ตอนที่แล้ว154 - ได้รับภรรยาที่งดงาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป156 - ก้อนทองเหลืองปราบดวงใจศักดิ์สิทธิ์

155 - ทะเลแห่งความทุกข์สีทองที่แตกต่าง


155 - ทะเลแห่งความทุกข์สีทองที่แตกต่าง

ไม่ว่าเย่ฟ่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงนี้ได้ สามวันต่อมา สวีรุ่ยหยู ฉินเยาและหญิงชราแปลกๆสิบคนเข้ามาในป่าบ๊วยและกักขังเขาไว้ในกระท่อมมุงจาก

ชิ้นส่วนของโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่หนาราวกับเหยือกน้ำที่แกะสลักด้วยรูปสัตว์ต่างๆทันใดนั้นก็โผล่ออกมาจากภายในทะเลสาบสีเขียวมรกตพร้อมกับดักจับเย่ฟ่านอยู่ภายใน

สวีรุ่ยหยูดูเหมือนจะอายุสิบแปดถึงสิบเก้าปีแล้ว นางยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดู เย่ฟ่าน

“สวีรุ่ยหยูภรรยาในอนาคตของข้า…….”

เย่ฟ่านกำลังพูดแต่จู่ๆก็พูดไม่ได้ปากของเขาก็ถูกสวีรุ่ยหยูผนึกไม่สามารถส่งเสียงได้

ภายในทะเลสาบสีมรกตที่ตั้งอยู่ในป่าบ๊วย คลื่นซัดขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อปลาคุนสีทองเก้าตัวที่ยาวหลายเมตร พวกมันลากโลงศพแก้วออกจากน้ำสร้างปรากฏการณ์ที่งดงามอย่างยิ่ง

โลงศพแก้วยาวมีขนาดค่อนข้างใหญ่โตเป็นประกายระยิบระยับและโปร่งแสง ภายใต้แสงอาทิตย์เจ็ดสีมันมีความพิเศษอย่างถึงที่สุด

ภายในนั้นมีหัวใจขนาดเท่ากำปั้น ส่องแสงเป็นประกายเหมือนกับหยกสีแดงสด งดงามและหาที่เปรียบมิได้ พลังชีวิตอันทรงพลังเกิดจากหัวใจของจักรพรรดิอสูร!

มันถูกผนึกไว้ภายในมีแสงสีแดงหมุนวนอยู่รอบๆ หมอกหนาทึบที่ปกคลุมให้ความรู้สึกชวนหลงใหลอาบโลงศพแก้วด้วยสีแดงเลือดระยิบระยับ

เย่ฟ่านอยากจะคำรามแต่เขาไม่สามารถส่งเสียงใดๆได้ เขาต้องการที่จะต่อสู้ แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาติดอยู่กับโลหะศักดิ์สิทธิ์โดยไม่มีทางสลัดออกไป

แสงสีแดงเข้มหมุนวนรอบหัวใจของจักรพรรดิอสูร ทำให้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาดูเหมือนสูญเสียสีไป ไม่สามารถแข่งขันกับมันได้

ป่าบ๊วยที่อยู่รายรอบก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงฉาน

ฉินเหยาเปิดโลงศพและพลังชีวิตอันมากมายมหาศาลก็พูดออกมาราวกับผืนน้ำ ทุกคนที่สัมผัสกับพลังชีวิตนั้นร่างกายเบาสบายเหมือนแช่อยู่ในน้ำพุร้อน

พลังชีวิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ฝึกฝนถ้ามันอยู่เคียงข้างพวกเขาบ่อยๆ

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าจักรพรรดิอสูรจะแข็งแกร่งแค่ไหนในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เวลาผ่านไปหลายหมื่นปี หัวใจซึ่งเขาทิ้งไว้เบื้องหลัยังคงมีพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้

“การฝึกฝนของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นทรงพลังเกินไป แต่เขาไม่สามารถกลายเป็นอมตะได้ มันทำให้คนสงสัยว่าในโลกนี้ยังมีผู้อมตะอยู่จริงหรือ?” หญิงชราคนหนึ่งถอนหายใจ

สวีรุ่ยหยูโค้งคำนับอย่างเคร่งขรึมไปทางโลงศพแก้วขณะที่นางก้าวไปข้างหน้าและรับกล่องมรกตจากมือของหญิงสาวจากเผ่าพันธุ์อสูร

หัวใจอยู่บนยอดนั้นเหมือนอัญมณีสีแดงและนางก็ถือมันเดินเข้าหาเย่ฟ่าน

“สวีรุ่ยหยู……”

