ตอนที่ 13 พบกับชิวไป๋อีกครั้ง
วันรุ่งขึ้น หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เซียวจิ่งถิงก็ลุกขึ้นและเตรียมที่จะออกไปข้างนอก
“พ่อไปไหนเหรอ? จะออกไปเล่นข้างนอกคนเดียวอีกแล้วเหรอ?” เซียวเสี่ยวฟ่านกระโดดกอดขาเซียวจิ่งถิงเอาไว้
เมื่อเร็วๆนี้เซียวเสี่ยวฟ่านและเซียวจิ่งถิงนั้นเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เซียวเสี่ยวฟ่านชอบพ่อที่ทำอาหารอร่อยๆให้ทานที่สุดเลย
หลายครั้งที่เซียวเสี่ยวตงบอกให้น้องชายระวังเซียวจิ่งถิงเอาไว้ แต่เซียวเสี่ยวฟ่านนั้นพิการทางสมองและขี้หลงขี้ลืมอยู่เป็นประจำ พอเห็นเซียวจิ่งถิงทีไร เด็กน้อยก็มักจะลืมคำแนะนำของพี่ใหญ่ไปเสียสนิท
“เล่น เล่น เล่น ในหัวเจ้าคิดได้แค่นี้เองรึ?” เซียวเสี่ยวฟ่านถูกเซียวเสี่ยวตงที่ดูค่อนข้างโกรธดึงแขนออกมา
เซียวจิ่งถิงก้มลงมาลูบหน้าเด็กน้อยประจำบ้าน "พ่อต้องไปที่สวนเพื่อรดน้ำต้นไม้" ในช่วงสองวันที่ผ่านมา อาหารการกินที่บ้านหลังนี้ดีขึ้นมากเลย เซียวเสี่ยวฟ่านดูเหมือนจะอวบขึ้นเล็กน้อย แต่แค่นี้ก็ถือว่าผอมอยู่มาก นั่นทำให้เซียวจิ่งถิงรู้สึกเป็นกังวล
เซียวเสี่ยวตงได้แต่แอบคิดในใจว่าเมื่อก่อนเซียวจิ่งถิงเคยเกลียดการทำไร่ทำสวน แต่ตอนนี้กลับขยันมากขึ้นราวกับเป็นคนละคน
“ข้าก็จะไปด้วย” เซียวเสี่ยวฟ่านกล่าว
เซียวเสี่ยวตงมองที่เซียวเสี่ยวฟ่านและเอ่ยถามน้องชาย “ถ้าไปแล้ว เจ้าจะไปทำอะไรได้?”
เซียวเสี่ยวฟ่านหน้าแดงดเล็กน้อย “ข้าจะนำทางให้พ่อ”
“แล้วเจ้ารู้ทางรึ?” เซียวเสี่ยวตงถาม
เซียวเสี่ยวฟ่านหน้าแดงยิ่กว่าเดิม “ต้องรู้สิ”
เซียวจิ่งถิงมองไปที่ลูกชายคนเล็ก "ถ้าเสี่ยวฟานอยากไปก็ไปด้วยกันเถอะ"
เซียวเสี่ยวตงมองไปที่เซียวจิ่งถิงพร้อมกับพูดว่า “ข้าเองก็จะไปด้วย”
เซียวจิ่งถิงมองลูกคนโตด้วยความประหลาดใจ
เซียวจิ่งถิงหยิบซาลาเปาอีกสามสี่ลูกใส่ตะกร้า ตอนแรกเขานำอาหารมาพอสำหรับคนเดียว หากลูกทั้งสองไปด้วย เขาก็ควรนำไปเยอะกว่านี้
เซียวจิ่งถิงหันไปคุยกับฉีมู่อานบ้าง “เกรงว่าข้าจะได้กลับมาตอนบ่ายๆ ดังนั้นวันนี้เจ้าปรุงเนื้อหมูที่เหลือก็แล้วกัน”
ฉีมู่อานพยักหน้าและตอบตกลง ทว่าหัวใจของเขารู้สึกไม่สบายใจเลย เนื้อที่อีกฝ่ายทำนั้นอร่อยกว่าของเขาเองมาก ทักษะการปรุงเนื้อของเขาเทียบไม่ติดเลยสักนิด เรื่องทำให้อร่อยกว่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้
ให้กำลังใจผู้แปลที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com ด้วยนะขอรับ
ฉีมู่อานได้แต่คิดมากขณะที่เซียวเสี่ยวฟ่านและเซียวเสี่ยวตงติดตามเซียวจิ่งถิงออกไปข้างนอก
ฉีมู่อานมองแผ่นหลังของทั้งสามแล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
เซียวเสี่ยวฟ่านเกาะชายเสื้อของเซียวจิ่งถิงและกระโดดไปรอบๆ ส่วนที่เซียวเสี่ยวตงนั้นทำหน้านิ่งขณะตามทั้งสองไป
เมื่อเห็นว่าพ่อสนิทกับน้องชายมากแค่ไหน หัวใจของเซียวเสี่ยวตงก็เริ่มรู้สึกขมขื่นนิดๆ เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนพ่อเคยรักเขามากกว่า ทว่าตอนนี้กลับไปเอ็นดูน้องชายแทน อย่างไรก็ตาม มันคงจะดีกว่านี้หากพ่อชอบน้องชายมากกว่าลูกของคนอื่น เมื่อตอนที่พวกเขายังอยู่ในบ้านของตระกูลเซียวนั้น พ่อเคยเอ็นดูหลานสาวและหลานซึ่งเป็นลูกๆของญาติมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก แน่นอนว่าเสี่ยวตงรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้
ชิวไป๋มองมาทางสามพ่อลูกที่หัวเราะและเดินไปด้วยกัน สีหน้าชิวไป๋ดูแปลกไปอย่างช่วยไม่ได้
ชิวไป๋มีความรู้สึกว่าเซียวจิ่งถิงนั้นไม่ชอบลูกชายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก เซียวจิ่งถิงยังเคยพูดให้ฟังว่าเซียวเสี่ยวฟ่านไม่ใช่ลูกของตัวเอง ฉีมู่อานนั้นแอบไปนอนกับคนอื่นจนท้อง ตัวเซียวจิ่งถิงก็เลยโดนภรรยาสวมเขา
“จิ่งถิง” ชิวไป๋เรียก
เมื่อเห็นชิวไป๋ เซียวเสี่ยวตงก็เดินมาทางด้านซ้ายของเซียวจิ่งถิงอย่างรวดเร็วและพยายามดึงเสื้อของพ่อไว้ ขณะเดียวกัน เซียวเสี่ยวฟ่านก็เข้าประกบเซียวจิ่งถิงจากทางด้านขวาอีกด้วย
เซียวจิ่งถิงมองท่าทางของลูกๆซึ่งดูราวกกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูจนได้แต่หัวเราะในใจ “ชิวไป๋ เจ้ามีอะไรงั้นรึ?”
ชิวไป๋ส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากแสดงความยินดีกับการที่ครอบครับพี่ล่าหมูป่าตัวใหญ่ขนาดนั้นได้ ต้องขายได้เงินหลายสิบเหรียญแน่ๆเลย”
เซียวจิ่งถิงเข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายทันที ชิวไป๋สนใจแค่เรื่องเงินที่เซียวจิ่งถิงได้มาเท่านั้น “ก็ไม่ขนาดนั้น ข้าขายได้เงินมาเพียงสิบสองเหรียญ เก็บไว้กินเองยังคุ้มกว่าเลย”
“เงินสิบสองเหรียญก็ถือว่าเยอะแล้ว มีมากพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวของท่านไปได้อีกนาน” ชิวไป๋เต็มไปด้วยความอิจฉา เขามองไปทางเซียวจิ่งถิงขณะก้มหน้าลงและเผยให้เห็นสีหน้าเหงาหงอย
หากเป็นเจ้าของร่างคนก่อน เมื่อเห็นชิวไป๋ทำหน้าแบบนี้ก็คงเอ่ยถามแล้วว่าเป็นอะไร ทว่าเซียวจิ่งถิงคนนี้กลับปิดปากเงียบ
ชิวไป๋กำลังรอให้เซียวจิ่งถิงถามไถ่ แต่เขาไม่นึกเลยว่าเซียวจิ่งถิงจะนิ่งเงียบ สุดท้ายจึงต้องพูดออกมาเอง “จิ่งถิง พี่ชายของข้าต้องการแต่งงาน แต่ตระกูลของว่าที่ภรรยานั้นเรียกสินสอดมากถึงยี่สิบเหรียญเงิน ตระกูลของข้ามีเงินไม่พอ ข้าเลยอยากขอยืมเงินสักห้าเหรียญจะได้รึไม่?
“ข้าไม่มีเงินน่ะ” เซียวจิ่งถิงส่ายหน้า
ชิวไป๋มองก้มหน้าลงและพูดต่อ “จิ่งถิง หากท่านไม่ต้องการให้ข้ายืมเงินก็บอกมาตรงๆเถอะ จะมาบอกว่าไม่มีเงินได้อย่างไร? ท่านเพิ่งจะขายหมูไปเองมิใช่รึ?” ที่ฉีมู่อานล่าหมูป่ายักษ์มานั้นเป็นข่าวใหญ่ เป็นไปไม่ได้เลยที่เซียวจิ่งถิงจะไม่รู้เรื่องนี้ ด้วยนิสัยของเซียวจิ่งถิงแล้ว เงินจากการขายหมูต้องตกไปอยู่ในมือของเขาแทนสิ
“ก่อนหน้านี้ข้าเป็นหนี้พนันเยอะมาก ขายหมูได้เงินมาก็ต้องเอาไปใช้คืนบางส่วน ที่ต้องชดใช้ยังเหลืออีกมาก” เซียวจิ่งถิงถอนหายใจ
ชิวไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก “เช่นนั้นข้าจะทำอย่างไรดี ถ้าหากไม่มีเงินจำนวนนี้ พี่ชายของข้าคงไม่ได้แต่งกับนางในฝันแล้ว!”
“งั้นก็ให้พี่เจ้าแต่งเมียที่ถูกกว่านี้หน่อยสิ!” เซียวจิ่งถิงพูดอย่างเฉยเมย
ตัวเขาเองนั้นก็อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เขาจะมีเวลาว่างไปดูแลเรื่องการแต่งงานของพี่ชายคนอื่นได้อย่างไร? นางในฝันคนนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย? ขนาดเขาเองยังต้องนอนแยกห้องกับภรรยาอยู่เลยนะ!
ชิวไป๋มองเซียวจิ่งถิงด้วยความขมขื่น “แต่พี่ข้าชอบแน่นางจากตระกูลนั้นจริงๆนะ”
“หากพี่เจ้าชอบแม่นางคนนั้นจริง เขาต้องหาวิธีได้อย่างแน่นอน ข้ายังมีธุระที่ต้องไปจัดการอีก คงไม่มีเวลามาคุยกับเจ้าแล้ว” เซียวจิ่งถิงพาเซียวเสี่ยวฟ่านและเซียวเสี่ยวตงเดินออกไปทันที