631-632
5/10
Ep.631
หยางเฉียนดูเหมือนจะรู้สึกสนใจเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบกลับมาว่า “ฉันเกิดความรู้สึกถูกชะตากับคันธนูนี้อย่างบอกไม่ถูก แต่อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร”
“โอเค จัดไป คันธนูยาวนี้จะตกเป็นของเธอแน่นอน” ซูเฉินให้คำมั่น
พิธีกรหญิงแนะนำคันธนูยาวสีเงินเสร็จ ก็เริ่มประมูลที่ 1,000 หินพลังงาน เคาะราคาเพิ่มแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100
เมื่อการประมูลเริ่มต้นขึ้น ซูเฉินก็เคาะราคาขึ้นเป็น 2,000 ทันที
เขาเคยเข้าร่วมงานประมูลมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง
เขาตระหนักดี ว่าการยกราคาขึ้นสูงในคราวเดียว หนึ่งคือแสดงให้เห็นถึงศักยาภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง อีกหนึ่งคือแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการคันธนูยาวชิ้นนี้จริงๆ
การกระทำนี้ เท่ากับกีดกันคนส่วนใหญ่ที่สนใจคันธนูไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่ไม่ยอมแพ้
ห้อง 7 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแข่งกันเสนอราคากับ ห้อง 9 ที่เพิ่งได้กิ่งก้านของต้นไม้แห่งชีวิตไป เคาะราคาขึ้นเป็น 5,000 หินพลังงานโดยตรง แสดงถึงความั่งคั่งของเขา
“คิดแย่งของจากบิดา?”
มุมปากของซูเฉินยกยิ้ม เผยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นเคาะราคาต่อเนื่อง กระโดดขึ้นเป็น 10,000 หินพลังงานในคราวเดียว
“โอ้แม่เจ้า! ห้อง 10 นี่มีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไงกัน? กับอีแค่ธนูคันเดียว ถึงกับเสนอราคา 10,000 หินพลังงาน นี่เขาจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินไปไหม?”
“พวกคนรวยก็เอาแต่ใจแบบนี้ อย่าไปสนใจเลย”
ซูเฉินเสนอราคาสูงถึง 10,000 หินพลังงาน ไม่เพียงแต่ข่มให้ห้อง 7 ยอมจำนนเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากโถงชั้นหนึ่ง
หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครเสนอราคาต่ออีกเลย
พิธีกรหญิงใช้โอกาสนี้ประกาศว่าห้อง 10 สามารถประมูลได้สำเร็จ
ไม่นาน บริกรก็นำคันธนูยาวสีเงินมาส่งที่ห้อง 10
ซูเฉินจ่ายหินพลังงาน ใส่คันธนูสีเงินลงในถุงเก็บของ ไม่ได้มอบให้หยางเฉียนในทันที
แม้หยางเฉียนจะเป็นผู้ฝึกตนสองอาชีพ แต่ระดับฝึกตนด้านปรมาจารย์พลังจิตของเธออ่อนแอเกินไป จนถึงตอนนี้ยังติดอยู่ที่เลเวล 1 ต่อให้ได้ธนูไป เธอก็ไม่สามารถใช้งานได้
ซูเฉินตั้งใจจะเพิ่มระดับปรมาจารย์พลังจิตให้หยางเฉียนก่อน ค่อยมอบให้เธอ
จากนั้น งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป
รายการที่ห้าเป็นเมล็ดพันธุ์ผลไม้วิญญาณ
ซูเฉินไม่สนใจเมล็ดพันธุ์ เพราะมีเมล็ดพันธุ์มากมายในถุงเก็บของของเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินว่ามันเป็นเมล็ดพันธุ์ของผลไม้วิญญาณ เขาก็เริ่มสนใจขึ้นมา
ผลไม้วิญญาณ และผลโยวหราน(ตอนช่วยพ่อหยางเฉียน)มีความคล้ายคลึงกัน หลังจากรับประทานแล้ว ทั้งคู่มีโอกาสช่วยเสริมสร้างพลังจิต
อย่างไรก็ตาม สำหรับซูเฉินซึ่งเป็นปรมาจารย์พลังจิตระดับสูง มันไม่มีผลอะไรอีกแล้ว
แต่ตันหลินกับหยางเฉียนยังเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 1 อยู่เลย พวกเธอเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้มัน
เมื่อได้เหตุผลดังนี้ ซูเฉินจึงตัดสินใจประมูลเมล็ดพันธุ์ผลไม้วิญญาณ
ราคาเริ่มประมูลอยู่ที่ 500 หินพลังงาน เนื่องจากเป็นของดีที่เสริมพลังจิต เมล็ดผลไม้วิญญาณจึงเกิดการแย่งชิงอย่างร้อนแรง
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นแค่เมล็ดพันธุ์ เมื่อราคาพุ่งสูงไปถึง 4,000 หินพลังงาน ก็เหลือคนเสนอราคาน้อยลง
ถึงเวลานั้น ซูเฉินเสนอราคาอีกครั้ง ด้วยจำนวน 10,000 หินพลังงาน
พอราคานี้ออกมา คู่แข่งทุกคนก็หมดหวัง
ดังนั้น เมล็ดพันธุ์ผลไม้วิญญาณจึงตกเป็นของเขา
มีอะไรน่าสนใจซูเฉินจะประมูลมัน และราคาที่เคาะครั้งสุดท้ายล้วนสูงลิ่ว สร้างกระแสขึ้นมาไม่น้อย ในขณะนี้ เขาไม่เพียงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังได้รับคำด่าไม่แพ้กัน
สำหรับเรื่องนี้ ซูเฉินไม่สนใจ ยังคงจับจ่ายหินพลังงานอย่างมีความสุข ใส่เมล็ดผลไม้วิญญาณลงในถุงเก็บของ
งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป
สี่รายการถัดมาล้วนเป็นอาวุธทั้งสิ้น ซูเฉินเลิกสนใจ และไม่เคาะราคาอีกเลย
หลังจากที่อาวุธถูกประมูลจนหมด ก็ถึงคราวของแร่ล้ำค่า ซูเฉินยืดตัวขึ้นจากเก้าอี้
แร่บางชนิดสามารถช่วยอัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ ดังนั้นเขาจะไม่พลาดมัน
6/10
Ep.632
ด้วยการระบุและตรวจสอบของ [รถศึกอัจฉริยะ] ตราบใดที่มีแร่นำไปใช้ประโยชน์ได้ ซูเฉินจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปแม้แต่ก้อนเเดียว
เขาไม่ไว้หน้าคู่แข่งคนไหนๆ ประมูลแร่ไปห้าก้อนในคราวเดียว แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งทางการเงินอันยิ่งใหญ่
แม้แต่เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้ที่รู้จักซูเฉินมาซักพักแล้ว ยังตกใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่องานประมูลสินค้าประเภทแร่จบลง หลังจากนั้นก็เป็นคราวของเม็ดยา แต่ละอย่างมีคุณสมบัติต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการรักษา , เพิ่มพลังเวทย์ หรือช่วยในการเลื่อนขั้น
เม็ดยาสามารถกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ร้อนแรงที่สุดในงานประมูล มันดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มีส่วนร่วมในการเคาะราคาแย่งชิง
ซูเฉินยิ้มดูแคลนเม็ดยาพวกนี้ ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมแย่งชิงแม้แต่น้อย
ตรงกันข้าม เฉินเฟิงซึ่งไม่เคยเคาะราคาเลย คราวนี้กระโจนลงสู่สมรภูมิกับเขาด้วย
สิ่งที่เฉินเฟิงสนใจคือเม็ดยาชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณช่วยเพิ่มโอกาสในการยกระดับ มันชื่อว่าเม็ดยาชะล้างกระดูก
ราคาเริ่มต้นของเม็ดยาชะล้างกระดูกคือ 500 หินพลังงาน แต่เพราะมีคนแข่งเคาะแย่งกันเยอะ จึงโดดขึ้นมาเป็น 2,000 หินพลังงานอย่างรวดเร็ว
เห็นราคานี้ เฉินเฟิงถอนหายใจอย่างเงียบๆ ธงศึกที่เพิ่งก้าวสู่สมรภูมิของเขาถูกชักกลับ
เห็นภาพนี้ ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “พี่เฉิน ถ้าหินพลังงานไม่พอ ของฉันยังเหลือ คุณเอาไปใช้ก่อนได้”
เฉินเฟิงขบฟันแน่น “เฮียซู งั้นฉันขอยืมซัก 2,000 ก้อนได้ไหม”
“ให้ 3,000 ก้อนเลย”
พิจารณาจากเรื่องที่ว่าเม็ดยาชะล้างกระดูกเป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน ซูเฉินจึงมอบหินพลังงานให้ 3,000 ก้อนเผื่อไว้เลย
เฉินเฟิงไม่ปฏิเสธ กระโจนเข้าสมรภูมิประมูลอีกครั้ง และในที่สุดก็ช่วงชิงมาได้สำเร็จในราคา 4,800 หินพลังงาน
เมื่อได้รับเม็ดยาชะล้างกระดูกมาครอบครอง เฉินเฟิงก็ยิ้มแก้มปริด้วยความสุข พร้อมให้สัญญากับซูเฉิน ว่ากลับไปยังวังสุริยันจันทราเมื่อไหร่ เขาจะนำหินพลังงานมาคืนให้ทันที
ซูเฉินไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ หินพลังงานทั้ง 3,000 ก้อนที่มอบไป เขาไม่คิดจะเอามันกลับมาอยู่แล้ว
หลังจากการประมูลสินค้าประเภทเม็ดยาสิ้นสุดลง
ต่อมาก็เป็นการประมูลตราประทับขนาดใหญ่ที่ชำรุดเสียหาย
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ตราประทับขนาดใหญ่นี้แสนธรรมดา ไม่สะดุดตาเลย เอาจริงๆเรียกว่าค่อนข้างโทรมทีเดียว
กระนั้น มันกลับแผ่กลิ่นอายที่ให้ความรู้สึกหนักอึ้งออกมา
แม้จะอยู่ไกล แต่ซูเฉินก็ยังสามารถสัมผัสได้
“พี่เฉิน คุณรู้ที่มาของตราประทับชิ้นนี้ไหม?”
ซูเฉินเกิดความรู้สึกอันคลุมเครือ ว่าตราประทับนี้ต้องไม่ใช่ของธรรมดา ดังนั้นเอ่ยถาม
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เฉินเฟิงส่ายหัวแล้วอธิบายว่า “ตราประทับขนาดใหญ่นี้มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมาก สมควรมีภูมิหลังไม่ธรรมดา”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่กำลังพิจารณาว่าจะเข้าร่วมประมูลดีหรือไม่ ก็มีสัญญาณเรียกดังขึ้นจากทั้ง [พื้นที่เพาะปลูก] และ [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
ซูเฉินเริ่มตื่นตัวขึ้นมา เปิด [พื้นที่เพาะปลูก] ก่อนเป็นอันดับแรก สื่อสารกับต้นผลอายุวัฒนะ “เสี่ยวโซ่วมีอะไรถึงได้เร่งฉันขนาดนี้?”
ต้นผลอายุวัฒนะตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน “เจ้านาย ตราประทับขนาดใหญ่บนเวทีประมูล มันชื่อว่า [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] เดิมมันเป็นอาวุธของต้นหลิววัชระ”
อาวุธของต้นหลิววัชระ?
ก่อนต้นหลิววัชระจะตาย มันเคยอยู่ในระดับเทวะมาก่อน ถ้างั้นอาวุธที่มันใช้ ไม่ใช่เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะหรอกหรือ?
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินถึงกับสูดหายใจลึก ลองเลียบเคียงถาม “[ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะใช่ไหม?”
“ขอรับ”
ต้นผลอายุวัฒนะตอบยืนยัน จากนั้นอธิบายต่อว่า “[ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] ชิ้นนี้น่าจะได้รับความเสียหายร้ายแรง หากให้วิเคราะห์โดยละเอียด มันไม่ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะอีกต่อไป”
มูลค่าของสิ่งประดิษฐ์เทวะนั้นชัดเจนในตัวมันเอง แม้จะเสียหาย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อาวุธทั่วไปจะเทียบได้
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ได้หมายความว่ามันจะซ่อมแซมไม่ได้ซะหน่อย
“ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว”
หลังจากปิด [พื้นที่เพาะปลูก] เขาก็เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
“เสี่ยวหลิว นายเรียกฉันเพราะเรื่องของ [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] ใช่ไหม?”
“ขอรับเจ้านาย” ต้นหลิววัชระตอบตามตรง
“ถ้างั้นวางใจได้ ฉันจะช่วยเอา [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุธาตุ] คืนให้นายเอง”
ซูเฉินรับประกัน จากนั้นปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
