ตอนที่ 969-970 ได้เห็นธาตุแท้ของคุณแล้วว่าเป็นไง
คำพูดของเขาทำให้เซินโย่วโกรธ
เธอมองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเกลียดชัง
“นายต้องการให้ฉันหยุด แล้วปล่อยให้นางนั้นแย่งทุกอย่างไปจากฉัน นี่น่ะเหรอที่นายต้องการให้ฉันหยุด?”
“รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันเกลียดมันแค่ไหน”
“คุณ...” กงเซลีขมวดคิ้ว
“ฉันอดทนรอให้มันตาย ๆ ไปไม่ไหวแล้ว!”
เหตุผลของเซินโย่วเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และสีหน้าของเธอดูน่ากลัว
“ฉันจะไม่ปล่อยมันไว้แน่ มันไม่สมควรมีความสุข มันพรากทุกอย่างที่เป็นของฉันไป มันทำให้ฉันต้องทนทุกข์อยู่ทุกวัน ฉันจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ได้ไง”
“เธอไม่ได้แย่งอะไรจากคุณ เป็นอาซื่อเองที่ตัดสินใจอยู่กับเธอ แต่งงานกับเธอ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?” ท่าทางของกงเซลีเย็นชาเมื่อเขามองไปที่เธอ
เขาไม่สนใจความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
“ถ้าคุณยังยืนกรานที่จะพุ่งเป้าไปที่เธออีก ผมก็คงยืนข้างคุณต่อไปไม่ได้ และคงไม่อยู่เฉยแน่ เซินโย่ว แม้ว่าเราจะไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกต่อไป ผมก็ไม่ต้องการให้เรากลายเป็นศัตรูกันหรอกนะ”
“อย่าบังคับผม”
เซินโย่วมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
หลังจากที่จ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งด้วยใบหน้าซีด เธอยิ้มอย่างเย้ยหยันและกล่าวว่า
“กงเซลี มาพูดจาดูดีตั้งมากมาย ตอนนี้ก็เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมาแล้วสิ”
“พวกหน้าซื่อใจคด คงตกหลุมรักอีตัวนั้นเข้าแล้วล่ะสิ ทำไมต้องมาหาข้อแก้ตัวเสียมากมายด้วย”
“ฮ่า ผู้ชายทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมด”
สีหน้าของกงเซลีมืดลงมืดลง
“นี่เหรอคุณหนูเซินที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดู มารยาทมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งรู้วันนี้เอง คืนนั้นคุณจะเป็นคนช่วยผมได้ยังไง สาวสวย นางฟ้าอย่างคุณจะเป็นอย่างคุณเหรอ?”
“ผมเคยตาบอดมาก่อนจริง ๆ ไม่อย่างนั้น คงไม่จำคนผิดหรอก”
“เธอคนนั้นสวยมาก แต่คุณนี่สิ...”
กงเซลีแสดงท่าทางรังเกียจออกมาเป็นครั้งแรก
“คุณรู้ไหมว่าทำไม อาซื่อถึงไม่ชอบคุณ”
เซินโย่วหน้าซีด พร้อมกับกัดฟัน
“กงเซลี นาย...”
กงเซลีมองดูเธอด้วยความรังเกียจและหันกลับมา
“ผมคิดว่าเขาฉลาดกว่าผมอีกนะ เขามองคุณทะลุมาตั้งนานแล้วนี่เอง ผมคนเดียวสินะที่โดนคุณหลอกมาตั้งหลายปี”
ช่วงเวลาที่เขากล่าว ใบหน้าของเซินโย่วซีด
หลังจากนั้น กงเซลีหันหลัง แล้วเดินจากไป
...
ณ หวนหยูมีเดีย
ลินดากำลังทำงานอยู่ข้างนอก แต่ถูกจ้าวข่ายเรียกตัวกลับมา
เธอเคาะประตูแล้วเข้าไปในห้อง
เมื่อเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขา เธอเห็นจ้าวข่ายเดินเข้ามาหาเธออย่างเป็นกังวลใจ
“ลินดา เธอบอกเฉียวเมียนเมียนเรื่องยกเลิกสัญญาของบริษัทไปหรือยัง?”
ลินดามองเขาด้วยความสับสน
“ฉันจัดการแล้ว ไม่ใช่ว่าขอให้ฉันไปทำหรอกเหรอ ประธานจ้าว ฉันรู้ว่าเราไม่สามารถรุกรานคุณหนูเซินได้ และรู้ว่าคุณอยากให้บริษัทยุติสัญญากับเฉียวเมียนเมียนให้เร็วที่สุด แต่ไม่ต้องกังวลขนาดนี้เลย”
“แค่รออีกสักวัน คุณหนูเซินเขาจะทนไม่ไหวเลยเหรอ?”
ท่าทางของจ้าวข่ายเปลี่ยนไปทันที
“เธอบอกไปแล้วเหรอ?”
“ใช่ ฉันจัดการไปแล้ว” ลินดารู้ว่าเขาช่วยอะไรไม่ได้ แต่เธอก็ยังไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
“ประธานจ้าว คุณออกจะซีเรียสซะขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันบอกเธอได้ยังไง หลังจากออกจากห้องคุณ ฉันจะโทรบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนั้นไปแล้ว”
“เรานัดทานข้าวเย็นกันคืนนี้ แล้วจะจัดการเรื่องทั้งหมด”
“ประธานจ้าว ถ้ายังกังวลว่าฉันจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ จะให้คนอื่นจัดการแทนก็ได้ค่ะ”
“ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
จ้าวข่ายดูกังวลเมื่อได้ยินว่าเธอบอกเฉียวเมียนเมียนเรื่องยกเลิกสัญญา เขาพูดออกไปอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันหมายความว่า บอกเลิกสัญญาไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะงั้นไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว”
“ประธานจ้าว?”
ลินดามองเขาด้วยความตกใจ
“หมายความว่ายังไง คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ยกเลิกสัญญา?”
จ้าวข่ายพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า
“ไม่ ไม่ เราจะไม่ยกเลิกสัญญา”
“ประธานจ้าว คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่านี่คือคำขอของคุณหนูเซิน คุณไม่กลัวที่จะขัดเธอหรอกเหรอ?”
ลินดารู้ว่าตระกูลเซินมีอำนาจขนาดไหน
เป็นเรื่องปกติที่จ้าวข่ายจะกลัว
เธอไม่ใช่คนที่เขาจะทำให้โกรธได้
อันที่จริง มีคนไม่มากในเมืองหยุนเฉิงที่กลัวรุกรานตระกูลเซิน
เพราะงั้น แม้ว่าเธอจะไม่พอใจกับการยกเลิกสัญญา เธอก็เข้าใจได้
ถ้าเธอเป็นจ้าวข่าย เธอคงไม่ทำให้คุณหนูตระกูลเซินโกรธ เพราะดาราหน้าใหม่
ไม่ว่าดาราหน้าใหม่คนนั้นจะโดดเด่นแค่ไหนก็ตาม
แต่จู่ ๆ เขาก็บอกว่าจะไม่ยกเลิกสัญญา!
“อะแฮ่ม” จ้าวข่ายปิดปากและกระแอมไอ เพื่อซ่อนความเขินอาย
“เมื่อก่อน ฉันไม่รู้นี่ว่าดาราใหม่จะมีแบคหนาขนาดนี้ ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ ถ้าเธอบอก ฉันเหรอ จะมีความคิดที่จะยกเลิกสัญญา”
ลินดายิ่งสับสนมากขึ้นในตอนนี้
“ประธานจ้าว คุณหมายความว่ายังไง คุณกำลังบอกว่าเมียนเมียนเมียนมีคนสนับสนุนเหรอ ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย”
ความจริงที่ว่าจ้าวข่ายเต็มใจที่จะทำให้คุณหนูเซินขุ่นเคือง และปฏิเสธที่จะยกเลิกสัญญากับเฉียวเมียนเมียน แสดงให้เห็นว่าคนที่เขาพูดถึงมีอำนาจมากกว่าคุณหนูเซิน
อาจจะเป็น...
จู่ ๆ ลินดาก็นึกถึงใครบางคนและสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
“ประธานจ้าว การสนับสนุนที่คุณกำลังพูดถึง หมายถึงนายน้อยกงเหรอ?”
แม้ว่าตระกูลเซิน ตระกูลไป่ ตระกูลกง และตระกูลเหมา จะเป็นที่รู้จักในฐานะสี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองหยุนเฉิง
แต่ในแง่ความมั่นคั่งและอำนาจ ตระกูลเซินก็ยังด้อยกว่าตระกูลกง
ยิ่งไปกว่านั้น นายน้อยกงเป็นทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทกง นี่คือสิ่งที่คุณหนูเซินไม่สามารถเทียบได้
ว่ากันว่าแม้จะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซินจะได้รับการเอาอกเอาใจ แต่กลุ่มตระกูลเซินคงไม่ยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับผู้หญิงอย่างแน่นอน
อย่างมากที่สุด เธอก็คงได้เป็นหุ้นส่วน
เทียบไม่ได้กับนายน้อยของตระกูลกงที่ได้ดูแลทุกอย่าง
ถ้าเธอเป็นจ้าวข่าย แล้วต้องเลือกว่าจะทำให้ใครไม่พอใจ ก็คงต้องเลือกคุณหนูเซิน
ลินดารู้ว่าคงเป็นกงเซลี
ก่อนหน้านี้กงเซลีก็ได้ออกมาปกป้องเฉียวเมียนเมียนในเว่ยป๋อ แล้วต่อมาทั้งสองคนก็มีเรื่องอื้อฉาวกันด้วย ไม่ว่าเธอจะมองอย่างไร กงเซลีก็ดีเหมือนจะสนใจเฉียวเมียนเมียน
จ่าวข่ายส่ายหน้าโดยไม่คาดคิด
“ไม่ใช่เขา เธอนึกไม่ถึงแน่ว่าเป็นใคร ฉันเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ฉันล่ะตกใจเป็นพิเศษเลย”