ตอนที่ 977-978 ตั้งแต่ที่เธอแต่งงานกับฉัน เธอก็คือพี่สะใภ้ของนาย
นัยน์ตาของเขาเย็นชา และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชายิ่งขึ้นไปอีก ความรู้สึกแปลก ๆ มาจากก้นบึ้งหัวใจ “เมื่อกี้นายเรียกเธอว่าอะไรนะ”
กงเซลีเงียบลงทันที
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้น “ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจเธอผิดไป ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว ตอนนี้ฉัน...”
“ตอนนี้นายรู้ว่านายเข้าใจเธอผิด เลยเรียกเธอได้อย่างสนิทสนมอย่างนั้นเหรอ นี่เหรอคือเหตุผลที่นายเรียกเธออย่างสนิทสนม?” เหมาเยซื่อพูดอย่างเย็นชา
กงเซลีพูดไม่ออก
ความเงียบของเขาทำให้การแสดงออกของเหมาเยซื่อแย่ลงไปอีก
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าความรู้สึกแปลก ๆ นั้นคืออะไร
เขารู้ดีว่า ที่ผ่านกงเซลีปฏิบัติกับเฉียวเมียนเมียนอย่างไร
แต่ตอนนี้เขากลับเรียกเธออย่างสนิทสนม
จะไม่ให้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง
แต่นี่คือกงเซลี...
แม้ว่าจะรู้จักกงเซลีเป็นอย่างดี เขาบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
การแสดงออกของเหมาเยซื่อมืดลง
“น้องสี่ จริง ๆ แล้วนาย...”
“ไม่ ไม่!” กงเซลีปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค
“อาซื่อ อย่าคิดมาก เรื่องพื้น ๆ แบบนี้ฉันรู้ดี เธอเป็นผู้หญิงของนาย จะให้ฉันคิดอะไรได้”
“ถ้านายไม่ชอบ ฉันจะไม่เรียกเธออย่างนั้นอีก”
เหมาเยซื่อยังคงดูแย่มาก เขาเม้มริมฝีปากและเงียบ
เขาทำไมได้?
เป็นเพราะว่าเขารู้จักกงเซลี ต้องมีอะไรบางอย่างแน่
“อาซื่อ นายโกรธเหรอ?”
กงเซลีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างลังเล
“อย่าบอกนะ ว่าแม้แต่นายก็ยังเข้าใจผิด”
“น้องสี่ ก็ดีที่นายรู้เรื่องพื้น ๆ ของนาย” เหมาเยซื่อเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา
“เป็นการดีที่สุด ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ถ้าไม่ใช่... ฉันก็รับประกันไม่ได้ว่าฉันจะทำอะไรลงไปบ้าง”
“เธอเป็นหัวใจของฉัน ไม่มีใครแตะต้องเธอได้”
กงเซลีเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“อาซื่อ ไม่ต้องกังวล ฉันแค่รู้สึกว่าที่ผ่านมาเข้าใจผิด และไม่อย่าทำเหมือนเธอเป็นศัตรูอีกก็เท่านั้น”
“ฉันไม่ได้สนใจเรื่องการพูดของฉันด้วยซ้ำ ไม่คิดว่านายจะคิดมากขนาดนี้”
“ใช่ ฉันคิดมาก” เหมาเยซื่อระงับความโกรธของเขาที่เกือบจะปะทุและพูดอย่างเย็นชา
“จากนี้ เรียกเธอแบบเดียวกับหยางที่สอง แม้ว่าเธอจะอายุน้อยกว่านาย แต่เธอแต่งงานกับฉัน เธอก็คือพี่สะใภ้ของนาย”
คราวนี้กงเซลีเงียบ
เหมาเยซื่อเม้มปากและไม่พูดอะไร แต่สายตาที่เย็นชายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น กลิ่นควันอบอวลไปในอากาศ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ทันใดนั้นมีคนเคาะประตู
“อาซื่อ นายไปทำงานต่อเธอ ฉันไม่กวนแล้ว”
หลังจากเงียบไปนาน กงเซลีก็พูดออกมาในที่สุด แล้ววางสายไป
เหมาเยซื่อกระแทกโทรศัพท์มือถือของเขาลงบนโต๊ะ
พร้อมกับกระโกนคุยกับคนนอกห้อง “เขามา”
ประตูถูกผลักออกช้า ๆ
เสียงหวานดังขึ้น “ประธานเหมาคะ ฉันชงกาแฟมาให้ ฉันชงในแบบของตัวเอง ไม่รู้ว่าคุณจะชอบไหม ลองชิมดูหน่อยไหมคะ?”
เหมาเยซื่อมองด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นเฉียวเมียนเมียนเดินเข้ามาพร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้ว เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “เมียนเมียน ทำไมคุณ...”
“ทำไม ไม่ต้องรับฉันเหรอ?” เฉียวเมียนเมียนเดินไปที่โต๊ะและวางกาแฟไว้บนนั้น จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “ฉันรบกวนประธานเหมารึเปล่าคะ?”
เหมาเยซื่อพูดไม่ออก
ชายคนนั้นหรี่ตาลงและจ้องมาที่เธออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะยืนยันว่าเธอไม่ใช่ภาพลวงตา
เขาลึกขึ้นและดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขาทันที เขาวางมือบนศีรษะของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา อันน่าดึงดูด “ทำไมคุณไม่บอกผมก่อนล่ะ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เฉียวเมียนเมียนพิงหน้าอกและลูบไปตามกระดุมเสื้อของเขา เธอยิ้มหวานและพูดว่า
“ฉันอยากจะเซอร์ไพรส์คุณ ลงเครื่องปุบ ก็มาหาเลย เป็นไง มีความสุขไหม”
“มีความสุข” เหมาเยซื่อกระชับแขนรอบตัวเธอและจูบเธอที่หน้าผาก
“พรุ่งนี้ ฉันถึงจะกลับเมือง F”
“อืม พรุ่งนี้ผมจะกลับพร้อมกับคุณ คืนนี้อยากกินอะไร เลือกร้านได้เลย วันนี้ผมจะเลิกงานเร็วหน่อย”
เธอมีกลิ่นที่หอมหวาน
ผมของเธอมีกลิ่นหอมหวานด้วย
เธอเป็นเหมือนลูกพีชที่แผ่ความหวาน ทำให้อยากกินเธอทั้งตัว
ขณะที่เหมาเยซื่อมองลงไปที่หญิงสาวแสนสวยราวกับนางฟ้าในอ้อมแขน
ดวงตาของเขาก็มืดมัวลง เมื่อเขานึกถึงสายที่เขาเพิ่งวางไป
เขาควรจะรู้
แค่รอเวลาเท่านั้น
ถ้าเขาชอบและหลงผู้หญิงคนนี้มากขนาด คนอื่นจะไม่สนใจได้อย่างไร
เป็นเรื่องปกติที่คนอื่นจะชอบเธอเช่นกัน
เขาไม่ได้โกรธหรือใส่ใจกับมันมากนัก
แต่ถ้าผู้ที่สนใจในตัวเธอคือเพื่อนสนิทของเขา มันจะต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้จักกงเซลีเป็นอย่างดี
พวกเขามีความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างเท่าเทียมกันในหลาย ๆ ด้าน
พวกเขาก็หวาดระแวงเหมือนกัน
เป็นไปได้มากว่าเขาจะตกหลุมรักใครสักคนไปตลอดชีวิตของเขา
แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ คนที่อยู่ในหัวใจของกงเซลี ไม่ใช่เซินโย่วหรอกเหรอ
แต่ตอนนี้
จากความเข้าใจของเขาที่มีต่อกงเซลี เขาไม่ควรเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว
แต่การกระทำก่อนหน้านี้ของกงเซลี แสดงให้เห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขา
เหมาเยซื่อหวังว่าเขาจะคิดมากไปเอง
แต่เขารู้ดีว่าเขาคิดมากไปเองหรือไม่
ลางสังหรณ์ของเขาไม่เคยผิดพลาด
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“อา คืนนี้เหรอคะ”
เฉียวเมียนเมียนมองขึ้นไปที่เขา ใบหน้าแสดงออกถึงการขอโทษ
“ฉันมีนัดแล้วคะ คงไปทานข้าวเย็นกับคุณไม่ได้”
เหมาเยซื่อขมวดคิ้ว
“มีนัดแล้ว?”
เฉียวเมียนเมียนกระพริบตาอย่างรู้สึกผิด “ค่ะ”
“นัดกับใคร? เจียงหลัวลีเหรอ?”
ชายคนนั้นดูไม่พอใจ เมื่อเอ่ยชื่อนี้ออกมา
ในหัวใจของภรรยาเขา เขาไม่สามารถเทียบได้กับเพื่อนสนิทของเธอ