ตอนที่ 17 จับโจร
เซียวจิ่งถิงกลับมาช้ากว่าฉีมู่อาน ทันทีที่กลับมาถึง เขาก็พบว่ามีองุ่นหายไปเกือบยี่สิบพวง
พอมองดูต้นองุ่นในลานบ้าน เซียวจิ่งถิงก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของเจ้าลูกคนเล็กแน่นอน
จริงๆแล้ว การที่พวงองุ่นนับสิบหรือยี่สิบพวงหายไปจากลานที่มีองุ่นอยู่นับร้อยพวงนั้นอาจเป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต เพียงแต่หัวขโมยนั้นชะล่าใจเกินไป และดันเก็บองุ่นจากที่เดิมจนเกลี้ยง เช่นนี้แล้วจะดูไม่ออกได้อย่างไร?
เซียวจิ่งถิงมองดูเถาองุ่นที่ว่างเปล่าพลางส่ายหน้า องุ่นตรงนั้นอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ทว่าตอนนี้กลับหายเกลี้ยงไม่มีเหลือ
เซียวเสี่ยวฟ่าน “แอบลอบ” สังเกตการเคลื่อนไหวของเซียวจิ่งถิงและหันหน้ามามองเซียวเสี่ยวตงด้วยความกังวล “ดูเหมือนพ่อจะรู้แล้ว เขาจะมาตีข้าไหมนะ?”
“ใครใช้ให้เด็กโง่อย่างเจ้าไปเก็บองุ่นอยู่ที่จุดเดิมๆล่ะ?” เซียวเสี่ยวตงเกิดความโมโห
เซียวเสี่ยวฟ่านดึงแขนเสื้อตัวเองและรู้สึกเสียใจเล็กน้อย “ก็ตรงนั่นมีองุ่นลูกใหญ่สุดนี่นา อ้า!”
เซียวเสี่ยวตงจ้องไปที่เซียวเสี่ยวฟ่านอย่างโกรธเคืองและดุเบาๆ “เจ้าเด็กโง่”
แม้เซียวเสี่ยวฟ่านจะโง่ แต่เขาก็กระตือรือร้นมาก เมื่อพบว่าองุ่นนั้นอร่อยเกินคาด เขาจึงเรียกพี่ใหญ่ให้มากินด้วยกัน เซียวเสี่ยวตงก็คิดว่าพวกมันอร่อยเช่นกัน น้องชายก็เลยอาสาออกไปเด็ดมาอีกสองพวง
เซียวเสี่ยวตงรู้สึกว่าน้องเก็บองุ่นมาพอประมาณแล้ว หากจะเด็ดเพิ่มอีกพวงสองพวงก็คงไม่ต่างกัน เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเผลอกินเยอะเกิน แถมน้องชายยังหยิบมาอีกตั้งสิบกว่าพวงในคราวเดียว? กว่าเซียวเสี่ยวตงจะรู้ตัว องุ่นก็ถูกเก็บจนเกลี้ยงแล้ว เถาองุ่นตรงนั้นเลยกลายเป็นเถารกร้างอย่างที่เห็น
เมื่อเก็บองุ่นมาแล้ว จะนำพวกมันไปติดกลับที่เดิมก็คงไม่ได้ ดังนั้นสองพี่น้องจึงได้แต่แบ่งองุ่นให้กันอย่างเฉยเมย
"ท่านพี่ ขออภัยด้วย! เด็กน้อยพวกนี้ไม่รู้ประสีประสาและมาขโมยองุ่นของท่านไป” ฉีมู่อานเดินออกมาที่ลานบ้านและขอโทษขอโพยเซียวจิ่งถิงเป็นการใหญ่
เซียวจิ่งถิงไม่สนใจนัก “ไม่เป็นไร พวกเขาเป็นลูกชายข้า จะกินไปเท่าไหร่ข้าก็ไม่ว่าหรอก” ตามปกติแล้วเซียวเสี่ยวฟ่านและเซียวเสี่ยวตงนั้นทำตัวดีมาก เด็กๆจากตระกูลใหญ่มักจะเริ่มหยิ่งผยองตั้งแต่ยังเล็ก แถมยังนิสัยเสียเมื่ออยู่บ้าน พวกเขามักจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเสมอ
เมื่อฉีมู่อานได้ยินคำพูดของสามี เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อยกับการระแวงสงสัยเซียวจิ่งถิงก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เซียวจิ่งถิงหยิบองุ่นพวงหนึ่งให้ฉีมู่อานเช่นกัน "ลองชิมดูสิ" พืชบนโลกใบนี้เติบโตเร็วมาก เขาใช้วิชาปลูกพืชอีกครั้งในช่วงเช้าและตอนนี้องุ่นก็เริ่มสุกหมดแล้ว เดิมทีเขาคิดว่ามันคงใช้เวลานานมาก
ฉีมู่อานชิมเข้าไปหนึ่งลูก “รสชาติดีจริงๆ ดูเหมือนว่ามันจะช่วยบำรุงพลังวิญญาณได้ด้วย” เซียวเสี่ยวฟ่านเก็บองุ่นสองพวงไว้ให้ฉีมู่อานเช่นกัน อันที่จริงฉีมู่อานก็ได้ชิมมันมาก่อนแล้ว
“เจ้าคิดว่าองุ่นนี้จะขายได้เท่าไหร่?” เซียวจิ่งถิงถาม
“หากขายสักสองหรือสามร้อยเหรียญทองแดงก็พอได้อยู่ หากท่านพี่อยากขายมากกว่านี้ ราคาก็ควรจะต่ำลงอีกหน่อย” มีองุ่นเกือบสี่ร้อยพวงในสวน หากตีราคาเพื่อป้องกันการขาดทุนแล้ว อย่างน้อยก็ควรขายได้ในราคาหนึ่งร้อยเหรียญเงิน
เซียวจิ่งถิงพยักหน้า สองถึงสามร้อยเหรียญทองแดงเป็นราคาที่มากพอแล้ว
“ท่านต้องการขายองุ่นรึ? แล้วท่านจะทำอะไรต่อหลังจากขายองุ่นไปหมดแล้ว?” ฉีมู่อานเอ่ยถาม
เซียวจิ่งถิงหัวเราะกระอักกระอ่วน “ในอดีต ข้าไม่ควรจำนำที่ดินของตระกูลไปเลย อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถไถ่ที่ดินคืนได้ด้วยการชำระดอกเบี้ยบางส่วน จากนั้นข้าคิดว่าจะซื้อที่ดินระดับสูงคืนมาสักสองสามหมู่เสียก่อน”
มีเพียงที่ดินระดับสูงเท่านั้นที่สามารถปลูกพืชวิญญาณคุณภาพสูงได้ ตามปกติแล้วผู้ที่มีที่ดินระดับสูงจะปลูกและใช้สอยมันอย่างรอบคอบ มีเพียงคนเสียสติอย่างเจ้าของร่างเดิมเท่านั้นที่นำมันไปจำนำ
“ข้าว่าถ้ามีเงินแล้ว เราควรรีบนำไปใช้หนี้พนันก่อนนะ” ฉีมู่อานเสนอแนะ หากทำให้บ่อนไม่พอใจขึ้นมา พวกเขาคงได้เจอปัญหาใหญ่แน่
“ข้ามีหนี้พนันที่ไหนกัน” เซียวจิ่งถิงกล่าว
ฉีมู่อานตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะถามต่อ “ไม่มีหนี้พนันรึ? แล้วเมื่อตอนที่เจอชิวไป๋ก่อนหน้านี้…”
“โกหกทั้งนั้น สำหรับเขาแล้วข้าไม่ใช่สหายด้วยซ้ำ หากพี่ใหญ่ของเขาอยากแต่งภรรยาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? อย่างไรก็ตาม คงจะไม่ดีหากปฏิเสธไปตามตรง ข้าเลยใช้เรื่องนี้เป็นข้อแก้ตัว” เซียวจิ่งถิงเอ่ยเบาๆ
ฉีมู่อานมองไปที่สามีแล้วรู้สึกได้เลยว่าเซียวจิ่งถิงคนนี้ไม่ใช่เซียวจิ่งถิงคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เซียวจิ่งถิงหันหน้าไปมองฉีมู่อานพลางเอ่ยถาม “เจ้าเป็นอะไรไปรึ?”
ฉีมู่อานยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไร”
ขอกำลังใจด้วยนะครับ มาอ่านกันที่ mynovel.co
“จริงสิ พรุ่งนี้ข้าจะไปขายองุ่นที่เมืองนะ เจ้าอยากไปด้วยกันไหม?” เซียวจิ่งถิงถาม
ฉีมู่อานพยักหน้าให้ “ไปสิ!” ฉีมู่อานแอบคิดว่าองุ่นของเซียวจิ่งถิงเมื่อขายออกแล้วควรจะทำเงินได้มาก แต่การขายลูกนั้นจะได้มาเพียงสามสิบเหรียญเงิน เซียวจิ่งถิงสามารถหาเงินได้ดีเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่น่าจะสนใจเรื่องการขายลูกๆหรอก
“แล้วก็ หวังเอ้อร์หูเพิ่งมาที่นี่…”
ฉีมู่อานได้ยินเซียวจิ่งถิงพูดถึงคนๆนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความระวัง “เกิดอะไรขึ้นรึ?”
“ข้าคิดว่าชายคนนี้ดูเหมือนจะมีแรงจูงใจแอบแฝง ข้าเคยเล่นพนันมามากมาย และที่ขายที่ดินไปก็เพราะถูกเขายุยง ข้าคิดว่าเขาอาจถูกใครสั่งให้มาก่อปัญหาโดยเฉพาะ หากพรุ่งนี้ยังมาสร้างปัญหาอีก เจ้าคงต้องช่วยข้าจัดการเขาน่ะ”
ฉีมู่อานพยักหน้ารับ “ข้าเข้าใจแล้ว” หวังเอ้อร์หูคนนี้เป็นผู้ที่ยุยงให้เซียวจิ่งถิงขายลูกๆของเขา ฉีมู่อานย่อมไม่พอใจคนๆนี้ที่สุด