ตอนที่ 79 ดาบหักสังหาร
ตอนที่ 79 ดาบหักสังหาร
“พวกเจ้ามีเวลา 1 ชั่วโมงเลือกรางวัลที่ตรงกับอันดับที่ได้รับ” รุ่นพี่ทหารยามที่หายเข้าไปหลังประตูโลหะเดินกลับออกมาเป็นผู้กล่าว ก่อนจะกลับเข้าไปยืนประจำที่เดิม
“ยังไงต่อ” มาถึงตรงนี้ลิลี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอเคยมาที่คลังสมบัติของสถาบันศาสตร์นักรบ แน่นอนว่ากายก็ไม่เคยมาที่นี่ แต่ในเมื่อทางนั้นอนุญาตแล้ว กายจึงหันไปบอกทั้งสองคน “ไปข้างในกันเถอะ” ก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าทั้งสองคนไป
มีอาและลิลี่พยักหน้าตกลงเดินตามกายไป
เปิดตูโลหะเปิดออกหลังจากกายออกแรงผลักมัน ซึ่งในตอนแรกกายคิดว่ามันจะหนักจนน่าหวาดหวั่น แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเปิดมันได้
ทางเดิน...
สิ่งที่อยู่หลังประตูโลหะคือทางเดินที่มีหลอดไฟจิตวิญญาณติดอยู่ตามผนัง ตลอดสองฝั่งทางเดินมีหุ่นโลหะนักรบที่ถืออาวุธแตกต่างกันยืนหันหน้าเข้าหาทางเดิน
ความรู้สึกราวกับว่าหุ่นพวกนี้กำลังมองมาที่เรา...
พวกมันมีชีวิตอย่างนั้น...
กายรู้สึกตื่นตัวระวังหุ่นพวกนี้ขึ้นมาในทันที แต่พอสักพักความรู้สึกที่ถูกจ้องมองก็หายไป ราวกับว่าเขาไม่ใช่ศัตรูของมัน มีอาและลิลี่ก็สัมผัสได้เช่นกัน
ทั้งสามเดินไปตามทางอย่างเคร่งเครียดโดยไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อมาถึงสุดทางเดินอีกฝั่งประตูก็เปิดออกด้านในมีกลุ่มคนที่ท่าทางราวกับนักวิชาการกำลังนั่งจดเอกสารโดยไม่พูดอะไรกันมากนัก
ภาพที่เห็นมันช่างแตกต่างจากคลังสมบัติที่เขาจินตนาการถึงมาก ที่นี่มันเหมือนกับห้องสมุดไม่มีผิด
“สวัสดีข้าคือ เอียน นักเรียนปี 3 พวกเจ้าคงเป็นเด็กปีหนึ่งที่ติดหนึ่งใน 10 ของการทดสอบที่ผ่านมาแล้วต้องการมารับรางวัลใช่ไหม” ชายร่างสมควรใส่ชุดสีขาวสูงสัก 170 ผมสีทอง สวมแว่นสายตา เดินมาทักทายพวกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในขณะที่มือถือเอกสารทั้งสามที่ทหารยามรุ่นพี่ก่อนหน้านั้นถือเข้ามา
“ข้าเห็นรุ่นพี่ทหารยามบอกว่าจะส่งเอกสารให้อาจารย์กรีฟรีลอส ข้านึกว่าท่านอาจารย์กรีฟรีลอสจะมาพาเราไปเลือกของด้วยตนเอง” กายลองถามหยั่งเชิงไป
“ที่จริงแล้วอาจารย์กรีฟรีลอส ท่านไม่ว่างจึงส่งข้ามาพาพวกเจ้าไปเลือกรางวัลแทน” เอียนตอบออกไปอย่างเป็นกันเอง
“รุ่นพี่เอียน ข้าขอถามได้ไหมคะ พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่...ที่นี่ไม่ใช่คลังสมบัติเหรอ? ทำไมถึงมีคนอยู่ด้านในจำนวนมาก” มีอาถามด้วยความสงสัย
“ที่นี่มีเอกสารโบราณและหนังสือประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งมันถือว่าเป็นสมบัติมีค่าจึงถูกนำมาเก็บที่นี่ และพวกเราก็เป็นผู้ศึกษาพวกมัน เพื่อคำตอบของประวัติศาสตร์ที่หายไปของนครทั้ง 5 เราไปด้านในกันเถอะ จริงสิพวกเข้าอย่าเล่าให้นอกฟังถึงเรื่องในคลังสมบัติของสถาบันศาสตร์ละ ถ้าไม่อยากมีปัญหา” เอียนยังคงตอบด้วยท่าทีสบาย
แต่ประโยคสุดท้ายนั้นเป็นการเตือนทั้งสามอย่างชัดเจน ว่าแค่สนใจเรื่องของตัวเอง อย่าพูดเรื่องของที่นี่
กายรู้สึกสงสัยในคำพูดที่ว่า “ประวัติศาสตร์ที่หายไปของนครทั้ง 5” มันคืออะไรกันแน่ แต่เขาก็ไม่ถามออกไป เพราะดูแล้ว รุ่นพี่เอียนคนนี้คงไม่บอกอย่างแน่นอน เพราะถึงขนาดที่ว่าเอกสารที่เกี่ยวข้องกลับต้องเก็บไว้ที่คลังสมบัติแม้แต่จะศึกษายังต้องมาทำกันที่นี่
เมื่อหันไปมองมีอาและลิลี่ทั้งสองคนก็ทำน่าสงสัยเช่นกัน
บางทีพอขึ้นเป็นปี 3 แล้วอาจจะมีสิทธิ์ได้รู้คำตอบของเรื่องนี้... กายโยนความคิดเรื่องนี้ทิ้งไปก่อนแลหันมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เอียนนำทางพวกเขาจนมาถึงพื้นที่ซึ่งราวกับห้องโถงขนาดใหญ่ ความสูงของมันนั้นไม่น้อยกว่า 10 เมตร มีชั้นโลหะที่วางของเรียงยาวไปสุดสายตาคล้ายกับโกดังลับมากกว่าห้องเก็บสมบัติล้ำค่า
ที่ชั้นวางของยังมีกล่องที่ทำจากวัสดุแตกต่างกันไป ที่กล่องทุกใบมีการสลักข้อความรายละเอียดถึงของที่อยู่ในกล่อง
“พวกเจ้าสามารถเลือกของตรงตามที่ได้รับจากรางวัลได้เลย อาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ทางด้านนี้ ส่วนศิลปะการต่อสู้มีบันทึกไว้ทางด้านนั้น มันเป็นเพียงฉบับคัดลอกเจ้าสามารถหยิบออกไปได้เลย แต่จงอย่าหยิบในสิ่งที่เจ้าไม่มีสิทธิ์ไป เพราะพวกเจ้าไม่อาจจะซ่อนมันพ้นจากทางสถาบันศาสตร์นักรบ พวกเจ้าคงรู้ว่ามีเวลาเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นอย่าได้เสียเวลาอีกเลย” กล่าวจบเอียนก็หามุมสงบนั่งลงอ่านหนังสือที่ไม่รู้ว่าหยิบมาจากไหนออกมาอ่านค่าเวลา
“เราแยกกันไปเถอะหาอาวุธที่ถูกใจกันก่อน แล้วค่อยมาเจอตอนเลือกศิลปะการต่อสู้” มีอาเสนอออกมา กายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันไป กายเดินตามทางระหว่างชั้นวางไปเรื่อย ๆ ในระหว่างนั้นก็อ่านของที่อยู่บนชั้นวางไปด้วย
“ดาบยาวสังหารม้า อาวุธระดับ 4”
“ดาบยาวสายลม อาวุธระดับ 4”
“ธนูโลหะ ระดับ 4”
“หอกเหล็ก ระดับ 4”
กายอ่านชื่อของที่วางอยู่บนชั้น ทั้งชั้นเป็นเพียงของระดับ 4 เท่านั้น กายยังต้องเดินลกเข้าไปอีกเพื่ออาวุธระดับ 5
อันดับ 3 สามารถเลือกศิลปะการต่อสู้ขั้น 3 ได้สองอย่าง อาวุธระดับ 5 หนึ่งชิ้น อาวุธระดับ 4 หนึ่งชิ้น ดังนั้นกายจึงจะไปเลือกอาวุธระดับ 5 ก่อน ซึ่งเขาคิดว่าควรจะเป็นพวกดาบที่ใช้คู่กับศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ที่เขามี อาวุธระดับ 4 กายคิดจะเลือกอาวุธระยะไกลแทน
แน่นอนว่ากายยังจะใช้ค้อนสั่นสะเทือนเป็นอาวุธที่ใช้กับศิลปะการต่อสู้ ทุบ ซึ่งเขาคิดจะสร้างมันขึ้นมาเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเลือกอาวุธประเภทค้อน
ซึ่งนี่เป็นเพียงแผนคร่าว ๆ เท่านั้น ถ้าเขาเจอของที่เหมาะสมกว่าก็จะเปลี่ยนแผนทันที
กายเดินผ่านชั้นวางของหลายชั้นจนมาถึงชั้นที่วางอุปกรณ์ระดับ 5
“ดาบยาว ระดับ 5”
“ดาบคู่เขาโค้ง ระดับ 5”
“ดาบสองคม ระดับ 5”
“ดาบหิน ระดับ 5”
“หอก....”
“ธนู...”
“โล่หนัก...”
กายอ่านรายละเอียดของอาวุธระดับ 5 อย่างรวดเร็วแต่เขายังไม่เจอของที่ต้องการ จนกระทั่งในที่ก็ไปสะดุดตาเข้ากับรายละเอียดที่เขียนไว้บนกล่องไม้ธรรมดาที่เหมือนกับกล่องใบอื่น ๆ แต่เพราะคำอธิบายทำให้กายรู้สึกสนใจ
“ดาบหักสังหาร ระดับ 5”
“รายละเอียด : พบในสนามรบโบราณ สภาพเสียหายคาดการว่าเป็นดาบระดับ 7 ถึง 8 มาก่อน แต่เพราะใบดาบหักครึ่งจึงลดเหลือระดับ 5 ใบดาบยาวที่เหลือยาว 28 นิ้ว ด้ามจับสองมือทำจากไม้เหล็กพันด้วยหนังของฉลามจากทะเลเหนือ น้ำหนักรวม 50 กิโลกรัม เนื่องจากเสียหายจึงไม่สามารถบรรจุจิตวิญญาณได้”
ดาบที่เคยเป็นระดับ 7 หรือไม่ก็ 8 มาก่อน...
กายมองกล่องไม้ด้วยสายตาที่เป็นประกาย เขารู้สึกสนใจดาบเล่มนี้มาก ลำพังแค่ตัวมันที่เคยเป็นดาบระดับ 7 หรือไม่ก็ระดับ 8 มาก่อนนั้นก็ทำให้มันมีค่ามากที่สุดในบรรดาดาบระดับ 5 ด้วยกันแล้ว แม้จะไม่สามารถบรรจุจิตวิญญาณลงไปในดาบได้ก็ตามที่
แต่ทำไมถึงไม่มีใครเอาดาบหักสังหารเล่มนี้ไป...
ไม่สิ คงมีคนคิดจะเอาไป แต่มันอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักเพราะพอเลือนจากระดับนักรบฝึกหัดไปเป็นนักรบแท้จริง ก็สามารถใช้อาวุธที่มีจิตวิญญาณได้ ดังนั้นพวกเขาคงใช้สิทธิ์ที่ได้รับเลือกอาวุธ ระดับ 5 ไปเลือกอาวุธที่บรรจุจิตวิญญาณ ซึ่งดีกว่ามาเสียสิทธิ์เลือกเพียงอาวุธที่เสียหายที่ไม่สามารถบรรจุจิตวิญญาณได้
กายคิดว่านี่น่าจะเป็นข้อสันนิษฐานที่สมเหตุผลที่สุด แต่สำหรับกายที่เป็นช่างโลหะแล้ว ดาบหักสังหารเล่มนี้มีน่าดึงดูดกว่า ดาบระดับ 5 เล่มอื่น ๆ มากนัก
กายไม่รอช้าตัดสินใจเลือกดาบหักสังหารเล่มนี้ในทันที
หลังจากนั้นกายก็ย้อนกลับไปและเลือกธนูโลหะ ระดับ 4 อีกหนึ่งอย่าง
“ธนูโลหะ ระดับ 4”
“รายละเอียด : ธนูโลหะที่ใช้โดยหัวหน้าหน่วยกองพลธนูของนครดาราฟ้า ในสงครามเนินหมื่นสังหาร”
ธนูโลหะนี้ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่มันก็ถือว่าคุ้มค่าที่กายจะเลือกเพราะมันคืออาวุธที่ทหารใช้กัน และพอพูดถึงอาวุธที่ทหารใช้กันนั้น ก็ต้องบอกว่ามันคืออาวุธที่ใช้งานในการสังหารและฆ่าศัตรูเป็นหัก
กายถือกล่องทั้งสองใบออกมาจากชั้นวางอาวุธและตรงไปที่ชั้นวางศิลปะการต่อสู้ ซึ่งตอนนี้ทางด้านลิลี่และมีอาก็กำลังรอเขาอยู่แล้วเช่นกัน
ปัง!
กายบางกล่องไม้ทั้งสองลง เพราะความหนักของดาบหักสังหารจึงเสียงดังพอสมควร ก่อนที่กายจะยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อพลางมองลิลี่และมีอา
“ของพวกเจ้าอยู่ไหน” กายไม่เห็นกล่องไม้ของทั้งสองคน
“อยู่ในรถเข็น” มีอาชี้ไปที่รถลากขนาดเล็ก ก่อนจะชี้ไปอีกคัน “ข้าเอามาเผื่อเจ้าด้วย”
“ขอบคุณนะ ว่าแต่พวกเจ้าเลือกได้หรือยังว่าจะเอาศิลปะการต่อสู้อันไหน”
“อืม..ข้าเลือกได้แล้ว แต่ลิลี่ยังคงตัดสินใจอยู่” มีอากล่าวขณะที่รอลิลี่
อันดับ 1 มีอา สามารถเลือกศิลปะการต่อสู้ขั้น 4 และ 3 ได้อย่างละหนึ่ง อาวุธระดับ 5 หนึ่งชิ้น อาวุธระดับ 4 หนึ่งชิ้น ส่วนของมีอาคือระดับ 5 ดังนั้นจึงเลือกศิลปะการต่อสู้ขั้น 3 ได้สองอย่าง อาวุธระดับ 4 สองชิ้น ซึ่งไม่ต่างจากกายมากนัก ยกเว้นที่ว่าเขาสามารถเลือกอาวุธระดับ 5 ได้หนึ่งชิ้น
“ข้าเอาอันนี้” ลิลี่หยิบสำเนาของศิลปะการต่อสู้มา 2 ม้วน
“ศิลปะการต่อ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัด ความทนทานและศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดความอึด ขั้น 1-3” กายอ่านชื่อศิลปะที่ลิลี่เลือก มันพอจะเดาความคิดของลิลี่ได้ ถ้าคนที่มีพละกำลังมากอย่างลิลี่ถ้าจับคู่กับความทนทานและความอึด มันจะเปลี่ยนให้ลิลี่กลายเป็นรถถังทำลายล้างที่น่ากลัว
เห้อ...กายถอนหายใจและรู้สึกสงสารคู่ต่อสู้ของลิลี่ขึ้นมาบ้างแล้ว
กายกลับมาสนใจเรื่องของตนเองว่าตอนนี้มันจะเลือกอะไร