Chapter 47 : บัฟในยามกลางคืน – สุสานแห่งที่33!? + แจ้งข่าว
ตกกลางคืน
ไคลน์ที่เพิ่งจะจัดการข้าวเย็นเสร็จก็มาวางของขายเอาไว้ในตลาดแลกเปลี่ยน
[ผู้ขาย : ไคลน์ 182.56]
[ของที่ขาย : ยารักษาทั่วไป]
[สิ่งที่ต้องการ : หญ้าเรืองแสง 20 , เถาวัลย์สีดำ 20 , หญ้าล่องเหมันต์ 30 , ดอกสีชาด 30]
[จำนวน : 2]
[ข้อความจากผู้ขาย : ยารักษาที่ใช้งานได้ดีมากสามารถรักษาบาดแผลได้ในไม่กี่นาที]
…
[ของที่ขาย : ยาสลบชั้นยอด]
[สิ่งที่ต้องการ : หญ้าล่องเหมันต์ 30 , ดอกจิ้งหรีด 20 , หญ้าโครงกระดูก 20]
[จำนวน : 2]
[ข้อความจากผู้ขาย : ยาสลบที่ใช้ได้3ครั้ง แม้แต่สิ่งมีชีวิตแห่งสุสานเองก็ยังไม่อาจทนไหว]
…
[ของที่ขาย : มีดมาเชเต้ชั้นยอด]
[สิ่งที่ต้องการ : เหล็ก 20]
[จำนวน : 1]
[ข้อความจากผู้ขาย : ราคามิตรภาพถ้าต้องการก็ดึงเลย]
รายการที่เขาวางขายทั้งหมดทั้งมวลก็มีดังนี้
ในบรรดาของพวกนี้ยารักษาและยาสลบถูกตั้งขายเอาไว้ในราคา10เท่าของวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้าง
ถ้ามีคนต้องการจริงๆพวกเขาก็คงจะไปซื้อวัตถุดิบจากผู้ขายคนอื่นๆเพื่อมาแลกเปลี่ยนกับไคลน์อีกที
ด้วยวิธีการนี้ไคลน์ก็จะประหยัดเวลาและลดปัญหาไปได้พอสมควร
ส่วนคนอื่นๆจะรับราคาได้ไหมไคลน์เชื่อว่าต้องมีคนที่รับได้
ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีคนต้องการยารักษาหรือยาสลบแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยารักษาด้วยแล้ว
ควรรู้ด้วยว่าผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเองก็มีไม่ใช่น้อยๆ
“เริ่มมืดสนิทแล้วสิ”
“สงสัยจริงๆว่าเลือดของไนท์วิสเลอร์ที่กินไปวันนี้จะส่งผลอะไรหรือป่าง?”
ไคลน์ยืนพิงระเบียงรับลมกลางคืน เขาปิดตาลงและค่อยๆสัมผัสถึงพลังลึกลับในร่างกายที่กำลังตื่นขึ้นมา
พลังนี้ไม่ได้มาจากรูนแห่งพลังหรือความแข็งแกร่งจากกำไลแห่งพลังแต่อย่างใด
“ดี....ส่งผลจริงๆด้วย!”
ไคลน์กำหมัดแน่น
“ลงไปฝึกดีกว่า!”
เขากระโดดลงไปจากระเบียง
ตึก!
เท้าของเขาล่อนลงบนพื้นอย่างแรงจากนั้นเขาก็นำดาบรูนออกมาและเหวี่ยงตัดสายลมไปมา
เขาใช้เทคนิคการใช้มีดขั้นสูงอยู่ทุกวันและในวันนี้ก็ดูเหมือนว่าเทคนิคการใช้มีดของเขาจะบังเกิดรูปแบบบางอย่าง
แม้ว่ามันจะไม่ได้ว่องไวจนเหมือนประกายแสงแต่ก็แทนที่ด้วยประสิทธิภาพในการฟัน แสดงให้เห็นถึงพลังของตัวตนของดาบรูนได้อย่างชัดเจน
ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เก็บมีดเข้าฝัก
“โชคไม่ดีที่บัฟนี้มีผลแค่กลางคืนและจะหายไปในช่วงกลางวัน!”
ไคลน์ถอนหายใจ
บัฟในช่วงกลางคืนนี้ค่อนข้างจะทรงพลังอยู่เล็กน้อย
ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาถึงสองส่วนเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับช่วงเวลากลางวัน
บัฟนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์แน่นอนเพราะบางครั้งเขาเองก็เลือกจะขุดสุสานตอนกลางคืนเหมือนกัน
จากนั้นไคลน์ก็ตรงกลับไปยังห้องนอนเพื่อพักผ่อน
...
