Chapter 45 : สร้างเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่อง
ภายในฐานรูน
ไคลน์ในตอนนี้กำลังดูรายละเอียดของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ย
[ปุ๋ยชั้นเยี่ยม : เนื้อ32/1 , เลือด 2200/200มิลลิลิตร , หญ้าเรืองแสง 26/4]
ไคลน์วางขายเนื้อและเลือดในตลาดแลกเปลี่ยนไปส่วนหนึ่งและส่วนที่วางขายนั้นจะไม่นับรวมอยู่ในปริมาณที่แสดงในหน้าเมนูการสร้างไอเทม
เลือดหรือเนื้อที่เหลืออยู่ในกระเป๋าส่วนใหญ่แล้วเขาเอาไว้กินเองหรือไม่ก็มีเอฟเฟคพิเศษทั้งสิ้น
เลือดและเนื้อของอสูรกลืนทรายถูกไคลน์วางขายไปในตลาดแลกเปลี่ยนแล้วแต่ยังขายไม่ออกดังนั้นเขาจึงยกเลิกรายการขายไป
ไคลน์ตระเตรียมที่จะใช้พวกมันทั้งหมดเพื่อทำเป็นปุ๋ยนั่นเอง
อสูรกลืนทรายมีเนื้ออยู่ห้าชิ้นและมีเลือดอยู่1.2ลิตร
ทั้งหมดนี้พอที่จะสร้างปุ๋ยได้ห้าชุด
ทำการเลือก
การสร้างเสร็จสิ้น
[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื้อของอสูรกลืนทราย -15 , เลือดของอสูรกลืนทราย –1ลิตร , หญ้าเรืองแสง -20]
[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างปุ๋ยชั้นเยี่ยม5ชุดเสร็จสิ้น]
ไคลน์จัดการยัดปุ๋ยทั้งหมดลงไปในถังไม้
ปุ๋ยจำนวนห้าชุดนี้มีปริมาณค่อนข้างมากทีเดียว
หน้าตาของพวกมันดูไม่ดีเท่าไหร่นักและดูคล้ายกับเนื้อบดเล็กน้อย
โชคดีที่กลิ่นมันไม่เลวร้ายมากนักดังนั้นจึงพอจะวางเอาไว้ในบ้านได้
ปุ๋ยแต่ละชุดสามารถใช้ได้สองครั้ง
จากนั้นไคลน์ก็นำพวกมันไปที่ระเบียง
ข้าวหอมมะลิและผลไม้หวานที่เขาปลูกเอาไว้เมื่อเช้ากำลังเติบอย่างรวดเร็วภายใต้การกระตุ้นของกระถางปลูกพืช
โดยรวมแล้วเวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นแต่ข้าวหอมมะลิกลับงอกหน่ออ่อนขึ้นมาสูงถึงสิบเซนติเมตรเห็นจะได้แล้ว
ผลไม้หวานเองก็เป็นเช่นเดียวกัน
ไคลน์คิดอยู่ซักพักก่อนจะพูดขึ้น “ด้วยอัตราการเติบโตแบบนี้น่าจะเข้าสู่ออกดอกออกผลได้พรุ่งนี้เลยรึเปล่าเนี่ย? ถ้าฉันเพิ่มปุ๋ยเข้าไปตอนนี้สงสัยจริงๆว่าพรุ่งนี้น่าจะได้เห็นผลไม้เป็นลูกๆแล้วมั้ง?”
