ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ภารกิจของระบบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 หมู่บ้านเสี่ยวซาน

ตอนที่ 3 ตัวตน!


ตอนที่ 3 ตัวตน!

 กงหมิงเฟย กระโดดกลับขึ้นไปบนเตียงใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะและหัวเราะออกมาเสียงดัง! ความรู้สึกของการตายแล้วฟื้นคืนชีพนั้นช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ!

ในชีวิตที่แล้วเขาเป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียงกว่า 4 ปี เขาได้เห็นอะไรมาหลายอย่าง รวมถึงนวนิยายและการ์ตูนที่เป็นภาพนิ่ง 2 มิติและอนิเมชั่นที่ตัวเอกของเรื่องจะมีระบบและสามารถเกิดใหม่ได้ ในตอนนี้เขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าระบบเช่นนี้จะมีอยู่จริง และมันยังช่วยพาตัวเขาเข้ามาเกิดใหม่ยังโลกใบนี้อีกด้วย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำความดีในการที่เขาได้ช่วยชีวิตของเด็กน้อยจากการถูกรถชนก็เป็นได้?

"ระบบทำไมคุณถึงช่วยชีวิตของผม?"

 กงหมิงเฟย ไม่สามารถระงับความอยากรู้ในใจของเขาได้จึงถามออกไปในทันที แต่ตัวเขาก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา ราวกับว่าระบบนั้นจะดำเนินการตอบรับเฉพาะโปรแกรมบางอย่างที่ตั้งเอาไว้เท่านั้น

เขาทดลองถามคำถามในหลายรูปแบบ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจากระบบ

หลังจากนั้นเขาจึงละความสนใจจากความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่เกินกว่าเขาจะเข้าใจได้ไปในทันที เพราะท้ายที่สุดในตอนนี้ตัวเขาได้เกิดใหม่แล้ว ร่างกายในตอนนี้ของเขาตอนนี้ก็สมบูรณ์แข็งแรงไม่ได้เป็นอัมพาตเหมือนในชีวิตที่แล้ว มันจะมีอะไรสำคัญมากไปกว่านี้?

ในขณะที่เขากระโดดไปรอบๆในห้องพักของโรงแรมเพื่อเฉลิมฉลองการเกิดใหม่ของเขา ประตูห้องพักก็ถูกเคาะเบาๆ เขาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู

หลังจากนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวที่สวมชุดสูทในแบบผู้จัดการมืออาชีพยืนอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเขาด้วยท่าทางที่เป็นมิตร

"สวัสดีค่ะคุณกง! สัญญาในการเช่าห้องพักในโรงแรมของคุณหมดอายุลงแล้ว คุณต้องการที่จะต่อเวลาการเข้าพักเพิ่มหรือไม่คะ?"

 กงหมิงเฟย แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา! เธอคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเขามีนามสกุลกง? มันจะเป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่เขาเกิดใหม่และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแต่ตัวตนของเขานั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วย?

หญิงสาวที่สวยงามในชุดสูทเห็นว่ากงหมิงเฟย จ้องมองมาที่เธอและไม่ได้ตอบคำถาม ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นด้วยความเขินอายเล็กน้อย เธอรีบทวนซ้ำคำพูดของเธอเบาๆ

"โอเค! รอผมสักครู่!"  หลังจากที่ได้ยินคำถามซ้ำของเธอกงหมิงเฟย ก็พยักหน้าพร้อมตอบคำถามของเธอด้วยรอยยิ้ม

เขาหันหลังกลับไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่บนโต๊ะ ในก่อนหน้านี้เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาได้เห็นกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือวางไว้อยู่บนโต๊ะที่ข้างเตียง ซึ่งดูแล้วสิ่งของเหล่านี้น่าจะเป็นของใช้ส่วนตัวของเขา

ในตอนนี้เมื่อเขาได้รับร่างกายใหม่แล้ว กงหมิงเฟยก็ไม่อายที่จะหยิบเงินที่ถือได้ว่าเป็นของตัวเขาเองออกมาใช้ ในกระเป๋าสตางค์นั้นมีบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรธนาคารรวมถึงบัตรเครดิตต่างๆอยู่เยอะมาก ส่วนเงินสดก็มีอยู่หลายร้อยหยวนเช่นเดียวกัน

จากความรู้ของเขาในชาติที่แล้วเขาแน่ใจว่าบัตรเหล่านี้นั้นเป็นบัตรระดับแพลตตินั่มทุกใบ และแต่ละใบน่าจะมีเงินฝากอยู่ในนั้นไม่ต่ำกว่าหลักแสนอย่างแน่นอน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายอีกเช่นเดียวกันเพราะว่าเขาไม่รู้รหัสผ่านของบัตรเหล่านั้น!

แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อเขาได้เห็นบัตรประจำตัวประชาชน กงหมิงเฟยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะว่าเจ้าของร่างเดิมนี้ก็มีชื่อว่ากงหมิงเฟยเช่นเดียวกันกับชื่อของเขาในชาติที่แล้ว!

บนบัตรประชาชนใบนี้ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับบัตรประชาชนของโลกใบเดิมในชาติที่แล้วของเขามาก

...

  ชื่อ: กง หมิงเฟย

  เพศ: ชาย

  วันเดือนปีเกิด: 27 มีนาคม 1997

สถานที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน: เลขที่ 1005 ถนนหลินหลิน เมืองหยานเฉิง มณฑลเจียงหนาน

  วันที่มีผลการออกบัตร: XXXXXXXXX

ลายเซ็นของผู้ที่ถือบัตร: กงหมิงเฟย

เขามองดูจำนวนเงินในกระเป๋าสตางค์แล้วหันกลับไปถามเจ้าหน้าที่สาวคนสวยด้วยรอยยิ้ม: "ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเท่าไหร่ครับ?"

หญิงสาวในชุดสูทมืออาชีพตอบกลับด้วยรอยยิ้ม "ในช่วง 3 วันที่ผ่านมารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 7,500 หยวนค่ะ!"

กงหมิงเฟยก้มมองลงไปที่กระเป๋าสตางค์ของเขาอีกครั้ง ในนั้นมีเงินสดอยู่เพียงแค่ 500-600 หยวน มุมปากของเขากระตุกและยิ้มออกมาอย่างเขินอายขณะที่เกาศีรษะของตัวเองเบาๆ "ฮ่าฮ่า! เอ่อ...ผมขอทำสัญญาคงค้างชำระหนี้ไว้ก่อนจะได้ไหม?"

หญิงสาวในชุดสูทมืออาชีพส่ายหัวช้าๆและพูดออกมาเบาๆ "ไม่ได้ค่ะ!"

ต่อมากงหมิงเฟยก็ขายโทรศัพท์มือถือของเขาจนพอกับค่าใช้จ่ายในห้องพัก! โชคดีที่โทรศัพท์มือถือของเขานั้นเป็นโทรศัพท์แบรนด์ใหญ่ที่เป็นรูปแอปเปิ้ลโดนกัด มันเป็นโทรศัพท์ตัวท๊อปของรุ่นใหม่ล่าสุด เขาสามารถนำไปขายได้ในราคา 10,000 หยวน ซึ่งถือได้ว่าเป็นราคาที่สูงมาก!"

ในระหว่างนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง: "เจ้าบ้านได้โปรดเริ่มต้นภารกิจหลักภายใน 3 วัน!"

 กงหมิงเฟย ถอนหายใจออกมาเบาๆ ตอนนี้เขาเหลือเงินในกระเป๋าเพียงแค่ 3,000 หยวน และในตอนนี้เขากำลังมองหาสถานที่พักสำหรับการปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่ แล้วทำไมระบบถึงได้ต้องย้ำและบีบบังคับให้เขาไปที่เมืองเหิงเตี้ยนอยู่บ่อยครั้งด้วย?

ขณะเขาคิดคำนวณด้วยความกังวลใจอยู่ในร้านกาแฟหน้าโรงแรมที่พัก เขาก็เห็นคนส่งของที่มีรถเข็นคันเล็กๆเดินผ่าน ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาในทันที! เขาคิดถึงการถ่ายทอดสดที่เขาเคยดูในช่วงชีวิตที่แล้วของเขาขึ้นมาได้!

ตามคำกล่าวโบราณที่เคยพูดเอาไว้ จุดหมายปลายทางย่อมอยู่ที่การก้าวเดินก้าวแรกเสมอ!

เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็เดินไปร้านที่เคยขายมือถืออีกครั้ง เขาใช้เงิน 500 หยวนเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนในระดับที่พอใช้งานได้ และใช้เงินอีก 100 หยวนเพื่อซื้อซิมการ์ดที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน เขาวางแผนจะใช้แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมเมอร์ เพื่อถ่ายทอดสดขั้นตอนการดำเนินชีวิตของเขาในระหว่างที่ทำภารกิจเดินเท้าไปยังเมืองเหิงเตี้ยน

มันไม่สำคัญว่าระหว่างเดินเท้าไปที่เมืองเหิงเตี้ยนนั้นจะได้รับอันตรายหรือไม่? เพราะในชาติที่แล้วเขานั้นก็ไม่ได้หวาดกลัวความตายมาตั้งแต่แรก!

หากครั้งนี้จะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตระหว่างการทำภารกิจ ช่วงเวลาเหล่านี้สำหรับเขาก็ถือได้ว่าเป็นกำไรที่มากพอควรแล้ว!

เมื่อเขาเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มทั้งหมดที่เขาคุ้นเคยไม่ได้อยู่ในโลกคู่ขนานใบนี้ มันแทนที่ด้วยแพลตฟอร์มที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เขาจึงรีบตรวจสอบรายชื่อกลุ่มดารานักร้องคนดังและรายการวาไรตี้รวมถึงภาพยนตร์ต่างๆที่เขาคุ้นเคย ปรากฏว่าไม่พบเลยแม้แต่รายชื่อเดียว!

บทเพลง ภาพยนตร์ และซีรี่ย์รวมถึงบทละครต่างๆที่มีชื่อเสียงอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไป!

ในขณะนั้นมีเพียงความคิดเดียวในใจของเขา! นั่นก็คือเขาสามารถสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาลจากสิ่งเหล่านี้!

ฉันจะสร้างโชคชะตาครั้งใหม่! ความปรารถนาที่จะเป็นคนดังระดับโลกที่ฉันเคยแต่เฝ้าดูผ่านทางหน้าจอ อาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็เป็นได้!

และในเวลานี้เขาก็ตระหนักได้ว่าภารกิจที่ระบบได้มอบหมายให้กับตัวเองในก่อนหน้านี้นั้น คือความฝันเดิมของเขาในชาติที่แล้ว!

ยะฮู้ววว~~~

กงหมิงเฟย ร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นบนถนน และสิ่งที่เขาได้รับกลับมานั่นก็คือการจ้องมองมาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดจากคนที่กำลังเดินผ่านไปมา…

หนึ่งวันต่อมา กงหมิงเฟย ออกเดินทางจากย่านใจกลางเมืองหยานเฉิง และเขาได้ใช้เงินทั้งหมดที่เหลือซื้ออุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เช่นหม้อ กระทะ ถุงนอนเต็นท์นอน ตะเกียงแอลกอฮอล์ เตาขนาดเล็ก อาหารกึ่งสำเร็จรูป ข้าว น้ำมัน เกลือ ยาสามัญชนิดต่างๆและรวมถึงของใช้สำหรับผู้ชายจำพวกแป้งสบู่ยาสีฟันมีดโกนหนวด

แต่ที่หนักที่สุดคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่! ในโลกคู่ขนานใบนี้เทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงานของแบตเตอรี่นั้นสามารถชาร์จได้โดยพลังงานแสงอาทิตย์ มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่และหนักมากเป็นพิเศษ! แต่ก็โชคดีตรงที่ว่าราคาของมันไม่แพงมากนัก!

และท้ายที่สุดเขาใช้เงิน 300 หยวนเพื่อซื้อกีตาร์มือสอง ในช่วงแรกเขาเล่นไม่ได้แต่เขาคิดว่าถ้าอยากจะเป็นศิลปินก็จำเป็นจะต้องมีกีตาร์! และเมื่อเขาคิดจะเดินบนเส้นทางในสายงานเกี่ยวกับคนดังและการบันเทิงเขาก็จำเป็นจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์และศิลป์ของการแสดงและดนตรี

ด้วยเหตุนี้กงหมิงเฟย จึงเริ่มการเดินทางด้วยการดึงรถเข็นพร้อมกับถ่ายทอดสดมาจนถึงในปัจจุบันนี้

"อรุณสวัสดิ์~~ แฟนคลับที่รักทุกๆท่าน!" กงหมิงเฟยเหยียดตัวในท่าทางบิดขี้เกียจ และค่อยๆลุกออกจากถุงนอนของเขา เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะความหนาวหรือเป็นเพราะว่าความเหนื่อยจากการเดินทาง ทำให้เขาฝันถึงช่วงเวลาที่เขาข้ามมายังโลกคู่ขนานใบนี้ในขณะที่เขานอนหลับ

 ทันทีที่กงหมิงเฟยลุกขึ้น แพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดในโทรศัพท์มือถือของเขาก็ระเบิดข้อความขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ใบหน้าที่ยังไม่ได้ล้าง และทรงผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยหลังจากที่ตื่นนอนของกงหมิงเฟย แต่มันกลับทำให้เขาดูดีอย่างเป็นธรรมชาติแม้เพิ่งจะตื่นนอนก็ตาม สิ่งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าระดับความหล่อเหลาของเขาก็เป็นได้

หลังจากนั้นกงหมิงเฟยก็แปรงฟันและใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเพียงเล็กน้อยเช็ดหน้าของเขาเพียงเท่านั้น เพราะว่าในตอนนี้น้ำที่เขานำติดตัวมาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว เลยต้องประหยัดเผื่อเอาไว้ดื่มระหว่างเดินทาง

 หลังจากทำความสะอาดและกำจัดขยะ รวมถึงเคลียร์สถานที่ที่เขากางเต็นท์นอนเสร็จแล้ว เขาก็วางสิ่งของทุกอย่างไว้ในรถเข็น และเริ่มหยิบเข็มทิศออกมาก่อนที่จะเงยหน้ามองไปยังทิศทางหนึ่ง

กงหมิงเฟยดึงรถเข็นของเขาและเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน

ฉากนี้ทำให้ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดจำนวนมากต่างระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมาดังๆ เพราะว่าผู้คนยุคสมัยนี้นั้นต่างใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเปิด GPS ในการนำทาง สิ่งของยุคเก่าเช่นเข็มทิศในยุคสมัยนี้นั้นไม่มีคนนำออกมาใช้กันแล้ว

การดึงรถเข็นที่มีสิ่งของจำนวนมากและค่อนข้างหนัก มันคงจะลำบากมากถ้าในก่อนหน้านี้ระบบไม่ได้เสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายให้กับเขา เขาคิดว่าหากเดินไปได้เพียงแค่ 1 กิโลเมตรเขาคงจะต้องนั่งพักอย่างแน่นอน ฉะนั้นนี่จึงถือได้ว่าเป็นของขวัญชั้นยอดที่ระบบมอบให้กับเขา

ถึงแม้ว่าร่างกายของกงหมิงเฟยจะดูผอมบาง แต่สุขภาพร่างกายของเขานั้นสมบูรณ์แข็งแรงเป็นอย่างมาก หากเขาถอดเสื้อออกมา เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกายของเขารวมทั้งซิกแพคก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 กงหมิงเฟย ฮัมเพลงเบาๆขณะที่ดึงรถเข็นเดินตรงไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ด้วยแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆสาดแสงในยามเช้า ทำให้รูปลักษณ์ที่สง่างามของเขากลมกลืนเข้ากับผืนป่าและต้นไม้รอบๆเป็นอย่างมาก มันจึงดูคล้ายกับภาพวาดคลาสสิคที่ทรงคุณค่าในแกลอรี่แสดงงานศิลปะชื่อดัง

บนรถไฟฟ้าใต้ดินสายหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนในยามเช้า ชายหนุ่มพนักงานออฟฟิศสวมหูฟังสีขาวและถือโทรศัพท์มือถือด้วยมือข้างหนึ่งขณะที่กำลังดูการถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟย

เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มและการฮัมเพลงอย่างมีความสุขของกงหมิงเฟย เขาก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก

ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นของนักศึกษาจบใหม่ในเมืองใหญ่ เมื่อพวกเขาเรียนจบพวกเขาจะต้องแข่งขันเพื่อแย่งชิงกันหางาน เมื่อได้งานแล้วพวกเขาก็จำเป็นจะต้องทำงานกันอย่างกระตือรือร้นเพื่อที่จะได้ก้าวขึ้นสู่ระดับสูงต่อไป

พวกเขาต้องทำงานกันอย่างหนัก และต้องแบกรับภาระหนี้สินต่างๆเช่น สินเชื่อรถยนต์ การผ่อนบ้าน การวางเงินประกันให้แก่ตัวเอง บางคนยังต้องรับผิดชอบส่งเสียดูแลครอบครัวอีกด้วย สิ่งเหล่านี้กดดันจิตใจและร่างกายของคนเมืองใหญ่ทำให้มีอารมณ์ที่หงุดหงิดและหดหู่ง่าย

และด้วยเหตุนี้จึงสามารถนับจำนวนครั้งที่พวกเขาสามารถยิ้มออกมาได้ในแต่ละวันได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

ตอนเด็กๆที่ยังไม่มีภาระหน้าที่ พวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ทุกๆอย่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในตอนนี้แม้แต่การตอบโต้ในสถานที่ที่ทำงานเมื่อเจ้านายชี้นิ้วมาที่พวกเขา พวกเขายังไม่กล้าเอ่ยปากตอบโต้แม้แต่คำเดียว

ด้วยเหตุที่ว่างานเหล่านี้นั้นคือเม็ดเงินที่นำไปเลี้ยงดูครอบครัวและชำระค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวันของพวกเขา การตอบโต้หรือการสร้างความขุ่นเคืองให้แก่นายจ้างของตัวเองย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน!

นานเท่าไหร่แล้วที่ตัวเขาไม่ได้ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับกงหมิงเฟย? ดูเหมือนจะนานหลายเดือนหรืออาจจะนานเป็นปีแล้วก็เป็นได้? หรือว่าเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่สนุกสนานครั้งสุดท้ายของเขาคือที่งานเลี้ยงรุ่นตอนพึ่งเรียนจบ?

ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นพนักงานออฟฟิศตัวเล็กๆอย่างเขาที่ไม่ค่อยรู้จะมีความสำคัญในสังคมมากนัก ก็รู้สึกว่าการดูการถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟย สามารถเติมบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง แม้ว่าในช่วงที่เขาดูครั้งแรกจะรู้สึกว่าการถ่ายทอดสดนี้มันแปลกๆไปบ้างก็ตามที

การเฝ้ามองดูชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางด้วยเท้าเปล่าคนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าติดตามดูเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่วุ่นวายและสับสนเช่นเขาและอีกหลายๆคนก็มีเหตุผลสำหรับการดูชายหนุ่มผู้นี้อยู่หลายประการ

เหตุผลแรกนั่นก็คือ การเดินทางท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของกงหมิงเฟย สามารถเติมเต็มจิตวิญญาณของเขาให้รู้สึกได้ว่ายังมีคนคนหนึ่งที่กำลังเดินทางด้วยเท้าเพื่อต่อสู้สู่ความฝันเช่นเดียวกันกับเขา

เหตุผลที่สองคือกงหมิงเฟยแต่งเพลงและร้องเพลงได้ดีมาก จนบางครั้งบทเพลงบางเพลงทำให้เขาน้ำตาซึมได้เลยทีเดียว

 เหตุผลที่สาม รอยยิ้มของกงหมิงเฟยนั้นน่าอิจฉาและน่าหลงใหล

รอยยิ้มที่ยิ้มออกมาได้ง่ายๆกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างด้วยความจริงใจ เป็นสิ่งที่กลุ่มคนใช้ชีวิตเร่งรีบอย่างพวกเขาไม่สามารถจะกระทำได้!

……….

จบบท

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด