Chapter 43 : ทดสอบพลังของจิ้งจอกน้อยหลังจากวิวัฒนาการ!
[จิ้งจอกเก้าหาง]
[ชื่อ : จิ้งจอกน้อย (เสี่ยวหู)]
[สถานะ : แข็งแรง]
[สกิล : สุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่ , หนังทองแดงกระดูกโลหะ]
‘ตรวจสอบรายละเอียดสกิล’
[หนังทองแดงกระดูกโลหะ : หลังจากใช้งานสกิลพลังป้องกันทั่วร่างกายจะเพิ่มขึ้นมหาศาล คงอยู่เป็นเวลาห้านาที : คูลดาวน์ 60 นาที]
“สกิลนี้ส่งผลตั้งห้านาทีแน่ะถือว่านานพอดูเลย”
ไคลน์ลูบหัวจิ้งจอกน้อย
หลังจากผ่านการแลกเปลี่ยนสั้นๆครั้งนี้มาทำให้ไคลน์มีรูนในครอบครองดังนี้ ลม2 ไฟ5 ดิน5 น้ำ7
ในบรรดารูนเหล่านี้มีบางส่วนที่เขาได้มาจากตลาดแลกเปลี่ยนในช่วงเช้า
‘ตอนนี้เรามีกำไลแห่งพลังแค่อันเดียวทำให้ความแข็งแกร่งของแขนทั้งสองข้างไม่สมดุลย์ ยังไงก็มีรูนดินกับรูนลมพอแล้วทำกำไลแห่งพลังขึ้นมาอีกอันดีกว่า’
เมื่อคิดได้ดังนี้ไคลน์ก็เปิดหน้าเมนูการสร้างไอเทมขึ้นมาทันที
เขาจัดการใช้รูนดิน2ก้อน รูนลม1ก้อน แร่ทองแดง4และแร่ทองอีก2เพื่อสร้างเป็นกำไลแห่งพลังอีกชิ้น
กำไลแห่งพลังชิ้นที่สองเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ไคลน์จัดการสวมกำไลแห่งพลังชิ้นที่สองลงบนข้อมือซ้าย
ในตอนนั้นเองความรู้สึกอบอุ่นอันคุ้นเคยก็แผ่ซ่านไปทั่วแขน
“ไปสุสานถัดไปดีกว่า!”
ไคลน์แทบจะรอหาสิ่งมีชีวิตแห่งสุสานมาทดสอบไม่ไหวแล้ว
เขาเริ่มตรวจสอบเส้นทางทั้งห้าสาย
หลังจากคิดอยู่ซักพักหนึ่งไคลน์ก็ตัดสินใจขุดไปทางซ้าย
ในสุสานทางด้ายนี้มีหมีเหล็กป่าเถื่อนอยู่ตัวหนึ่งและทรัพยากรเองก็ไม่เลวนัก
ตามคำอธิบายในคู่มือร่างกายของหมีเหล็กป่าเถื่อนตัวนี้แข็งแกร่งเทียบได้กับโลหะเลยทีเดียวรวมไปถึงพละกำลังดุจช้างสารโดยกำเนิดอีก
ระดับความอันตรายตั้ง28แน่ะ!
บาดแผลบริเวณหลังมือซ้ายของไคลน์ฟื้นฟูจนสมบูรณ์ตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว
ตอนนี้แขนทั้งสองข้างของเขาต่างก็มีกำไลแห่งพลังสวมเอาไว้ทั้งสองข้าง
ครึ่งนาทีต่อมา
ภายในสุสานแห่งที่สามสิบเอ็ด
ในตอนที่ไคลน์เหยียบเข้ามาในสุสานแห่งนี้เงาร่างขนาดมหึมาก็กระโจนเข้าใส่เขาแทบจะทันที
เป็นหมีเหล็กป่าเถื่อนนั่นเอง
ร่างกายของเจ้าตัวโตนี้มีสีดำคลับและส่องประกายแวววาวดุจโลหะ เส้นขนของมันแหลมคมราวกับขนหนามและยังสามารถยืนด้วยสองขาได้อีกด้วย
ดูๆไปแล้วน่าจะสูงซัก2.5เมตรเห็นจะได้
มันกระโจนเข้าใส่ไคลน์พร้อมด้วยแรงกดดันมหาศาล
จิ้งจอกน้อยกระโดดหลบออกไปทางด้านข้าง
ไคลน์เองก็กลิ้งหลบได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
พริบตานั้นดาบรูนก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขาจากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยมือข้างหนึ่ง
เคร้ง!
เมื่อใบดาบกระทบลงบนเส้นขนของหมีเหล็กป่าเถื่อนก็พลันบังเกิดประกายไฟขึ้นมา
หมีเหล็กป่าเถื่อนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ไคลน์ฝากรอยแผลลากยาวรอยหนึ่งเอาไว้บนร่างของมันได้สำเร็จ
ไคลน์เปลี่ยนมายืนจับดาบด้วยสองมือและตั้งท่าเตรียมโจมตี
จิ้งจอกน้อยที่ถูกไคลน์กำชับมาก่อนแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งจึงทำเพียงแค่ดูโชว์อยู่ข้างๆเท่านั้น
เมื่อเทียบความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพระหว่างไคลน์กับหมีเหล็กป่าเถื่อนแล้วก็ทำให้จิ้งจอกน้อยอดกังวลไม่ได้
ไคลน์เหวี่ยงดาบเข้าใส่ศรีษะของหมีเหล็กและกรีดใบดาบลงมาอย่างรวดเร็ว
หมีเหล็กป่าเถื่อนเองก็ไม่ยอม มันคำรามออกมาด้วยความโมโหและตบกงเล็บไปหาอย่างบ้าคลั่ง
ประกายเย็นเยียบส่องออกมาจากแววตาของไคลน์พร้อมกันนั้นความเร็วของใบดาบรูนในมือของเขาก็เพิ่มขึ้นไปอีก
กำไลแห่งพลังบนแขนทั้งสองข้างของเขาเองก็ส่องประกายแสงอ่อนๆออกมาเช่นเดียวกัน
ฉับพลันนั้นความแข็งแกร่งของแขนทั้งสองข้างของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
รูนแห่งพลังบนหน้าอกของไคลน์เองก็เริ่มร้อนขึ้นมาและเลือดในกายของไคลน์ก็สูบฉีดไปทั่วทั้งร่างกาย
แขนทั้งสองข้างเหวี่ยงดาบลงไปในเวลาเดียวกัน
ฉัวะ!
หมีเหล็กป่าเถื่อนผงะถอยหลังไปเล็กน้อย
บนใบหน้าของมันค่อยๆปรากฏบาดแผลรากยาวขึ้นมาและค่อยๆขยายจากศรีษะไปจนถึงหลอดลม
เลือดสาดกระจายออกมา
ไคลน์เก็บดาบเข้าฝักอย่างช้าๆ
ใบดาบนี้ไม่มีเลือดติดอยู่เลยแม้แต่หยดเดียวเพราะนี่คืออีกหนึ่งในลักษณะพิเศษของดาบรูน
ร่างของหมีเหล็กป่าเถื่อนค่อยๆล้มลงบนพื้นและแน่นิ่งไปในที่สุด
[แจ้งเตือนจากระบบ : ดวงวิญญาณ +2]
ไคลน์เดินเข้าไปจัดการย่อยซากของหมีเหล็กป่าเถื่อนและได้เนื้อมา10ชิ้น เลือด2000มิลลิลิตรและหนังอีก1แผ่น
เนื้อของหมีเหล็กป่าเถื่อนไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงมากนักเพราะมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งหนาจนยากจะเคี้ยวและมีสารอาหารเพียงน้อยนิด
แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปล่าไคลน์จึงจัดแจงวางขายมันเอาไว้บนตลาดแลกเปลี่ยนและรับแลกมันกับวัตถุดิบทั่วๆไปเพียงเท่านั้น
ส่วนคนอื่นจะอยากได้มันไหมอันนี้เขาไม่รู้
บางทีอาจจะมีคนอยากลองก็ได้
ส่วนเลือดของหมีเหล็กป่าเถื่อนนี่แหละที่เป็นของดี!
[เลือดของหมีเหล็กป่าเถื่อน : ฉาบลงบนผิวของสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มความแข็งของผิวหนังและความต้านทานการโจมตี]
ความสามารถของมันเหมือนกับเนื้อของจระเข้เกราะหินเลย
ยังไงก็ตามเนื้อของจระเข้เกราะหินจำเป็นต้องกินเข้าไปจึงจะเห็นผลดังนั้นมันจึงแสดงผลค่อนข้างช้ามาก
แต่เลือดของหมีเหล็กป่าเถื่อนสามารถทาลงบนผิวหนังได้โดยตรงทำให้แสดงผลเร็วกว่ามาก
‘หมีเหล็กป่าเถื่อนเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งมหาศาลและร่างกายของมันเองก็ทรงพลังเอามากๆ ยังไงก็ตามมันก็ยังไม่สามารถทนการโจมตีเต็มพลังจากฉันได้อยู่ดี’
สีหน้าและแววตาของไคลน์มีร่องรอยตื่นเต้นแสดงออกมาให้เห็น
ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของร่างกายเขาในตอนนี้ทำให้พลังของดาบที่เขาฟันออกไปทรงพลังเป็นอย่างมาก เมื่อบวกกับความคมและความเร็วของใบดาบรูนความเร็วสูงด้วยแล้วทำให้หมีเหล็กป่าเถื่อนไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนองด้วยซ้ำ
เป็นการสังหารแบบซึ่งๆหน้าเลยทีเดียว!
‘เฮ้อ ไปเปิดหีบสมบัติทองแดงสองใบนั้นก่อนดีกว่า’
ไคลน์ถอนหายใจออกมาและเก็บดาบเข้าช่องเก็บของไปก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาหีบสมบัติที่ถูกวางเอาไว้ในมุมๆหนึ่ง
หีบสมบัติทองแดงทั้งสองใบต่างก็ถูกวางเอาไว้ติดๆกัน
หลังจากตรวจสอบแล้วเขาก็จัดการเปิดพวกมันพร้อมๆกัน
[แจ้งเตือนจากระบบ : หีบสมบัติทองแดง +2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนลม +1]
[แจ้งเตือนจากระบบ : พิมพ์เขียวกระบอกมหัศจรรย์ชั้นเยี่ยม +1]
[แจ้งเตือนจากระบบ : นมสด 250 มิลลิลิตร +2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : เหล็ก +2]
หัวใจของไคลน์เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมา
อย่าบอกนะว่าเป็นพิมพ์เขียวของอุปกรณ์รูนอีกแล้ว?
เขารีบดูรายละเอียดของไอเทมที่ได้มาทันที
[พิมพ์เขียวกระบอกมหัศจรรย์ชั้นเยี่ยม : เหล่านักผจญภัยเพศผู้เคยรู้สึกเปล่าเปลี่ยวในการเดินทางลำพังบ้างไหม? กระบอกมหัศจรรย์นี้คือเพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกท่าน สิ่งนี้ง่ายที่จะสร้าง ใช้งานง่ายและสามารถสร้างอนาคตร่วมกับมันได้]
ไคลน์อ้าปากค้างเมื่อเห็นคำอธิบายของไอเทม
ที่แท้ก็เป็นกระบอกมหัศจรรย์....จำพวกนั้นนี่หว่า!
เฮ้อ...
แต่ไคลน์ก็ยังคงเลือกที่จะเรียนรู้อยู่ดี
แม้ว่าไอเทมชิ้นนี้จะค่อนข้างสัปดนไปหน่อยแต่ถ้าเขาเอาไปวางขายบนตลาดก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยแย่งกันซื้ออย่างแน่นอน
ยังไงก็ตามการสร้างพวกมันขึ้นมาก็ไม่ง่ายเลย
วัตถุดิบหลักในการสร้างมันก็คือฟองน้ำและจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยเจอฟองน้ำเลย
ไคลน์นั่งพักอยู่ซักพักหนึ่งแล้วจึงขุดต่อไปยังสุสานแห่งถัดไป
เขาเลือกสุสานที่มีสิ่งมีชีวิตแห่งสุสานอีกครั้ง
ครั้งนี้ไคลน์จะไม่ลงมือเองเพราะเขาต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของจิ้งจอกน้อยทีเพิ่งจะผ่านการวิวัฒนาการมา!