Chapter 14 - อ่านฟรี
Chapter 14
I’m Not Interested In The Main Characters
ส้นรองเท้าของเอลิเซียค่อยๆ กดลงไปที่หลังมือของชายคนนั้น
“โปรด ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
แคร้ก เสียงกระดูกแตก แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดและเหยียบไปที่มืออีกข้าง
“คนอย่างแกไม่จำเป็นต้องมีมืออีกต่อไป”
เธอคิดว่าแม้แต่กลิ่นเลือดของเขาก็ยังน่าขยะแขยง นั่นทำให้เธอกดเท้าลงอย่างเต็มแรงมากยิ่งขึ้น
น้องสาวของไรอันกลั้นเสียงร้องและเอามือปิดปากตัวเองไว้ เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ชายผู้ที่ถูกโจมตีคนแรก เข้าหาเอลิเซียพร้อมกริชจากด้านหลัง
เธอรู้สึกถึงความต่างชั้นของทักษะอย่างชัดเจน เธอจึงมองดูเล่ห์กลของเขาพลางขมวดคิ้ว
เธอใช้เพียงแค่มือเดียว ชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้น
“ข-ขอบคุณค่ะ”
เอลิเซียถอดเสื้อคลุมยื่นให้น้องสาวของไรอันแล้วมองขึ้นไปชั้นบน
เธอรู้สึกว่าชายคนอื่นๆ อาจจะหนีออกไปจากบ้านแล้ว
“พี่ชายของฉันถูกลากขึ้นไปชั้นบนค่ะ ได้โปรดช่วยเราด้วยนะคะ”
น้องสาวของไรอันดึงคอเสื้อของเอลิเซียและร้องไห้ออกมา
“เธอมาอยู่ตรงนี้ก่อน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นให้ส่งเสียงบอกฉัน”
หลังจากที่เอลิเซียเช็คสภาพร่างกายของชายทั้งสองแล้ว เธอก็รีบขึ้นไปชั้นสอง
จริงๆแล้ว ตามต้นฉบับเดิม ไรอันไม่ควรอยู่ที่นี่ เขาควรจะอยู่ระหว่างการต่อสู้ที่สมาคม เขาต้องเกลี้ยกล่อมกับหัวหน้าสมาคมอีกครั้งว่าเขาต้องการเลิกทำงานลอบสังหาร
เมื่อเธอเข้าไปในห้อง เธอสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนอยู่ ชายคนหนึ่งกำลังนอนลงอยู่ที่พื้นและมีพันธนาการของเวทมนตร์อยู่ที่ลำคอและข้อมือของเขา
เขาเป็นชายหนุ่มที่มีผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนน้องสาวตัวเองที่อยู่ชั้นล่าง
ร่างกายของเขาขยับเมื่อเอลิเซียเข้าไปใกล้ บางทีเขาอาจจะกำลังไม่ได้สติ
“คุณเป็นใคร?”
เอลิเซียจับไหล่ของไรอันให้เผชิญหน้ากับเธอ
เขามองจ้องเอลิเซียด้วยสายตาระแวดระวัง เอลิเซียจับเขานั่งพิงเพื่อตรวจสอบสิ่งที่แปลกปลอมนั้น
ในระดับเธอ เธอทำได้แค่ทำลายพันธนาการของเวทมนตร์เท่านั้น หากเธอเป็นระดับมาสเตอร์ เธอจะสามารถทำลายเวทมนตร์นั่นได้
เอลิเซียปลดพันธนาการออกจากคอของเขาและมองไปยังพันธนาการที่เหลืออยู่บนข้อมือแล้วหยุดชะงัก
“..”
เธอคิดว่ากลิ่นเลือดของไรอันแปลก เธอจึงคว้าคอเสื้อของเขาแล้วเดินอ้อมไปอีกด้าน
เธอพลิกตัวเขาลงบนพื้นแล้วฉีกกระดุมออก
“อืม...”
เอลิเซียพูดด้วยน้ำเสียงคุ่นคริด นอกจากไรอันจะอยู่บ้านแล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีกด้วย
“นี่อะไรกัน?”
มันเป็นบาดแผลที่เพิ่งเกิดและอาจจะมาจากมีดอาบยาพิษ เลือดสีแดงหยดจากคอของเขา
เอลิเซียเข้าไปใกล้ ไรอันเขยิบถอยหลังและจ้องมาที่เธอ
“ผมถามว่าคุณเป็นใคร?”
“คนที่ช่วยชีวิตน้องสาวนาย”
“อ่า ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ น้องสาวผมเป็นอย่างไรบ้างครับ ปลอดภัยดีไหม?”
ดวงตาของไรอันคลอไปด้วยน้ำตา ดูเหมือนเขาจะจดจ่ออยู่แค่กับเรื่องนั้น เขามองไปที่ประตูด้วยท่าทีที่โล่งใจครู่หนึ่ง
เอลิเซียกำลังยุ่งอยู่กับการตรวจสอบบาดแผลของเขา เธอจึงไม่ได้บอกอะไรเพิ่ม
ไรอันมองไปที่ประตูเป็นเวลานานและรู้สึกโล่งใจที่น้องสาวของตัวเองปลอดภัย
เอลิเซียขมวดคิ้วขณะมองไรอันผู้ซึ่งมีบาดแผลรุนแรง
“ยาแก้พิษอยู่ไหน?”
“คงจะยากครับ มันเป็นยาพิษที่ใช้ภายในสมาคมเท่านั้น แถมตอนนี้เวลาที่มีก็ไม่น่าจะพอแล้ว”
เอลิเซียตะโกนพลางดึงชายเสื้อไรอัน
“ทำไมนายพูดแบบนั้นล่ะ? แล้วฉันจะมาที่นี่ทำไม!”
ระหว่างบทสนทนาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ผิวของไรอันก็ซีดเผือดลง
‘ฉันควรจะศึกษาเวทมนตร์ล้างพิษบ้าง’
ตอนที่ราโมทมีเวลาว่าง ราโมทมักจู้จี้ให้เธอศึกษาเรื่องนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจับไรอันพิงกำแพง และคว้าไหล่เขาไว้ ไรอันพยายามหนี เขาสะบัดร่างกายตัวเองออกจากเธออย่างขัดขืน
“ชู่ววว... เป็นเด็กดีเข้าไว้ ฉันเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยนายได้นะตอนนี้”
***
“เลดี้โลเวลล์มุ่งหน้าไปยังชานเมืองเพียงลำพัง มันอยู่ในทิศของเขต 4 อัศวินสามนายกำลังเฝ้าติดตามอยู่ขอรับ”
การรายงานเกี่ยวกับเอลิเซียของลอยด์ ทำให้แคสเซียนละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าขึ้น
เขาเลิกคิ้ว สงสัยกับคำว่า ‘เขต 4’
“เขต 4 งั้นเหรอ? ทำไมล่ะ?”
“กระผมไม่มีความคิดเห็นใดๆ ขอรับ ดูจากข้อเท็จจริง เธอออกจากที่คุ้มกันแล้วเตรียมตัวอย่างดี เพื่อจะไปที่ปลายทาง”
“อืมม”
ทำไมขุนนางถึงไปที่นั่นกัน? แคสเซียนไม่สามารถเดาได้เลย
มีเพียงเหตุผลเดียวที่เหล่าขุนนางไปเยือนเขต 4 คือ พวกเขาไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตระกูลอุปถัมภ์ แต่ที่ที่ตระกูลโลเวลล์อุปถัมภ์ไม่ใช่ที่นั่น มันอยู่อีกเขตหนึ่ง
หากคุณกำลังหาสถานที่เพื่อสืบข้อมูล คุณก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปถึงที่นั่น
แคสเซียนนึกถึงคำสัญญาที่เธอให้ไว้ว่า จะดื่มแต่เลือดของเขาเท่านั้น เว้นแต่จะมีสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ เขาไม่คิดว่าเธอจะผิดสัญญา แต่ทุกอย่างมันแปลกไปหมด
“ฉันจะไปดูเอง”
“หา? ตอนนี้ท่านมีภารกิจที่ต้องทำอีกเยอะไม่ใช่หรือขอรับ?”
แคสเซียนคว้าเสื้อคลุมแล้วออกจากออฟฟิส ทิ้งลอยด์ยืนทื่อด้วยท่าทางที่มึนงง
***
พิษยังกระจายออกไปตามร่างกายไม่นานมาก เขาจะยังมีชีวิตต่อ ถ้าหากเธอสามารถดูดมันออกไปตอนนี้
เอลิเซียหยิบน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าเวทมนตร์ของเธอ เธอมองไปที่ชั้นล่างอีกครั้งก่อนจะก้มศีรษะไปที่ท้ายทอยของเขา
“คุณกำลังจะทำอะไรครับ? มันอันตรายนะ...”
ไรอันเอ่ยปากถามเอลิเซียด้วยความเขินอายจากคำพูดของเธอก่อนหน้า
เมื่อตระหนักถึงความตั้งใจของเอลิเซีย ไรอันจึงพยายามผลักเธอออกแต่ข้อมือของเขาถูกมัดไว้ และแรงที่ยึดไหล่เขาอยู่ มีพละกำลังมากเกินไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเจาะแผลที่คอของเขา
“อึ่ก!”
มันดูไม่ใช่การดูดพิษออกไปแบบปกติ
ไรอันสับสนกับความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย เขามองไม่เห็นว่าเอลิเซียกำลังทำอะไร เขารู้สึกถึงพลังที่เข้าครอบงำในร่างกายของเขา จากนั้นไม่นานเขาก็มีปฏิกิริยารุนแรงคล้ายกับการดื่มยากระตุ้น ไรอันพยายามต่อต้านเพื่อให้จิตใจเขาไม่เตลิดไปไกล
เมื่อถึงเวลาที่เอลิเซียคิดว่าความอดทนของเขาน่าจะถึงขีดจำกัด เธอจึงถอนริมฝีปากออกจากลำคอ
“วิธีนี้ได้ผลไหม?”
เธอเปิดฝายาที่หยิบออกมาแล้วป้อนไปที่มุมปากของเขา
ไรอันส่ายหัว เขารู้ว่ายานี้มีราคาแพงแค่ไหน
“แค่นี้ก็พอแล้วครับ”
“นี่นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรน่ะ?”
ไรอันรวบรวมพลังเวทย์และปลดพันธนาการที่สวมอยู่บนข้อมือของตัวเอง
เขายังไม่ได้เป็นมาสเตอร์เลย นี่มันอะไรกันเนี่ย?
“นี่นายเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงทำสิ่งนี้ได้?”
“เพราะคุณ ผมถึงสามารถปลดพันธนาการที่อยู่บนคอของผมได้ครับ”
สิ่งที่สวมใส่บนข้อมือคือการบ่งบอกว่าเขามีบทบาทในการต่อสู้ และพันธนาการที่คอคือการระงับการใช้เวทมนตร์
ตอนนี้ไรอันสามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วยตัวเองแล้ว
“นายเป็นอะไรไหม? นายแทบจะเอาชนะเจ้าพวกนั้นไม่ได้เลยนะ”
“พวกมันจับน้องสาวของผมและข่มขู่ผม ผมเลยทำอะไรไม่ได้ แล้วคุณเป็นยังไงบ้าง โอเคไหมครับ?”
อาการของเอลิเซียไม่ดีเลย เธอรู้สึกคลื่นไส้
มันเป็นเพียงทฤษฎีที่ว่า ถึงแม้แวมไพร์จะดื่มยาพิษเข้าไป ก็จะสามารถล้างพิษได้ด้วยตัวเอง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสมันจริงๆ ชีวิตก่อนหน้าของเธอ เธอไม่เคยพบพิษที่อันตรายถึงชีวิตมาก่อน
พิษได้ลามไปทั่งร่างกายเธอ มันทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากภายในและในขณะเดียวกันก็มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ นี่เป็นความรู้สึกที่เธอไม่อยากจะพบเจออีกแล้วตลอดกาล
“ฉันไม่เป็นไร”
เอลิเซียล้วงหาบางสิ่งภายใต้เสื้อคลุมตัวเอง นามบัตรชื่อตระกูลสีเงินถูกวางไว้ข้างหน้าไรอัน
“เผื่อนายต้องการความช่วยเหลือ ฉันสามารถช่วยให้พวกนายไปอยู่ต่างประเทศได้ แค่มาหาฉัน”
เธอแค่ต้องการลบความทรงจำของไรอันและน้องสาวของเขา แต่เธอไม่สามารถใช้พลังนั้นด้วยสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมอย่างรวดเร็วได้ เธอต้องระมัดระวังมากขึ้นจากเหตุการณ์ที่ใช้พลังไม่ได้ผลกับแคสเซียน
ถ้ามันไม่ได้ผลกับคนที่อยู่ระดับมาสเตอร์ ฉะนั้นกับไรอันก็คงเช่นกัน
“ฉันจะให้เวลานายหนึ่งวัน แม้ว่านายจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ แต่นายก็ต้องมาหาฉันภายในหนึ่งวัน”
เธอเพียงแค่ต้องการให้พวกเขามาหาเธอตรงเวลา
หากดูจากนิยายต้นฉบับ เขาไม่ใช่คนที่สามารถเปิดเผยความลับของผู้อุปถัมภ์ตัวเอง
“..ตกลงครับ”
“โอเค แล้วนายรู้ใช่ไหมว่านี่เป็นความลับ”
ไรอันพยักหน้า เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร
เอลิเซียลูบหัวเขาด้วยท่าทางพอใจ
‘ฉันต้องกลับแล้ว’
ยิ่งเธอฟื้นตัวมากขึ้นเท่าไหร่ เธอจะยิ่งไม่รู้สึกเจ็บ แต่เธอยังต้องการเวลาพักฟื้นอีกมาก เธอจึงจำเป็นที่จะต้องรีบกลับคฤหาสน์อย่างเร็วที่สุด
ไรอันลุกขึ้นพาตัวเองออกจากห้อง เสื้อที่เอลิเซียทำขาด เผยให้เห็นร่างท่อนบนและรอยแดงจากพันธนาการที่ลำคอของเขา
‘ถึงไม่ดีเท่าแคสเซียน แต่ก็งานดีอยู่นะ....’
มีรอยแผลขนาดเล็ก-ใหญ่จำนวนมาก
เมื่อเธอเห็นรอยแผลและรอยเขี้ยวบนคอของเขา เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้ทำอะไรเลวร้ายลงไป
***
“ท่านดยุค”
เมื่อแคสเซียนมาถึงเขต 4 อัศวินที่กำลังรอเขาอยู่ก็เดินตรงเข้ามาหาทันที ด้านหลังของอัศวินเหล่านั้น แคสเซียนเห็นอัศวินที่เหลือกำลังซักไซ้ชาย 2 คนอยู่
“นั่นอะไรน่ะ?”
“พวกเขาออกมาจากบ้านที่เลดี้เข้าไปครับ ผมเห็นเขารีบวิ่งดูแล้วน่าสงสัย เลยจับไว้”
อัศวินรีบอธิบายเพิ่มเติมให้ผู้บังคับบัญชาการของตัวเองฟัง ก่อนที่อารมณ์ของผู้เป็นนายจะคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ
มีชายต้องสงสัยทั้งหมดสามคน สองคนมีบาดแผลทั่วร่างกาย และอีกคนกำลังถือกริชยาพิษ
มีเสียงคนกรีดร้องในทุกย่างก้าวของเหล่าอัศวิน แต่ไม่พบใครสักคนบนถนนในตรอก
ขณะฟังคำอธิบายของอัศวิน แคสเซียนก็คว้าที่จับประตูหน้าบ้านของไรอัน
'มันอยู่ภายใต้เวทมนตร์'
“เขาเป็นสมาชิกของสมาคมข่าวกรอง ว่ากันว่าเขาถูกโจมตีจากคนบางกลุ่มที่พยายามจะจบชีวิตเขา แต่เพื่อนของเขามาช่วยได้ทันและทำให้คนพวกนั้นหวาดกลัว จากคำบอกเล่ารายละเอียดอื่นๆ เพื่อนคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเลดี้ครับ”
ลอยด์ 'ผู้ซึ่งไม่สามารถตามทันแคสเซียนที่อยู่บนหลังม้าได้ แม้ตัวเองจะออกมาก่อนก็ตาม' เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ
ลอยด์เรียกแคสเซียน
“ฮู่วว...ท่านดยุคขอรับ” เขารู้สึกไม่ค่อยสบายเพราะเขาขับรถม้ามาไวเกินไป
“ลอยด์ เริ่มจากสืบหาขนาดสมาคมก่อน”
“ขอรับ เข้าใจแล้ว”
อันที่จริงเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์นี้เลย แต่คำตอบนั้นโพล่งออกมาอย่างอัตโนมัติ
ลอยด์เดินออกไปฟังข้อมูลจากอัศวินด้วยน้ำตานองหน้า
แคสเซียนสงสัยว่า เขาควรเข้าไปในบ้านหรือไม่
เขาสงสัยว่าทำไมเธอมาไกลถึงที่นี่เพื่อช่วยชีวิตคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ พวกเขาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในโลกที่ต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง และเวลาก็ช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกินราวกับเธอคาดหวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น
‘ถ้าคุณสงสัย คุณก็แค่หาคำตอบว่าทำไมคู่หมั้นของคุณถึงอยู่ที่นี่’
แคสเซียนยกมุมปากขึ้น
______________