ตอนที่แล้วEP 637  สำนักข่าวไร้จริยธรรม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 639 เทพพระเจ้าแห่งความโชคร้ายกำลังจะกลับมา!

EP 638 ไร้จรรยาบรรณ!


EP 638 ไร้จรรยาบรรณ!

By loop

หนึ่งชั่วโมง...

สองชั่วโมง...

สามชั่วโมง...

เหตุการณ์ที่ในการกล่าวหาว่าดงซูบินได้ทำร้ายเด็กนักเรียนในโรงเรียนได้แพร่กระจายผ่านหนานกิงมอร์นิ่งโพสแต่หลังจากรอมาทั้งเช้า ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ ในเขตนั้นในขณะนี้ ซึ่งทำให้ดงซูบินผ่อนคลายเล็กน้อย ถอนหายใจ

ในทันใดนั้นเบอร์ของเสี่ยวหยาง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐระดับเทศบาล ก็ปรากฏขึ้นบนโทรศัพท์มือถือของ ดงซูบิน

ดงซูบิน รีบยื่นมือออกมาเพื่อตอบ "สวัสดีครับ หัวหน้า ... ไม่ใช่สิพี่เสี่ยวหยาง "

เสี่ยวหยาง ยิ้มเบา ๆ ที่ปลายอีกด้าน: "ฉันเพิ่งอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้าโดยบังเอิญ   ดูเหมือนนายจะก่อเรื่องอีกแล้ว?"

... " พอดีว่าจริงๆแล้วมันมีเหตุผล" ดงซูบิน สูดหายใจเข้า: "พอดีว่าที่โรงเรียนหยานไทมีนักเรียนเกเรสองสามคนมาแกล้ง ลูกบุญธรรมของผม ทั้งทำร้ายร่างกายและให้คุกเข่าคานเหมือนสุนัขอีกทั้งยังบังคับให้เห่าเหมือนสุนัขอีกด้วย ผมเองจะทนได้อย่างไร ดังนั้นผมจึงตอนสอนบทเรียนเด็กพวกนั้นหน่อย และดูเหมือนหนานกิงมอร์นิ่งเองนั้นก็จมูกไว้มากๆ  อีกทั้งการเสนอข่าวของสำนักงานข่าวนี้ สาเหตุและผลกระทบและเน้นเขียนเชิงลบ มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกนั้นพยายามจะดิสเครดิตผม และสำนักข่าวนี้เป็นสำนักข่าวที่ขาดคุณธรรมจริงๆ  อีกทั้งพยายามเสนอข่าวเกินจริงอีกด้วย

“นี้มันจะเกินไปแล้ว” เสี่ยวหยางขมวดคิ้ว" "ฉันอ่านข่าวแล้ว ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง นายไปทำอะไรให้คนพวกนั้นไม่พอใจอย่างงั้นหรอ? "

เมื่อได้ยินเรื่องก็ทำให้ดงซูบินนั้นอารมณ์ร้อนขึ้นมาทันที "ผมทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจอย่างงั้นหรอ? ผมเองยังไม่รู้จักสำนักข่าวพวกนั้นด้วยซ้ำ ครั้งล่าสุดหนานกิงมอร์นิ่งพยายามจะใส่ร้ายผม พวกเขาพยายามตีข่าวว่าผมไปทำร้ายร่างกายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล คุณเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม เห็นได้ชัดว่าพ่อค้าพวกนั้นทำผิดกฎหมาย อีกทั้งคนพวกนั้นมีอาวุธเต็มมือ สิ่งที่ผมตอบโต้ไปเหตุผลก็แค่ต้องการลูกน้องของผม แต่สำนักข่าวแห่งนี้กับเขียนข่าวที่ไรจรรยบรรณออกมา? สำนักพิมพ์นั้นแทบจะไม่ได้เขียนเกี่ยวกับการกระทำผิดของพวกพ่อค้าเลย อีกทั้งยังไม้ได้พูดถึงเรื่องอาวุธด้วยซ้ำมีแต่บอกว่าผมเป็นคนเริ่มทำร้ายคนเหล่านั้น นี้มันไร้สาระเอามากๆ? เขียนข่าวแบบนี้ได้ยังไง? และในตอนนี้ยังมาเขียนข่าวว่าผมทำร้ายเด็กพวกนั้นอย่างไม่มีเหตุผลอีก! "

แน่นอนว่าถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่เจอเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน

แต่นั้นไม่ใช่สำหรับดงซูบิน

อันที่จริงเรื่องราวทุกอย่างได้คลีคลายไปแล้ว แต่ดงซูบินกับถูกกลั่นแกล้งจากสำนักข่าวหนานกิง มันเลยทำให้ดงซูบินถอนหายใจออกมา

“พี่สาวเสี่ยวหยางตอนนี้คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า” ดงซูบิน ถาม

เสี่ยวหยางยิ้มและพูดว่า: " สำหรับนายแล้วล่ะก็ มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า”

" "คุณช่วยผมค้นหาที่อยู่ของหลิวกังนักข่าวของสำนักข่าวหนานกิงมอร์นิ่งและประธานผังตาปิงได้ไหม? ดูเหมือนเขาพึงจะมารับตำแหน่งในสำนักข่าวแห่งนี้ , ดูเหมือนว่าเขาต้องมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับข้าวราชการของเฟิงโจวอย่างแน่นอน ", "เสี่ยวหยาง นั้นเป็นผู้มีอำนาจดูแลของสำนักความมั่นคงแห่งรัฐเทศบาลซึ่งเป็นผู้นำตราบเท่าที่อยู่ในเขตแดนของเมือง

เฟินโจ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะค้นหาข้อมูลเหล่านี้ ?อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นการละเมิดหลักการสำหรับข้อมูลส่วนตัว .

อย่างไรก็ตามเสี่ยวหยางเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น: "ฉันเข้าใจแล้ว "

..."ขอบคุณครับ"

"ยังไงฉันจะติดต่อนายไปอีกครั้งนะ"

ผ่านไปสิบหน้าที่เสี่ยวหยางก็โทรกลับมาพร้อมข้อมูล และเธอด้ตรวจสอบที่อยู่บ้านของหลิงกังและ ผังตาปิง ตลอดจนข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ รวมทั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง พวกเขาเป็นญาติกัน ถึงแม้ว่าอายุจะต่างกันเล็กน้อย ตาปิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลิวกัง

พี่น้องกันอย่างงั้นหรอ?

แสดงว่า....? ?

ดงซูบินมองดูข้อมูลของชายสองคนด้วยสายตาที่สงบ สงสัยว่าจะเริ่มต้นสืบเรื่องนี้อย่างไร แต่ถึงอย่างงั้นถ้าเขาไม่ทำอะไรเลยมันก็เหมือนเขาเผิกเฉยต่อปัญหาในครั้งนี้และอีกฝ่ายคงจะได้ใจ!

ในเวลาเดียวกัน.

สำนักข่าวหนานกิงมอร์นิ่งสำนักงานใหญ่

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง โทรศัพท์บนโต๊ะโทรมาอย่างรวดเร็ว

ประธานผังยื่นมือออกมาและโทรหาหวังจือหลง ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษามณฑลหยานไท"นี่ผู้อำนวยการหาวงเกิดอะไรขึ้น"

หวางจือหลงพูดอย่างโกรธเคืองว่า "พี่ผัง คุณสะดวกไหม?"

ผังตาปิงเหล่ตาและพูดว่า "โอ้ เกิดอะไรขึ้น?"

“คุณพูดอะไร คุณเขียนอะไรในหนังสือพิมพ์ตอนเช้าของวันนี้” หวางจือหลงตบโต๊ะพร้อมกับโทรศัพท์

“อ้อ เรื่องนี้ ฉันไม่รู้รายละเอียดของต้นฉบับเลย มันเป็นส่วนของแผนกข่าวเป็นคนเล่นข่าว” ผังตาปิงาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

หวางจือหลง

พูดอย่างโกรธเคือง"พี่พัง เรารู้จักกันมาห้าหรือหกปีแล้ว ทำไมคุณถึงหักหลังผมเช่นนี้" ผังตาปิง ยิ้มและพูดว่า "มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันจริงๆ ผู้อำนวยการหวางอย่าโมโหเลยฉันไม่กล้าหักหลังนายหรอก ครั้งล่าสุดที่ฉันโทรหา คุณพูดเองไม่ใช่หรอว่าชายที่ชื่อดงซูบินนั้นทำร้ายร่างกายคนอื่น แม้แต่ถิงถิงซึ่งยังเด็กอยู่ก็ไม่เว้น และมีการรายงานข่าวเรื่องนี้ก็ถูกต้องแล้ว แกะดำตัวนี้ต้องถูกเปิดเผยถึงความเลว นี่เป็นหน้าที่ของนักข่าวของเราด้วย "

จะบ้าหรือยังไง!

ก่อหน้านี้คุณเองก็อยากจะให้ฉันเล่นข่าวนี้? คุณเป็นอะไร คุณ! ?

หวางจือหลงโมโหมากจนไม่สามารถพูดได้ และวางสายอย่างใจร้อน เขาและตาปิงรู้จักกันและพวกแต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่สนิทกันขนาดไหน ครั้งสุดท้ายที่หวางจือหลงโทรหาผังตาปิง เพราะเขาไม่รู้ว่าดงซูบินมีอิทธิพลมากขนาดไหน และเพียงต้องการถามข้อมูลเบื้องต้นจากเขาเท่านั้น โดยไม่คิดว่าผังตาปิงจะเอาเรื่องนี้มาทำข่าวอีกทั้งยังไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับเขาเลย และข้อความในข่าวก็สุดโต่งจน หวางจือหลง แทบจะอ่านหนังสือพิมพ์หลังจากอ่านจบ . แทบจะฉีกมันออก

แน่นอน เขาไม่ต้องการให้เหตุการณ์นี้ปรากฏในหนังสือพิมพ์

หวางจือหลงนั้นยอมแพ้กับดงซูบินแล้ว เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าละอาย เพราะรู้ว่าดงซูบินเป็นคู่หมั่นกับนายกเทศมนตรีเสี่ยว? และเรื่องนี้ก็ได้คุยกันเรียบร้อย แต่ผังตาปิงกำลังทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น  ตอนนี้หวางจือหลงอายมาก จากข่าวของสำนักข่าวหนานกิงมอร์นิ่ง, ตอนนี้หวางจือหลงรู้แล้วว่าจะพายุลูกใหญ่กำลังมาแต่เขาไม่รู้ว่ามันจะมาในรูปแบบนไหน และแม้ว่าคนอื่นจะไม่สงสัยว่า หวางจือหลงนั้นเป็นต้นเรื่องของข่าวนี้ เหตุการณ์นีในครั้งนี้มันน่าเกลียดเกินไป ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องภายในโรงเรียนและจะเกี่ยวกับหวางถิงถิงแต่เพราะหวางจือหลงนั้นเป็นึงผู้อำนวยการสำนักการศึกษาข่าวนี้ทำให้เขาดูไม่ดี ถ้ามันสร้างปัญหาจริงๆ โทษที่เขาจะโดนนั้นถ้าโทษเบาก็แค่โดนตำหนิแต่ถ้ารุนแรงก็อาจโดนไล่ออกได้. หวางจือหลงเห็นถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมาชัดเจน

มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังนี้แน่!

ผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาโดนกลั่นแกล้ง! หรือว่าสำนักข่าวนี้เป็นคู่อริกับ ดงซูบิน!

ซึ่งหวางจือหลงเองไม่ชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลยสำหรับสำนักข่าวที่คาดจรรยาบรรณเช่นนี้ตัวเขาก็รับไม่ได้เช่นกัน!

ในอีกด้านหนึ่ดงซูบินคาดการณ์ว่าการที่ข่าวนี้ออกมาน่าจะมีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง?

หากมีบุคคลดังกล่าวบุคคลที่น่าสงสัยที่สุดคือซูชินหลงหัวหน้าแผนกองค์กรเขตหนานฉาง อย่างไม่ต้องสงสัยดงซูบินทำร้ายลูกชายของเขาและลูกชายของเขาโดนไปอยู่ที่ศูนย์กักกันและรัฐมนตรีซูชินหลงเองก็ถูกทัณฑ์บนและซูชินหลงก็ไม่มีปากมีเสียงกับความผิดนี้

ซูชินหลง...

“ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว”

หลิวกัง ... "

ดงซูบิน พร้อมที่จะสอนบทเรียนให้กับสำนักข่าวแห่งนี้อย่างแน่นอน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด