653-654
7/10
Ep.653
ได้ยินข่าวนี้ ลู่หยางตื่นตกใจ หันไปมองสองศพบนพื้นทันควัน
เมื่อเห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนเต็มสองตา สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
หลังจากอึ้งไปนาน เขาก็หันหน้ามามองซูเฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ กล่าวเสียงสั่น “รู้รึเปล่าว่าสองคนที่ตายคือใคร?”
โอวหยางเฉิงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลโอวหยาง ความตายของเขา ไม่ต่างจากขนที่ถูกดึง มันจะกระเทือนไปทั้งร่าง
และอาจแย่กว่านั้น แม้แต่เจ้าเมืองหยานจื่ออย่างเขา ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
สำหรับเขา เพื่อถีบตัวเองออกจากเรื่องที่ไม่อยากเกี่ยวข้องนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการจับซูเฉินและคนอื่นๆ แล้วส่งทั้งหมดไปให้ตระกูลโอวหยางดำเนินการต่อ
ทว่า ในเมื่อซูเฉินสามารถสังหารโอวหยางเฉิงและผู้คุ้มกันได้ แสดงว่ากำลังรบของอีกฝ่ายต้องไม่อ่อนแอ
เขาไม่มั่นใจสักนิดว่าจะสามารถจับซูเฉินและคนอื่นๆได้
“ก็แค่ขยะสองตัวจากตระกูลโอวหยางไม่ใช่หรอ? ว่าแต่แกเถอะ อยากล้างแค้นให้พวกเขารึเปล่า?” ซูเฉินปาดจมูก กล่าวอย่างสบายๆ
ซู๊ดดดด!
ลู่หยางสูดหายใจลึก
ตอนแรกเขานึกว่าซูเฉินไม่รู้ว่าโอวหยางเฉิงเป็นใครถึงกล้าลงมือสังหาร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ซูเฉินจะรู้ทุกอย่างดี
งั้นแล้วทำไมยังกล้าลงมืออีก?
เป็นไปได้ไหมว่าเขาเองก็มีภูมิหลังไม่ธรรมดาเช่นกัน?
คิดได้แบบนี้ ลู่หยางจำต้องฝืนยิ้มออกมา “สหาย ฉันแค่พูดเล่น ฉันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับตระกูลโอวหยาง แล้วฉันจะล้างแค้นให้พวกเขาได้ยังไง?”
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็อย่ามาขวางทางเรา”
ซูเฉินแสดงท่าทีไม่ดูต่อลู่หยาง ส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหลีกทางไป
ลู่หยางหงุดหงิดใจมาก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นเจ้าเมือง แต่ซูเฉินกลับไม่ไว้หน้าเขาเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ซูเฉินกล้าสังหารโอวหยางเฉิง เขาก็พยายามระงับความโกรธในใจ หันไปตวาดใส่ลูกน้องแทน “ทุกคนหลีกทางไปให้หมด!”
ท่ามกลางสายตาฝูงชน ซูเฉินและคนอื่นๆเดินจากไปอย่างสบายๆ
…
เนื่องจากค่ายกลเคลื่อนย้ายยังเหลือเวลาอีกสามวันจึงจะเปิด ช่วงนี้ไม่มีอะไรทำ ซูเฉินเลยพาทุกคนออกไปเดินเล่นในเมืองหยานจื่อ
และนี่ก็เหมือนกับในตอนเมืองเทียนหวัง ทุกคนกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ซื้ออะไรก็ได้ที่อยากซื้อ เพลิดเพลินสนุกสนาน
ซูเฉินถือโอกาสนี้แนะนำโม่หรงให้ทุกคนได้รู้จัก และประกาศว่านับแต่นี้ไป อีกฝ่ายคือหนึ่งในสมาชิกของพวกเรา
เมื่อเห็นว่าสมาชิกใหม่อาจเป็นผู้นำทีมรบของพวกตน หวู่หยางและคนอื่นๆเข้ามาทักทายโม่หรง ทั้งสองฝ่ายเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว
สามวันผ่านไปราวกับพริบตา
เมื่อถึงวันที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิด ซูเฉินและคนอื่นๆก็มาถึงห้องโถงเคลื่อนย้ายกันตั้งแต่เช้าตรู่
เนื่องจากค่ายกลเคลื่อนย้ายสามารถนำสู่ทวีปเสวียนเทียน และนานๆทีจะเปิดขึ้นซักครั้ง ดังนั้นทุกครั้งที่เปิด จึงมีคนจำนวนมากมาเฝ้ารอ
ในเวลานี้ ภายในห้องโถงเคลื่อนย้ายมีผู้คนนับหลายร้อยมารวมตัวกัน ส่วนใหญ่เป็นพวกต่างเผ่า
“พี่เฉิน ค่ายกลเคลื่อนย้ายสามารถพาข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ทีละกี่คนในแต่ละรอบ?” ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ เอ่ยถามเฉินเฟิง
“อย่างน้อยสามารถส่งไปได้ทีละ 50 คน” เฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับ
“งั้นพวกเราก็ต้องเคลื่อนย้ายไปพร้อมกับคนอื่นๆน่ะสิ” ซูเฉินขมวดคิ้ว บ่นพึมพำ
ใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายร่วมกับคนที่ไม่รู้จัก ยากรับประกันว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้น
เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาเคยถูกหานซานเฉียนหลอกเอาครั้งหนึ่ง เลยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
หลังจากตริตรองอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินก็ถามเฉินเฟิงอีกครั้ง “พี่เฉิน ค่ายกลเคลื่อนย้ายวิธีเปิดยังไง?”
เฉินเฟิงอธิบายว่า “จริงๆแล้วมันง่ายมาก ขอแค่ติดตั้งหินพลังงาน แล้วกดสวิตช์”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเขา จู่ๆก็อ้าปาก ประกาศแก่ทุกคนโดยรอบว่า “ทุกท่าน หลังจากค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิดแล้ว ฉันขอเหมารอบแรก ขอให้ทุกท่านรอใช้งานในรอบต่อไป”
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนมองมาทางซูเฉินเป็นสายตาเดียว
8/10
Ep.654
เมื่อเห็นว่าคนที่พูดเป็นมนุษย์รุ่นเยาว์ ผู้คนในห้องโถงต่างตกตะลึง
มนุษย์คนหนึ่งกล้าทำตัวโอหังเช่นนี้ได้อย่างไร?
ปฏิบัติต่อเหล่าผู้แข็งแกร่งราวกับไม่มีตัวตน อย่างงี้ได้หรอ?
ชักจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว!
“ไอ้หนู สมองใช่มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า? คิดว่าที่นี่เป็นบ้านเจ้ารึไง?” ชาวอมตะชี้หน้าซูเฉิน
ทุกครั้งที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิด ในแต่ละรอบมักเคลื่อนย้ายแบบเต็มจำนวนที่จำกัดไว้ เพราะมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง ว่าคนในรอบต่อไปอาจไม่ได้เข้ามา
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า อารมณ์ของทุกคนในห้องขุ่นมัว พวกเขาจดจ้องซูเฉินด้วยความไม่พอใจ
มีกระทั่งบางคนถึงกับคิดจะกำจัดซูเฉินในห้องโถงนี้
“เฮียซูหยุดเถอะ”
การกระทำของซูเฉินเผด็จการเกินไป นี่จะสร้างความโกรธแก่ผู้คนรอบๆเอาได้ง่ายๆ
แต่ซูเฉินไม่สนใจเรื่องนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือรับประกันว่ากระบวนการเคลื่อนย้ายจะปลอดภัยที่สุด
ส่วนเรื่องที่ว่าใครไม่พอใจ เขาก็จะฆ่ามันซะ เพราะอย่างไรเสีย ในโลกใบนี้ กำปั้นใครแข็ง คนนั้นมีสิทธิ์พูด
“อะไรเล่า แกไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฉันหรอ?”
ซูเฉินถูจมูก พลางเดินตรงไปยังชาวอมตะ
“เหลวไหลสิ้นดี!” สีหน้าของชาวอมตะหม่นทะมึน ขู่คำรามเบาๆ “ไอ้หนู เจ้าเลิกทำแบบนี้ดีกว่า มิฉะนั้นก็อย่าตำหนิว่าข้าไม่เตือน!”
“มนุษย์ ค่ายกลเคลื่อนย้ายเป็นของทุกคน เจ้าอยากครอบครองเพียงผู้เดียว นั่นเป็นไปไม่ได้” ณ ขณะนี้ ชาวครึ่งออร์คอีกตนตำหนิซูเฉินด้วยความเย็นชา
“ถูกต้อง ไอ้เด็กนี่มันบ้า คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่อยู่คนเดียว”
“ถ้ายังกล้าทำเรื่องไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอีก พวกเราจะลงมือฆ่าเจ้าซะ!”
พวกต่างเผ่าตนอื่นๆต่างแสดงสีหน้าท่าทีดุร้าย กระหน่ำด่าซูเฉินอย่างโกรธเคือง ราวกับต้องการให้ซูเฉินอับอาย ลอกคราบเขาทั้งเป็น
ซูเฉินกวาดสายตาเย็นเยียบ หัวเราะดูแคลน “ที่นี่คือทวีปมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พวกแกสามารถพูดจาใหญ่โตได้? ถ้าใครกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ก็อย่าหาว่าบิดาไร้ปรานี!”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งห้องโถงตกลงสู่ความเงียบอีกครั้ง
ทุกคนต่างอ้าปากตาค้าง
ในมุมมองของพวกเขา ซูเฉินไม่ใช่แค่เจ้าหนูที่แสนเย่อหยิ่งอีกต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่กำลังมองหาที่ตาย!
ภายในห้องโถงนี้ มีพวกต่างเผ่าเป็นหลายร้อยตน ประโยคเมื่อครู่ของซูเฉิน ถือเป็นการล่วงเกินพวกเขาทั้งหมด
ระดับความโอหังของเขา มันทะลุเพดานมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ไปแล้ว!
หลังจากนั้นไม่นาน พวกต่างเผ่าก็ได้สติกลับมา จดจ้องซูเฉินด้วยสายตาเย็นเยียบ
ภายในห้องโถงใหญ่คุกรุ่นไปด้วยจิตสังหารอันเข้มข้นรุนแรง
ท่ามกลางช่วงเวลาตึงเครียด เสียงตวาดดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วโถงใหญ่
“ที่นี่คือโถงสำหรับค่ายกลเคลื่อนย้าย! ไม่ใช่สถานที่ให้พวกแกอาละวาด หยุดเดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่เสียงตกลง ชายวัยกลางคนที่ดูน่าเกรงขามก็ก้าวออกมา เดินช้าๆด้วยฝีเท้ากระฉับกระเฉง
ชายผู้นี้จะเป็นใครอื่นไปได้อีก หากไม่ใช่ลู่หยางเจ้าเมืองหยานจื่อ
ในฐานะผู้ฝึกตนขั้น 7 และเป็นถึงเจ้าเมือง คำพูดเขาพอมีน้ำหนักอยู่บ้าง เสียงในห้องโถงเงียบลงไปมาก
“เจ้าเมืองลู่ ไอ้เด็กนี่มันคิดฮุบค่ายกลเคลื่อนย้ายรอบแรกไปคนเดียว ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา”
เห็นลู่หยางเข้ามาใกล้ ชาวอมตะที่เคยด่าซูเฉินก่อนหน้านี้ เป็นคนแรกที่ร้องเรียนเขา
“ค่ายกลเคลื่อนย้ายมีกฏมีเกณฑ์ ไอ้หน้าไหนกันกล้าอวดดีถึงขนาดนี้?”
สีหน้าของลู่หยางเย็นชา กวาดมองไปตามทิศทางนิ้วชี้ของชาวอมตะ
แต่เมื่อเห็นว่าเป็นซูเฉิน มุมปากเขาก็กระตุกเล็กน้อย คำพูดด่าทอหยาบคาย จำต้องกลืนมันกลับลงคอไป
“สหาย คุณทำแบบนี้มันผิดกฏนะ” ลู่หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หากเป็นคนอื่นกล้าสร้างปัญหาที่นี่ มันคงถูกฆ่าตายไปนานแล้ว
แต่ซูเฉินไม่ใช่คนธรรมดา! กระทั่งสมาชิกของตระกูลโอวหยางก็ยังกล้าสังหาร
เผชิญหน้ากับตัวตนเช่นนี้ เขาไม่กล้าที่จะทำตัวโอหังแม้แต่น้อย