ตอนที่แล้วChapter 44 : ได้เข็มขัดแห่งความว่องไวระดับสมบูรณ์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 46 : อสูรกล่องสมบัติ – เมล็ดต้นขนมปัง!

Chapter 45 : สร้างเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่อง


ภายในฐานรูน

ไคลน์ในตอนนี้กำลังดูรายละเอียดของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ย

[ปุ๋ยชั้นเยี่ยม : เนื้อ32/1 , เลือด 2200/200มิลลิลิตร , หญ้าเรืองแสง 26/4]

ไคลน์วางขายเนื้อและเลือดในตลาดแลกเปลี่ยนไปส่วนหนึ่งและส่วนที่วางขายนั้นจะไม่นับรวมอยู่ในปริมาณที่แสดงในหน้าเมนูการสร้างไอเทม

เลือดหรือเนื้อที่เหลืออยู่ในกระเป๋าส่วนใหญ่แล้วเขาเอาไว้กินเองหรือไม่ก็มีเอฟเฟคพิเศษทั้งสิ้น

เลือดและเนื้อของอสูรกลืนทรายถูกไคลน์วางขายไปในตลาดแลกเปลี่ยนแล้วแต่ยังขายไม่ออกดังนั้นเขาจึงยกเลิกรายการขายไป

ไคลน์ตระเตรียมที่จะใช้พวกมันทั้งหมดเพื่อทำเป็นปุ๋ยนั่นเอง

อสูรกลืนทรายมีเนื้ออยู่ห้าชิ้นและมีเลือดอยู่1.2ลิตร

ทั้งหมดนี้พอที่จะสร้างปุ๋ยได้ห้าชุด

ทำการเลือก

การสร้างเสร็จสิ้น

[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื้อของอสูรกลืนทราย -15 , เลือดของอสูรกลืนทราย –1ลิตร , หญ้าเรืองแสง -20]

[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างปุ๋ยชั้นเยี่ยม5ชุดเสร็จสิ้น]

ไคลน์จัดการยัดปุ๋ยทั้งหมดลงไปในถังไม้

ปุ๋ยจำนวนห้าชุดนี้มีปริมาณค่อนข้างมากทีเดียว

หน้าตาของพวกมันดูไม่ดีเท่าไหร่นักและดูคล้ายกับเนื้อบดเล็กน้อย

โชคดีที่กลิ่นมันไม่เลวร้ายมากนักดังนั้นจึงพอจะวางเอาไว้ในบ้านได้

ปุ๋ยแต่ละชุดสามารถใช้ได้สองครั้ง

จากนั้นไคลน์ก็นำพวกมันไปที่ระเบียง

ข้าวหอมมะลิและผลไม้หวานที่เขาปลูกเอาไว้เมื่อเช้ากำลังเติบอย่างรวดเร็วภายใต้การกระตุ้นของกระถางปลูกพืช

โดยรวมแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นแต่ข้าวหอมมะลิกลับงอกหน่ออ่อนขึ้นมาสูงถึงสิบเซนติเมตรเห็นจะได้แล้ว

ผลไม้หวานเองก็เป็นเช่นเดียวกัน

ไคลน์คิดอยู่ซักพักก่อนจะพูดขึ้น “ด้วยอัตราการเติบโตแบบนี้น่าจะเข้าสู่ออกดอกออกผลได้พรุ่งนี้เลยรึเปล่าเนี่ย? ถ้าฉันเพิ่มปุ๋ยเข้าไปตอนนี้สงสัยจริงๆว่าพรุ่งนี้น่าจะได้เห็นผลไม้เป็นลูกๆแล้วมั้ง?”

