ตอนที่แล้วผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 9 เริ่มการเพาะปลูก 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 11 กองทัพที่ราบทมิฬ

ผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 10 การตัดสินใจ


หลังจากไมนอสบอกข้อเสนอเสร็จ เขาก็ออกจากห้องนั้นไปทันที่และมุ่งตรงไปที่บ้านเด็กคนที่สาม อลิสัน ทันที่ เธออยู่ไม่ใกล้จากสถานบันเพียงเดินแค่ 10 นาทีก็ถึง

ระหว่างที่ไมนอสกำลังไปหาเด็กคนที่สาม อาจารณ์ใหญ่พยายามพูดกล่อมผู้ปกครองเด็กทั้งสองไม่ให้รับข้อเสนอจากไมนอส

“ไรลัน กริฟฟ์  การตัดสินใจอยู่ที่พวกเจ้านะ ตระกูลกิลล์นั้นไม่เคยบังคับใคร แต่เอาตรงๆ ข้าว่าเจ้าเด็กนั้นมันไม่มีทางที่จะทำได้ยังที่บอกแน่ ถ้ามีทรัพย์สมบัติมากมาย และวิชาเสนอวิชาบ่มเพาะระดับดำให้  เขาจะมาอยู่อะไรในที่แห่งนี้กัน”

“ข้าพอจะทราบ มาบางเล็กน้อยเกี่ยวกับ เจ้าเด็กนั้นพ่อของมันอยู่ในขั้นราชาแห่งจิตวิญญาณ แต่ก็เป็นแค่ผู้รับใช้ราชวงศ์เท่านั้น และเท่าที่ข้ารู้ผู้รับใช้หรือผู้ใต้บังคับบัญชาจะได้รับวิชาระดับดำ เพียงสองวิชาเท่านั้น และไม่ใช่วิชาบ่มเพาะด้วย”

“ถ้าเจ้านั้นมันมีวิชาบ่มเพาะและต่อสู่ระดับดำที่ได้รับมาจากพ่อของมันจริง ทำไมถึงไม่ขายสักวิชาแล้วเอาเงินเป็นทุนไปเพื่อฝึกฝนและอยู่ในที่ความเข้มข้นวิญญาณสูงกว่านี้”

“นี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้านั้นมันไม่รู้ ปูมหลังหรือประวัติของที่ราบทมิฬด้วยซ้ำ ข้าไม่รู้ว่ามันคิดอะไรของมัน และมันคงไม่น่าที่จะเอาอนาคตของเด็กที่มีพรสวรรค์ไปเสี่ยง ข้าขอแนะนำอย่าเชื่อเจ้าเด็กนั้นพูด”

อาจารญ์ใหญ่พยายามชักแม่น้ำทั้ง 8 และข้อมูลที่มีเพื่อโจมตีไมนอสเพื่อไม่ให้เสียเด็กสองคนนี้ไป เพราะตระกูลกิลล์นั้นไม่ได้เหมือนตระกูลขุนนางในเมืองหลวง ดังนั้นจำเป็นต้องการผู้มีพรสวรรค์เพื่อไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับตระกูล

ตระกูลกิลล์เลยลงทุนเป็นหุ้นส่วนกับที่ดินแดนที่ค่อนข้างยากจนเพื่อหาเด็กที่มีพรสวรรค์ไปเข้าตระกูล แต่พวกเขาจะไม่บังคับ ก็เพียงแค่คืนเงินทุนการศึกษาให้

นั้นก็เฉพาะคนที่ยังไม่ได้เข้าสู่ตระกูลและยังไม่ได้รับวิชาจากพวกเขาไป

พวกเขาคุยกันอยู่สักพักและแยกจากกัน ในใจของผู้ปกครองของเด็กทั้งสองนั้นไม่ค่อยเชื่อ ไมนอส นัก

แต่ถึงยังงั้น กริฟฟ์ ก็ยังอยากรู้ข้อเสนอที่เหลือของไมนอส

แต่ไรลัน นั้นไม่เชื่อและคิดว่าอยู่ต่อก็ไม่คุ้ม และไม่อยากรู้ข้อเสนอที่ไมนอสจะเสนอให้เขาด้วย

….

ไมนอสเดินทางมาถึงบ้านของ เด็กที่คนที่สาม เป็นบ้านเล็กๆ ทาสีฟ้าทั้งลัง มีหน้าต่าง 1 บาน หันออกมออกถนน สภาพบ้านยังดูดี แสดงให้เห็นถึงว่าเจ้าของนั้นพยายามรักษามัน

ไมนอสเคาะประตู

ก๊อก!  ก๊อก!  ก๊อก!

ไม่นานนักมีเด็กสาวผมดำ ไว้ผมหางม้า อายุราวๆ 10 ขวบ ได้ เปิดประตูออกมาและร้องขึ้น

“แม่ เรามีแขก”

ไม่นานนัก มีหญิงวัยกลางคนรีบมาที่ประตูบ้าน เธอค่อนข้างสวยเลยที่เดียว และรูปร่างดูเหมือนผ่านการฝึกมาด้วย ผมสีดำ ดูเป็นคนอ่อนโยมาก และเธอก็ได้่เอ่ยถาม

“ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการมาหาใครหรอค่ะ”

ไมนอสยิ้่มตอบ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณทาเซีย ข้าไมนอส สจวร์ต ข้ามาเพื่อจะพูดคุยเรื่องอนาคตของลูกสาวคุณ อลิสัน น่าจะมีคนมาแจ้งเรื่องนี้ก่อนบ้างแล้วนะครับ”

“อ้ะ!!  นายท่านสจวร์ต เข้ามาก่อนค่ะ สามีของดิฉันอยู่ในห้อง เดียวเราจะไปคุยกันในนั้น”

เธอตอบยังเป็นมิตร และเธอก็พาเข้าไปในบ้านไปพบกับสามีของเธอ

ไมนอสได้พบกับ พ่อของเด็ก เขาชื่อ พอลโล อายุราวๆ 40 ปี เขาไม่มีผมบนหัวสักเส้น

ก่อนที่ไมนอจะพูดอะไรขึ้นมา พอลโลได้ชิงพูดก่อน

“ทำไมผมต้องเอา อนาคตของลูกผมไปเสี่ยงกับนายน้อยด้วย ด้วยการที่จะให้อยู่ที่นี้ต่อ”

ไมนอสนิ่งเงียบอยู่สักครู่และเริ่มวางแผนกลยุททันที

“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผมจะมาถึง มันคงเป็นเรื่องโง้ที่จะทิ้งโอกาสแล้วไปหาที่ดีกว่า แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”

“ข้าได้แก้ปัญหาใหญ่ๆ ทั้งสองอย่างของที่ราบทมิฬแล้ว และอีกไม่นานดินแดนนี้จะเจริญไม่แพ้ที่ใด และดีกว่าด้วยซ้ำ”

“แต่นี้ไม่ใช้หัวข้อในวันนี้ที่จะคุยกัน ถ้าลูกสาวของคุณเข้ากับตระกูลขุนนาง เธอจะเป็นคนใต้สังกัด และการจะได้อะไรบ้างนั้นข้ารู้ดี เพราะพ่อของข้านั้นก็อยู่ในสังกัดของราชวงศ์บราวน์ ที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรนี้”

“ผุ้อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือสังกัดจะได้รับแค่วิชาระดับดำ มากสุดสองวิชาและไม่ใช่วิชาบ่มเพาะ เพื่อไม่ให้ระดับพลังเกินหน้าคนในตระกูล และกว่าจะได้วิชาบ่มเพาะมาก็ต้องรับใช้ตระกูลหลายสิบปี”

“ได้เพียงเงินเดินเป็นคริสตัลระดับต่ำ 20 เม็ด จนไปถึง ระดับกลาง 10 เม็ด ตามขั้นพลังจากขั้นพื้นฐาน ถึง ราชาแห่งจิตวิญญาณ

“และไม่ได้ให้สิทธิประโยชน์อะไรกับครอบครัวของผู้อยู่ใต้สังกัดทั้งสิ้น”

ไมนอสเริ่มมองสบตาผู้ปกครองของเด็กยังจริงจัง

“ข้าเสนอวิชาบ่มเพาะระดับดำให้กับอลิสันทันที่เธออายุถึงเกณฑ์ฝึกบ่มเพาะพลัง และรับประกันเลยว่าวิชาที่เหลือที่เธอจะได้รับจะอยู่ในระดับดำเป็นขั้นต่ำ ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเธอเองด้วยว่าจะฝึกและเข้าใจวิชาได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อรับวิชาที่ระดับสูงขึ้น”

“และต่อไปในอนาคตครอบครัวของเธอจะได้รับการช่วยเหลือสิทธิต่างๆ ขึ้นอยู่กับตัวของลูกสาวพวกท่าน ข้าอาจจะช่วยทำให้พวกท่าน ไปถึงระดับ 69 ได้ ในช่วงชีวิตนี้ แต่คงให้ผ่านไประดับสูงกว่านี้คงยากหากไม่มีใช้ยาวิเศษเข้าช่วย”

ในโลกนี้ผู้มีพรสวรรค์ฟ้านั้นจะไปได้ถึงระดับ 29 ยังแน่นอนถ้าต้องการไปต่อมีโอกาส 50 % ที่จะเพิ่มระดับได้ แต่เมื่อมาถึงขั้น แม่ทัพแห่งจิตวิญญาณ จะต้องใช้ยาหรือของวิเศษช่วย เพราะมีโอกาสน้อยกว่า 20 % ที่จะไปเพิ่มได้

หลังจากพูดจบ ไมนอสได้นิ่งรอคำตอบจากผู้ปกครองทั้งสอง

“นายน้อยครับ…...ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดนั้นจะทำได้จริง ผมเชื่อว่าแม้แต่ตัวของกษัตริย์บราวน์เองก็ไม่สามารถทำถามที่นายน้อยพูดได้”

พอลโลตอบยังใบหน้าสงสัย

เมื่อไมนอสได้ยินเช่นนั้น ไมนอสจึงยิบม้วนคำภีร์สีเงินออกมาวางบนโต๊ะ เป็นวิชาต่อสู้ระดับเงิน!!!

เมื่อพอลโลเห็นถึงเขาจะตกใจและไม่เชื่อ แต่เขาก็ไม่โง้พอที่จะแยกไม่ออกว่าของจริงหรือของปลอม เด็กหนุ่มคนนี้ เอาวิชาระดับเงิน ออกมาวางยังกับของเล่น

หลังจากที่เห็นและดูม้วนคำภีร์ พอลโลก็เชื่อทันที่ว่า ไมนอสนั้นสามารถทำตามที่ตนเองพูดได้ ก่อนที่จะยอมให้ อลิสันเข้าร่วมกับกองกำลังของไมนอส

ไมนอสได้แจ้งว่า เมื่อ อลสันอายุถึง 10 ขวบ เมื่อไรเขาจะพาเธอไปอยูที่ คฤหาสน์ทันที่ ซึ่งจะถึงอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้เอง ไมนอสได้บอกลาแล้วออกจากบ้านไป

…..

1 อาทิตย์ ผ่านไป

ไมนอสได้ฝึกยังหนักและระดับเพิ่มขึ้น มาเป็น 8 แล้ว และพื้นที่การเกษตรทั้งหมดที่ปลูกไว้ก็เริ่มเติบโตแล้ว

และในที่สุด กริฟฟ์ได้เข้ามาพบไมนอสเพื่อฟังข้อเสนอทั้งหมดของเขา อยากรู้ว่าข้อเสนอของไมนอสนั้นจะดีพอที่จะให้ น้องชายลี ของเขาเข้ากับกองกำลังไหม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด