641-642
5/10
Ep.641
ในฐานะที่ชายชุดคลุมเหลืองเป็นผู้ฝึกตนขั้น 8 คำพูดของเขาเลยค่อนข้างมีน้ำหนัก
เหล่าผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆต่างพยักหน้าเห็นด้วย
ชายเผ่าปีศาจราตรีเอ่ยปากบ้าง “เราราชาต้องการเพียงสิ่งเดียว นั่นคือตราประทับขนาดใหญ่ ใครกล้าแย่งมัน ก็อย่าหาว่าข้าไม่ยอมคน!”
เป็นที่ทราบกันดี ว่าสิ่งที่มีค่าสูงสุดในตัวซูเฉินคือ [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] และคนส่วนใหญ่ที่มาก็เพื่อสิ่งนี้
แต่เนื่องจากชายเผ่าปีศาจราตรีเอ่ยปากออกมาแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมากอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณความแข็งแกร่งที่เขามี
ชายชราหลังค่อมขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยขึ้นว่า “เราผู้เฒ่าชอบถุงเก็บสมบัติของเจ้าเด็กนี่ สำหรับของที่อยู่ข้างใน สามารถนำมาแบ่งกันอย่างเท่าเทียมได้ แต่ถุงสมบัติต้องเป็นของข้า”
มุมปากของอวี้ชิงยกโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชา หันมองซูเฉิน กล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “ส่วนเราไม่ต้องการอะไร ตราบใดที่สามารถสังหารเจ้าเด็กนี่ได้ก็พอ”
ก่อนหน้านี้ซูเฉินกล่าววาจาใหญ่โตอย่างไม่ละอายว่าจะสังหารพวกเธอ ดังนั้นเธอก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าคราวนี้ซูเฉินจะรอดไปได้อย่างไร?
“องค์หญิง พวกเรารีบถอยกันเถิด”
อาวุโสหยูฉีถอนหายใจอย่างเงียบๆ ส่งสายตาให้เยว่หลิง
เดิมเธอคาดหวังว่าจะร่วมมือกันซูเฉินฆ่าพวกอวี้ชิง
แต่ตอนนี้ เมื่อสถารการณ์กลายเป็นว่ามีผู้แข็งแกร่งมากมายเข้ามาวุ่นวาย เธอก็ตระหนักได้ทันที ไม่ต้องกล่าวถึงการสังหารอวี้ชิง แต่เกรงว่าซูเฉินคงไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้
หากพวกเธอออกไปไม่ทันเวลา บางทีอาจได้รับผลกระทบจากศึกนี้
“อาวุโสหยูฉี แต่ถึงอย่างไรเขาเพิ่งเอ่ยปากว่าจะช่วยพวกเรานะ”
เยว่หลิงกัดริมฝีปากบางของเธอ ยืนกรานอย่างดื้อรั้น
เมื่อเห็นอาวุโสหยูฉีกำลังเกลี้ยกล่อมเยว่หลิง ซูเฉินก็ชิงพูดขึ้น
“ทั้งสองคน ข้อตกลงที่ฉันเสนอก่อนหน้านี้ยังคงใช้ได้อยู่ ยังสนใจรึเปล่า?”
เยว่หลิงตะลึงลาน เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมในสถานการณ์แบบนี้ ซูเฉินถึงยังกล้าพูดแบบนี้อีก
สมองของอาวุโสหยูฉีเริ่มผัดเปลี่ยนหมุนเวียนความคิด คล้ายตัดสินใจได้แล้ว กัดฟันกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับองค์หญิง ตราบใดที่เจ้าสามารถฆ่าพวกมัน ธนูทองจะเป็นของเจ้า”
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมซูเฉินถึงไม่กลัว แต่ม้าใกล้ตายถึงอย่างไรยังคงเป็นม้า
หากซูเฉินสามารถสังหารอวี้ชิงและหยูหลงได้จริง นับว่าพวกเธอกำไรมหาศาล
ขณะเดียวกันหากซูเฉินถูกฆ่า พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องมอบธนูทอง หรือก็คือไม่สูญเสียอะไรเลย
“งั้นตกลงตามนี้”
มุมปากของซูเฉินยกโค้งเล็กน้อย หันไปทางพวกอวี้ชิง
ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายของเขาค่อยๆไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หวนคืนสู่เลเวล 7 ในพริบตา
“นี่เขาเป็นผู้ฝึกตนขั้น 7!”
เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นรอบๆ
“มันแน่อยู่แล้ว ว่าเขาต้องซ่อนระดับฝึกตนเอาไว้”
อาวุโสหยูฉีถอนหายใจ แต่สีหน้าของเธอกลับไม่แสดงออกถึงความสุขเลย
เพราะในความเห็นของเธอ ต่อให้ซูเฉินไปถึงขั้น 7 แต่ก็ยังไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย
เพราะในฝูงชนตอนนี้ ปัจจุบันมีผู้ฝึกตนขั้น 8 อยู่ถึงสามคน ซึ่งแค่คนเดียวก็มากพอที่จะบดขยี้เขาแล้ว
“ที่แท้เจ้าก็เป็นผู้ฝึกตนขั้น 7” อาวุโสหยูหลงแค่นเสียงเยาะเย้ยถากถาง
แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้น แต่ดาบปลายโค้งสีเงินเล่มหนึ่งถูกยกขึ้นตั้งฉากขวางหน้า อยู่ในท่าป้องกันเรียบร้อย
ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณออกมาทันที กวาดไปทางพวกอวี้ชิง
“ปรมาจารย์พลังจิต!”
อาวุโสหยูหลงตกใจ เธอตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าถูกพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นพันธนาการรอบตัว
ยิ่งไปกว่านั้น พลังนี้ยังอยู่เหนือความคาดหมาย แม้เธอจะพยายามสุดชีวิต ก็ไม่สามารถสลัดหลุดได้
“ช่างเป็นพลังจิตที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”
สีหน้าของอวี้ชิงซีดเผือด ในดวงตาเธอฟุ้งไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ
เวลานี้ เธอตระหนักแล้วว่าซูเฉินมิใช่แค่คุยโว กลับกลายเป็นว่ามีกำลังรบมากพอที่จะสังหารพวกเธอจริงๆ
“ฝากทักทายยมบาลด้วยนะ”
ซูเฉินแสยะยิ้มเย็น ซัดกำปั้นออกไป
6/10
Ep.642
ท่ามกลางเสียงหวีดหวิวของสายลม เงาหมัดทองคำนับร้อยผุดพรายขึ้นกลางอากาศ ทุกเงาหมัดส่งกลิ่นอายทรงพลัง ชวนให้ผู้คนรู้สึกใจสั่น
“เป็นวิชาหมัดที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”
ในบรรดาฝูงชนที่รายล้อม ไม่ช้าก็มีคนตระหนักว่าซูเฉินกำลังใช้วิชาหมัด หลายคนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“หยุดนะ! เราเป็นราชวงศ์ของเผ่าเอลฟ์! หากเจ้ากล้าฆ่าเรา นั่นเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับเผ่าเอลฟ์ทั้งหมด!”
สัมผัสได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา อาวุโสหยูหลงร้องโวยวายเสียงดัง พยายามใช้สถานะของตัวเองข่มขู่ให้ซูเฉินหวาดกลัว
มุมปากของซูเฉินแสยะยิ้มดูแคลน เงาหมัดซัดไปไกลกว่าเดิม
กระทั่งสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ยังไม่อยู่ในสายตาเขา ฉะนั้นเผ่าเอลฟ์นับเป็นตัวผายลมอันใด?
ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ..!
วินาทีถัดมา เงาหมัดพุ่งถึงเป้าหมาย กลืนร่างของพวกอวี้ชิงจมหายไปในพริบตา
ตามมาติดๆด้วยเสียงปะทะดังกึกก้อง เห็นอาวุโสหยูหลงถูกทุบตีเป็นผุยผงอย่างมิอาจต้านทาน
กระนั้น สิ่งที่ทำให้ซูเฉินประหลาดใจก็คือ อวี้ชิงที่มีระดับต่ำกว่าอาวุโสหยูหลงหนึ่งขั้น กลับยังไม่ถูกฆ่าตาย
เหตุผลก็คือ มีบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับโล่พลังงานผุดขึ้นนอกกายเธอ ปิดกั้นเงาหมัดเอาไว้ไม่ให้เข้าถึงตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากโดนทุบตีอย่างหนักหลายสิบครั้ง โล่พลังงานนี้ก็ปรากฏรอยปริร้าว คล้ายใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ระหว่างที่หมัดอันแข็งแกร่งของซูเฉินชกออกไป รอบด้านพลันเงียบสงัดลง
เหล่าผู้แข็งแกร่งต่างจับจ้องซูเฉิน ในแววตาสะท้อนถึงร่องรอยของความยำเกรง
“ที่แท้เขาก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
เยว่หลิงมองซูเฉินด้วยคู่ดวงตาอันงดงามที่กำลังเบิกกว้าง งึมงำเหม่อลอย
หลังจากตกใจอยู่ครู่หนึ่ง อาวุโสหยูฉีก็ได้สติกลับมา เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดมาก่อนเลย ว่าซูเฉินจะฆ่าอาวุโสหยูหลงได้จริงๆ ทั้งยังเป็นการฆ่าในพริบตา
“ทุกท่าน เจ้าเด็กนี่มีบางอย่างไม่ปกติ พวกเราควรรีบรวมพลังกันสังหารเขา!”
ดวงตาของชายชุดคลุมเหลืองกลับกลอกไปมา เอ่ยเสนอแนะ
ในตอนแรก พวกเขาไม่ได้คิดเอาจริงเอาจังอะไรกับซูเฉิน แต่เมื่อซูเฉินสำแดงกำลังรบอันแข็งแกร่ง ก็ไม่มีใครกล้าประมาทอีก
ผู้ที่สามารถสังหารผู้ฝึกตนขั้น 7 ได้ในพริบตา ย่อมเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ซึ่งคุ้มค่าคู่ควรแก่การลงมือเต็มกำลังของพวกเขา
“เราราชาก็มีเจตนาเช่นนั้นเหมือนกัน ทุกท่านลงมือ!”
ชายเผ่าปีศาจราตรีหัวเราะคลั่ง พุ่งเข้าหาซูเฉินเป็นคนแรก
คนอื่นๆก็ไม่ลังเลที่จะก้าวเข้าโจมตีซูเฉินเช่นกัน
อวี้ชิงไม่ได้ร่วมมือกับพวกเขา แต่เลือกค่อยๆถอยห่าง ออกจากสนามรบอย่างเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเธอตอนนี้ลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งความเกลียดชัง เอ่ยพึมพำชั่วร้าย “เจ้ามนุษย์สารเลว คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้อย่างไร”
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินต้องรับมือกับการปิดล้อมของเหล่าผู้แข็งแกร่ง เขาไม่มั่นใจว่าจะชนะได้ชัวๆไหม จึงโคจร [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] ทันที
แคร่ก แคร่ก แคร่ก ..!
เสียงกระดูกปริดังฟังชัด ร่างของเขาขยายขึ้นเป็นสิบจั้งในพริบตาเดียว ในเวลาเดียวกัน ระดับฐานฝึกตนก็ก้าวสู่เลเวล 8
“เขายังมีวิชาแปลงร่างเป็นของตัวเองด้วย!?”
“เขาเลื่อนขั้นขึ้นเป็นระดับ 8 แล้ว!”
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ปิดล้อมซูเฉินเริ่มเกิดความลังเลเล็กน้อย
“เจ้าพวกขยะ! เขามีแค่คนเดียว พวกเจ้ายังจะกลัวอะไร!”
เมื่อเห็นว่าจิตต่อสู้ฝั่งตัวเองถดถอย ท่ามกลางสภาวะวิกฤติ เผ่าปีศาจราตรีร้องคำรามออกมา ยังคงกำหมัดแน่นและชกใส่ซูเฉิน
“งั้นก็เริ่มจากฆ่าแกก่อนเลยแล้วกัน!”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็น เปิดใช้งาน [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] เหวี่ยงหมัดชกสวนกลับไป
บรึ้มมม!
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังแสบแก้วหู เห็นเพียงชายเผ่าปีศาจราตรี แขนข้างที่ชกออกไปแหลกเป็นเศษเนื้อ และผลพวงยังร้ายแรง ลุกลามขึ้นไปถึงครึ่งซีกของร่างกาย
แม้ว่ายังไม่ตายทันที แต่ลมหายใจรวยริน คาดว่าคงไม่น่ารอด