ไคลนืเดาะลิ้นและกล่าวชื่นชมออกมา

เขาไม่รู้จริงว่าปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเมล็ดหรือเอฟเฟคของกระถางปลูกพืชแต่อัตราการเติบโตของพวกมันถือว่าเร็วจริงๆ

ไคลน์กล่าวเบาๆ “ใช้งานปุ๋ย”

ไคลน์จัดการใส่ปุ๋ยเข้าไปในกระถางทั้งสองเป็นจำนวนมาก

[แจ้งเตือนจากระบบ : ปุ๋ยชั้นเยี่ยม -1]

ตอนนี้เขาเหลือปุ๋ยอยู่4ชุดแล้ว

“ด้วยปุ๋ยจำนวนมากขนาดนี้ก็น่าจะพอให้พวกมันใช้ไปได้อีกหลายวัน”

ไคลน์จัดการเก็บถังไม้กลับและเดินออกจากระเบียงไปหลังจากตรวจสอบสภาพของต้นอ่อนทั้งสองอยู่หลานนาที

เขาเดินลงมาชั้นล่างอีกครั้งและเรียกเครื่องกลั่นน้ำออกมา

ไคลน์จัดแจงใส่ไม้60ชิ้นเข้าไปในเครื่องกลั่นน้ำในครั้งเดียวซึ่งไม้จำนวนขนาดนี้สามารถเปิดใช้งานเครื่องกลั่นน้ำได้ราวๆ15ชั่วโมง

หรือก็คือในท้ายที่สุดเขาจะได้น้ำมาทั้งหมด5250มิลลิลิตรนั่นเอง

‘น้ำแค่นี้พอใช้ได้แค่วันเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นคงต้องมีเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่อง’

ไคลน์เปิดเมนูการสร้างไอเทมขึ้นมา

คราวนี้เขาเลือกไปที่เครื่องกลั่นน้ำ

[เครื่องกลั่นน้ำชั้นเยี่ยม : ทองแดง 76/4 , เหล็ก 68/6 , ไม้ 25/2 , รูนน้ำ 7/1 , รูนไฟ 5/1]

จากนั้นเขาก็เลือกสร้าง

ไม่นานนักเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่องก็ปรากฏออกมา

ไคลน์ในตอนนี้เหลือไม้ไม่มากนักดังนั้นเขาจึงเปิดหน้าตลาดแลกเปลี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง

ไคลน์เลือกใช้น้ำ500มิลลิลิตรเพื่อแลกกับไม้จำนวน50ชิ้นตามเรทราคาตลาด

ในช่วงสองวันก่อนเขาสามารถแลกไม้1ชิ้นได้ด้วยน้ำ20มิลลิลิตรและหลังจากที่ในตลาดเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงจึงทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมันลดลงอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดก็ตกไปเหลือ1ต่อ10

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีทีท่าว่าเรทราคานี้จะตกลงไปเรื่อยๆอีกด้วย

เทียบกันแล้วน้ำมีค่ามากกว่าไม้เยอะ

แน่นอนว่าจำนวนคนขายไม้ก็มีมากขึ้น

ยิ่งมีปริมาณการใช้งานมากขึ้นเท่าไหร่ก็เป็นธรรมดาที่ราคาจะตกลงมากเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาถึงวันนี้ด้วย

ไคลน์เดาว่าน่าจะเป็นคนอื่นๆเริ่มรวมทีมกันนั่นเอง

การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทรัพยากรที่ได้จะไม่ลดลงเท่านั้นแต่ยังเพิ่มขึ้นด้วย

ชัดเจนแล้วว่าการรวมทีมคือหนทางที่ถูกต้องในการเอาชีวิตรอดในโลกแห่งสุสานจริงๆ

“เติมไม้60ชิ้นในเครื่องกลั่นน้ำเครื่องที่2”

“คงต้องสร้างถังน้ำเพิ่มแล้วมั้งเนี่ย”

หลังจากไคลน์จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็นำจิ้งจอกน้อยออกไปจากฐานรูน

ช่วงบ่ายของวันนี้ยังอีกยาวนาน

เวลาไม่อาจปล่อยทิ้งดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนต่อ!

จิ้งจอกน้อยอยากจะกลับไปน้อยแต่ไคลน์กลับบ่นให้เธอมาฝึกตามปกติ แม้ว่าเจ้าหล่อนจะพยายามออดอ้อนแต่ก็ไร้ประโยชน์

ช่วงเวลาการฝึกสามชั่วโมงผ่านไปอย่างช้าๆ

ไคลน์อุ้มจิ้งจอกน้อยที่หมดแรงกลับเข้าฐานรูน

ในตอนนั้นเอง

ภายในช่องแชทก็เดือดระอุขึ้นมาเนื่องจากไคลน์อีกครั้ง!

เหตุผลก็เรียบง่ายมาก

เพราะฐานรูนของไคลน์คือปราสาทนั่นเอง!

ข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกไปเป็นที่เรียบร้อย

ราวๆห้านาทีก่อนเมื่อทีมของชาร์ลหยุดพักจากการขุด พอลก็เปิดหน้าต่างช่องแชทขึ้นมาและรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเล็กน้อยถ้าไม่ได้ไปเม้าท์มอยซักหน่อย

เพื่อนร่วมทีมของเขาทั้งสองคนโฟกัสอยู่ที่การพักเอาแรงอย่างเดียวดังนั้นไคลน์ที่ไม่มีเพื่อนคุยจึงไปที่ช่องแชทภูมิภาคเพื่อคุยกับผู้เล่นคนอื่นๆ

มีผู้เล่นคนหนึ่งมาอวดว่าฐานรูนของเขาได้ถูกซ่อมแล้วเขาจึงถูกผู้เล่นคนอื่นๆเรียกว่าผู้ทรงอำนาจ กระทั่งว่ามีคนเอาคนผู้นี้ไปเทียบกับไคลน์เลยด้วยซ้ำ

พอลเองก็ถูกหมอนี่หลอกมาเมื่อสองวันก่อนดังนั้นเขาจึงเข้าไปอวดเรื่องฐานรูนที่มีลักษณะเหมือนปราสาทของไคลน์ในทันที

เมื่อตอนกลางวันไคลน์เคยพูดถึงปราสาทที่ว่ามาแล้วและในตอนนั้นคนอื่นๆก็คิดว่าปราสาทนั่นคือสิ่งก่อสร้างพิเศษในสุสาน

ตอนนี้เมื่อเขาออกมาพูดอีกครั้งกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

ปราสาทนั่นไม่ใช่สิ่งก่อสร้างในสุสานเลยแม้แต่น้อยแต่เป็นฐานรูนของบิ๊กบอสไคลน์!

หินเพียงก้อนเดียวนี้ทำให้เกิดคลื่นยักถาโถม

ไม่นานนักข่าวนี้ก็ดังไปจนถึงช่องแชทโลก

ทุกๆคนล้วนมีเครื่องหมายคำถามเต็มหัว

“อะไรนะ? ฐานรูนของบิ๊กบอสคือปราสาทโบราณ? ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย?”

“จากปากของคนที่เห็นมาดูเหมือนว่าจะคล้ายกับฐานรูนมากทีเดียวเพราะเวลาเรียกเก็บมันจะกลายเป็นลำแสงนับร้อยนับพันเส้นและหายไปในพริบตาเช่นเดียวกับฐานรูนทั่วๆไป”

“ไม่จริงหรอก มีพวกนายคนไหนมีฐานรูนเป็นปราสาทโบราณหรือสิ่งก่อสร้างรูปแบบอื่นๆมั่งไหมล่ะ? ของชั้นเองยังเป็นแค่บ้านหินเล็กๆที่ไม่รู้จะพังเมื่อไหร่เลย!”

“ชั้นก็ด้วย ทุกๆวันนี้อ่ะนะฉันยังต้องนอนขดตัวอยู่เลยเพราะไม่อย่างนั้นคงยัดตัวเองเข้าไปในฐานรูนไม่พอ”

“พี่ใหญ่ไคลน์ช่วยออกมาพูดอะไรหน่อยเถอะ! นี่มันอะไรกันแน่? ฉันรู้นะว่าฐานรูนไม่มีทางกลายเป็นปราสาทโบราณหลังจากที่ซ่อมน่ะ”

“พวกเราอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆส่วนเขาอาศัยอยู่ในปราสาทหรูหรา...ดีจังเนอะ”

หลังจากผ่านไปซักพักหลายๆคนก็หวนนึกถึงสถานการณ์ของตัวเองจนอดรู้สึกเศร้าไม่ได้

พวกเขาถูกส่งมาที่นี่เพื่อเอาชีวิตรอดแต่ไคลน์กลับมาที่นี่เพื่อพักร้อน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด