราะออกมาราวกับระฆัง
“คุณหนูปี้เยว่ใจดีและเห็นอกเห็นใจนางจะไม่ทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามคนรับใช้นี้ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก ข้ากำลังคิดที่จะส่งเจ้าไปตามทางจริงๆ”
“ถ้าอยากจะฆ่าข้า ก็ทำไปเถอะ” จี้จื่อเยว่เดินไปข้างหน้าอย่างว่องไว
จี้เซี่ยะตื่นตระหนกขณะที่นางถอยกลับไปสองก้าวก่อนที่จะมองไปทางเย่ฟ่าน
“เด็กน้อยไม่เลว ใครจะรู้ว่าเจ้าใช้วิธีการใดในการปราบคุณหนูจื่อเยว่……” นางระมัดระวังอย่างยิ่งและต้องการทราบว่าจี้จื่อเยว่ถูกปิดผนึกหรือไม่
“จีเซี่ย เจ้าติดตามพี่สาวปี่เยว่มาหลายปีแล้วและป่วยด้วยโรคระมัดระวังตัวเกินไป จนถึงตอนนี้เจ้ายังไม่กล้าทำอะไรเลยหรือ?” จี้จื่อเยว่มีรอยยิ้มจาง ๆ
จี้จื่อเยว่ผ่อนคลายมากขึ้นเพราะตอนนี้จี้เซี่ยะเต็มไปด้วยความสงสัยและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อหลบเลี่ยงจากนาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า……”
ทันใดนั้นจี้เซี่ยะก็หัวเราะเบาๆแล้วกล่าวว่า
“ดูเหมือนว่าข้าจะระมัดระวังมากเกินไป” เมื่อพูดเช่นนี้นางโบกมือเและส่งสายฟ้าสีแดงพุ่งตรงไปที่จี้จื่อเยว่
“ชู่วว”
เย่ฟ่านรีบดึงจี้จื่อเยว่ไปหลบหลังต้นไม้ ซึ่งทำให้ต้นไม้ต้นนั้นถูกสายฟ้าเผาไหม้จนกลายเป็นต่อสีดำทันที
“คุณหนูจื่อเยว่ เจ้าถูกจับไปจริงๆ แต่เด็กคนนี้ดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เขาทำได้ยังไง”
นางโยนทรายสีทองออกมาคลุมท้องฟ้าด้วยแสงระยิบระยับ และในไม่ช้ามันก็ก่อตัวเป็นค่ายกลสังหารหอพวกเขาไว้
“ออกไปเร็ว เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง” จี้จื่อเยว่กระซิบเบา ๆ กับ เย่ฟ่าน
เย่ฟ่านอุ้มจี้จื่อเยว่ขึ้นก่อนจะกระโดดลงไปในทะเลสาบ เขาไม่กล้าที่จะบินออกไปข้างนอก ถ้าเขาถูกเปิดเผยเขาจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตแน่นอน