651-652
5/10
Ep.651
เฉินเฟิงจินตนาการได้เลย ว่าเมื่อไหร่ที่ซูเฉินกลับมา หากโอวหยางเฉิงยังคงพูดพล่อยๆต่อไป เกรงว่าชีวิตน้อยๆของอีกฝ่าย คงต้องจบลงในวันนี้
“เฮียซูที่คุณพูดถึงเป็นใครกัน? แล้วเขากล้าดียังไงถึงไม่ขายให้ เขาจะไม่ไว้หน้าตระกูลโอวหยางของพวกเราเชียวหรือ?” โอวหยางเฉิงยิ้มดูแคลน
ได้ยินประโยคนี้ เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซูเฉินถูจมูกและก้าวเข้ามา
“เฮียซู? เฮียกลับมาแล้ว!” เฉินเฟิงอุทาน
“ซูเฉิน!”
“พี่เฉิน!”
สมาชิกคนอื่นๆต่างทักทายซูเฉิน
ซูเฉินพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนกวาดสายตามองโอวหยางเฟิง กล่าวเสียงเย็นว่า “ฉันไม่สนว่าเบื้องหลังแกเป็นใคร และไม่มีทางขายตราประทับนั่นให้แน่นอน ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากลิ้มรสความอัปยศ!”
[ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] คือสิ่งประดิษฐ์เทวะ ทั้งเดิมยังเป็นของต้นหลิววัชระ แต่อีกฝ่ายกลับกล้าทวงถาม ทั้งโมเมว่าเป็นของตนเอง ช่างเพ้อเจ้อซะจริง
“เจ้าหนู นี่แกขู่ฉันหรอ?” สีหน้าท่าทีของโอวหยางเฉิงแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน ดวงตาทอประกายเย็นเยียบ
ตระกูลโอวหยางคือตระกูลใหญ่ในทวีปเสวียนเทียน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผู้อื่นกล้าดูแคลน?
เด็กเหลือขออย่างซูเฉินกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้ เหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด
ในฐานะศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลโอวหยาง หากเขาไม่ทำอะไรเลยตอนนี้ ผู้ที่เสียหน้าไม่ใช่เขาแค่คนเดียว แต่เป็นทั้งตระกูล
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เขาได้ลอบตัดสินใจแล้ว ครั้งนี้ตนไม่เพียงคว้า [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] มาไว้ในกำมือเท่านั้น แต่จะถือโอกาสนี้มอบบทเรียนให้ซูเฉินด้วย
“ขู่งั้นหรือ??”
ซูเฉินเบ้ปาก ระเบิดพลังจิตออกมาในพริบตา กวาดไปทางโอวหยางเฉิง
“พลังแห่งจิตวิญญาณ!”
สัมผัสได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นโจมตีเข้ามา โอวหยางเฉิงตื่นตกใจ
ขณะกำลังพยายามหลบหนี เขาก็พบว่าร่างกายตนถูกพันธนาการและไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้
‘เป็นพลังจิตขั้นไหนกัน?’
หัวใจของโอวหยางเฉิงสั่นสะท้าน ในฐานะผู้วิวัฒนาการขั้น 6 แต่เวลานี้ เขาไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน นี่แสดงให้เห็นว่า ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามคือปรมาจารย์พลังจิตขั้น 7 ขึ้นไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“บังอาจ!”
ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างกายโอวหยางเฉิงโกรธจัด ร้องคำราม ทะยานเข้าสังหารซูเฉิน
“เหล่าโม่ สั่งสอนมันซะ”
ซูเฉินตะโกนเบาๆ หันไปส่งสายตาให้โม่หรงที่อยู่ข้างๆ
ชายวัยกลางคนที่พุ่งเข้ามาอยู่ในขั้น 7 ด้วยกำลังรบของโม่หรง หากคิดสยบ นับว่าเพียงพอแล้ว
“ขอรับ”
โม่หรงพุ่งสวนออกไป ซัดหมัดใส่ชายวัยกลางคน
ปงงงง!
ตามมาติดๆด้วยเสียงปะทะดังกึกก้อง แขนของชายวัยกลางคนแหลกเป็นเศษเนื้อ
“ผู้วิวัฒนาการขั้น 8!”
รอบข้างฮือฮาด้วยความตกใจ
“แข็งแกร่งมาก!”
เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้เองก็หวั่นไหวเช่นกัน
“พี่เฉินมีลูกน้องที่ทรงพลังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
หยางฮ่าวและคนอื่นๆงุนงงเล็กน้อย
“นี่แกกล้าทำร้ายคนในตระกูลโอวหยางของฉันหรือ?”
มุมปากของโอวหยางเฉิงสั่นระริก เพลิงโทสะลุกโชนขึ้นในดวงตาเขา จ้องเขม็งไปทางซูเฉินด้วยสายตาอันตราย
“ถ้าแกกล้าเห่าอีกแม้แต่คำเดียว เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก!”
มุมปากซูเฉินยิ้มหยัน แค่นเสียงเบาๆ
“แกน่ะหรือจะฆ่าฉัน? ถ้ากล้าก็ลองดู!” โอาวหยางเฉิงแค่นเสียงหัวเราะ
แม้ตัวเขาจะกำลังถูกซูเฉินควบคุม แต่เขาไม่ตื่นตระหนกเหมือนเช่นในตอนแรกแล้ว ตรงกันข้าม กลับแสดงความกล้าหาญมั่นใจออกมา
เฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าของฉินเฟิงอย่างชัดเจน รีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม “เฮียซู เฮียจะฆ่าชายคนนี้ไม่ได้!”
ด้วยอุปนิสัยของซูเฉิน ต่อให้เป็นใครหน้าไหน ตราบใดที่กล้าแส่หาเรื่อง เขาจะสังหารมันอย่างไร้ปรานี
กระนั้น สถานะของโอวหยางเฉิง ค่อนข้างพิเศษมาก
หากอีกฝ่ายถูกฆ่า จักชักนำเภทภัยร้ายแรงเข้ามาไม่จบไม่สิ้น
“ทำไมถึงฆ่ามันไม่ได้?” ซูเฉินเอ่ยถามเสียงเย็น
เฉินเฟิงอธิบายเสียงต่ำ “เฮียซู ตระกูลโอวหยางคือหนึ่งในเจ็ดขุมกำลังของขุนเขาหวังเฉียว ด้านกำลังรบแน่นอนว่าไม่อ่อนแออยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีบรรพชนระดับเทวะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย”
6/10
Ep.652
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหนู ตอนนี้แกก็น่าจะรู้เบื้องหลังของฉันแล้วถูกไหม?”
โอวหยางเฉิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่สีหน้าเขาจะหมองลง เอ่ยปากขู่ว่า “เจ้าหนู อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสแก รีบมอบตราประทับมา แล้วคุกเข่าลงแทบเท้าฉัน โขกศีรษะยอมรับผิดซะดีๆ แล้วฉันจะยอมไว้ชีวิต!”
เขาคิดว่าตนมีบรรพชนระดับเทวะคอยหนุนหลัง คนอื่นๆคงไม่มีทางกล้าทำอะไร ชื่อเสียงของระดับเทวะ มากพอที่จะสะกดคนส่วนใหญ่ให้หวาดกลัว
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลกับซูเฉิน
เพราะสถานการณ์แบบนี้ใช่ว่าซูเฉินจะไม่เคยเจอซะเมื่อไหร่? ขนาดบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูร เขายังไม่ไว้หน้า แล้วกับอีแค่คนอย่างโอวหยางเฉิง คิดจะใช้ลูกไม้นี้กับเขา มันจะได้หรอ?
เฉินเฟิงรู้ดีว่าชักไม่เข้าท่าแล้ว เขาต้องการเข้าเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาปานน้ำแข็งของซูเฉิน คำพูดก็จุกอยู่ในปาก สุดท้ายจำใจกลืนมันกลับลงไป
“รู้ตัวรึเปล่า ว่าคำพูดของแกมันอาจนำหายนะมาสู่ตระกูลโอวหยาง ที่แม้แต่บรรพชนก็ไม่สามารถช่วยได้!”
ซูเฉินหรี่ตาลง ค่อยๆเดินเข้าหาโอวหยางเฉิง
โอวหยางเฉิงอึ้งไปเล็กน้อย
ตอนนี้ เขารู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าของซูเฉินอย่างชัดเจน แต่เขายังไม่เชื่อว่าซูเฉินจะกล้าทำอะไร กัดฟันกรอด แค่นลมออกทางจมูก “เจ้าหนู แกคงยังไม่รู้ใช่ไหม ว่าผู้แข็งแกร่งระดับเทวะทรงพลังขนาดไหน?”
“เหอะ! ชาติหน้า … ก็หัดพึ่งตัวเองซะบ้างนะ!”
ซูเฉินคร้านจะใส่ใจอี ก้าวไปข้างหน้า ซัดหนึ่งหมัดออกไป
ตามด้วยเสียงดังโผล๊ะ!
ศีรษะของโอวหยางเฉิงถูกระเบิดเป็นหมอกเลือด ศพไร้หัวสั่นกระตุกอยู่หลายครั้ง สุดท้ายล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง
ซู๊ดดดด!
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ เสียงสูดหายใจดังไปทั่วบริเวณ
จากนั้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์อันร้อนแรงก็ปะทุขึ้น
“เขาเป็นใครกัน? แม้แต่ตระกูลโอวหยางยังกล้าฆ่า? นี่บ้าไปแล้วหรอ?”
“ให้ตายเถอะ! เงียบเสียงลงซะ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรึไง? คนที่กล้าฆ่าโอวหยางเฉิง จะใช่ตัวตนธรรมดาได้อย่างไร?
“แต่ตระกูลโอวหยางมีบรรพชพระดับเทวะอยู่! เขากล้าทำแบบนี้ มันไม่อุกอาจเกินไปหน่อยหรือ?”
…
เฉินเฟิงหันมาสบตากับเซี่ยจิงอี้ อดยกมือขึ้นป้องปากพร้อมกันไม่ได้
ความโหดเหี้ยมของซูเฉิน พวกเขารู้ดี แต่ในตอนนี้ ทั้งสองก็ยังตกใจไม่หายอยู่ดี
“กล้าดียังไงมาสังหารนายน้อยของเรา! ตระกูลโอวหยางจะไม่มีวันปล่อยแกไป!”
ชายวัยกลางคนที่เหลือแขนเพียงข้างเดียวคำรามด้วยความโกรธ
“น่ารำคาญ!”
ซูเฉินแค่นลมหายใจเย็นชา ยิงใบมีดสายลมออกไป สะบั้นศีรษะอีกฝ่าย
“ไปเถอะ ไปเที่ยวในเมืองกัน”
ซูเฉินทำตัวราวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องธรรมดาไม่มีอะไรผิดปกติ เอ่ยปากชวนหยางฮ่าวและคนอื่นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไปกันก่อน สถานที่นี้ไม่เหมาะที่จะอยู่นาน” หวู่หยางเห็นด้วย
แต่ใครจะทันคิด ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป ปรากฏทหารยามในชุดเกราะจำนวนมากวิ่งเข้ามา ปิดกั้นเส้นทางเอาไว้
“ไอ้หน้าไหนกัน ที่กล้าฆ่าคนในเมืองหยานจื่อของฉัน? ก้าวออกมารับผิดซะ!”
ท่ามกลางทหารยามในชุดเกราะ ชายวัยกลางคนที่สวมชุดจีนดูหรูหราก้าวออกมา ลักษณะท่าทีดูน่าเกรงขามไม่น้อย
คนผู้นี้กวาดสายตาผ่านซูเฉินและพรรคพวก ตวาดเสียงเย็น
“เฮียซู คนๆนี้คือลู่หยาง เป็นผู้วิวัฒนาการขั้น 7 และยังเป็นเจ้าเมืองหยานจื่อด้วย” เฉินเฟิงเดินไปกระซิบข้างซูเฉิน ย้ำเตือนเขา
ซูเฉินปาดจมูก ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ฉันนี่แหละเป็นคนลงมือเอง มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
เห็นท่าทางองอาจไม่หวั่นเกรงของซูเฉิน ลู่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่เป็นครั้งแรกที่แกมาเมืองหยานจื่อใช่ไหม? ไม่รู้รึไงว่าที่นี่ไม่อาจฆ่าแกงกันตามใจชอบ!”
ซูเฉินเบ้ปาก ฉีกยิ้มกล่าวว่า “ตราบใดที่มีคนกล้ายั่วยุฉัน ฉันจะฆ่ามัน! ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน!”
“บ้าชัดๆ!!”
เห็นซูเฉินไม่จริงจังกับเรื่องนี้ ลู่หยางกัดฟันแน่น ขณะที่เขากำลังจะตำหนิ ก็มีทหารยามวิ่งเข้ามา กระซิบข้างหูเขาหลายคำ