EP 636 ไส้ติ่งอักเสบกำเริบ!
EP 636 ไส้ติ่งอักเสบกำเริบ!
By loop
ในช่วงกลางวัน.
บ้านของหวังอันซี
เมื่ออาหารเสร็จแล้ว คุณนายหยางและหวังหยูรินก็เดินออกไปพร้อมกับอาหารและวางลงบนโต๊
“ซูบิน กินข้าวด้วยกันก่อนสิ” คุณหยางพูดอย่างสุภาพ
ดงซูบินรีบพูดว่า: "ไม่ล่ะครับ ขอบคุณคุณนายหยางมากๆเลยครับ พอดีว่าผมทานกับข้าวมาแล้วก่อนมาถึงที่นี้" เมื่อวาง
ตะเกียบแล้ว หวังหยูริน ก็พูดอย่างกระตือรือร้น: "ก็ทานเพิ่มอีกหน่อย ฉันทอดมะเขือดเทศ ฉันพึงทดลองทำมาเลย”
หวังอันชีไม่ทำ ชักชวนให้เขานั่งบนโซฟาและจิบชาช้าๆ
จริงๆ แล้ว ดงซูบินเองไม่อยากทานเลย แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของหวังหยูริน เขารู้ว่าตัวเขาเองไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคุณนายหยางเท่าไรนักแต่เพราะหวังหยูรินชวนเขาแล้วและเขาพยายามจะรักษาหน้าหวังหยูรินไว้ด้วย ดังนั้นดงซูบินจึงตัดสินใจนั่งร่วมโต๊ะอยู่สักพัก อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ดงซูบินก็ได้พูดคุยกับหวังอันซิไปแลว และก็น่าจะได้เวลาไปพูดคุยกับคณะกรรมการเขตคนอื่นด้วย แต่ดงซูบินก็ตัดสินใจว่าเขายังจะอยู่ร่วมโต๊ะอาหารนี้อีกสักพัก
คุณนายหยางเหลือบมองดงซูบินขยับและลงที่สามีของเธอ "ที่รักดื่มก่อนเถอะ"
"หลังจากดื่มชาถ้วยนี้แล้ว" หวังอันซีเอาฝ่ามือลูบท้องของเขาราวกับว่าเขายังรู้สึกไม่สบายใจ “ทานข่าวก่อน” พอ
หวังหยูรินเห็นแบบนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะกินเลย “คุณลุง หนูไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้วเราควรจะจ้างพยาบาลมาดูแลคุณลุงที่บ้านจะดีกว่าไหม”
หวาง อันซีโบกมือแล้วยิ้มอย่างไม่เต็มใจ: “ไม่เป็นไรลุงยังไหวอยู่”
คุณนายหยางถอนหายใจ เธอเองก็ไม่อยากทานข้าวเท่าไร แต่เธอก็ฟื้นกินเข้าไป
ดูเหมือนโรคที่หวังอันซิเป็นอาจจะไม่ได้เป็นกลุ่มโรคที่มีอาการรุนแรงเฉียบพลัน เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งพบได้บ่อยมาก และหมอส่วนใหญ่ก็เชียวชาญในการผ่าตัดโรคนี้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างงั้นการมีโรคเบาหวานเข้ามาด้วย มันจึงยากต่อการจัดการ และต้องทำการรักษาอย่างรอบครอบ ถ้าการผ่าตัดออกมาไม่ดีอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิต คุณนายหยางเองและครอบครัวเองก็กังวลกับเรื่องนี้มาได้สองวัน และแน่นอนถ้ายังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปความเจ็บปวดจากโรคก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หวังอันซิ เองเขาเป็นประธานคณะกรรมการเขตและ เขาต้องรับมือกับอะไรหลายๆ อย่างทุกวัน และโรคที่เขาเป็นอยู่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตราชการของเขาด้วย
บรรยากาศในบ้านเริ่มอึมครึม
ดงซูบิน มองไปที่พวกเขาและพูดขัดจังหวะทันที "ท่านเลขา, คุณหยาง, ผมมีวิธีรักษา"
"โอ้?" คุณนายหยาง และหวังอันซิมองไปที่เขา
ดงซูบินเองก็เริ่มบทสนาโดยการพูดว่า: "ผมจะขอทดสอบอะไรสักอย่าง เพื่อวิธีนี้จะรักษาหวังอันซิได้"
คุณนายหยางรู้สึกประหลาดใจ "คุณ?"
หวังอันซิ กล่าวด้วยความประหลาดใจ: "คุณสามารถรักษาฉันได้จริงๆอย่างงั้นหรอ”
ดูเหมือนว่าดงซูบินไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาสนับสนุนวิธีการรักษาของเขา เขาจึงใช้เหตุผลเดียวกันที่รักษาหัวหน้าเสี่ยวหยาง "พอดีผมมีโอกาสได้ไปพบแพทย์แผนจีน และมีโอกาสที่ได้ไปร่ำเรียนวิชาจากหมอคนนั้น และเขานั้นเป็นปรจารย์ด้านการนวด , เพียงแค่กดตำแหน่งที่มีอาการบาดเจ็บอาการก็จะหายดีโดยไม่ต้องผ่าตัด, มันเหมาะกับท่านเลขาหวังมากๆในตอนนี้ อ่าอย่าประมาทการนวดแผนจีนเป็นอันขาดในความเป็นจริงหลักการคือความต้านทานของร่างกายมนุษย์จะ รักษาอาการบาดเจ็บได้ในทันทีซึ่งเป็นการรักษาแบบดังเดิมด้วย”
คุณนายหยางมองมาที่เขา “คุณแน่ใจหรือ”
ดงซูบินกำลังจะพยักหน้า แต่หวังอันซิพูดขัดจังหวะ: “ฉันไม่อยากรบกวนคุณหรอก ช่วงสองสามวันมานี้อาการบาดเจ็บของฉันเองก็ดีขึ้นมาแล้วด้วย”
ดงซูบิน กล่าวว่า: "แต่สิ่งนี้อาจจะช่วยทำให้อาการของท่านดีขึ้นมาก”
"คุณลุง"หวังหยูรินกล่าวว่า: "ลองให้เลขาซูบินลองซักครั้งเถอะ"
หวังอันซิ ลุกขึ้นยืน "เอาล่ะ ถึงเวลาทานอาหารแล้ว"
ดงซูบินรู้สึกหมดหนทางเมื่อรู้ว่าหวังอันซิคงไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด เพราะขนาดการแพทย์ตะวันตกยังช่วยรักษาอาการนี้ไม่ได้ แต่การเมื่อพูดถึงการแพทย์แผนจีน ความประทับใจครั้งแรกของทุกคนคือหมอที่จะใช้ทักษะเหล่านี้ควรจะเป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุ แน่นอนด้วยอายุของดงซูบินนั้นไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อในสิงที่ดงซูบินพูดออกมาอย่างแน่นอน ซึ่งความเป็นจริงดงซูบินเองก็ไม่รู้วิธีการรักษาแบบแพทย์แผนจีนแต่อย่างใด แต่อย่างน้อยเขาก็การันตีได้ว่าเขาสามารถรักษาโรคได้อย่างแน่นอน
หวังอันซิได้นั่งลงที่โต๊ะอาหารเพื่อทานอาหารที่คุณนายหยางจัดเตรียมไว้ให้
ดูเหมือนตอนนี้ดงซูบินเองก็ไม่รู้จะทำเช่นไรดีเพราะการจะเปลี่ยนความเชื่อของคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย “ถ้าเช่นนั้น ท่านเลขาหวังผมอาจต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”
หวังอันซีพยักหน้า “หนูขอไปส่งเลขาซูบินนะคะ”
หวังหยูรินวางตะเกียบก่อนจะลุกขึ้นมา
ในทางเดิน
ดงซูบิน ยิ้มและพูดว่า: "ไม่เป็นไรหรอกหยูรินกลับไปทานขาวเถอะ ฉันกลับคนเดียวได้"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดียวฉันจะเดินไปส่งคุณที่ฉันล่างเอง"
"ถ้าอย่างงั้นก็ได้ ขอบคุณมากนะ"
ดูเหมือนหวังหยูรินเองก็จะสุภาพกับดงซูบินมาก
" อย่างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ท่านเลขาหวัง และคุณนายหยาง” แต่ในขณะที่ดงซูบินกำลังเดินลงบันไดลงไปกับหวังหยูรินก็หันหลังเข้ามาในห้อง ดูเหมือนอาการของหวังอันชิจะกำเริบขึ้นมา มีเสียงดังขึ้นมาจากในห้อง และเสียงตะโกนของคุณนายหยาง!
“ที่รัก! เป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น?”
“อ้า!!”
“หยูริน! ดูเหมือนอาการของลุงหวังจะแย่แล้ว!”
“อ่า? หนูควรทำอย่างไรดี?”
“เรียกรถพยาบาล! เร็ว!”
“ใช่ๆ! หนูจะโทรหาโรงพยาบาลเดียวนี้!” หลังจาก
ได้ยินเสียงสีหน้าของดงซูบินก็เปลี่ยนไปและเขาก็รีบหันหลังกลับและวิ่งขึ้นไปชั้นบน ผลักประตูที่เปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งแล้วกลับไปที่บ้านของคณะกรรมการเขต มีเพียงเก้าอี้หวังอันชิเท่านั้นที่ล้มลง หลังจากตกจากเก้าอี้ หวังอันซีก็นอนขดตัว ตัวสั่นเล็กน้อย กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกอย่างรุนแรง และมีเหงื่อออกมากขณะกุมท้อง และมันก็เจ็บปวดมาก คุณนายหยางรีบก้มลงกับพื้นและเอื้อมมือออกไปพยุงเขา ตอนนี้สีหน้าของทุกคนดูเป็นกังวลเอามากๆ
“คุณนายหยาง! เดียวผมช่วยเอง!” ดงซูบินเร่งฝีเท้า โน้มตัวเข้าไปพยุงหวังอัน และค่อยๆพยุงเขาไปนั่งที่โซฟา
หวังหยูรินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วพูดอย่างกังวลว่า “ตอนนี้โทรติดแล้ว!”
คุณหนายหยางจับมือสามีของเธอแล้วพูดว่า “ครั้งสุดท้ายที่หวังอันซิป่วยเป็นอย่างนี้ หลังจากที่ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล เขาก็มีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ !” "
หสังหยูรินพูดว่า:" ตอนนี้คุณลุงอาการเป็นยังไงบ้างค่ะ "
ตอนนี้หวังอันซิได้แต่เอามือก่ายหน้าผากเหงื่อออก ไม่เหมือนจะไม่มีแรงพูด
คุณนายหยางกล่าวว่า: "ทนอีกหน่อยนะ! รถพยาบาลจะมาถึงแล้ว!"
ตอนนี้ดูเหมือนดงซูบินทนไม่ได้อีกต่อเมื่อเห็นสถานการณ์ เขารีบหยิบยาแก้ปวดจากโต๊ะและขอให้คุณนายหยางป้อนยาให้กับหวังอันซิ แต่ก่อนหน้านี้เขาก็พึงทานยาวเข้าไป หรือยาจะไม่ออกฤทธิ์แรงไม่พอ หวังอันซิคงกุมมือแน่นปวดท้องดูเหมือนว่าดงซูบินเองจะคิดอะไรบางอย่างออก: “คุณนายหยางผมขอลองอะไรสักอย่าง”
ตอนนี้สติของคุณนายหยางกระเจิ่งไปหมดแล้ว " มันจะโอเคใช่ไหม "
" โอเคแน่นอน!" สีหน้าของดงซูบินดูมั่นใจเอามากๆ
เมื่อหวังหยูรินได้ยินเช่นนั้น เธอพูดข้างๆ เธอว่า “คุณป้า รถพยาบาลยังมาไม่ถึงเลย ไม่มีทางอื่น ให้เลขาซูบินลองดู! ตอนนี้คุณลุงจะทนไม่ไหวแล้ว!”
คุณนายหยางเม้มปากออกมาก่อนจะพูดว่า"ได้โปรด"
ดงซูบินพยักหน้าเล็กน้อยและรีบพับแขนเสื้อขึ้น หลังจากที่คุณนายหยางและหวังหยูรินก้าวถอยหลังทั้งคู่ดงซูบินยืนอยู่หน้าโซฟาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่หวังอันซิที่ตำแหน่งของไส้ติ่ง เขาเหยียดมือออกและกดตำแหน่งที่มีอาการบริเวณเอว ท้องและหลัง จริงแล้วเขาสามารถเร่งไปที่จุดเดียวได้เลย แต่เพื่อปิดปังความลับของเขาเอง เขาจะต้องกดลงไปในหลายที่เพื่อให้ดูเหมือนการรักษา เขาหรี่ตาและโฟกัสไปที่บริเวณไส้ติ่งของหวังอันซิด้วยมือข้างหนึ่ง
มา!
ย้อนกลับ!
เมื่อการย้อนเวลามีผล และเวลาที่เหลือจะค่อยๆ หายไปทีละนิด!
หนึ่งวินาที……
สองวินาที...
สามวินาที...
สี่วินาที...
! ย้อนกลับ!
ดงซูบิน ดึงมือของเขาและสังเกตใบหน้าของหวังอันซิตามความเข้าใจก่อนหน้านี้ หวังอันซิเริ่มรู้ตัวเองว่าป่วยและผ่านมาได้ส่องวันอาการของไส้ติ่งอักเสบก็กำเริบขึ้นมา แน่นอนว่าอาการก่อนหน้านี้มันไม่ชัดเจนและไม่ได้สังเกต ดังนั้น ดงซูบินจึงมุ่งเป้าไปที่ไส้ติ่งของหวังอันชิโดยตรง และบริเวณโดยรอบส่วนใหญ่จริงๆแล้วดงซูบินตั้งใจที่จะย้อนเวลาของไส้ติ่งที่ช่วงเวลา 4 วันก่อนหน้านี้ ที่เขายังไม่มีอาการ ซึ่งตอนนั้นหวังอันซิน่าจะยังสบายดีอยู่ สี
ภายใต้การจ้องมองที่อย่างน่ากังวลของคุณนายหยางและหวังหยูริน ความเจ็บปวดบนใบหน้าของหวังอันซิก็หายไปเกือบจะในทันที เขากระพริบตา ขมวดคิ้ว นั่งบนโซฟาและจับไปที่ท้อง ของเขาโดยไม่รู้ตัวราวกับว่ามันแปลกไปเล็กน้อย เขาเองก็อธิบายไม่ได้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร
คุณนายหยางรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า: “ที่รัก รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“คุณลุง ดีชึ้นไหมค่ะ?” หวังหยูรินเองเธอก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้เช่นเดียวกัน
หวังอันซีพูดอย่างแปลกๆ ว่า “ตอนนี้ไม่ใช่แค่หายปวด แต่มันกลับเหมือนว่าฉันไม่เคยมีอาการนี้เลย และไม่ปวดบริเวณไส้ติ่งอีกแล้ว”
คุณนายหยางดูดีใจมาก “มันจะเป็นเช่นนั้นได้ยังไงกัน คุณพูดจริงหรอ?”
หวังอันซิ ลุกขึ้นและเดินไปรอบ ๆ บ้านก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข. 'มันโอเคมาก' จากนั้นเขามองไปที่ดงซูบินและขอบคุณ: 'ขอบคุณเลขาซูบินมากๆเลย'.
คุณนายหยางเองก็กล่าวออกมาทันทีส่า:" ซูบินเราต้องขอบคุณคุณมากๆเลยสำหรับเหตุการณ์นี้!"
หวังอันซิและคุณนายหยางเห็ฯเพียงว่าดงซูบินพยายามกดไปที่ท้อง และใช่เวลาเพียงไม่นานหวังอันซิก็กลับมาเป็นปกติ มันน่าทึ่งมาก ดูเหมือนทั้งคู่จะเชื่อแล้วดงซูบินสามารถรักษาอาการป่วยได้จริง และเขาไม่ได้พูดโกหกแต่อย่างใด
ดงซูบินกล่าวอย่างสุภาพ: "ผมยินดีครับ แต่การรักษาของผมอาจจะช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ชั่วคราว ผมเองไม่การันตีว่ามันจะกลับมามีอาการนี้หรือไม่ หรืออีกไม่กี่วันคุณอาจจะกลับมามีอาการอีก ถ้าเกิดว่ามีอาการอีกก็โทรหาผม ผมจะเข้ามารักษาให้”
หวังอันซิ ยิ้มและพูดว่า "ตราบใดที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้วันนี้ฉันเองก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว"
หวังหยูริน ยิ้ม “เลขาซูบิน คุณเองเป็นหมออย่างงั้นหรอค่ะ แถมยังเป็นหมออัจฉริยะอีกด้วย”
ดงซูบินไอ "ไม่ , วันนี้ก็เป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน พอดีฉันคาดการณ์อาการของท่านเลขาหวังถูก เพราะเห็นว่าอาการของเลขาหวังนั้นรักษายากเอามากๆ”
ทันใดนั้น รถพยาบาลก็มา
คุณนายหยางเป็นกังวลและอยากให้สามีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แต่หวังอันซีไม่ไป เนื่องจากความเจ็บปวดหยุดลง และหลังจากผ่านมาสองวัน เธอเองไม่ได้พักผ่อนเลย แต่ตอนนี้หวังอันซี ต้องการกินอาหารดีๆ นอนหลับฝันดี , พวกเขาบอกให้รถพยาบาลกลับไป
ทันทีที่รถพยาบาลกลับไป หวังอันซีก็ตบไหล่ดงซูบิน"มากินข้าวด้วยกัน"
ดงซูบินพูดอย่างสุภาพ: "ในเมื่อท่านเลขาไม่เป็นไร ผมจะขอตัวกลับก่อนนะครับ"
หวังอันชิพูดหันไปหาภรรยาของเขาก่อนจะพูดว่า: "ไปเตรียมจานให้หน่อยสิ"
คุณนายหยางกล่าวอีกว่า: "ซูบินคุณอย่าพึงกลับอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน"
เมื่อเห็นเช่นนั้นดงซูบินเองก็ปฏิเสธไม่ได้หลังจากนั้นครู่หนึ่งแล้ว สรุปแล้วดงซูบินก็นั่งทานข้าวกับครอบครัวหวังและพูดคุยกันมากมาย! .