EP 628 การเข้าจับกุมดงซูบิน!
EP 628 การเข้าจับกุมดงซูบิน!
By loop
ช่วงเที่ยงวัน.
ทันทีที่เมฆดำกระจายไป พระอาทิตย์ก็ส่องแสงออกมา
ดงซูบิน และหยูเซียวเซียวกำลังนั่งอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาเกือบจะทานข้าวเสร็จ โทรศัพท์มือถือของพวกเขาก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ของเฟิงเล่ย เฟิงหยิง จากทีมตำรวจอาชญากรของสำนักงานตำรวจ.
ดงซูบินยิ้ม "สวัสดี พี่เฟิง"
"หัวซูบินครับ ผมได้ยินมาว่าคุณกลับมาแล้วเหรอ" เฟิงเล่ยพูด
“ใช่ ฉันเพิ่งกลับมาที่นี้ได้แค่ชั่วโมงเดียวเอง ข่าวของคุณเร็ว”
“ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่ได้รับข่าวเร็ว ตอนนี้ทั้งมณฑลน่าจะทราบข่าวนี้แล้ว ว่าคุณทำอะไรลงไป แล้วจริงๆผมควรไปที่นั้นไหม”
“ขอบคุณที่แจ้งข่าวนี้ให้ฉันทราบ แต่ไม่จำเป็นหรอก มันเป็นเรื่องแมวน้อยกับลูกหมา แค่นั้นแหละ ฉันรู้แล้วละว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
“โอเค ถ้าคุณมีอะไรที้ต้องการให้ผมช่วย โปรดโทรหาผมได้เลย” ดงซูบินนั้นวางสายโทรศัพท์
จากนั้น โจซูเผิง น้องชายของคณะกรรมการพรรคมณฑล ฉินหยง ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงสาธารณะ และเกาพนเหว่ย และหลัวไห่ถิงจากสำนักงานเศรษฐกิจก็โทรมาหาเขา เนื่องจากพวกเขานั้นเป็นลูกน้องเก่าของดงซูบิน พวกเขาโทรมาถามสณานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ ดูเหมือนทุกคนจะดูเป็นห่วงเป็นใยดงซูบินเป็นพิเศษ มันทำให้เขาต้องวางตะเกียบลงไม่ได้ทานข้าวต่อเพราะใช้เวลาในการรับโทรศัพท์ มันเป็นภาพความห่วงใยที่ดูอบอุ่นมาก และเมื่อประตูร้านอาหารเปิดขึ้นก็พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามนายที่เพิ่งพบกันในโรงเรียนมัธยมต้นแรกเดินเข้ามา ดงซูบินมองดูและพูดกับโทรศัพท์: “พี่หลัว พอแค่นี้ก่อนนะ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ ฉันจะเชิญทุกคน มาทานข้าวเย็นแล้วจะโทรหาแพนเหว่ยและคนอื่นๆด้วย จะได้มานั่งพูดคุยกัน”
หยูเซียวเซียวดูประหม่าเมื่อเห็นตำรวจ
ดงซูบินวางโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างสงบและมองดูพวกเขา "" ถ้าฉันจำไม่ผิด นั้นคือเสี่ยวหวัง? “
ตำรวจที่ชื่อหวังนั้นมองมาที่โต๊ะของดงซูบิน ดูเหมือนเขาจะรู้จักดงซูบิน เสี่ยวหวังรู้สึกปลื้มปิติเล็กน้อยและพูดอย่างเร่งรีบ “สวัสดีครับ ผู้อำนวยการซูบิน” “
ดงซูบินพยักหน้า “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” "
เสี่ยวหวังตอบทันที่:"ดูเหมือนเราจะได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจ พอดีเลยที่ผมเจอคุณผมอยากทราบข้อมูลของเรื่องนี้นิดหน่อย”
“ได้ ถามมาได้เลย” ดงซูบินจับมือกับเสี่ยวหวัง “นั่งลงก่อนสิจะได้พูดคุยกันสะดวก”
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนมองมาที่พวกเขา แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สุภาพเหมือนหัวหน้าของเขา และทุกคนก็นั่งลงที่โต๊ะอาหาร
เสี่ยวหัวงกะพริบตาและพูดติดๆขัดๆ: “ผู้อำนวยการซูบินเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียนหรอครับ ตอนนี้…” “ฉันเองแหละที่เป็นคนเข้าไปทำร้ายครูและนักเรียน” ดงซูบินพูดอย่างมั่นใจ: “นั้นเป็นครูประจำชั้น และ หวางถิงถิง นั้นร่วมถึงแก็งคเพื่อนของเธอด้วย” เสี่ยวหวังและเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามนายมีเหงื่อออกเล็กน้อย พวกเขาคิดว่าการมาของพวกเขาน่าจะต้องมีการขัดขืนและดงซูบินไม่น่าจะยอมรับง่ายๆ ใครจะคิดว่าดงซูบินจะยอมรับง่ายๆเช่นนี้ ก่อนที่พวกเขาจะถามดงซูบินแต่ก็ทำให้พวกเขารู้สึกแย่ เสี่ยวหวังเองก็ไม่รู้จะพูดเช่นไรออกมา บางคนมองหน้ากัน ผู้อำนวยการซูบินก็คือผู้อำนวยการซูบิน เข้ายังเป็นคนที่กล้าทำกล้ารับและซื่อตรงสำหรับกับสิ่งที่เขาทำเสมอ ไม่เหมือหวางจือหลง ลูกสาวของเขาไปรังแกคนอื่นก่อนแท้ๆ และพยายามใช้อำนาจกดขี่คนอื่นเพื่อช่วยเหลือของเขา อีกทั้งยังแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆว่าหยูเซียวเซียวเป็นคนริ่มก่อนก่ทั้งๆที่หยูเซียวเซียวไม่ใช่คนผิดเลย ซึ่งวิดีโอที่ออนไลน์บนเว็บไซต์ก็น่าจะเป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้ว? เห็นได้ชัดว่ามันไร้สาระ ดังนั้นเมื่อเทียบกับผู้อำนวยการซูบิน หวางจือหลงนั้นไม่มีความเป็นผู้นำเลยด้วยซ้ำ
แล้วถ้าผู้อำนวยการซูบิน ยอมรับแล้วแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อ?
จับกุม? หรือนำตัวเขากลับไปไกล่เกลี่ย?
บรรยากาศมันน่าอึดอัดจริงๆ เสี่ยวหวังและคนอื่นๆจริงๆแล้วก็ไม่อยากทำคดีเรื่องนี้เลย เพราะพวกเขาไม่กล้า หรือทำไม่ได้ เพราะพวกเขารู้ว่าผู้อำนวยการซูบินนั้นคือใคร
อีกทั้งดงซูบินยังทักทายพวกเขาตามปกติทำเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ: "พวกนายยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม"
"..." อ่า พอดีว่าพวกเราแวะมาที่นี้เฉยๆ ครับ “
“ถ้าอย่างงั้นทานข้าวกันก่อนไหม” “
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ดีกว่าพวกเรารบกวนคุณมากไปแล้ว”
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอกเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนใกล้กัน หรือว่าคุณไม่อยากจะทานข้าวกับพวกเรา?
“มันไม่ใช่อย่างงั้นเลยนะครับ ผู้อำนวยการซูบิน”
อีกด้านหนึ่ง
ณ โรงเรียนมัธยมหยานไท
หวางจือหลงนั่งอยู่ในสำนักงานคนเดียว คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งผิด เขาไม่สามารถพูดได้ เขาบังคับตัวเองให้สงบลง คิดออก และเรียกใครสักคน เขาต้องการสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของดงซูบิน คนที่เขาโทรหาคือตาปิงปิงค่อข้างสนิทกับเขา แต่ดูเหมือนทางนั้นจะช่วยอะไรไม่ได้มาก หวางจือหลงเมื่อเขาอยู่ในที่ทำงาน และดูเหมือนตาปิงปิงกำลังทำงานอยู่ในเขต หนานฉางเป็นรองประธานหนังสือพิมพ์ภาคเช้า เหตุผลที่เขาต้องโทรหาเขาคือหวางจือหลงมีคนรู้จักไม่กี่คนกับเขตหนานฉาง และอยูหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นที่รวบรวมข่าวนั้นเป็นกำลังหลักในการที่จะใช้ต่อกรกับดงซูบิน บางทีเขาอาจ รู้รายละเอียดของ ดงซูบิน
ตาปิงปิงรับสาย
“สวัสดีผู้อำนวยบการหวาง?”
“ตาปิงปิง ฉันเอง”
“ฉันได้ยินมาว่าคุณได้เลื่อนตำแหน่งเหรอฮ่าฮ่า ฉันยังไม่มีโอกาสได้แสดงความยินดีเลย”
“ขอบคุณมากๆเลย” หลังจาก
สองคนคุยกันไม่กี่คำหวางจือหลงพุ่งจตรงไปที่หัวข้อคือ "ตาปิง เรื่องเป็นอย่างนี้ คุณมีผู้อำนวยการสำนักงานข้างถนนในเขต หนานฉางชื่อดงซูบินคุณรู้จักเขาไหม"
เมื่อได้ยินชื่อนี้นี้ เขาดูเหมือนตกตะลึง “ดงซูบิน? ฉันเคยได้ยินชื่อนี้จากเขตกวางหมิง?
“ดูเหมือนว่าเขาเป็นเลขาธิการเขตด้วยนะ” "
... " ดูเหมือนฉันเคยได้ยินชื่อนี้เหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไร "
"โอ้?" หวางจือหลง ถาม "คนๆนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
ตาปิงปิงยิ้มและพูดว่า "เท่าที่ฉัน ดูเหมือนเขาไม่ได้มาจากครอบครัวใหญ่ และไม่ได้มีภูมิหลังอะไร ผลงานของเขายังไม่โดดเด่นอะไรแต่ดูเหมือนเขาจะเป็นพวกหัวรุนแรง ผลงานแรกเขาคือการนำเจ้าหน้าที่ลงไปปราบปรามอาคารผิดกฎหมาย ต่อมาฉันได้ยินมาว่าเขานั้นทำเรื่องร้ายแรงและโหดร้าย แต่เบื้องหลังเป็นอย่างไรไม่รู้ดูเหมือนที่เขตหนานฉางดงซูบินจะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไร และคณะกรรมการเขตและนายกเทศมนตรีเองดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเขา "
หวางจือหลงผ่อนคลาย "โอ้ แค่นั้นแหละ" “
ตาปิงปิง มีอะไรเหรอ?“ถามถึงเขา?”ตาปิงปิงสนใจมาก เมื่อเขา
พูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของหวางจือหลงก็ทรุดลง และเขาก็เล่าสั้นๆ เกี่ยวกับลูกสาวของเขาที่ถูกทำร้าย
หลังจากฟังจสปิงปิงก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "ถิงถิงถูกเพื่อนในชั้นเรียนรังแกอย่างงั้นหรอ เธอพึงย้ายไปที่โรงเรียนไม่ใช่อย่างงั้นหรอ"
ตาปิงปิง รู้จักดงซูบินหรือไม่? แน่นอนเขารู้ดงซูบินเป็นคนจัดการที่หมู่บ้านหลิวเซียน ซึ่งรายงานโดยสำนักข่าวหนานกิงซึ่งนั้นเป็นกำลังหลักที่น่ากลัวของดงซูบินเลย เมื่อทางสำนักข่าวนักข่าวไปสอบสวนจริงก็ได้รับหลักฐานมากลับกลายเป็นว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ตาปิงเองก็ต้องการได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการเขตในตอนนั้นจึงรับทำข่าว และรู้ว่าสำนักข่าวของเมืองพยายามตีข่าวในการสนับสนุนเขตกวางหมิงทันที มันเป็นการตบหน้าข่าวของหนานกิงยามเช้า เรื่องนี้ตาปิงถูกประธานของสำนักข่าวตำหนิ จากนั้นเขาก็จำดงซูบินและเกลียดชังเขา .
หลังจากหวางจือหลงโล่งใจ ดงซูบินคงเป็นคนที่นายกเทศมนตรีตรีและคณะกรรมการเขตคงไม่พอใจเขาแน่? นี่เป็นข่าวดี พิสูจน์ได้ว่าเขาถูกโจมตีทุกด้านในเขตหนานฉาง และเขาไม่พอใจอย่างมาก จากมุมมองนี้ แม้ว่าดงซูบินจะมีบางอย่างที่ต้องทำในมณฑลหยานไทก็จะไม่ใหญ่เกินไปใช่ไหม ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ย้ายออกไปแล้ว เมื่อผลประโยชน์หมดทุกแง่มุมของการมีส่วนร่วม ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ก็จะยิ่งไกลออกไปเท่านั้น
หวางจือหลงคิดอย่างนั้น
แต่นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครเคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ ในห้องประชุมเล็กๆ ของโรงเรียนมัธยม ผู้อำนวยการของโรงเรียนมัธยมศึกษา ได้จัดการประชุมเรื่องโรงเรียนทันทีหลังจากรับโทรศัพท์สองครั้ง ตอนนี้โรงเรียนอยู่ในช่วงพักร้อน ครูและผูบริหารโรงเรียนหลายคนกำลังพักร้อน แต่หลังจากที่ผู้อำนวยการโรงเรียนโทรเรียกที่ละคน ทุกคนก็มาถึงโรงเรียนโดยไม่มีข้อยกเว้น บรรยากาศตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากที่พวกเขานั่งในห้องประชุมแล้ว ผู้บริหารโรงเรียนหลายคน เขาสูบบุหรี่อย่างรุนแรงและไม่มีใครพูด
พวกเขารู้สิ่งต่าง ๆ แล้ว
พวกเขายังเข้าใจสถานการณ์
เทพแห่งความโชคร้ายคือใคร? ถ้าเป็นโรงเรียนอื่น เกรงว่าจะไม่รู้จักดงซูบินหรือรู้จักแค่ไม่กี่คน มีหลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อ ดงซูบินเลย ยกเว้นผู้บริหารในมณฑลหยานไทไม่ใช่ทุกคน รู้จักดงซูบินใช่ เขาไม่ได้มีชื่อเสียงไม่น้อยกว่าดาราหนัง แต่โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เคยเป็นที่ทำงานของแม่ของแทพเจ้าแห่งความโชคคร้าย ทุกคนที่นี่เป็นเหมือนกระจกเงาในหัวใจ และไม่จำเป็นต้องให้ผู้อำนวยการโรงเรียพูดอะไรมากมาย
“ประชุม” อาจารย์ใหญ่มีอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อย
ทุกคนนั่งตัวตรง
“ความหมายของการประชุมครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเขต เนื่องจากวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตมีผลกระทบมากมาย เราจึงต้องหารือถึงวิธีแก้ปัญหา”
ดวงตาของทุกคนสั่นเทาและไม่มีคำตอบ
หวางจือหลงมาถึงไม่ได้แจ้งเขา ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้พูดอะไรมากมาย และไม่ได้พูดคำสั่งของสำนักงานการศึกษา แต่บอกว่าหัวหน้าเขตสั่ง ชัดเจนมาก มีคนอยู่ในเขต และหัวหน้าเขตมากกว่าหนึ่งคน ฉันเรียกเหล่าครูมา เหตุผลก็คือฉันได้เรียนรู้ว่าหัวหน้าสำนักการศึกษาได้เรียกร้องให้ทำสิ่งนี้และยังเกี่ยวข้องกับลูกสาวของผู้อำนวยการหวาง ด้วย แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้ทำเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าเขตที่กดดันผู้อำนวยการโรงเรียน อีกทั้งหวางจือหลงมีอำนาจสูงสุดในมณฑลหยานไทในตอนนี้สำหรับเรื่องการศึกษา
เงียบ
บรายากาศยังเงียบ
ผู้บริหารโรงเรียนหลายคนดูไม่เต็มใจที่จะเข้าไปมีส่วนกับเรื่อนี้
ผู้อำนวยการโรงเรียน มองไปที่ และพูดง่ายๆ ว่า “ฉันยื่นข้อเสนอ เกี่ยวกับวิดีโอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สื่อสารและประสานงานกัน จะถูกลบในไม่ช้า ส่วนโรงเรียนผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เลวร้ายมาก ฉันเสนอว่าหวางถิงถิง และเพื่อนของเธออีกสองคนต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนซึ่งจะมีผลทันที”
ไล่ลูกสาวของผู้อำนวยการการศึกษา?
ผลลัพธ์หลังจากนี้คงจะไม่ดีแน่ การที่ตัดสินใจเช่นนี้จะต้องส่งผลกระทบรุนแรงกับโรงเรียนในภายหลังอย่างแน่นอน? แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้นำโรงเรียนคนใดที่นี่ประหลาดใจกับเรื่องนี้
ผู้อำนวยการโรงรียนถอนหายใจ: “ยกมือขึ้นเพื่อโหวต ถ้าคุณไม่เห็นด้วย กรุณายกมือขึ้น”
ไม่มีใครยกมือขึ้น
“โอเค เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์” ผู้อำนวยการโรงเรียนปรบมือ
ไม่ใช่ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะมีปัญหากับหวางจือหลง เขาเป็นถึงผู้อำนวยการสำนักการศึกษา แต่มีบางคนที่พวกเขากลัวกว่าหวางจือหลง และไม่กล้าที่จะไปแตะต้องเขา
จากนั้นเอกสารที่เกี่ยวข้องก็ถูกเปิดเผยในไม่ช้า
ผู้อำนวยการโรงเรียนลงนามและปิดผนึกเอกสาร และไฟล์ของหวางถิงถิงและคนอื่นๆ ถูกนำออกไปทันที จากนั้น พวกเธอก็ถูกเชิญออกจากโรงเรียนทันที
จนถึงขณะนี้หวางจือหลงที่ยังคงรอให้ตำรวจจับกุมดงซูบิน แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย!
ดูเหมือนไม่มีใครที่กล้าจะเข้าไปจับกุมดงซูบินเลย!
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเสี่ยวหวังซึ่งกำลังรับประทานอาหารที่ร้านอาหารนอกโรงเรียน ได้รับโทรศัพท์จากสำนัก หลังจากวางสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนและดงซูบินได้แจ้งและยกเลิกทีมในการจับกุมทันที