647-648
1/10
Ep.647
“เผ่าวิญญาณ?”
ซูเฉินชะงัก มองถสำรวจโม่หรง ก่อนที่คิ้วของเขาจะค่อยๆขมวดเข้าหากันทีละน้อย
เพราะเจ้าตัวจดจำได้เป็นอย่างดี ว่าในทะเลแห่งการหลงเลือนนอกเกาะเฉียนหยู เขาเคยสังหารเผ่าวิญญาณมาก่อน
ทว่า ในตอนนั้นเผ่าวิญญาณที่ถูกสังหาร อยู่ในสภาพโครงกระดูกทั้งตัว มันไม่เหมือนกับโม่หรงในตอนนี้เลย
ฉะนั้น เป็นไปได้ไหมว่าโม่หรงกำลังโกหก?
คิดได้แบบนี้ ระลอกคลื่นในดวงตาซูเฉินทอประกายเย็นเยียบ แค่นเสียงฮึ่มเบาๆ “แกคิดว่าฉันไม่เคยเจอเผ่าวิญญาณมาก่อนหรือ?”
“ข้าขอถาม ว่าชาวเผ่าวิญญาณที่อาวุโสเห็น มีลักษณะเป็นอย่างไร?” น้ำเสียงของโม่หรงสั่นเทา
“โครงกระดูก!” ซูเฉินกล่าวอย่างเย็นชา
โม่หรงถอนหายใจ อธิบายว่า “ท่านอาวุโสอาจยังไม่ทราบ ว่ามีชาวเผ่าวิญญาณของพวกเราไม่น้อยที่เป็นพวกสุดโต่ง หากไม่สามารถตัดผ่านระดับฐานฝึกตนได้ ก็จักกำจัดร่างกายตัวเองทิ้ง เพื่อเน้นฝึกฝนพลังแห่งจิตวิญญาณ จะได้ทะลวงสู่ขั้นต่อไป”
“มีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยหรอ?” ซูเฉินไม่ค่อยเชื่อนัก
เปลี่ยนตัวเองเป็นโครงกระดูก? แบบนั้นจะใช่ชีวิตต่อได้อย่างไร?
คำ ‘สุดโต่ง’ คงไม่เหมาะกับการกระทำนี้ สมควรเรียกว่าเป็นการ ‘ทรมาน’ ตัวเองมากกว่า
“ผู้อาวุโส ถ้าท่านไม่เชื่อ สามารถลองถามชาวเผ่าเอลฟ์ดูได้ พวกนางมักต่อสู้กับเผ่าข้าอยู่บ่อยครั้ง” โม่หรงยืนยันหนักแน่น
ซูเฉินหันไปทางเยว่หลิงและหยูฉี
“เรียนอาวุโส มีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ” เยว่หลิงช่วยยืนยัน
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันมามองโม่หรงอีกครั้ง ผุดยิ้มเย็นชา “แต่แล้วยังไง? ในเมื่อไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับฉัน ความคิดจิตใจย่อมไม่เหมือนกัน ดังนั้นแกต้องตาย!”
สิ้นเสียง ในฝ่ามือเขาพลันแปลบปลาบไปด้วยกระแสไฟฟ้า คลื่นอสนีบาตอันน่าสยดสยองแผ่กระจายออกมา
“ช้าก่อนผู้อาวุโส! ข้ามีข้อมูลสำคัญ ที่น่าจะมากพอใช้แลกชีวิตได้”
เห็นซูเฉินกำลังจะลงมือ โม่หรงร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างเฉยเมย “ถ้าแกกล้าโกหกฉันล่ะก็ ..!”
โม่หรงรู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นเต็มกำมือ คล้ายเพิ่งไปสัมผัสขอบเหวแห่งความตายมา
ภายใต้สายตาของซูเฉิน เขารีบกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ข้ารู้สถานที่ที่มีหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 จำนวนมาก!”
“หินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9!”
ดวงตาของซูเฉินเบิกกว้าง สีหน้าท่าทีของเขาแปรเปลี่ยนไป
หินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 เป็นของที่สำคัญสำหรับเขามาก
เพราะไม่ว่าจะ [รถศึกอัจฉริยะ] หรือ [นักรบจักรกล] หากต้องการอัพเกรดเป็นเลเวล 9 นั่นคือสิ่งที่ขาดไม่ได้
“เรื่องที่แกพูดเป็นความจริงรึเปล่ายังไม่รู้ ฉันจะพิสูจน์มันได้ยังไง?”
ซูเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ค่อยมองโม่หรงอีกรอบ
“ผู้อาวุโส ให้ข้าสาบานต่อสวรรค์ก็ได้ ว่าทุกคำที่พูดคือความจริง!” โม่หรงกล้าท้าให้เอ่ยปฏิญาณ
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินเริ่มไตร่ตรองในใจ
แม้คำสาบานต่อสวรรค์จะมีผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าสิ่งที่โม่หรงพูดทั้งหมดเป็นความจริง
แล้วอีกอย่าง เมื่อตกปากรับคำโม่หรงแล้ว ซูเฉินต้องปล่อยอีกฝ่ายไป ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นหากโม่หรงวกกลับมาตลบหลังเขาในภายภาคหน้า?
เรพาะท้ายที่สุดแล้ว โม่หรงคือผู้ฝึกตนขั้น 8 เป็นภัยคุกคามร้ายแรงถึงตายแก่สมาชิกทุกคน
แต่ถ้าให้ละทิ้งหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 ซูเฉินทำใจไม่ได้จริงๆ
ขณะที่เขากำลังลังเล เยว่หลิงก้าวออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ผู้อาวุโส ข้าอยากทำข้อตกลงกับท่านอีกครั้ง”
ซูเฉินเริ่มตื่นตัวเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ “บอกรายละเอียดมา”
เยว่หลิงมีของดีมากมายพกติดตัว ก่อนหน้านี้ก็ศิลาจิตโลหิต หลังจากนั้นก็คันธนูทองคำ แต่ละสิ่งล้วนมีค่ามหาศาล
ตอนนี้เยว่หลิงเอ่ยปากขออยากขอแลกเปลี่ยน ซูเฉินเลยค่อนข้างสนใจ
“ผู้อาวุโส ท่านควรมีไข่มุกวิญญาณอีกลูกหนึ่งกระมัง? ข้าต้องการแลกเปลี่ยนกับกับศิลาปฏิญาณ”
“องค์หญิง! ไม่ได้เด็ดขาด!” อาวุโสฉีร้องเสียงแหลม รีบหยุดเธอ
สีหน้าของเยว่หลิงมืดมนลง กล่าวสวนทันที “อาวุโสหยู ท่านลืมเรื่องเสด็จแม่ไปแล้วหรือ?”
“แต่ …!” อาวุโสหยูฉีกัดฟัน สุดท้ายทอดถอนหายใจอย่างอ่อนแรง
2/10
Ep.648
“ศิลาปฏิญาณคืออะไร?” ซูเฉินอุทานออกมา
แม้เขาจะไม่ทราบคุณสมบัติที่แน่ชัดของมัน แต่หากเยว่หลิงเอ่ยปากว่าจะแลกสิ่งนี้กับไข่มุกวิญญาณ เดาว่ามูลค่าคงไม่ด้อยไปกว่าศิลาจิตโลหิตแน่
โม่หรงชิงอธิบายก่อน “ผู้อาวุโส ศิลาปฏิญาณ หากพูดให้ถูกคือหินชนิดหนึ่งที่ใช้ในการสาบาน ขอแค่สาบานต่อหน้าศิลาปฏิญาณนี้ ว่าจะยอมจำนนต่อผู้เป็นนาย คำสาบานจะมีผลทันที หากละเมิด จิตวิญญาณจะถูกทำลาย”
ได้ยินแบบนั้น หัวใจซูเฉินเริ่มเต้นแรง
หากคำพูดของโม่หรงเป็นความจริง เช่นนั้นการมีศิลาปฏิญาณอยู่ในครอบครอง ก็จะเท่ากับการควบคุมผู้แข็งแกร่งจำนวนมากได้เลยมิใช่หรือ? และแบบนั้นก็ไม่ต้องกังวลด้วยว่าพวกเขาจะทรยศ
ที่แท้ก็มีสิ่งมหัศจรยย์เช่นนี้อยู่ในโลกด้วย!?
ซูเฉินรู้สึกเหลือเชื่อนัก เบนสายตามองเยว่หลิง
เยว่หลิงอธิบายว่า “ผู้อาวุโส ศิลาปฏิญาณมีผลเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม มันสามารถใช้งานได้สูงสุดไม่เกินสามครั้งเท่านั้น”
ได้ยินคำอธิบายนี้ ความตื่นเต้นในหัวใจเขาค่อยคลายลง
เพราะหากศิลาปฏิญาณสามารถใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง มันคงเป็นสมบัติที่ท้าทายลิขิตสวรรค์มากเกินไป
แต่หากใช้ได้แค่สามครั้ง แบบนี้สิค่อยสมเหตุสมผลหน่อย
“ศิลาปฏิญาณมีผลกับพวกระดับเทวะด้วยไหม?” ซูเฉินถามหยั่งเชิง
เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าศิลาปฏิญาณสามารถใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น ดังนั้นแต่ละครั้งมีค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ หากเขาต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ แน่นอนย่อมต้องอยากรับเอาผู้แข็งแกร่งมา และระดับเทวะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“ศิลาปฏิญาณมีผลกับทุกคนที่มีระดับฐานฝึกตน ทว่าอีกฝ่ายต้องเต็มใจเท่านั้น ไม่สามารถบังคับกันได้” โม่หรงบอกเพิ่มเติม
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] สนทนากับหงส์เพลิง
“เสี่ยวเหยียน นายรู้จักศิลาปฏิญาณไหม?”
เรื่องศิลาปฏิญาณมีความสำคัญมาก ดังนั้นไม่สามารถฟังความข้างเดียวได้ ต้องยืนยันให้แน่ใจก่อน
หงส์เพลิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ศิลาปฏิญาณหรือที่เรียกอีกอย่างว่าหินสาบานตน ขอแค่สาบานต่อหน้ามัน คนผู้นั้นก็จักมิอาจขัดขืนผู้เป็นนาย มิเช่นนั้นจะถูกสวรรค์ลงโทษร้ายแรงชนิดไม่มีที่กลบฝัง”
เมื่อยืนยันแน่ชัดว่าศิลาปฏิญาณมีประโยชน์จริง ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “ฉันยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้”
“ขอบพระคุณผู้อาวุโส!”
เยว่หลิงตื่นเต้นมาก รีบหยิบอัญมณีสีฟ้าออกมา และมอบมันถึงมือซูเฉิน “ผู้อาวุโส นี่คือศิลาปฏิญาณ”
ซูเฉินเพ่งมองอย่างตั้งใจ จากนั้นติดต่อหาหงส์เพลิงผ่านทางความคิด “เสี่ยวเหยียน นี่ใช่หินที่พวกเราพูดถึงกันรึเปล่า?”
“เจ้านาย ไม่ผิดแล้ว มันคือศิลาปฏิญาณจริงๆ” หงส์เพลิงตอบอย่างรวดเร็ว
ซูเฉินถอนหายใจ เปิดถุงเก็บของของเสิ่นรั่วหง หลังจากควานหาซักพัก เขาก็พบไข่มุกวิญญาณ และมอบมันแก่เยว่หลิง
“ขอบพระคุณผู้อาวุโส!” เยว่หลิงกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
“มันก็แค่การแลกเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก” ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวอย่างเฉยเมย
หากว่ากันในเชิงเทคนิคแล้ว การแลกเปลี่ยนนี้คุ้มค่ามากสำหรับซูเฉิน
เพราะอย่างไรเสีย มูลค่าของศิลาปฏิญาณนั้นสูงกว่าไข่มุกวิญญาณมาก
“แต่ฉันค่อนข้างแปลกใจนะ ว่าทั้งๆที่เธอควรรู้คุณค่าของศิลาปฏิญาณ แล้วทำไมถึงยังยอมแลกเปลี่ยนมัน?” ซูเฉินเกิดข้อสงสัย เอ่ยถามออกไป
หลังจากอวี้ชิงตาย เยว่หลิงย่อมเป็นราชินีเอลฟ์คนต่อไป หากต้องการลูกน้องที่จงรักภักดี คุณสมบัติของศิลาปฏิญาณมีผลกับเธอมาก
เยว่หลิงลังเลเล็กน้อย ก่อนยอมบอกตามความจริง “เรียนอาวุโส เสด็จแม่ข้าถูกวางยาพิษร้ายแรง และมีเพียงเม็ดยาหยวนเท่านั้นที่สามารถใช้รักษาได้ ซึ่งวัตถุดิบหลักในการกลั่นเม็ดยาหยวน ก็คือไข่มุกวิญญาณ”
“อ้อ”
ซูเฉินเริ่มเข้าใจ กล่าวต่อว่า “ศิลาปฏิญาณดูเหมือนจะมีค่ากว่าไข่มุกวิญญาณมาก ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอเหมือนกัน ฉะนั้นไม่ต้องเอาธนูทองให้แล้ว”
เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ว่าเยว่หลิงจะกลายเป็นราชินีเอลฟ์คนต่อไป ซูเฉินเลยอยากสร้างความประทับใจที่ดีแก่เธอ บางทีในอนาคต เขาอาจได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้จากเผ่าเอลฟ์ก็ได้