รุ่งเช้าเมื่อไคลน์ตื่นขึ้นมาเขาก็ตรงดิ่งไปที่ระเบียงเพื่อตรวจสอบพืชทั้งสามชนิดที่ปลูกเอาไว้
ต้นขนมปังถูกปลูกหลังสุดดังนั้นตอนนี้มันจึงสูงเพียง1.3เมตรเท่านั้น
ต้นผลไม้หวานเติบโตเป็นไม้เลื้อยออกนอกกระถางจนดูคล้ายกับผมทรงแอฟโฟร่
ดอกด้านบนของมันเติบโตแล้วและก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก็คงจะออกผลตามมา
ข้าวหอมมะลิโตจนสูงราวๆ1.5เมตรและด้านบนก็เต็มไปด้วยผลไม้ลูกอวบอ้วนขึ้นอยู่
ผลของมันแต่ละลูกมีขนาดเท่ากำปั้นเลยทีเดียว
“ไม่ใช่ว่าเป็นข้าวหรอกหรอ?”
เขาตรวจสอบรายละเอียดของผลที่อยู่บนยอดต้นข้าวหอมมะลิ
[ผลของต้นข้าวหอมมะลิที่ยังไม่สุกดี : สถานะ – ยังไม่สุก : ภายในผลนี้เต็มไปด้วยเม็ดข้าวมากมาย เมื่อไหร่ที่มันสุกดีบริเวณผิวของผลจะเริ่มแตกออก ตราบใดที่ท่านเขย่ามันแรงข้าวหอมมะลิก็จะล่วงลงมา]
‘ดูเหมือนว่าต้องรออีกหน่อย พอถึงตอนบ่ายๆก็น่าจะสุกแล้ว’
ทีแรกไคลน์อยากจะกินโจ๊กเป็นอาหารเช้าแต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากไป
ในเช้านี้เขาจึงทำได้เพียงกินเนื้อต่อไปเท่านั้น
หลังจากจัดการอาหารเสร็จจิ้งจอกน้อยก็ไปวิ่งเล่นอยู่รอบๆต้นพืชทั้งสาม เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าหล่อนรู้ดีว่าต้นไม้พวกนี้คืออาหารที่สามารถกินได้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไคลน์และจิ้งจอกน้อยมุ่งหน้ามาจนถึงสุสานแห่งที่สามสิบสาม
นอกจากอสูรหีบสมบัติแล้วก็ไม่มีอันตรายใดอีก
“โฮ่งๆ!”
จิ้งจอกน้อยที่เห็นหีบสมบัติเหล็กสองใบวางอยู่ก็เห่าออกมาอย่างดีอกดีใจ
ไคลน์ยิ่มและหยุดจิ้งจอกน้อยเอาไว้ก่อน
ความสามารถในการปลอมตัวของอสูรหีบสมบัติถือว่าอยู่ในขั้นปรมาจารย์จริงๆ
เมื่อดูจากระยะห่างสิบเมตรเขาบอกไม่ได้เลยจริงๆว่ามันมีปัญหาที่ตรงไหน
ไคลน์เดินเข้าไปในระยะสามเมตรและกวาดสายตามองหีบสมบัติทั้งสองใบ
[หีบสมบัติเหล็ก : หีบสมบัติที่มีระดับสูงกว่าหีบสมบัติทองแดงหนึ่งระดับ ตามปกติแล้วมักจะพบกับไอเทมที่ทำให้ประหลาดใจได้เล็กน้อยเมื่อเปิดออกหรือบางทีก็อาจจะเจอกับอันตรายที่ซ่อนเอาไว้ก็เป็นได้]
ข้อมูลที่แสดงออกมาก็เป็นข้อมูลแบบเดียวกันทุกประการและบอกไม่ได้เลยว่าหีบใดคืออสูนหีบสมบัติ
ยังไงก็ตามคำใบ้สีทองกลับบอกใบ้รายละเอียดของหีบสมบัติทั้งสองใบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
[ภายในหีบสมบัติเหล็กนี้มีของดีอยู่ภายใน – ไม่มีอันตราย]
[อสูรหีบสมบัติที่ปลอมตัวเป็นหีบสมบัติ – จงระวังเขี้ยวอันแหลมคมของมัน]
‘ดี...ฝั่งขวาสินะ ส่วนฝั่งซ้ายคือหีบสมบัติปกติ!’
ไคลน์หยิบหน้าไม้รูนขึ้นมาเล็งไปที่อสูรหีบสมบัติโดยไม่เอ่ยอะไรให้มากความ
จากนั้นเขาก็ยิงลูกดอกออกไป
จิ้งจอกน้อยมองภาพนี้ด้วยสายตาสับสน
วินาทีต่อมาอสูรหีบสมบัติที่อยู่เงียบๆมาตลอดก็กระเด้งขึ้นมา
มันจับจ้องมองมาที่ไคลน์ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด
นอกจากดวงตาของมันแล้วมันยังมีขาอีกสี่ข้างและมีความสามารถในการกระโดดอันยอดเยี่ยมอีกด้วย
ปากขนาดใหญ่ของมันอยู่ระหว่างฝาหีบกับก้นหีบนั่นเอง
ในตอนนี้เองที่มันอ้าปากออกเผยให้เห็นเขี้ยวคมๆสองแถวที่ดูราวกับฟันฉลาม
“ไม่คิดจะปลอมตัวเป็นหีบต่อรึไง?”
ไคลน์หัวเราะพร้อมเปลี่ยนอาวุธในมือให้กลายเป็นดาบรูน
ทันใดนั้นเองประกายแสงเย็นเยียบสายหนึ่งก็วาบผ่าน
อสูรหีบสมบัติถูกแยกเป็นสองส่วนโดยที่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง!
ควรรู้ด้วยว่าร่างกายของเจ้าหมอนี่ทรงพลังในระดับเดียวกับเหล็กเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณดาบรูนที่คมพอจะตัดผ่านชั้นเหล็กและความแข็งแกร่งของไคลน์ที่มีมากพอจะฟันผ่านชั้นผิวหนังของมัน ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงไม่อาจแยกมันเป็นสองส่วนแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
“โฮ่งๆๆ”
จิ้งจอกน้อยกระโดดไปมาด้วยความแตกตื่น
อสูรหีบสมบัติที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนค่อยๆล้มลงบนพื้นพร้อมกับปรากฏเลือดสีดำเจิ่งนองออกมา
[แจ้งเตือนจากระบบ : ดวงวิญญาณ +2]
ไคลน์จัดการเก็บซากของอสูรหีบสมบัติต่อ
จากนั้นก็ย่อยเลย
[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื้ออสูรหีบสมบัติ +1]
[แจ้งเตือนจากระบบ : เลือดอสูรหีบสมบัติ + 100มิลลิลิตร]
[แจ้งเตือนจากระบบ : เหล็ก +10]
เจ้าหมอนี่ไม่ได้มีเนื้อมากนักจึงย่อยออกมาได้เหล็กซะเป็นส่วนใหญ่ ช่างแปลกประหลาดซะจริง
[TL : ดาบรูนคือมีดนะครับแต่ทางengใช้คำว่าbladeไม่ใช่knifeผมเลยแปลออกมาว่าใบดาบรูนแต่ตอนหลังย่อลงมาเหลือแค่ดาบรูนขอให้เข้าใจตามนี้แล้วกันส่วนตั้งแต่ตอนหน้าจะเปลี่ยนเป็นมีดรูนแล้ว ส่วนอสูรหีบสมบัติเผื่อหลายๆท่านไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไงลองเสิร์ชกูเกิ้ลว่า mimic darksoul ก็ได้ครับผมคิดว่าน่าจะเหมือนๆกัน]
แจ้งข่าวเล็กน้อยนะครับ
คือต้องขอเกริ่นก่อนว่าปกติผมแปลนิยายเนี่ยจะแปลไปอ่านไปล่วงหน้าไม่เกิน5-10ตอนของนิยายที่แปล แล้วทีนี้พอผมแปลถึงตรงนี้แล้วไปอ่านตอนที่53เนื้อเรื่องมันเริ่มแปลกๆแล้วก็เลยลองไปดูคอมเม้นต์ในเว็บนอกกลายเป็นว่าคนแปลengเขาตัดเนื้อหาสำคัญๆทิ้งหมดเลยแถมหลังจากตอนที่53เป็นต้นไปก็แทบจะแต่งเองทั้งหมดไม่ได้อิงจากเนื้อหาตอนที่ผ่านๆมาเลยซักกะนิด อย่างตอนที่มีคนเคยบอกว่ามีช่วงนึงที่หยุดฝึกไปครึ่งเดือนก็เป็นอีตาคนแปลengนี่แหละที่แต่งเองเพราะผมลองเช็คในrawแล้วพบว่ามันไม่มีตอนที่ว่าเลย ทีนี้ให้ผมไปแปลจากจีนก็คงไม่ไหวดังนั้นขอดร็อปนิยายเรื่องนี้เอาไว้แค่ตอนที่52นะครับ
ปล.1อย่าพึ่งตกใจไปเพราะหลังจากนี้จะย้ายไปแปลอีกเรื่องที่เนื้อหาคล้ายๆกันแทน(แทบจะก็อปเลยแหละ)ดังนั้นท่านใดที่ไม่คิดมากขอให้ย้ายบ้านตามกันไปด้วยนะครับ
ปล.2เดี๋ยวผมจะมาทิ้งชื่อนิยายเรื่องใหม่เอาไว้ให้ในวันที่ลงตอนที่52นะครับขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