เย่ฟ่านใช้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ของเขาในการถ่ายทอดคำพูด เขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง

แต่ในขณะนี้หญิงชราที่แปลกประหลาดทั้งสิบคนได้เดินไปข้างหน้าพร้อมกับใช้ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ของพวกนางเพื่อชี้ไปที่ศีรษะของเขา

เย่ฟ่านรู้สึกตกตะลึง ผู้อาวุโสแปลกๆทั้งสิบคนนี้น่ากลัวเกินไป พวกนางสามารถค้นพบความผิดปกติในความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ของเขาและรีบปิดผนึกทะเลสาบสีทองตรงหว่างคิ้วของเขาทันที

เย่ฟ่านต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อให้หลุดพ้น แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมจำนน

ถึงกระนั้นสีหน้าของหญิงชราแปลกหน้าทั้งสิบคนก็เปลี่ยนไปและหนึ่งในนั้นกล่าวว่า

“เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ประสาทสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาช่างเหลือเชื่อ เมื่อพิจารณาจากอายุแล้ว พลังจิตของเขาไม่ควรจะแข็งแกร่งขนาดนั้น”

กล่องหยกที่อยู่ในมือของสวีรุ่ยหยูได้ปล่อยแสงสีแดงซึ่งมีจุดสีทองปะปนอยู่ภายในออกมาปกคลุมไปทั้งตัวของนาง ร่างกายของนางเหมือนกับหยกที่บริสุทธิ์เป็นพิเศษ

นางจ้องไปที่เย่ฟ่านอย่างเงียบๆเป็นเวลานานก่อนที่จะยื่นนิ้วหยกอันละเอียดอ่อนแตะแก้มของเขา การกระทำของนางอ่อนโยนมากราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน

ความงามอันหาที่เปรียบมิได้ของนางมีการแสดงออกที่ซับซ้อน เป็นการยากที่จะบอกว่าความรู้สึกของนางเป็นอย่างไร

“ฝ่าบาทได้โปรดถอยออกไป พวกเรากำลังจะลงมือ” หญิงชราคนหนึ่งเดินไปข้างหน้าขณะที่นางได้รับกล่องหยกมรกตมาถือไว้แทน

สวีรุ่ยหยูพยักหน้าเบาๆพร้อมกับถอยกลับอย่างว่องไว

เย่ฟ่านไม่ต้องการที่จะยอมรับข้อตกลงดังกล่าว การใช้ร่างกายของตัวเองหล่อเลี้ยงหัวใจของจักรพรรดิอสูรท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทันใดนั้น เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อหญิงชราทั้งสิบคนเริ่มโจมตีทะเลแห่งความทุกข์ของเขาด้วยกำลัง

“อย่ากังวลไป เราจะไม่ดึงหัวใจของเจ้าออกมา เราจะเพียงแค่วางหัวใจของจักรพรรดิอสูรไว้ภายในน้ำพุแห่งชีวิตของเจ้า โดยใช้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณมาหล่อเลี้ยงหัวใจ……”

ถ้าเย่ฟ่านสามารถตะโกนได้เขาจะร้องเสียงดังอย่างแน่นอน มีความลับมากเกินไปภายในทะเลสีทองแห่งความทุกข์ของเขาซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้

“มันคู่ควรกับการถูกเรียกว่าเป็นร่างเทพโบราณบรรพกาล เด็กคนนี้ทรงพลังพอๆกับพวกเราสองสามคน แม้ว่าพวกเราจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ทะเลความทุกข์ของเขาได้”

“นี่คือร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ในสมัยก่อนมันสามารถกวาดล้างทุกสิ่ง น่าเสียดายที่มันกลายเป็นร่างกายที่พิการ

เด็กคนนี้มีความพิเศษจริงๆเขาสามารถฝึกฝนจนถึงระดับน้ำพุแห่งชีวิตได้ ใครจะรู้ว่าเขาทำได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ดีตราบใดที่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างกายของเขายังคงหลั่งไหลออกมาหัวใจศักดิ์สิทธิ์ก็จะได้รับการเลี้ยงดูอยู่เสมอ……”

“ไม่มีทางที่จะทะลวงไปได้จริงๆ ……”

หญิงชราทั้งสิบคนตกใจมาก พวกนางทำอะไรไม่ถูกและหนึ่งในนั้นหันไปหาหญิงสาวที่งดงามและกล่าวว่า

“ฝ่าบาท ขอให้เราขอยืมอาวุธศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝ่าทะเลแห่งความทุกข์ของร่างเทพโบราณบรรพกาล”

สวีรุ่ยหยูพยักหน้าอย่างสงบพร้อมกับปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายออกไปในทุกทิศทาง เนื่องจากแสงสว่างที่มากเกินไปจึงทำให้เย่ฟ่านไม่สามารถมองเห็นว่าของสิ่งนี้คืออะไรกันแน่

หญิงชราคนหนึ่งได้รับแก้วแห่งแสงอันเจิดจ้าก่อนจะกวาดเข้าใส่ทะเลแห่งความทุกข์ของเย่ฟ่าน เย่ฟ่านเกือบจะเป็นสลบด้วยความเจ็บปวดจากการที่ทะเลแห่งความทุกข์ถูกโจมตี

“สวรรค์! มันคือทะเลแห่งความทุกข์สีทอง นี่มัน…… เป็นไปได้ยังไงกัน!”

ทุกคนตะลึงงันคาดไม่ถึงว่าจะมีฉากเช่นนี้ ทะเลสีทองที่พุ่งขึ้นสู่สวรรค์ สายฟ้าที่สอดประสานกัน ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของโลกที่ให้กำเนิดชีวิตที่แข็งแรง

“นี่คือเหตุผลที่ร่างกายศักดิ์สิทธิ์โบราณบรรพกาลยากที่จะฝึกฝน?”

ทะเลแห่งความทุกข์สีทองไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน แม้แต่ สวีรุ่ยหยูก็ได้รับผลกระทบและไม่สามารถรักษาความสงบของนางได้

ใบหน้าที่งดงามของนางเต็มไปด้วยความตกใจและดวงตากลมโตของนางก็จะต้องไปทางทะเลแห่งความทุกข์สีทองด้วยความตกตะลึง

เย่ฟ่านขยับตัวไม่ได้ ถ้าเขาสามารถตะโกนได้ เขาจะด่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างแน่นอน เขาพยายามอ้าปากแต่ไม่สามารถทำได้ ความเจ็บปวดรุนแรงเกือบทำให้เขาหมดสติ

“ว่ากันว่ายอดฝีมือในอดีตมีฉากที่ลึกซึ้งต่างๆเกิดขึ้นภายในกงล้อแห่งทะเลของพวกเขา เช่นเดียวกับดวงจันทร์ที่เจิดจ้าเหนือทะเล ดวงดาวที่ปกคลุมท้องฟ้ายามเช้า ดอกบัวสีทองในทะเลแห่งความทุกข์

ฉากที่ลึกซึ้งแต่ละฉากนำมาซึ่งพลังที่เหนือจินตนาการ เด็กคนนี้มีทะเลแห่งความทุกข์สีทอง นี่คือภาพที่ทรงพลังที่สุด ในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน”

“น่าเสียดายที่ในโลกปัจจุบันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกฝนร่างกายศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโบราณ การที่เขาสามารถฝึกฝนมาถึงระดับสะพานวิญญาณได้ไม่ทราบว่าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน”

หญิงชราที่แปลกประหลาดทั้งสิบคนไม่กล้าที่จะชะงักเพราะกลัวว่าจะทำร้ายปราณของเย่ฟ่าน พวกนางรีบสอดหัวใจของจักรพรรดิอสูรเข้าไปในทะเลแห่งความทุกข์ของเย่ฟ่านก่อนจะถอยกลับ

ในช่วงเวลานี้ ทะเลแห่งความทุกข์สีทองนั้นพิเศษยิ่งกว่าเดิม ผืนน้ำอันกว้างใหญ่สั่นสะเทือนราวกับสายฟ้าที่สอดประสานกันซึ่งให้กำเนิดพลังชีวิตที่ไม่รู้จบ มันรักษาตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดเผยผลกระทบใดๆ

ทุกคนอยู่ในสภาวะตึงเครียดก่อนจะถอนหายใจยาวออกมาในที่สุด

เย่ฟ่านรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง เขากำลังนึกถึงคำพูดของหญิงชรา ย้อนกลับไปในยุคดึกดำบรรพ์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตล้วนแล้วแต่มีฉากผิดปกติเกิดขึ้นกับทะเลแห่งความทุกข์ของพวกเขา?

พระจันทร์ใสเหนือท้องทะเล ดวงดาวในท้องฟ้ายามเช้า ดอกบัวสีทองในทะเลแห่งความทุกข์……. เมื่อได้ยินชื่อก็ชัดเจนแล้วอ่ะนี่เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด