ตอนที่ 15 คนถ่อยมาถึงหน้าประตู
เซียวจิ่งถิงกำลังตัดแต่งกิ่งองุ่นในขณะที่มีแขกไม่ได้รับเชิญมายืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา
“พี่เซียวไม่เจอกันนานเลยนะ” ชายที่ดูเรียบง่ายคนหนึ่งเดินผ่านประตูเข้ามาและเหลือบมองบ้านกระเบื้องสีเขียวของเซียวจิ่งถิง
เซียวจิ่งถิงมองไปที่แขกผู้มาเยือนและเริ่มฉายแววระแวดระวังทันที
คนๆนี้มีนามว่าหวังเอ้อร์หู เขาคือ "สหายรัก" ของเซียวคนก่อน สาเหตุที่เจ้าของร่างติดการพนันและเสพผงแห่งความสุขนั้นเป็นฝีมือของหวังเอ้อร์หูทั้งหมด โชคดีที่ตัวเขาได้มาเข้าร่างนี้แทน หากช้ากว่านี้อีกนิด เซียวคนก่อนคงเล่นการพนันต่อไปอีกสองสามวันจนสิ้นเนื้อประดาตัว เขา ภรรยาและลูกๆคงได้ไปนอนข้างถนนแทน
เซียวจิ่งถิงรู้สึกมาตลอดว่าการที่หวังเอ้อร์หูมาตีสนิทกับเจ้าของร่างเดิมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะอย่างไรเซียวคนก่อนก็ทำเรื่องฉาวโฉ่มามากมาย เป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าศัตรูเก่าจะปล่อยเขาไปง่ายๆ
หวังเอ้อร์หูหันกลับไปหาเซียวจิ่งถิงอีกครั้ง “พี่เซียว บ้านของท่านดูดีจริงๆ”
เซียวจิ่งถิงยิ้มให้ “ต่อให้บ้านดูดีแค่ไหนแล้วมันยังไงล่ะ? บ้านหลังใหญ่เช่นนี้ไม่มีค่าเท่ากับบ้านเก่าๆในเมืองด้วยซ้ำ”
เซียวเสี่ยวฟ่านยืนอยู่ข้างๆเซียวจิ่งถิงขณะมองไปที่หวังเอ้อร์หูด้วยความสงสัย
“พี่เซียว นั่นเสี่ยวฟ่านมิใช่รึ? น่ารักน่าชังจริงๆ! แต่น่าเสียดายที่กลายเป็นเด็กปัญญาอ่อนไปซะได้” หวังเอ้อร์หูถอนหายใจ
เซียวเสี่ยวฟ่านมองไปทางเซียวจิ่งถิงด้วยความกระตือรือร้น เซียวจิ่งถิงยื่นมือออกมาลูบหัวด้วยความเอ็นดู เซียวคนก่อนมักจะดุด่าเสี่ยวฟ่านราวกับหมูกับหมาต่อหน้าหวังเอ้อร์หูเป็นประจำ หวังเอ้อร์หูก็เลยกล้าพูดออกมาตรงๆเช่นนี้
“พี่หวัง ท่านแทบไม่เคยออกจากเมืองด้วยซ้ำ ไยถึงมาที่ชนบทแห่งนี้ได้ล่ะ?” เซียวจิ่งถิงเอ่ยถาม
“ข้าไม่ได้พบพี่เซียวมาหลายวันแล้ว รู้สึกเป็นห่วงมากก็เลยมาเยี่ยม ได้ยินมาว่าภรรยาของท่านดุร้ายป่าเถื่อน ข้าเกรงว่าท่านอาจถูกเขากักตัว ไม่ให้ออกมานอกบ้าน” หวังเอ้อร์หูพูดกึ่งติดตลก
ในใจของเซียวจิ่งถิงนั้นเป็นไปด้วยเสียงเยาะใส่อีกฝ่าย นี่หวังเอ้อร์หูคิดจะสร้างความบาดหมางระหว่างเขากับภรรยางั้นเหรอ?
“พี่หวังกังวลมากไปแล้ว ทุกวันนี้ข้าขาดแคลนเงินจริงๆก็เลยอยู่แต่ในชนบท ไม่มีหน้าจะเข้าไปในเมืองหรอก” เซียวจิ่งถิงส่ายหน้า
"อะไรกันๆ พี่เซียวเป็นถึงนายน้อยของตระกูลเซียว มีรึที่เงินจะหมดเร็วแบบนั้น?” น้ำเสียงของหวังเอ้อร์หูเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“มันน่านัก พวกคนในตระกูลเซียวมักสรรเสริญผู้สูงส่งและเหยียบย่ำผู้ต่ำต้อย เมื่อพ่อแม่ของข้ายังอยู่ พวกเขาก็ดูแลข้าเป็นอย่างดี พอพ่อแม่ของข้าจากไปแล้ว พวกเขาจึงเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา เริ่มจากการขับไล่ให้ข้ามายังที่รกร้างว่างเปล่าแห่งนี้ ทั้งยังให้เงินข้าเพียงน้อยนิดจนแทบจะไม่พอเลี้ยงปากท้อง” เซียวจิ่งถิงแลดูอัดแน่นไปด้วยความโกรธ
หวังเอ้อร์หูมองไปที่เซียวจิ่งถิงแล้วพูดขึ้นบ้าง “ข้าได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้พี่เซียวหันมาทำไร่ทำสวนแล้วรึ? ท่านเปลี่ยนมาทำเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? ก่อนมาถึงที่นี่ ข้าน่ะได้ทำนายโชคลาภของท่านมาแล้ว วันนี้พี่เซียวดูดวงดีเป็นพิเศษ หากท่านไปเล่นที่บ่อน รับรองว่ารวยเละแน่นอน…”
อย่าลืมผู้แปลด้วยนะขอรับ ที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com ครับ
เซียวจิ่งถิงโบกไม้โบกมือ “ขอบอกตามตรงนะพี่หวัง จะแพ้หรือชนะข้าก็ไม่อยากเล่นทั้งนั้น มันเสี่ยงเกินไป”
พอหวังเอ้อร์หูมองไปที่เซียวจิ่งถิง เขารู้สึกว่าหลังจากไม่ได้เจออีกฝ่ายแค่สองสามวัน เซียวจิ่งถิงกลับดูเป็นคนละคนไปเลย ก่อนหน้านี้เซียวจิ่งถิงเป็นคนหูเบาที่พูดอะไรนิดๆหน่อยๆก็ยอมไปด้วยกันกับเขาแล้ว ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับดื้อดึงกว่าที่คิด
หวังเอ้อร์หูมองไปทางเซียวเสี่ยวฟ่านแทนบ้าง “พี่เซียว แม้ว่าลูกชายของท่านจะปัญญาอ่อน แต่เขาก็ดูดีอยู่นะ!”
เมื่อเร็วๆนี้เซียวเสี่ยวฟ่านได้กินเยอะกว่าเดิมมาก พอเริ่มมีน้ำมีนวลเลยทำให้เขาดูน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง
เซียวจิ่งถิงยิ้มแย้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“พี่เซียว ไม่ทราบว่าท่านรู้เรื่องนี้รึหรือยัง? ตระกูลโจวกำลังรับหาซื้อเด็กรับใช้ให้กับนายน้อยของตระกูล เด็กแต่ละคนจะได้ราคามากถึงสามสิบเหรียญเชียวนะ หากลูกชายของท่านลองเข้าสมัคร เขาอาจจะชนะการคัดเลือกก็ได้” หวังเอ้อร์หูกล่าว
เซียวจิ่งถิงยิ้มเย็นชาและ “ข้ายังไม่ถึงจุดที่ต้องขายลูกตัวเองหรอกนะ” หัวหน้าตระกูลโจวเป็นจอมยุทธผู้ฝึกปราณระดับเจ็ด ตระกูลโจวนั้นยังเทียบกับตระกูลเซียวไม่ได้ด้วยซ้ำ ทว่าสำหรับเซียวจิ่งถิงในตอนนี้ ถือได้ว่าอีกฝ่ายคือยักษ์ใหญ่
จริงอยู่ที่เงินสามสิบเหรียญสำหรับเด็กหนึ่งคนนั้นถือเป็นเงินจำนวนมาก แต่เงินมากมายขนาดนั้นหมายความว่าเด็กต้องลงนามในโฉนดซื้อขายเมื่อเข้าไปยังตระกูลโจว จากวิธีที่หวังเอ้อร์หูพูดออกมานั้น ดูแล้วมันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“เสี่ยวฟานคิดอ่านได้ไม่ดีนัก หากตระกูลโจวรู้เข้าก็จะหาว่าข้าไปหลอกลวง ถึงตอนนั้นข้าคงเอาตัวไม่รอด” เซียวจิ่งถิงส่ายหน้า
“ถ้าเสี่ยวฟานไม่ได้ก็ยังมีเสี่ยวตงอยู่อีกคนมิใช่รึ? นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย หากได้รับเลือกจากตระกูลโจวและกลายเป็นที่โปรดปรานของนายน้อย หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็จะได้อยู่ดีกินดีกับนายน้อยโจว” เสียงของหวังเอ้อร์หูเต็มไปด้วยความอิจฉา
เซียวจิ่งถิงหัวเราะในใจอย่างเย็นชา หวังเอ้อร์หูผู้นี้ดูเหมือนกำลังทำทีเป็นห่วงเขามากจริงๆ เห็นที่เรื่องนี่จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“เสี่ยวตงน่ะไม่ได้หรอก ข้าหวังให้เสี่ยวตงเป็นเสาหลักของครอบครัวในอนาคต เรื่องทำสวนก็ของพึ่งพาเขาเช่นกัน” เซียวจิงถิงส่ายหัว
“ให้เป็นเสาหลักครอบครัว? ท่านเคยกล่าวว่าเด็กคนนี้ไม่เอาไหนมิใช่รึ?” หวังเอ้อร์หูกล่าว
เซียวจิ่งถิงพูดอย่างไม่พอใจ “เสี่ยวตงยังเด็กเกินไป ข้าแค่ต้องเลี้ยงดูแลเขาให้ดีกว่านี้”
หวังเอ้อร์หูสาธยายอยู่กับเซียวจิ่งถิงเป็นเวลานานแต่กลับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย สุดท้ายเขาจึงจากไปอย่างหดหู่
ทันทีที่หวังเอ้อร์หูจากไป เซียวจิ่งถิงก็พบว่าบรรยากาศผ่อนคลายในบ้านเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง เซียวเสี่ยวตงนำน้องชายไปซ่อนไว้ในห้องของตัวเองพร้อมกับเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา