ตอนที่ 81 ออร่าตกค้าง
ตอนที่ 81 ออร่าตกค้าง
หลังจากนำม้าไปคืนที่คอกม้าเฟรเดริกกายก็ตรงกลับร้านไร้ขอบเขตในทันที กายจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำจนกระทั่ง 4 ทุ่มตรง กายก็ลงไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านและลงมือจัดการของรางวัลที่ได้มาในวันนี้
กายเริ่มจากธนูโลหะระดับ 4 พอเปิดกล่องไม้ ด้านในมีธนูโลหะที่ยังไม่ขึ้นสายยาวปีกบนถึงปีกร่างประมาณ 1.4 เมตร ซึ่งถือว่ายาวมากพอสมควร แต่ด้วยส่วนสูงของกายก็สามารถใช้ธนูโลหะนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา ด้านในกล่องยังมีลูกศรโลหะ 12 ดอกที่มีหัวศรเงางาม ถ้าโดนศรพวกนี้ยิงใส่พร้อมด้วยศิลปะการต่อสู้ เจาะทะลวง บางทีเกราะเกล็ดทมิฬคงไม่อาจจะต้านมันได้
นอกจากนั้นยังมีสายธนูที่ทำจากเอ็นของสัตว์ถักทอกับเส้นโลหะและสายขึ้นคันพร้อมด้วยอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น ต้องบอกว่าในกล่องมีของทุกอย่างครบครันเลยทีเดียว
“ค่าสถานะอาวุธ”
“ธนูโลหะของกองทัพนครดาราฟ้า”
“ระดับ 4”
“ความสัมพันธ์กับธนู 15%”
“ผู้สร้าง เอ็กกัส”
“เอ็กกัส คงจะเป็นช่างโลหะที่ทำงานให้กับกองทัพของนครดาราฟ้า” กายไม่รู้จักช่างโลหะคนนี้ แต่ธนูนี่ถูกสร้างมานานแล้วบางทีช่างโลหะที่ชื่อเอ็กกัส อาจจะกลายเป็นอาจารย์ช่างโลหะไปแล้ว
กายวางมือลูบไปตามคันธนูโลหะที่เย็นยะเยือก ก่อนจะดึงมือกลับปิดฝากล่องไม้และหันไปสนใจที่กล่องของดาบหักสังหาร
ทันทีที่กายเปิดฝากล่องขึ้นมามันก็รู้สึกราวกับบรรยากาศในห้องหนาวเย็นขึ้นมาอย่างผิดปกติ กายถึงกับหรี่ตามองภายใต้แสงของตะเกียงน้ำมันไฟ เนื่องจากตัวดาบหักสังหารที่วางอยู่ในกล่องนั้นมันเหมือนกับมีคราบเลือดเปื้อนเปรอะอยู่ ทันใดนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกจากกล่องตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนที่ดังไปทั่วทั้งโรงตีเหล็ก
นี่มัน...
กายหันหลังไปมองรอบห้องตอนนี้รอบตัวของกายเป็นสนามรบไปแล้วมันมีแต่การฆ่าฟัน สงคราม และความตาย กลิ่นเน่าของซากศพที่ทับถมกัน แต่ผ่านไปไม่ถึงสามวินาทีภาพทุกอย่างก็หายไป
เดี๋ยวไม่ถูกต้อง...
ในตอนนั้นเอง กายก็ต้องตกใจเพราะมันพึ่งรู้ตัวว่ามือของตนไม่ได้จับที่ฝากล่อง แต่กำลังถือดาบหักสังหารอยู่ในมือ กายจับไปที่ดาบหักสังหารและถือขึ้นมาตอนไหนก็ไม่ทราบ
กายวางดาบหักสังหารลงในทันที
“ภาพลวงตา ไม่น่าใช่น่าจะเป็นออร่าของดาบที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นอิทธิพลจากดาบที่เคยเป็นระดับ 7 หรือ 8 มาก่อน แม้ระดับมันจะต่ำลงมาบ้าง แต่สิ่งที่ดาบเคยสังหารผู้คนและสิ่งชีวิตไปจำนวนมากนั้นไม่อาจจะปฏิเสธได้”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ดาบก่อนจะตัดสินใจยกดาบขึ้นมาอีกครั้ง มันไม่มีภาพลวงตาหรือออร่าที่สะกดกายอีก
น่าสนใจ...
กายถือดาบและวิเคราะห์มัน
“หลังจากที่ดาบช่วงปลายหักครึ่งไป ก็เหลือความยาวแค่ 30 นิ้ว ถ้าดาบยังไม่หักมันคงยาวเหมือนพวกดาบฟันขาม้าที่ยาวถึง 47 -48 นิ้ว แต่ก็ถือว่ายาวมากสำหรับดาบทั่วไปแล้ว ดังนั้นต่อให้หักไปก็คงจะไม่มีปัญหา ถ้าดาบสามารถซ่อมแซมได้และมีจิตวิญญาณในดาบอีกครั้ง มันน่าจะสามารถกลับไปที่ระดับเดิมได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่ไม่สามารถทำได้...”
“ถึงจะเป็นแบบนั้น ดาบนี้ถ้านับในเรื่องวัสดุมันก็คือดาบที่มีวัสดุเทียบเท่าระดับ 7 หรือไม่ก็8 สามารถเทียบเท่ากับดาบระดับ 5 ขั้นสูงสุดได้สบาย ส่วนสีมันเป็นสีดำเทาออกสีคล้ำของเลือดหน่อย ๆ น่าจะมาจากสีของเลือดที่แห้งติดกับดาบในตอนที่เจ้าของคนก่อนใช้มันสู้รบในสงคราม หรือไม่ก็อาจจะเพราะตัวดาบที่แช่อยู่ในเลือดและซากศพของสงครามจนกระทั่งใครสักคนไปเจอมัน แต่เบื้องบนของสถาบันกลับประเมินมันเป็นแค่สมบัติระดับ 5 ที่สามารถมอบให้กับนักเรียนของสถาบันเป็นรางวัลได้ น่าจะเพราะศักยภาพของดาบมีจำกัด แต่เราก็ชอบมัน”
กายเหวี่ยงดาบไปมาเพื่อทดสอบสองสามครั้ง แม้น้ำหนักขนาด 40 กิโลกรัมจะทำให้ท่าทางของกายเงอะงะไปบ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะกายกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง
“สถานะอาวุธ”
“ดาบหักสังหาร(เสียหาย)”
“ระดับ 5/9”
“ความสัมพันธ์กับดาบ 40%”
“ผู้สร้าง โดโก”
กายมองค่าความสัมพันธ์ที่สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์
สูงมากบางทีอาจจะเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนแรก ถ้าใช้มันจนชินมืออาจจะมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์... ส่วน 5/9 ตัวหน้าน่าจะหมายถึงระดับของอาวุธในปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นตัวเลขข้างหลังคือระดับก่อนที่มันจะเสียหาย
เฮ้ย..เดี๋ยวสิใหนข้อมูลที่เขียนหน้ากล่องไม้บอกว่ามันอาจจะเป็นระดับ 7หรือไม่ก็ 8 แต่นี่มันระดับ 9
“ฮ่า! ๆ สุดยอด!!...เราได้ดาบเสียหายระดับ 9 มา” กายยิ้มไม่หุบ มันรู้สึกพอใจและไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจเลือกดาบหักสังหาร ถ้าไม่ใช่ผู้เล่นที่เรียกค่าสถานะของอาวุธมาตรวจสอบได้ ก็ยากที่จะบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นระดับ 9 มาก่อน
“ถึงว่าทำไมออร่าที่ตกค้างในดาบถึงส่งผลต่อรุนแรงต่อเราแม้จะเพียงแค่เปิดมันขึ้นมาในตอนแรกจนมันสะกดให้เราถือดาบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ถ้ามันสมบูรณ์จะมีพลังขนาดไหน”
เมื่อเก็บดาบหักสังหารเข้าไปที่เดิม กายก็ตัดสินใจจะเอาม้วนสำเนาของศิลปะการต่อสู้ขึ้นไปอ่านที่ห้องนอน เพราะตอนนี้ยังพอมีเวลาให้กายอ่านอยู่ก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน
ม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดเปิดออก มันมีบันทึกตั้งแต่ขั้น 1 ไปจนถึงขั้น 3 ซึ่ง ถ้ากายเลือกม้วนที่เป็นระดับ 4 มันก็จะบันทึกไปจนถึงระดับ 4 แทนที่จะแยกไปหนึ่งม้วนสำเนาต่อหนึ่งขั้น ม้วนสำเนาที่ทางสถาบันศาสตร์นักรบทำขึ้นมักจะเป็นแบบนี้ เพื่อให้นักเรียนโดยเฉพาะ
กายไม่สนใจ เพราะไม่ว่าอย่างไหนเขาก็ยินดีที่ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้พวกนี้
สิ่งที่บันทึกไว้นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ดังเดิมที่สุด นั้นหมายถึงมันมีแต่เนื้อหาโดยตรง ไม่ได้มีความเห็นหรือการดัดแปลงอะไรจากนักรบคนอื่น ๆ ดังนั้นถ้ากายจะฝึกก็ต้องไปวิเคราะห์และตีความเอาเอง
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว เพราะในบางครั้งการเรียนรู้ด้วยตนเองแม้มันจะยากแต่ก็กลายเป็นการปูพื้นฐานในศิลปะการต่อสู้นั้น ๆ ได้อย่างดี
“อ่านเพื่อเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้น 1”
“อ่านเพื่อเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้น 2”
“อ่านเพื่อเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้น 3”
กายกวาดสายตาไปตามม้วนสำเนาก็มีข้อความแจ้งเตือนจากระบบขึ้นมา
ถ้าเรียนกับ NPC จะต้องสั่งการสอน ถ้าอ่านจากม้วนสำเนาหรือหนังสือก็เพียงแค่อ่านสินะ แต่จากการสอนค่าประสบการณ์จะพัฒนาขึ้นไปพร้อมกัน ส่วนอ่านจากหนังสือหรือม้วนสำเนาจะต้องอ่านให้จบก่อนถึงจะฝึกเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ได้
กายไม่รอช้าลงมืออ่านในทันที...
จนกระทั่งเที่ยงคืนมาเยือนก็หมดในโลกราชันของวันนี้แล้ว
...
เวลา 00 : 00 วันที่ 26 เมษายน ปีที่ 70 หรือตรงกับเวลาในโลกราชันก็คือวันที่ 9 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ในโลกราชัน
หลังจากกายล็อกอินออกไปและเข้ามาเล่นในอีกวัน ตัวของกายยังถือม้วนสำเนาไว้อยู่
สองสัปดาห์ที่เข้าเล่นเกมราชัน มันเหมือนผ่านมาเดือนกว่าไม่มีผิด คงต้องบอกเพราะเราเริ่มชินการใช้ชีวิตในโลกราชันมากกว่าโลกภายนอกมากแล้ว...
กายยิ้มมุมปากก่อนจะส่ายหัวแล้วหันมาอ่านม้วนสำเนาที่อยู่ในมือต่อ
“การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังนั้น คือการเพิ่มพละให้กับร่างกาย เป็นหนึ่งในการฝึกฝนร่างกายที่สืบทอดมาจากโบราณ ว่ากันว่าร่างเนื้อของมนุษย์แฝงไว้ด้วยความสามารถที่ไม่อาจจะคาดเดา เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ...”
“สิ่งมีชีวิตอื่นนั้นสืบทอดวิธีการควบคุมพวกมันผ่านสัญชาตญาณ.... มนุษย์เรานั้นไม่ใช่ ดังนั้นเราจึงหาทางและฝึกฝน จนในที่สุดก็เป็นรูปแบบของการปลดล็อกขีดจำกัด เหตุที่ต้องแบ่งเป็นชั้นก็เพื่อรักษาสมดุลและการทำให้ร่างกายเคยชิน เพราะไม่เช่นนั้น ร่างอาจจะระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ ได้จากการฝืนข้ามขีดจำกัดของระดับ”
“ขั้นแรกของการฝึกฝนคือรูปแบบเพิ่มพลังให้กับร่างกาย... หลังจากการสำเร็จขั้นที่หนึ่งพละกำลังจะเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากปกติ...”
กายอ่านการจนจบขั้นแรก ในตอนนั้นเองข้อความของระบบก็ดังขึ้น
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้นที่ 1 สำเร็จ”
แต่เขายังไม่หยุดแค่นั้นกายยังอ่านขั้นที่สองต่อไปจนกระทั่ง ข้อความของระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้นที่ 2 สำเร็จ”
กายเลือนสายตาไปที่ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง ขั้น 3 แต่แล้วก็เกิดบางสิ่งขึ้นนั้นก็คือ เขาไม่สามารถอ่านมันได้ พูดให้ถูกคือแม้จะอ่านแต่ไม่อาจจะเข้าใจ ภาพจำมันจะเบลอหายไปในเวลาไม่กี่วินาที
“เป็นแบบเดียวกับครั้งที่เราอ่าน ทุบ ขั้น 3 ตอนที่ยังฝึกฝนไม่ถึงขั้น 2 นั้นหมายความว่า ต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังจนถึงขั้นที่ 2 ก่อนถึงจะอ่านขั้นต่อไปได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ต่อให้มี ขั้น 3 หรือขั้นอื่น ๆ มันก็เป็นเพียงกระดาษที่ไร้ค่า”
เมื่อรู้ดังนั้นกายก็ไม่ฝืนอ่านต่อ เขาหยิบม้วนสำเนาศิลปะการต่อสู้ ความเร็วขึ้นมาอ่านต่อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเนื้อหาคล้ายกับของการปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง เพียงแต่การฝึกฝนเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด ความเร็ว ขั้นที่ 1 สำเร็จ”
“ผู้เล่นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด ความเร็ว ขั้นที่ 2 สำเร็จ”
และก็เหมือนเช่นเคย กายไม่สามารถอ่านเนื้อหาของขั้นที่ 3 ได้ เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ก่อนหน้า
กว่าจะรู้ตัวตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 2 ครึ่งในโลกราชันแล้ว กายดับตะเกียงน้ำมันไฟ และหลับตาลงนอน แม้เขาจะเป็นนักรบฝึกหัดขั้น 2 แล้วแต่ก็ควรจะพักผ่อนบ้าง
เช้าวันต่อมาทั้งนาธานและมิล่าต่างมาที่ร้านก่อนเวลาเปิดหนึ่งชั่วโมง ส่วนหนึ่งก็เพื่อเข้ามาช่วยกายในโรงตีเหล็ก และสังเกตการทำงานของกายเพื่อเรียนรู้
กายไม่ได้ห้ามและนั้นทำให้การทำงานของเขาเร็วขึ้นไปอีกเมื่อมีผู้ช่วย...
การทำงานหยุดลงจนกระทั่งช่างไม้กิลเดินทางมาถึงของและกล่องไม้ยังไม่ต่างจากเดิมมากนัก ช่างไม้กิลยังทำมามากกว่าเดิมอีกเท่าตัว นอกจากนั้นยังมีพวกสายและเครื่องหนังพร้อมด้วยปลอกมีดสั้น กายให้มิล่าจัดพวกมันไปวางที่มุมหนึ่งของชั้นวางของภายในร้านที่จัดเตรียมไว้
หลังจากทุกอย่างจัดการเสร็จกายก็ปล่อยให้มิล่าและนาธานอยู่หน้าร้าน ส่วนตัวเขานั้นกลับไปที่โรงตีเหล็กหลังร้านในสถานที่ร้อนระอุที่สุดก่อนจะจัดการเก็บกวาดของจนมีพื้นที่กว้างให้สามารถทำการฝึกฝนได้
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้น 0/2 (0%)” กายนึกถึงวิธีการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่เคยอ่านมาเมื่อคืนนี้
กายหลับตาลง ปรับรูปแบบการหายใจและเริ่มรวบรวมพละกำลังของร่างกายที่มีทั้งหมด...