ไคลนืเดาะลิ้นและกล่าวชื่นชมออกมา
เขาไม่รู้จริงว่าปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเมล็ดหรือเอฟเฟคของกระถางปลูกพืชแต่อัตราการเติบโตของพวกมันถือว่าเร็วจริงๆ
ไคลน์กล่าวเบาๆ “ใช้งานปุ๋ย”
ไคลน์จัดการใส่ปุ๋ยเข้าไปในกระถางทั้งสองเป็นจำนวนมาก
[แจ้งเตือนจากระบบ : ปุ๋ยชั้นเยี่ยม -1]
ตอนนี้เขาเหลือปุ๋ยอยู่4ชุดแล้ว
“ด้วยปุ๋ยจำนวนมากขนาดนี้ก็น่าจะพอให้พวกมันใช้ไปได้อีกหลายวัน”
ไคลน์จัดการเก็บถังไม้กลับและเดินออกจากระเบียงไปหลังจากตรวจสอบสภาพของต้นอ่อนทั้งสองอยู่หลานนาที
เขาเดินลงมาชั้นล่างอีกครั้งและเรียกเครื่องกลั่นน้ำออกมา
ไคลน์จัดแจงใส่ไม้60ชิ้นเข้าไปในเครื่องกลั่นน้ำในครั้งเดียวซึ่งไม้จำนวนขนาดนี้สามารถเปิดใช้งานเครื่องกลั่นน้ำได้ราวๆ15ชั่วโมง
หรือก็คือในท้ายที่สุดเขาจะได้น้ำมาทั้งหมด5250มิลลิลิตรนั่นเอง
‘น้ำแค่นี้พอใช้ได้แค่วันเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นคงต้องมีเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่อง’
ไคลน์เปิดเมนูการสร้างไอเทมขึ้นมา
คราวนี้เขาเลือกไปที่เครื่องกลั่นน้ำ
[เครื่องกลั่นน้ำชั้นเยี่ยม : ทองแดง 76/4 , เหล็ก 68/6 , ไม้ 25/2 , รูนน้ำ 7/1 , รูนไฟ 5/1]
จากนั้นเขาก็เลือกสร้าง
ไม่นานนักเครื่องกลั่นน้ำอีกเครื่องก็ปรากฏออกมา
ไคลน์ในตอนนี้เหลือไม้ไม่มากนักดังนั้นเขาจึงเปิดหน้าตลาดแลกเปลี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง
ไคลน์เลือกใช้น้ำ500มิลลิลิตรเพื่อแลกกับไม้จำนวน50ชิ้นตามเรทราคาตลาด
ในช่วงสองวันก่อนเขาสามารถแลกไม้1ชิ้นได้ด้วยน้ำ20มิลลิลิตรและหลังจากที่ในตลาดเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงจึงทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมันลดลงอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดก็ตกไปเหลือ1ต่อ10
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีทีท่าว่าเรทราคานี้จะตกลงไปเรื่อยๆอีกด้วย
เทียบกันแล้วน้ำมีค่ามากกว่าไม้เยอะ
แน่นอนว่าจำนวนคนขายไม้ก็มีมากขึ้น
ยิ่งมีปริมาณการใช้งานมากขึ้นเท่าไหร่ก็เป็นธรรมดาที่ราคาจะตกลงมากเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาถึงวันนี้ด้วย
ไคลน์เดาว่าน่าจะเป็นคนอื่นๆเริ่มรวมทีมกันนั่นเอง
การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทรัพยากรที่ได้จะไม่ลดลงเท่านั้นแต่ยังเพิ่มขึ้นด้วย
ชัดเจนแล้วว่าการรวมทีมคือหนทางที่ถูกต้องในการเอาชีวิตรอดในโลกแห่งสุสานจริงๆ
“เติมไม้60ชิ้นในเครื่องกลั่นน้ำเครื่องที่2”
“คงต้องสร้างถังน้ำเพิ่มแล้วมั้งเนี่ย”
หลังจากไคลน์จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็นำจิ้งจอกน้อยออกไปจากฐานรูน
ช่วงบ่ายของวันนี้ยังอีกยาวนาน
เวลาไม่อาจปล่อยทิ้งดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนต่อ!
จิ้งจอกน้อยอยากจะกลับไปน้อยแต่ไคลน์กลับบ่นให้เธอมาฝึกตามปกติ แม้ว่าเจ้าหล่อนจะพยายามออดอ้อนแต่ก็ไร้ประโยชน์
ช่วงเวลาการฝึกสามชั่วโมงผ่านไปอย่างช้าๆ
ไคลน์อุ้มจิ้งจอกน้อยที่หมดแรงกลับเข้าฐานรูน
ในตอนนั้นเอง
ภายในช่องแชทก็เดือดระอุขึ้นมาเนื่องจากไคลน์อีกครั้ง!
เหตุผลก็เรียบง่ายมาก
เพราะฐานรูนของไคลน์คือปราสาทนั่นเอง!
ข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกไปเป็นที่เรียบร้อย
ราวๆห้านาทีก่อนเมื่อทีมของชาร์ลหยุดพักจากการขุด พอลก็เปิดหน้าต่างช่องแชทขึ้นมาและรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเล็กน้อยถ้าไม่ได้ไปเม้าท์มอยซักหน่อย
เพื่อนร่วมทีมของเขาทั้งสองคนโฟกัสอยู่ที่การพักเอาแรงอย่างเดียวดังนั้นไคลน์ที่ไม่มีเพื่อนคุยจึงไปที่ช่องแชทภูมิภาคเพื่อคุยกับผู้เล่นคนอื่นๆ
มีผู้เล่นคนหนึ่งมาอวดว่าฐานรูนของเขาได้ถูกซ่อมแล้วเขาจึงถูกผู้เล่นคนอื่นๆเรียกว่าผู้ทรงอำนาจ กระทั่งว่ามีคนเอาคนผู้นี้ไปเทียบกับไคลน์เลยด้วยซ้ำ
พอลเองก็ถูกหมอนี่หลอกมาเมื่อสองวันก่อนดังนั้นเขาจึงเข้าไปอวดเรื่องฐานรูนที่มีลักษณะเหมือนปราสาทของไคลน์ในทันที
เมื่อตอนกลางวันไคลน์เคยพูดถึงปราสาทที่ว่ามาแล้วและในตอนนั้นคนอื่นๆก็คิดว่าปราสาทนั่นคือสิ่งก่อสร้างพิเศษในสุสาน
ตอนนี้เมื่อเขาออกมาพูดอีกครั้งกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ปราสาทนั่นไม่ใช่สิ่งก่อสร้างในสุสานเลยแม้แต่น้อยแต่เป็นฐานรูนของบิ๊กบอสไคลน์!
หินเพียงก้อนเดียวนี้ทำให้เกิดคลื่นยักถาโถม
ไม่นานนักข่าวนี้ก็ดังไปจนถึงช่องแชทโลก
ทุกๆคนล้วนมีเครื่องหมายคำถามเต็มหัว
“อะไรนะ? ฐานรูนของบิ๊กบอสคือปราสาทโบราณ? ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย?”
“จากปากของคนที่เห็นมาดูเหมือนว่าจะคล้ายกับฐานรูนมากทีเดียวเพราะเวลาเรียกเก็บมันจะกลายเป็นลำแสงนับร้อยนับพันเส้นและหายไปในพริบตาเช่นเดียวกับฐานรูนทั่วๆไป”
“ไม่จริงหรอก มีพวกนายคนไหนมีฐานรูนเป็นปราสาทโบราณหรือสิ่งก่อสร้างรูปแบบอื่นๆมั่งไหมล่ะ? ของชั้นเองยังเป็นแค่บ้านหินเล็กๆที่ไม่รู้จะพังเมื่อไหร่เลย!”
“ชั้นก็ด้วย ทุกๆวันนี้อ่ะนะฉันยังต้องนอนขดตัวอยู่เลยเพราะไม่อย่างนั้นคงยัดตัวเองเข้าไปในฐานรูนไม่พอ”
“พี่ใหญ่ไคลน์ช่วยออกมาพูดอะไรหน่อยเถอะ! นี่มันอะไรกันแน่? ฉันรู้นะว่าฐานรูนไม่มีทางกลายเป็นปราสาทโบราณหลังจากที่ซ่อมน่ะ”
“พวกเราอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆส่วนเขาอาศัยอยู่ในปราสาทหรูหรา...ดีจังเนอะ”
หลังจากผ่านไปซักพักหลายๆคนก็หวนนึกถึงสถานการณ์ของตัวเองจนอดรู้สึกเศร้าไม่ได้
พวกเขาถูกส่งมาที่นี่เพื่อเอาชีวิตรอดแต่ไคลน์กลับมาที่นี่เพื่อพักร้อน!