591-592
1/10
Ep.591
“เจ้านาย ฉันเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 7 สำเร็จแล้ว!”
[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กลับมาหาซูเฉิน บินวนรอบตัวเขาด้วยความตื่นเต้น
“ไม่เลวนี่”
มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้นเล็กน้อย นำมันกลับเข้าใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
พรสวรรค์ของ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ที่เพียงดูดเลือดก็สามารถยกระดับได้ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ อาจกล่าวได้เลยว่า แม้ในด้านกำลังรบของมันจะเทียบไม่ได้กับอสูรวิญญาณตัวอื่นๆเช่นหงส์เพลิง แต่ในส่วนของการยกระดับ กลับง่ายกว่าทุกๆตนอย่างเทียบไม่ติด
ต่อมา ซูเฉินเก็บรวบรวมชิ้นส่วน หลังจากขุดหินพลังงานเลเวล 7 ออกมาสองก้อน เขาก็หิ้วชาวราชวงศ์อสูรทั้งสองตนกลับมา
ระห่างที่ลอยผ่านเฉินเฟิงกับศิษย์น้องหญิง เขาก็เอ่ยปากเรียก “พี่เฉิน กลับกันเถอะ”
“อะ .. โอ้!”
เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้ได้สติกลับมา แต่น้ำเสียงที่เอ่ยตอบยังแข็งทื่อเป็นท่อนไม้
กลับมายัง [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินสอบปากคำชาวราชวงศ์อสูรทั้งสอง พร้อมริบเอาแร่ขนาดเท่าไข่ไก่มาได้ 5 ก้อน
หลังจากตรวจสอบยืนยัน ก็พบว่ามันคือผลึกศิลาแดงจริงๆ
“พวกแกไปได้ผลึกศิลาแดงเหล่านี้มาจากที่ไหน?”
ซูเฉินหรี่ตา จ้องเขม็งไปยังชาวราชวงศ์อสูร เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“มนุษย์! จงรีบปล่อยเราผู้เฒ่าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นเผ่าราชวงศ์อสูรของเราจะตามล่าเจ้าจนสุดขอบฟ้า!”
ชาวราชวงศ์อสูรทำเป็นหูทวนลม ไม่ตอบคำถามซูเฉิน ถลึงตาร้องคำรามออกมา
สีหน้าท่าทีของซูเฉินกลายเป็นนิ่งงัน ทว่าสายตาที่เขามองอีกฝ่าย ราวกับกำลังมองดูคนโง่
ทั้งๆที่ตกอยู่ในสภาพนี้ แต่อีกฝ่ายยังทำตัวจองหอง ไม่กลัวว่าจะถูกฆ่าเลยหรือ?
“มนุษย์! ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างไรที่นี่คือทวีปเผ่าราชวงศ์อสูร มีผู้แข็งแกร่งมากมายดุจปุยเมฆ อีกทั้งท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรายังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 9 ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายเรา …”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่พูดอะไร ขาวราชวงศ์อสูรก็คิดว่าซูเฉินอาจเริ่มกลัว พ่นน้ำลายออกมาไม่หยุด
แต่ใครจะทันคาดคิด ว่าก่อนที่จะทันพูดจบประโยค ซูเฉินก็ซัดหนึ่งหมัดเข้าที่ศีรษะมัน
การรับมือกับคนที่หยิ่งผยองเช่นนี้ ซูเฉินจะไม่ปล่อยให้ได้ใจ สังหารชาวราชวงศ์อสูรหนึ่งตนไปทันที
หลังจากนั้น เขาก็หันมามองชาวราชวงศ์อสูรอีกตัว มุมปากยกยิ้มเผยท่าทีหยอกเย้า “แกจะสารภาพตามตรงดีๆ หรืออยากลงเอยแบบเดียวกับมัน?”
ร่างของชาวราชวงศ์อสูรอีกตนสั่นสะท้าน ยอมสารภาพอย่างรวดเร็ว “ผู้อาวุโส พวกเราพบผลึกศิลาแดงเหล่านี้ในเหมืองที่อยู่ไม่ไกล”
ต่อหน้าซูเฉินที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ความหวาดกลัวในหัวใจมันพุ่งทะยานถึงขีดสุด รีบตอบทันทีเพราะกลัวว่าหากช้าไป อาจตายได้
ซูเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า “แล้วทำไมพวกแกสองตนถึงต่อสู้กันด้วย? แค่เพราะผลึกศิลาแดงหรือ?”
“ไม่ นอกจากผลึกศิลาแดงแล้ว เราทั้งสองยังมีบุญคุณความแค้นส่วนตัว นั่นคือเหตุผลที่พวกเราต่อสู้กัน”
ชาวราชวงศ์อสูรอธิบาย
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปหา [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วถามว่า “เสี่ยวจือ อัพเกรดเป็นรูปแบบระดับ 7 ต้องใช้ผลึกศิลาแดงกี่ก้อน?”
“20 ก้อน” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที
“พี่เฉิน ต้องใช้ผลึกศิลาแดงกี่ก้อนในการปรับแต่งอาวุธของพวกคุณ?” ซูเฉินถามต่อ
“ราวๆ 15 ก้อนก็น่าจะพอแล้ว” เฉินเฟิงลองคำนวณคร่าวๆ แล้วตอบกลับ
“แสดงว่ายังต้องหามาอีก 30 ก้อน …”
ซูเฉินพึมพำ เอ่ยถามชาวราชวงศ์อสูรอีกครั้งว่า “ในเหมืองมีผลึกศิลาแดงกี่ก้อน?”
“ผู้อาวุโส ข้าเองก็ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนเหมือนกัน ณ ตอนนั้นที่ขุดได้มีเพียง 5 ก้อน” ชาวราชวงศ์อสูรตอบตามความจริง
“บอกเส้นทางมา นำพวกเราไปที่เหมืองนั่นเดี๋ยวนี้” ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงห้ามปฏิเสธ
ปรากฏผลึกศิลาแดงถึง 5 ชิ้นในเหมือง บางทีข้างในอาจมีมากกว่านั้น และเขาจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้
ต่อมา ภายใต้การนำทางของชาวราชวงศ์อสูร [รถศึกอัจฉริยะ] มุ่งหน้าไปตามทิศทางของเหมือง
2/10
Ep.592
ระหว่างทาง ซูเฉินสอบถามชาวราชวงศ์อสูรอีกครั้งเกี่ยวกับที่อยู่ของเผ่าราชวงศ์อสูรเลเวล 8
และข้อมูลที่ได้มาก็คือ ในอาณาเขตของเป่ยยี่ในทวีปราชวงศ์อสูร มีชาวราชวงศ์อสูรเลเวล 8 อยู่ไม่มากนัก แค่สิบกว่าตนเท่านั้น
ซูเฉินจดจำข้อมูลของพวกมันทีละตน เอาไว้เมื่อได้ผลึกศิลาแดงครบตามต้องการเมื่อไหร่ แผนต่อไปคือการตามล่าชาวราชวงศ์อสูรเลเวล 8 และสัตว์ขี่ของพวกมัน
…
หลังจากเดินทางมานานกว่าสองชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ร้องเตือน “เจ้านาย ห่างออกไป 5 กิโลเมตรตรวจพบชาวเผ่าราชวงศ์อสูรจำนวนมาก จากการตรวจสอบน่าจะมีประมาณ 1,000 ตน”
“เสี่ยวจือ ขยายภาพซิ” ซูเฉินสั่ง
ตลอดทางพวกเขามุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ชาวราชวงศ์อสูรแนะนำ ซึ่งเดิมคาดเดาว่าควรเป็นที่ตั้งของเหมือง
แต่เมื่อหน้าจอควบคุมส่วนกลางสลับเปลี่ยนภาพ กลับปรากฏทิวทัศน์ของทะเลสาบขนาดใหญ่ขึ้นแทน และรอบๆทะเลสาบมีชาวราชวงศ์อสูรกำลังล้อมรอบอยู่ เป็นจำนวนถึงหลัก 1,000 จริงๆ
“ไม่ใช่เหมืองนี่?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทะเลสาบเช่นนี้สมควรเป็นสถานที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจมากกว่า ไม่มีทางเป็นแหล่งขุดแร่อย่างแน่นอน
“แกจงใจล่อพวกเรามาที่นี่งั้นหรือ?” ซูเฉินหรี่ตาลง เหล่มองชาวราชวงศ์อสูร ข้างในแววตาสะท้อนไปด้วยจิตสังหาร
ชาวราชวงศ์อสูรบอกว่าจะพาไปที่เหมือง แต่ปลายทางดันเป็นทะเลสาบ แถมยังมีเจ้าถิ่นอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจุดประสงค์ของมันย่อมชัดเจน คือต้องการยืมมือของชาวราชวงศ์อสรเหล่านี้เพื่อกำจัดพวกซูเฉิน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ..!”
ชาวราชวงศ์อสูรหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง กล่าวด้วยสีหน้ามีชัยว่า “มนุษย์! เจ้ารู้ไหมว่าเบื้องหน้าคือผู้ใด? พระองค์คือท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา! ยังไม่รีบปล่อยข้าไปอีก?”
“เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่แห่งเผ่าราชวงศ์อสูร!?”
ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้ดูน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด
เพราะนี่ก็เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่พวกเขาเข้ามายังทวีปนี้ ระหว่างนั้นได้ทราบข้อมูลมาไม่มากก็น้อย หนึ่งในนั้นคือข้อมูลของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่
ข่าวที่ได้ยินมา คือเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่เป็นผู้แข็งแกร่งเลเวล 9
และศัตรูใดที่ได้เผชิญหน้ากับมัน ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้
เฉินเฟิงเรีบเอ่ยเตือน “เฮียซู พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”
หวู่หยางและคนอื่นๆเองก็เริ่มประหม่าเช่นกัน ทั้งหมดหันมามองซูเฉินเป็นสายตาเดียว
“ฉันเองก็ไม่ได้เจอหน้าเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่มาตั้งนานแล้ว งั้นขอถือโอกาสนี้ฆ่ามันเลยแล้วกัน” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง
เมื่อครั้งอยู่เมืองทงเทียน เขามีความสัมพันธ์อันดี(?)กับเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเขาอยู่แค่เลเวล 4 แต่ปัจจุบันมาถึงเลเวล 7 แล้ว
แม้จะห่างชั้นกันถึง 2 ขั้น แต่หลังจากเปลี่ยนร่างด้วย [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] ระดับฐานฝึกตนของเขาจะสามารถขึ้นเป็นเลเวล 8 ได้ในพริบตา
ควบคู่ไปกับความสามารถในการสังหารข้ามขั้นของซูเฉิน การกำจัดผู้ฝึกตนเลเวล 9 ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เกินไป
นอกจากนี้ เขายังมีไพ่ตายสองใบคือด้วงเขมือบทองคำและต้นหลิววัชระอยู่ในมือ
หากงัดทั้งหมดออกมาใช้ ก็น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสสังหารได้อีกหลายส่วน
“อะไรนะ!?”
เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้อ้าปากค้าง ซูเฉินเพิ่งเอ่ยปากว่าจะสังหารผู้แข็งแกร่งเลเวล 9 นี่ใช่วาจาใหญ่โตเกินไปไหม?
“ช่างอวดดี!” ชาวราชวงศ์อสูรกล่าวด้วยความดูแคลน “มนุษย์ อย่าได้ทะนงตนจนเกินไป มดปลวกเช่นเจ้า จะเทียบฤทธิ์อำนาจขององค์เทพศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?”
“น่ารำคาญ!”
สีหน้าซูเฉินกลายเป็นมืดครึ้ม ง้างแขนทุบศีรษะของชาวราชวงศ์อสูร จากนั้นสั่งการ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ มุ่งหน้าเต็มกำลัง”
“อาเฮียซู! ลองคิดดูดีๆอีกครั้งเถอะ!”
เฉินเฟิงรีบห้ามปราม น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
“เจ้านาย พวกมันรู้ตัวแล้ว และกำลังตรงเข้ามาหาพวกเรา หนึ่งในนั้นคือผู้ฝึกตนเลเวล 9 นอกจากนี้ยังมีผู้ฝึกตนเลเวล 8 อีกสองตน และเลเวล 7 อีกหลายตน” [รถศึกอัจฉริยะ] เตือน
“จบสิ้นแล้ว”
สีหน้าของเฉินเฟิงซีดเผือด ทั้งคนทั้งร่างสั่นไหว เกือบยืนไม่ไหวล้มลงกับพื้น
ในความคิดเขา ผู้ฝึกตนเลเวล 9 เพียงตนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารทุกคนบนรถ ไม่ต้องกล่าวถึงเลเวล 7 และ 8 อีกมากที่ตามมา
ศึกครั้งนี้ ต่อให้มีอีกหลายชีวิต ก็เกรงว่าจะใช้ไม่พอ