167 - ปราณคู่แห่งปฐพี
167 - ปราณคู่แห่งปฐพี
แม้ว่าเจตนาฆ่าจะยังคงอยู่ แต่คนทั้งสองก็ถอยห่างออกไปพอสมควรเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ ถึงกระนั้น ถ้อยคำสีแดงเลือดก็ยังน่ากลัว
“ลึกซึ้งยิ่งกว่าลึกซึ้ง ปราณหนาที่ก่อให้เกิดความรู้แจ้ง…..”
ความผันผวนที่ไร้รูปแบบและไม่ชัดเจนสามารถสัมผัสได้จากตัวอักษรที่เขียนด้วยเลือด มันมีความรู้สึกมากเกินไป มากพอที่จะดึงดูดผู้คนเข้าสู่ความตาย
มันไม่ใช่เสียงหรือเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกจากสวรรค์ มันเป็นรัศมีลึกลับที่ไหลเวียนอยู่ ทำให้คนต้องการค้นหาความจริงภายในเต๋าผู้ยิ่งใหญ่
เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่แลกเปลี่ยนสายตากัน มันน่ากลัวจริงๆ มันคล้ายกับเสียงหรือการถ่ายทอดความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ มีวิธีที่ไม่อาจหยั่งรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะที่อยู่ภายใน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า มันเป็นเหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่าทิวทัศน์ระหว่างทางจะสวยงามแต่การก้าวไปข้างหน้าแต่ละก้าวอาจเป็นขั้นตอนที่พวกเขาไม่สามารถกู้คืนได้
หลังจากสำรวจไปเรื่อยๆพวกเขาก็พบตัวหนังสืออีกประโยคซึ่งถูกเขียนไว้ว่า
“กำจัดอารมณ์และความปรารถนาทั้งหมด สังเกตความลึกซึ้งที่เหนือความลึกซึ้งในเต๋า ประตูแห่งความลึกลับทั้งหมดจะถูกเปิดออก มันไม่ใช่ทางตัน มีความหวังที่จะกลายเป็นผู้อมตะ เดินต่อไปจากสะพานที่พัง ข้างในนั้นต้องมีความลับในการเป็นผู้อมตะ!”
อย่างไรก็ตามจี้จื่อเยว่ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองไปทาง เย่ฟ่าน
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นผู้อมตะ เจ้าออกไปก่อน!” มันเป็นเหวไม่มีที่สิ้นสุดต่อหน้าพวกเขาหรือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่กันแน่?
เย่ฟ่านรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเย็นชา เขาไม่ได้เดินหน้าต่อไปแต่กลับถอยห่างแทน
“โอกาสที่จะเป็นผู้อมตะในอนาคต โอกาสนี้ที่ข้าจะให้แก่เจ้า”
จี้จื่อเยว่ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเช่นกันแต่รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวลใจ ถนนข้างหน้าอาจเป็นเหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าไม่มีใครก้าวไปข้างหน้าพวกเขาจะหนีได้อย่างไร?
ทันใดนั้นหัวใจของเย่ฟ่านก็เซื่องซึมในขณะที่เขารู้สึกถึงกลิ่นอายที่ไม่เหมือนใคร เหมือนกับกลิ่นคาวของน้ำในทะเลสาบ
ตัวอักขระ"อมตะ"ที่กระหายเลือดได้แยกออกเป็นสองส่วน ก่อตัวเป็นประตูแห่งความจริงนับไม่ถ้วน ไม่ไกลออกไปพลังปฐมแห่งความโกลาหลกำลังก่อตัว หยินและหยางผสานกันแต่เห็นได้ชัดว่าไม่มั่นคงอย่างยิ่งและพร้อมที่จะพังทลายได้ตลอดเวลา
“นั่นคือ……”
จี้จื่อเยว่มองตามเย่ฟ่านและสังเกตได้ถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเส้นทาง!”
เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยที่จี้จื่อเยว่เดินตามอยู่ข้างหลัง เสียงระฆังต่างๆดังขึ้นและทั้งสองก็เริ่มรู้สึกมึนงงอีกครั้ง
ก้อนทองเหลืองภายในทะเลแห่งความทุกข์ของเย่ฟ่านดูเหมือนจะสามารถต้านทานสิ่งนี้ได้ในตอนนี้มันสั่นสะเทือนเบาๆทำให้เย่ฟ่านสามารถรักษาสติของเขากลับคืนมาได้
ข้างตัวอักขระ"อมตะ"ใต้กำแพงพลังประฐมแห่งความโกลาหลมีช่องว่างที่สามารถมองเห็นได้อย่างคลุมเครือ มันมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่เพียงพอที่มนุษย์ธรรมดาจะลอดผ่านได้
“สวรรค์ คนคนนั้นต้องแข็งแกร่งขนาดไหนถึงจะเจาะทะลุกำแพงที่สร้างจากพลังปฐมแห่งความโกลาหลจนกลายเป็นประตูเช่นนี้” จี้จื่อเยว่ตกตะลึง
วังทองแดงในตำนานนั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เหมือนกับคุกที่ก่อตัวขึ้นในสวรรค์และปฐพี เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายมันออกสู่ด้านนอก
ยอดฝีมือหลายคนของดินแดนรกร้างตะวันออกถูกขังอยู่ที่นี่ แต่ไม่มีใครรอดชีวิตมาได้ พวกเขาทั้งหมดถูกกักขังไว้ด้วยความตาย
มีข่าวลือว่าการสำรวจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสามารถได้รับศพของเซียนจากที่นี่ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามตำนานนี้ดูเหมือนกำลังจะถูกทำลาย!
กลิ่นคาวของน้ำในทะเลสาบยังคงโจมตีจมูกของพวกเขา เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่เดินหน้าต่อไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินตามทางเดินที่เป็นหลุมเป็นบ่อเป็นเวลาชั่วยามเต็มก่อนที่จะโผล่ขึ้นมาที่ด้านบนสุดของวังทองแดง
“มีใครบางคนสามารถเจาะทะลุผนังของวังทองแดงออกจากที่นี่ได้จริงๆ!” ดวงตาที่สวยงามของจี้จื่อเยว่เต็มไปด้วยความตกใจ
เย่ฟ่านก็ประหลาดใจเช่นกันเหตุผลที่พวกเขาสามารถออกมาได้ก็เพราะก้อนทองเหลืองและเดินตามเส้นทางในอดีตที่ใครบางคนใช้พละกำลังของตัวเองเปิดเส้นทางออกจากวังทองแดง!
“คนนี้ไม่ได้เลือกที่จะเข้าไปในประตูของความลึกลับทั้งหมด ดูเหมือนว่าเขามีความคิดเช่นเดียวกับเรา เขาไม่ได้มุ่งหน้าสู่ความเป็นอมตะ หรือว่าแท้ที่จริงเขาเป็นผู้อมตะอยู่แล้วจึงไม่สนใจเรื่องนี้?”
ดวงตาของจี้จื่อเยว่เป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“มันเหลือเชื่อเกินไป เขาสามารถที่จะบุกทะลวงวังทองแดงในตำนานได้สำเร็จ หากสิ่งนี้แพร่กระจายออกไปมันจะเขย่าดินแดนรกร้างตะวันออกทั้งหมดอย่างแน่นอน!”
จากร่องรอยที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เราสามารถเดาได้ว่าเรื่องนี้ผ่านมาแล้วอย่างน้อยก็เป็นหมื่นปี มีใครบางคนที่สามารถหลบหนีจากที่นี่ได้ ทำไมเขาถึงเลือกเก็บเป็นความลับ?
หากบุคคลนี้ยังมีชีวิตอยู่เขาได้บรรลุถึงอาณาจักรใด? เมื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วเย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาสั่นไหวและความคิดบางอย่างก็โจมเข้ามาในหัวใจของพวกเขา
เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่ยืนอยู่ในวังขนาดมหึมาที่เปรียบได้กับเมือง โดยมีน้ำในทะเลสาบเป็นลูกคลื่นจางๆอยู่ข้างบนศีรษะของพวกเขา อย่างไรก็ตามคราวนี้พวกเขาไม่ได้ถูกดึงกลับเข้าไปในวังทองแดง
ก้อนทองเหลืองภายในทะเลแห่งความทุกข์ของเขานั้นเงียบและไม่เคลื่อนไหว แต่มันมีพลังที่แปลกประหลาดทำให้ความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาอีกต่อไป
คนทั้งสองสามารถหลบหนีออกจากวังทองแดงโดยไม่คาดคิด ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เชื่อความรู้สึกนี้เล็กน้อย
ไม่นานมานี้ ประตูแห่งความลึกลับทั้งหมดได้แสดงฉากที่ไม่ซ้ำกันนับไม่ถ้วน แม้ว่าจะนำมาซึ่งสิ่งล่อใจพร้อมกับเจตนาฆ่าที่น่ากลัว แต่มันก็เป็นเส้นทางของผู้อมตะซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ห่างจากระดับบ่มเพาะของทั้งสองคนราวกับคนละโลก
ตามสัญชาตญาณของเขา เย่ฟ่านสามารถบอกได้ว่าภาพเหตุการณ์ที่พวกเขาเห็นไม่ควรด้อยกว่าคัมภีร์เต๋า น่าเสียดายที่เขาจำได้เพียงบางส่วน แม้แต่จี้จื่อเยว่ก็รู้สึกว่ามันสามารถเปรียบเทียบกับคัมภีร์โบราณที่เก็บไว้ในตระกูลจี้ของนาง
พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังประตูแห่งความลึกลับทั้งหมดและไม่ต้องการรู้ การออกมาโดยที่ยังรอดชีวิตนับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับพวกเขามากพอแล้ว
เย่ฟ่านตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง น้ำในทะเลสาบที่อยู่ด้านบนศีรษะของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยหมอกที่ขุ่นมัว
“บางทีเราอาจจะหนีจากที่นี่ก็ได้……”
เย่ฟ่านอุ้มจี้จื่อเยว่ขึ้นอีกครั้งและฝ่าเข้าไปในน้ำของทะเลสาบ เขาทดลองบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ได้ข้อสรุปว่าความกดดันที่มากมายมหาศาลจะทำให้เขาเหนื่อยตายก่อนจะออกไปได้
ครั้งนี้เย่ฟ่านมีประสบการณ์มาแล้ว เขาใช้แสงสีทองห่อหุ้มร่างกายเพื่อเป็นเกราะป้องกันก่อนจะไต่ขึ้นที่สูงซึ่งน่าจะเป็นยอดหลังคาของวังทองแดง
ยิ่งเขาไปสูงเท่าไหร่ ความกดดันที่เย่ฟ่านได้รับเหมือนจะหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีแสงสีทองห่อหุ้มร่างกายแต่เขาก็แทบจะไม่สามารถทนไหว ในขณะนี้จี้จื่อเยว่ก็อุทานออกมา
“มันเป็นปราณคู่แห่งปฐพี!”
เหนือศีรษะของพวกเขามีกลุ่มควันบางอย่างที่มีสีดำเหลือง และเพียงแค่เสี้ยวพลังของมันก็ดูเหมือนจะบดขยี้สันเขาทั้งลูกได้ อย่างง่ายดาย
เย่ฟ่านไม่กล้าสัมผัสกับมันเพราะเพียงแค่เข้าใกล้ก็แทบจะทำให้เขาถูกบดขยี้เป็นหมอกเลือดแล้ว
หมอกควันนี้เต็มไปด้วยพลังหยินและหยางที่ขัดแย้งกันเอง ตามคำกล่าวของจี้จื่อเยว่ นี่คือดินชนิดหนึ่งซึ่งเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหมอกควันและมีอันตรายถึงขีดสุด
อย่างไรก็ตามผู้ฝึกฝนที่แข็งแกร่งย่อมไม่คิดเช่นนี้ 'สีดำ' เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ 'สีเหลือง' เป็นตัวแทนแก่นสารของปฐพี ทั้งสองสิ่งรวมกันเป็นแก่นแท้ของสวรรค์และปฐพี
“สวรรค์! มันเป็นปราณคู่แห่งปฐพีจริงๆและมีมากมายเหลือเกิน!” จี้จื่อเยว่อุทานด้วยความตกใจ ดวงตาของนางดูเปล่งประกายราวกับดวงดาว
“นี่เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างอาวุธวิเศษ!”
ตอนนี้นางถูกห่อหุ้มด้วยแสงที่ปล่อยออกมาจากเย่ฟ่านทำให้นางไม่รู้สึกกดดันมากนัก แต่เย่ฟ่านเต็มไปด้วยเหงื่อและดูเหมือนว่าเขาจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
“เจ้าตะโกนเรื่องอะไร!”
“สิ่งที่ข้าพูดคือแก่นแท้ของพลังปราณนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากที่สุดในโลก มันเป็นของศักดิ์สิทธิ์สำหรับการหลอมอาวุธวิเศษ มีผู้คนมากมายที่ค้นหามันมาตลอดชีวิต ไม่คิดว่าพวกเราจะพบเจอมันอย่างมากมายมหาศาลที่นี่!”
จี้จื่อเยว่ตื่นเต้นมากใบหน้าของนางแดงก่ำพร้อมกับเขย่าไหล่ของเย่ฟ่านอย่างร้อนรน
“เร็วเข้า ไปเอามันมา ถ้าเรารวบรวมมันได้มากพอเราจะสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน”
“ดูเหมือนเจ้าจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ…….” เย่ฟ่านส่ายไปมา และไม่มีทางที่จะขยับเท้าไปข้างหน้า