EP 634 ผลงานที่น่าภาคภูมิใจ
EP 634 ผลงานที่น่าภาคภูมิใจ
By loop
ในวันถัดมา.
ช่วงเช้าที่หนานฉาง
ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาเป็นพักๆ และดวงอาทิตย์ก็พัดเมฆดำออกไปและเบ่งบานด้วยสัมผัสแห่งความงาม
เขาขับรถมาจากคณะกรรมพรรคในเขตหยานไท ดงซูบินขับรถคาเยนไปจนถึงสำนักงานเขตกวางหมิงเมื่อเวลา 8 นาฬิกา คนส่วนใหญ่ในหน่วยยังไม่มาทำงานและลานจอดรถภายในก็ว่างเปล่า ถึงแม้เขาจะไม่ได้มาทำงานเพียงไม่กี่วันแต่ ดงซูบิน รู้สึกว่าเขาเหมือนไม่ได้กลับมาเป็นเวลานานแล้ว ดูที่นี่ และที่นั่น เขาเดินเข้าไปในอาคารเสริมภายใต้ร่มและกลับไปที่สำนักงานของเขา
แปดโมงกว่าแล้ว
ฝนหยุดตก แสงแดดส่องลงมาบนพื้น
ดงซูบินนั่งสบาย ๆ บนโซฟาแผนกต้อนรับหยิบกาต้มน้ำไฟฟ้าที่เพิ่งต้มเสร็จมารินลงมาใส่แก้วชาและเริ่มลิ้มรสชาและปากของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของชา .
ก๊อก ก๊อก มีคนมาเคาะประตู
ดงซูบินวางชามน้ำชาไว้ข้าง ๆ "โปรดเข้ามา"
ทันทีที่ประตูเปิดโจวหยินหยูและหวังหยูรินก็เดินเข้ามา "ท่านเลขาธิการ"
"ท่านเลขาธิการ คุณกลับมาแล้วหรือ" พวกเขาเห็นรถของดงซูบินที่ชั้นล่าง
ดงซูบินฮัมเสียงและพูดอย่างช่วยไม่ได้: "พอดีว่าเมื่อวานฉันติดธุระนิดนหน่อย ฉันเลยไม่ได้รีบกลับ นั่งลงก่อนสิ มาชิมชาหลงจิ่งที่ฉันเอากลับมาด้วยก่อน ชาใหม่ปีนี้เลยนะ"
"ขอบคุณ ท่านเลขาธิการ” หวังหยูรินเองก็เธอก็นั่งลงพร้อมด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าดงซูบินกำลังจะเทชาให้พวกเธอ โจวหยินหยู ก็รีบก้าวไปข้างหน้าและคว้ามันไว้ "ไม่ต้องลำบากท่านเลขาหรอกค่ะ ชานี้มีกลิ่นหอมจริงๆและคุณรู้ว่ามันเป็นชาที่ดีเมื่อได้กลิ่นเช่นนี้ "
ดงซูบินหัวเราะ "ถ้ามันดีฉันก็ดีใจ เห็นว่าขากลับ คุณทั้งสองก็ถือกระเป๋ามาด้วย"
โจวหยินหยูยิ้มอย่างรวดเร็วและโบกมือของเขา " มันไม่ได้มีอะไรมากเลยค่ะ"
“ลองชิมดูก่อน เอาไปแบ่งคนอื่นด้วยก็ได้มันมีหลายซอง” มันเป็นชาที่เสี่ยวหลานเตรียมให้กับดงซูบิน ทั้งสามนั่งที่โต๊ะดื่มชา ทีละถ้วย และ ดงซูบินถามเมื่อเห็นช่องวางระหว่างบทสนทนาถามเรื่องงาน เนื่องจากปัญหาของลูกสาวของโจวหยินหยูในการไปปักกิ่งเพื่อการไปหาโรงเรียนได้รับการแก้ไข ท่าทางของพี่สาวโจวต่อดงซูบินจึงกระตือรือร้นมากขึ้น และ หวังหยูรินก็คล้ายกัน พวกเขาได้รับการแต่งตั้งจาก ดงซูบินให้เป็นหัวหน้าหน่วยตรวจสอบโมเดลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเหมือนพวกเธอทั้งสองยอมเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของดงซูบินแล้ว ทั้งคู่เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ของหน่วยตอนที่เขาไม่อยู่ในช่วงสองวันที่ผ่าน รวมถึงข่าวของ น้องชายของนายกเทศมนตรี เกิงเซียงและครอบครัวเกิงครอบครัว ทั้งคู่รายงานาถาณการณ์การที่ละคนและได้ยินมาว่าตอนนี้สำนักงานเขตกวางหมิงทั้งหมดกังวลเกี่ยวกับการประกวดโมเดลต้นแบบในครั้งนี้มาก เพราะนี่คือแบบจำลองระดับชาติ ถ้าทำได้ทางเขตกวางหมิงและมณฑลเองก็จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เอามากๆ
“มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?” ดงซูบิน ถาม
โจวหยินหยูส่ายหัวเล็กน้อย “ยังเลย หัวหน้าเขตก็ถามมาสองสามครั้งแล้ว”
หวางหยูรินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในกสำนักงกิจการพลเรือน โจวหยินหยูก็ได้รับคำสั่งจากดงซูบินไม่ให้พูดเรื่องนี้และแม้แต่หวังหยูรินที่สนิทกับเธอก็ไม่ได้บอกหวังหยูริน ดูเหมือน่วาหวังหยูรินมองว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน
ลองคิดดูสิว่าทั้งประเทศมีหน่วยงานที่เข้าร่วมประกวดกี่แห่ง?
การที่จะได้รับเลือกมาถึงระดับนี้ได้โอกาสมันมี 1 ใน ลาน?
ตอนนี้ก็เดือนกรกฎาคมแล้ว และการประชุมจะจัดขึ้นที่ปักกิ่งในอีก 2-3 วัน การคัดเลือกผู้เสนอชื่อแต่ละรุ่นน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ใช่ไหม ในขณะนี้ดงซูบินยังกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะดงซูบินเชื่อว่าทางส่วนกลางต้องช่วยเขาแน่ๆ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ดงซูบินกังวลเกี่ยวกับเรื่องความยุติธรรมในการตัดสิน แต่ตอนนี้ เมื่อดงซูบินรู้ว่าคนที่คอยสนับสนุนพวกเขาเป็นแม่ของเสี่ยวจิน นั้นคือเสี่ยวรันทำงานในกระทรวงกิจการพลเรือนหรือเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงก็ทำให้ดงซูบินดูมั่นใจมากยิ่งขึ้น นี่คือ ดงซูบินนี่เป็นภารกิจทางการเมืองครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนขุ่นเคือง ไม่มีที่ว่างสำหรับข้อผิดพลาด ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นงานที่ต้องเสียเปล่าจริงๆ
ขณะที่ดงซูบินกำลังคิดจะโทรไปถาม ทันใดนั้น โทรศัพท์บนโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น
ดงซูบินลากถ้วยน้ำชาของเขาเพื่อจิบชา
โจวหยินหยูรีบเดินไปรับโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ สำนักงานเลขา...เอ๊ะใช่ รอสักครู่" โจวหยินหยูหันหัวของเธอลงเล็กน้อย "ท่านเลขาซูบิน ดูเหมือนเขาต้องการคุยกับคุณ ดูเหมือนจะมาจากสำนักงานส่งเสริมผู้สูงอายุแห่งชาติ”
ดงซูบินมองไปทางที่โจวหยินหยูยืนอยู่ และยืนขึ้นและเหยียดมือออกแล้วรับสาย "ผมเองดงซูบิน"
ดูเมือนปลายสายจะเป็นเสียงของชายหนุ่ม เขาได้มาแจ้งเกี่ยวกับการประชุมสรุปผลการประกวด “การประชุมจะจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งที่โดยน่าจะจัดขึ้นประมาณเดือนหน้า หน่วยของคุณควรให้การเตรียมการล่วงหน้าและช่วยส่งคนมายังกรุงปักกิ่ง. ถ้ายิ่งเป็นระดับหัวหน้าก็น่าจะยิ่งดีกว่า โดยแต่ละหน่วยสามารถมีตัวแทนได้เพียงคนเดียว เอาล่ะ คำเชิญและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เราจะส่งเอกสารโดยเร็วที่สุด ”
“โอ้ขอบคุณมากเลย”
"ด้วยความยินดีครับ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้คงไม่มีเหตุผลอื่นใดที่เขาจะโทรมาหาดงซูบินโดยตรงถ้าสำนักงานเขตกวางหมิงไม่ได้รับการคัดเลือก พวกเขาก็คงจะส่งจดหมายมาแจ้งเท่านั้น คงจะไม่มาเชิญให้เข้าร่วมประชุมเช่นนี้ ถึงแม้คำชี้แจงนี้ชัดเจนคือการคัดเลือกยังไม่สิ้นสุดจึงไม่สะดวกอธิบายแต่พวกเขาได้รับคำเชิญจากสำนักงานส่งเสริมผู้สูงอายุแล้ว มันอนุมานได้ว่า สำนักงานเขตกวางหมิงได้รับเลือกให้เป็นโมเดลการจัดการระดับชาติแล้ว !
ภายในใขของดงซูบินตอนนี้ดูอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูกเขาโบกมือ "ผู้อำนวยการโจวผู้อำนวยการหวังแจ้งผู้นำของแผนกต่าง ๆ เพื่อให้มีการประชุมด่วนทันที!"
หวังหยูรินกล่าวอย่างกระตือรือร้น: "ท่านเลขา พวกเราได้รับการคัดเลือกหรือไม่"
ดงซูบินยิ้มและพูดว่า "ไปดำเนินการตามที่ฉันบอก"
"อ่า!" โจวหยินหยูและหวังหยูต่างก็มีความสุข
ทันทีที่พวกเขาจากไป ดงซูบินก็จุดบุหรี่และจิบเครื่องดื่ม ความสำเร็จทางการเมืองนี้มาในเวลาที่เหมาะสม มันเวลาเกินไป เขาทำให้คนจำนวนมากขุ่นเคืองในหนานฉาง และส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าเขต แม้ว่ามันอาจทำให้งานของสำนักงานเขตกวางหมิงไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ แต่อย่างไรก็ตามเขาถอยหลังกลับไมได้อีกแล้ว และความกดดันต่อดงซูบิน ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดงซูบินเองจะต้องเข้าสู้สรภูมิทางการเมืองครั้งใหญ่เมื่อเขาได้รับการเป็นตัวแทนของมณฑล แต่ผลลัพธ์นั้นชัดเจนแล้วดงซูบิน ชนะตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยตัวเขาเองโดยทั้งนั้น เมื่อความสำเร็จทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาถึง ไม่เพียงเท่านั้น มันสามารถช่วยให้ดงซูบินรักษาตำแหน่งของเขาให้มั่นคงได้มากขึ้น และดูเหมือนจะเป็นรางดีที่จะทำให้เขาก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่าได้!
ดงซูบินรีบโทรศัพท์ไปที่มณฑลนั้นทันที และบอกกับรองนายกเทศมนตรีเซินเฟิง เฟยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เซินเฟิงก็พูดขึ้นทันที: "ข่าวจริงหรือ?"
"จริงสิ ไม่ผิดหรอก"
"...ทำได้ดีมาก ฉันจะรายงานนายกเทศมนตรีโยฮวา ทันที! นี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของคุณเลยนะ”
วางสายดงซูบินเดินไปที่ห้องประชุมและบอกข่าวกับทุกคน!
จู่ๆ ที่สำนักงานเขตกวางหมิงก็กลายเป็นจุดสนใจ! ! .