ตอนที่ 1 เดินทางด้วยเท้า
ตอนที่ 1 เดินทางด้วยเท้า
ท่ามกลางลมหนาวในยามค่ำคืนที่มีแสงดาว ในผืนป่าที่เป็นถิ่นทุรกันดาร
กองไฟขนาดเล็กส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณ เมื่อมองไปที่เหนือกองไฟจะเห็นหม้อเหล็กที่มีสีดำแขวนห้อยลงมาจากท่อนไม้ 3 ท่อนที่ถูกมัดเข้าด้วยกัน ไอร้อนยังคงลอยออกมาจากหม้อเหล็กสีดำหม้อนั้นตลอดเวลา
ในช่วงเวลานี้เป็นต้นเดือนมีนาคมอากาศทางตอนเหนือของประเทศจีนยังคงมีสภาพที่หนาวเย็น พื้นที่บางแห่งยังสามารถมองเห็นก้อนหิมะที่ยังไม่ละลายได้อยู่บ้างอย่างประปราย การกางเต็นท์ในอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ถือได้ว่าค่อนข้างจะทุกข์ทรมานมากพอสมควรเลยทีเดียว
แอ๊ดดด~~
ลมหนาวยังคงพัดผ่านอยู่ตลอดเวลาเส้นลวดที่มัดหม้อสีดำไว้กับท่อนไม้ทั้ง 3 ท่อนโยกไหวไปมาเล็กน้อย ทำให้เกิดเสียงของการเสียดสีขึ้นมาเบาๆ ถ้าฉากนี้เป็นฉากในหนังสยองขวัญ หลังจากนี้คงจะมีสิ่งที่น่าตกใจโผล่ออกมาอย่างแน่นอน!
แต่นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญ สิ่งที่เห็นผ่านแสงสว่างของกองไฟนั่นก็คือชายหนุ่มร่างสูงและผอมบาง เขาใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำคาดสีน้ำเงิน เขากำลังใช้ช้อนยาวในมือของเขาคนไปมาในหม้อเหล็กสีดำและมืออีกข้างหนึ่งก็ถือโทรศัพท์เอาไว้
เขาพูดพึมพำอย่างต่อเนื่อง การแสดงออกของเขาในขณะนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขากำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดอยู่
“เพื่อนๆที่รักทุกคน ตอนนี้ตัวผมอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ และถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ก็อย่าไปใส่ใจกับมันมากนักเพราะว่าในตอนนี้ซุปที่ผมกำลังปรุงอยู่น่าจะสุกแล้ว และกลิ่นของเนื้อก็โชยมาเข้าจมูกผมจนรู้สึกว่ามันหอมมากเลยทีเดียว~” ชายหนุ่มผมสั้นสีดำที่มีใบหน้าหล่อเหลาและคมเข้มพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าสีผิวของเขาจะค่อนข้างหมองคล้ำไปบ้าง แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาโดนแดดมากเกินไป
ส่วนสูงของชายหนุ่มผู้นี้น่าจะสูงประมาณ 1.82 เมตร เมื่อดูจากร่างกายที่ผอมบางของเขาแล้ว เขาน่าจะมีน้ำหนักไม่เกิน 65 กิโลกรัม เมื่อมองภาพรวมแล้วลักษณะของเขาจึงดูเหมือนค่อนข้างจะขาดสารอาหารอยู่เล็กน้อย
จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือข้างขวาของเขาจะเห็นได้ว่ามีข้อความส่งออกมาอยู่ตลอดเวลาจากกลุ่มแฟนคลับที่กำลังชมการถ่ายทอดสดของเขา
ชื่อของเขาคือ กงหมิงเฟย และเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่เขามายังโลกใบนี้
ใช่! เขาได้เดินทางมายังโลกคู่ขนานใบนี้อย่างไม่ตั้งใจ ในชีวิตที่แล้วเขาได้รับอุบัติเหตุจากการช่วยชีวิตเด็กอนุบาลที่กำลังข้ามถนนและกำลังจะถูกรถชน จนตัวเขานั้นต้องกลายเป็นอัมพาตเนื่องจากกระดูกไขสันหลังได้รับความเสียหายจนเส้นประสาททั่วร่างกายไม่ทำงานอีกต่อไป สุดท้ายเมื่อเขาเสียชีวิตลงเขาก็ข้ามมายังโลกใบนี้พร้อมกับระบบ
กงหมิงเฟย มองไปยังเนื้อหาที่กลุ่มแฟนคลับส่งมาให้กับเขาผ่านการถ่ายทอดสดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
[LS` นายเพี้ยนไปแล้วอย่างงั้นเหรอ?]
[ฮิฮิ! ต่อให้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแต่ขอให้มีอาหารอร่อยๆกินก็พอแล้วชิมิ~~]
[น่าสงสารจังเลย! อากาศข้างนอกหนาวมาก หมิงเฟยต้องดูแลตัวเองด้วยน๊าา~~~]
กงหมิงเฟยยิ้มให้กับกล้องแล้วพูด : "สวัสดีเพื่อนๆผู้ชมที่เข้ามาใหม่ในห้องถ่ายทอดสดของผม พวกคุณบางคนอาจจะยังไม่รู้จักผม ฉะนั้นผมจะแนะนำตัวเองสั้นๆผมชื่อว่า กงหมิงเฟย เป็นบล็อกเกอร์ไลฟ์สตีมของการถ่ายทอดสดกลางแจ้ง ผมเดินทางด้วยเท้าจากเมืองหยานเฉิงเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่เมืองเหิงเตี้ยน โดยจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 1 เดือน”
หลังจากนั้นกงหมิงเฟย ก็เกาหัวตัวเองอย่างเขินอายและพูดว่า “แต่ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมอยู่ที่ไหนแล้ว?”
ด้วยมูลค่าใบหน้าที่หล่อเหลาไม่ต่ำกว่าดารานายแบบชื่อดัง การเกาหัวด้วยท่าทางที่เขินอายของเขาผ่านทางการถ่ายทอดสด ทำให้แฟนๆ ที่เป็นผู้หญิง ส่งของขวัญเป็นจำนวนมากผ่านทางแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดในทันที!
'ติ้งง~~! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าบ้านสำหรับความสำเร็จของภารกิจเริ่มต้น ที่สร้างกลุ่มแฟนคลับอันเหนียวแน่นมากกว่า 3,000 คน และมีกลุ่มแฟนคลับทั่วไปจำนวน 15,000 คน ในขณะนี้เจ้าบ้านจะได้รับรางวัลทักษะความสามารถแบบสุ่ม!'
ในขณะที่กงหมิงเฟยถือโทรศัพท์มือถือพร้อมกับกำลังถ่ายทอดสดอยู่นั้น ก็มีเสียงของผู้หญิงที่คล้ายเสียงของปัญญาประดิษฐ์ดังขึ้นมาในหัวของเขา กงหมิงเฟยยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทันที!
ใช่แล้ว! นี่คือระบบที่ข้ามมาสู่โลกคู่ขนานแห่งนี้พร้อมกันกับเขา!
โลกคู่ขนานใบนี้นั้นเกือบจะเหมือนกับโลกสีฟ้าใบเดิมในชาติที่แล้วของเขา แต่ก็มีบางแง่บางมุมที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่นอุตสาหกรรมบันเทิงในช่วงเวลานี้ของประเทศจีนไม่ได้ครอบคลุมหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนเช่นกับโลกสีฟ้าใบเดิมในชาติที่แล้วของเขา
และการถ่ายทอดสดก็มีอยู่เพียงแค่สามประเภทคือ 1.การสตรีมเมอร์เกม 2.การร้องเพลง 3.การเต้นรำ
แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดของบริษัทปลามังกรที่กงหมิงเฟยใช้อยู่นั้น ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน แต่ก็มีหมวดหมู่การถ่ายทอดสดมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆเพียงเล็กน้อย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟยติดไฟขึ้นมาในทันที เพราะว่านี่ถือได้ว่าเป็นการถ่ายทอดสดที่แปลกใหม่
กงหมิงเฟยจึงถือได้ว่าเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์คนแรกของแพลตฟอร์มปลามังกรที่ทำการถ่ายทอดสดในลักษณะเช่นนี้ และเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่การถ่ายทอดสดของเขาเริ่มมีกลุ่มคนเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็เพราะว่าเขาไม่มีคู่แข่งที่ทำการถ่ายทอดสดในลักษณะเช่นนี้
'ติ้งงง~~! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าบ้านที่ได้รับทักษะการทําอาหารขั้นพื้นฐาน ส่วนระดับความคืบหน้าของภารกิจหลักซึ่งเป็นภารกิจระดับแรกขอให้เจ้าบ้านได้โปรดทำงานหนักต่อไป!'
เสียงของระบบที่คล้ายกับเสียงของปัญญาประดิษฐ์ยังคงดังขึ้นอยู่ในหัวของเขา หลังจากนั้นก็มีแสงสีฟ้าระเบิดขึ้นมา มันกระจายไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว แต่แสงสีฟ้าเหล่านั้นมีเพียงตัวของกงหมิงเฟยเองเท่านั้นที่มองเห็นได้
ใช่แล้วเขาไม่ได้เป็นคนเลือกที่จะทำการถ่ายทอดสดกลางแจ้งด้วยการเดินจากเมืองหยานเฉิงไปยังเมืองเหิงเตี้ยนด้วยตัวเอง มันเป็นภารกิจหลักที่ระบบได้มอบหมายให้กับเขา
เมื่อแสงสีฟ้าหายไปกงหมิงเฟยสามารถรู้สึกได้ถึงอาหารที่ด้อยคุณภาพที่อยู่ในหม้อเหล็กสีดำขึ้นมาในทันที เขามองดูน้ำซุปที่มีวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่างๆที่กำลังลอยอยู่ในหม้อด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
ในขณะเดียวกันก็มีข้อความของกลุ่มแฟนคลับส่งผ่านมาทางหน้าจออีกระลอก
[ฮึฮึ! LS นายไม่พูดถึงซุปข้าวโอ๊ตใส่เนื้อที่อยู่ในหม้อสักหน่อยเหรอ!]
[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ดูสีหน้าของเขาตอนนี้สิ! ฉันอยากจะรู้จริงๆว่ากลิ่นของมันจะเป็นแบบไหน เขาถึงได้ทำหน้าตามืดมนเช่นนั้นออกมา ฮ่าฮ่า!]
[นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นการแสดงออกทางสีหน้าที่เคร่งเครียดเช่นนี้ของน้องชายหมิงเฟยสุดที่รักของฉัน ดูแล้วช่างน่ารักสุดๆไปเลย~]
[ยัยป้าแก่แร้งทึ้งชั้นบน! น้องชายหมิงเฟยเป็นของชั้นย่ะ!]
[อย่าเถียงกัน หมิงเฟยคือสามีของฉันเอง]
กงหมิงเฟยอดีตเด็กหนุ่มที่ได้รับอุบัติเหตุจนเป็นอัมพาตและขยับได้เพียงแค่ใบหน้าและส่วนหัวของเขาเพียงเท่านั้น ร่างกายทุกส่วนของเขาไร้ความรู้สึก เขาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงเช่นนี้เป็นเวลาเกือบ 4 ปี
ทั้งวันเขาทำได้แค่นอนดูทีวีเพียงเท่านั้น
แต่ก็ยังโชคดีตรงที่ว่าสถานะทางครอบครัวของเขานั้นอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง และครอบครัวของเขายังได้รับเงินค่าชดเชยจากอุบัติเหตุครั้งนั้นมามากพอสมควร
ในก่อนหน้าที่เขาจะช่วยเหลือเด็กอนุบาลที่กำลังจะข้ามถนนจนได้รับอุบัติเหตุ แม่ของเขาก็กำลังตั้งท้องอยู่และตัวเขานั้นก็กำลังจะมีน้องชาย หลังจากที่เขาเป็นอัมพาตอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนน้องชายของเขาก็คลอดออกมา!
ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกหมดห่วงเรื่องที่พ่อแม่จะเสียใจในความโชคร้ายของเขา เขาเคยขอร้องพ่อกับแม่ของเขาอยู่หลายครั้งให้ช่วยถอดเครื่องหายใจของเขาออก เพื่อที่เขาจะได้จากไปอย่างสงบและจะได้ไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัวอีกต่อไป
แต่พ่อและแม่ของเขากลับปฏิเสธเสียงแข็ง แม่ของเขาร้องไห้และไม่ต้องการให้เขาพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป
เขาใช้เวลา 4 ปีอยู่บนเตียงอย่างสิ้นหวัง ในช่วงเวลานั้นเขาใช้เวลาในการดูหนังฟังเพลงผ่านเคเบิลทีวีและคอมพิวเตอร์อยู่ตลอด ฉะนั้นจึงพูดได้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับละครทีวีภาพยนตร์และแม้แต่บทเพลงเก่าๆและบทเพลงสมัยใหม่เขาสามารถจดจำรายละเอียดเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
เขาจำได้แม้กระทั่งบทพูดของทุกๆตัวละครในภาพยนตร์ที่เขาเคยดู
และเมื่อพูดถึงการทำอาหารชาติที่แล้วตัวเขานั้นทำได้เพียงแค่ทอดไข่ และใช้ไมโครเวฟในการอุ่นอาหารเพียงเท่านั้น หากจะคาดหวังให้เขาทำอาหารได้อร่อยมันคงจะเป็นไปไม่ได้เลย!
ในระหว่างที่ออกเดินทางเพื่อทำการถ่ายทอดสดกลางแจ้งส่วนมากเขาจะทานอาหารจานด่วนผ่านร้านค้าริมทาง แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เขาไม่ได้เข้าไปในเขตหมู่บ้านและไม่ได้พบใครเลย ในกระเป๋าเป้ของเขานั้นมี กาแฟสำเร็จรูป,ข้าวโอ๊ตและอาหารกระป๋องเพียงไม่กี่อย่าง
และในมื้อนี้เมื่อเขาทำอาหารเขารู้สึกว่าข้าวโอ๊ตมันปราศจากน้ำตาลคงจะไม่มีรสชาติที่ดีมากนัก เขาจึงเทกาแฟสำเร็จรูปลงเข้าไปในซุปข้าวโอ๊ตด้วยเพื่อจะได้เพิ่มความหวาน ส่วนเนื้อที่เขาใส่ลงไปนั้นเป็นเนื้อนกกระจอกที่เขาจับได้จากในป่าในก่อนหน้านี้ เป็นผลให้ซุปข้าวโอ๊ตใส่เนื้อของเขากลายเป็นอาหารที่แปลกประหลาดขึ้นมาในทันที!
หลังจากที่เขาได้รับทักษะการปรุงอาหารขั้นพื้นฐานแล้ว กงหมิงเฟยจ้องมองไปยังซุปข้าวโอ๊ตใส่เนื้อในหม้อเหล็กสีดำด้วยสีหน้าที่มืดมน
"ผมขอเรียกอาหารค่ำมื้อนี้ว่า คอฟฟี่สแปร์โรว์แอนด์โอ๊ตมิลค์ซุป! (ซุปข้าวโอ๊ตรสกาแฟใส่เนื้อนกกระจอก)" กงหมิงเฟยหันไปพูดกับกล้องและยิ้มออกมาแห้งๆ
[ฮ่าฮ่าฮ่า! เอาเลย~~ ฉันกำลังตั้งตารออยู่เลยทีเดียว ฉันคิดว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในหม้อเหล็กสีดำของนายมันดูไม่ต่างจากยาที่อยู่ในหนังวิทยาศาสตร์เลยแม้แต่น้อย นายอาจจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้หลังจากที่นายกินมันเข้าไปแล้ว ฮ่าฮ่า]
[หมิงเฟยของพี่สาว~~ ได้โปรดอย่าทำร้ายตัวเองด้วยการกินเจ้าสิ่งนั้นเข้าไปเลย~~]
[โอ้พระเจ้า! เป็นซุปข้าวโอ๊ตใส่เนื้อสีดำที่น่าสยดสยองจริงๆ! LS นายแน่ใจแล้วจริงๆเหรอว่านายจะกินมันเข้าไป]
[หมิงเฟยนายยังมีอนาคตอีกไกล! ได้โปรดอย่าทำร้ายร่างกายตัวเองแบบนี้เลย~~~]
ในห้องถ่ายทอดสดเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง ข้อความต่างๆในห้องถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟยปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านั้นในขณะนี้จำนวนผู้ที่เข้าชมการถ่ายทอดสดของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
อย่างที่กงหมิงเฟยได้พูดเอาไว้ในตอนแรก ก่อนที่ตัวเขาจะไปถึงเหิงเตี้ยน การถ่ายทอดสดของเขาจะเปิด 24 ชั่วโมงจะไม่มีวันปิดจนกว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่เขาได้กำหนดเอาไว้!
และเช่นเดียวกันกลุ่มแฟนคลับที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ก็จะติดตามดูเขาจนกว่ากงหมิงเฟยจะไปถึงเมืองเหิงเตี้ยน
กลุ่มแฟนคลับของเขาได้ตั้งฉายาให้แก่กงหมิงเฟยว่า เหลากง(ตาเฒ่ากง) แน่นอนนี่คือฉายาที่แฟนคลับผู้ชายตั้งให้ ส่วนกลุ่มแฟนคลับผู้หญิงนั้นจะเรียกเขาว่าสามีของพวกเธอ
กงหมิงเฟยหยิบช้อนสแตนเลสออกมาและตักซุปข้าวโอ๊ตรสกาแฟใส่เนื้อนกกระจอก แล้วส่งเข้าไปในปากของตัวเองคำใหญ่!
อ้ามม~~~ม!
สีหน้าของเขาดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังกินวัตถุมีพิษเข้าไป และถึงแม้ว่ามันจะมีรสชาติที่ค่อนข้างแย่ แต่ด้วยความหิวของเขารสสัมผัสของการที่ได้ทานอาหารร้อนๆก็ยังคงมีความรู้สึกที่มีความสุขผสมปนเปอยู่ในนั้นด้วย
"ท่านผู้ชมทุกท่านถึงแม้ว่ารสชาติมันจะค่อนข้างแย่ แต่มันก็ยังเป็นที่ยอมรับได้ กลุ่มแฟนๆที่ติดตามดูผมมาตั้งแต่เริ่มต้นควรจะรู้จักนิสัยของผมดี ฉะนั้นผมจะไม่เสียเวลาอีกต่อไป ผมจะกินมันให้หมด!"
เมื่อกงหมิงเฟยพูดจบ เขาก็ค่อยๆใช้ช้อนสแตนเลสตักซุปใส่เข้าปากทีละคำอย่างต่อเนื่อง การแสดงออกทางใบหน้าของเขาในแต่ละครั้งที่ทานซุปเข้าไปนั้นคล้ายกับว่าเขากำลังแสดงกายกรรมผาดโผนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
กลุ่มผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดรู้ได้จากสีหน้าของเขาว่ารสชาติมันคงจะแย่มาก! หลังจากนั้นไม่นานไอเท็มและของขวัญต่างๆก็ปลิวว่อนเต็มห้องถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟย
กงหมิงเฟยกวาดซุปคำสุดท้ายลงคอด้วยสีหน้าที่โล่งใจ และอาการของเขาหลังจากที่ทานเสร็จแล้วนั้นจึงค่อนข้างคล้ายกับคนที่กำลังเมาสุรา
กงหมิงเฟยรู้สึกว่าเขาโชคดีที่เขาหั่นเนื้อนกกระจอกเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะใส่ลงไปในหม้อซุป หากเขาใส่ลงไปเป็นชิ้นใหญ่ๆและต้องเคี้ยวมัน เขาคิดว่าเขาคงจะต้องอาเจียนออกมาอย่างแน่นอน!
"เอาล่ะแฟนๆที่รักทุกๆท่านในช่วงเวลานี้ก็ถึงช่วงเวลาการร้องเพลงหลังอาหารค่ำแล้ว!" หลังจากที่กงหมิงเฟยพูดจบ เขาก็ทำความสะอาดหม้อและดับกองไฟโดยใช้ฝุ่นดินกลบทับ เพราะพื้นที่บริเวณโดยรอบนั้นเป็นป่าไม้ มันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอนหากว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นมา
หลังจากที่เขาดับกองไฟลงแล้วกงหมิงเฟยก็กลับเข้าไปในเต็นท์ของเขา เนื่องจากว่าด้านนอกนั้นอากาศหนาวเย็นมากเกินไป
หลังจากกลับมาที่เต็นท์ เขาหยิบกีตาร์ออกมาแล้วยิ้มแล้วพูดว่า: "ทุกๆคน นี่คือช่วงเวลาแห่งการร้องเพลงที่พวกเราทุกๆคนจะมีความสุขร่วมกัน~"
ในช่วงเวลานี้กลุ่มผู้ชมที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดต่างกระตือรือร้นและมีเริ่มแสดงความตื่นเต้นกันออกมาในทันที!
อย่างที่ได้เคยอธิบายไว้แล้วในโลกคู่ขนานใบนี้ การถ่ายทอดสดนั้นมีเพียงตัวเลือกเพียงแค่สามตัวเลือกเพียงเท่านั้น นั่นก็คือการร้องเพลงการเต้นรำและการเล่นเกม
และกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ในแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดต่างก็ชื่นชอบการฟังเพลงที่ร้องสดๆเช่นนี้กันเป็นอย่างมาก!
………
จบบท
[ LS`ย่อมาจากไลฟ์สตรีมเมอร์ ในนิยายเรื่องนี้ผมจะใช้อักษรย่อ LS เป็นชื่อเรียกที่ผู้ชมการถ่ายทอดสดเรียกผู้ประกาศข่าวด้วยชื่อย่อแทน มันก็คล้ายกับที่เราเรียกผู้จัดรายการวิทยุว่า DJ หรือที่เรียกผู้ที่จัดรายการเพลงว่า VJ ]