ได้โปรดช่วยข้าด้วย
“เขาเนี่ยนะ? อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย ถึงจะเอาชนะเทียนเฉินได้แต่เขาไม่มีทางเทียบกับราชาล่าสังหารได้หรอก เทพอสูรกับมนุษย์มีเส้นแบ่งที่ห่างกันเกินไปราวกับสวรรค์และโลกเลยนะ พลังของมนุษย์จะไปเทียบได้กับเทพอสูรที่มีตัวตนมาตั้งแต่บรรพกาลได้ยังไง” เคนพูดโต้แย้ง
“พวกนายยังไม่เห็นในสิ่งที่ฟรานซิสแบ่งปันข้อมูลกับฉัน ในมุมมองของเด็กคนนี้ที่มองชายที่ชื่อเซราฟ ดาร์เซียนั่น เขาเห็นสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์ที่มีพลังไร้ขีดจำกัดที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เด็กคนนี้เคยเจอ แก่นพลังของเขาราวกับหลุมดำที่สามารถดูดกลืนปราณธรรมชาติทุกชนิดบนโลกมาเป็นพลังของตน พวกนายน่าจะเห็นตอนที่เขาใช้ร่างกายเปล่าๆซัดราชาล่าสังหารจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ถึงตอนนั้นเทพอสูรนั่นจะยังไม่ฟื้นฟูพลังเต็มที่ แต่แค่พลังวิญญานของมันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับพวกเราคนใดคนหนึ่งในห้องนี้ แต่เซราฟ ดาร์เซียกลับเตะหมอนั่นเหมือนเตะฟุตบอลเลยล่ะ คิกๆ” ฟรองซีนพูดจบเธอก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“...” ทุกคนในห้องที่เคยคิดจะไปจับราฟพากันแอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ใครจะไปคิดกันล่ะว่าเจ้าเด็กนี่จะเตะเทพอสูรจนหนีไปได้
‘เกือบตายฟรีแล้วไหมล่ะตู’ โจนาธานคิดพร้อมกับเหงื่อที่ไหลพรากเต็มหลัง
“ทีนี้เข้าใจรึยังล่ะว่าทำไมเทียนเฉินถึงแพ้ได้ เขาไม่มีสิทธิ์ชนะตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าไม่นับพวกเทพอสูรกับเทพปกรณัม ชายคนนี่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนมนุษย์ไปแล้ว ไม่สิ อาจจะทั้งโลกเลยมั้งนะ เรียกว่าเป็นตัวตนที่ผิดปกติสุดๆไปเลย” ฟรองซีนเอียงหัวพูดยิ้มๆ
“แต่เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะอยู่ข้างเรา ไม่ใช่ว่าเขาจะไปเข้าร่วมกับพวกเทพอสูรนะ หรือไม่เขาก็อาจทำลายแดนมนุษย์แล้วขึ้นปกครองเองก็ได้ เราจะปล่อยให้สัตว์ประหลาดแบบนี้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของเรางั้นเหรอ” ชเววอนกีถามคำถามที่ทุกคนก็สงสัยออกมา
“เรื่องนั้นฉันก็กังวลอยู่เหมือนกันในอนาคต แต่ในตอนนี้พวกคุณไม่ต้องกังวลไป เพราะลูกสาวของฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกับเขา แถมยังมีความสัมพันธ์กับลูกสาวของพวกนายสองคนด้วยนี่นา หลินเล่ย เคน นอกจากนี้ตระกูลหลินยังส่งคำเชิญงานประมูลให้เขาด้วยนี่”
“!?” ผู้นำตระกูลอีก 6 คนหันมามองหลินเล่ยกับเคน
“หึ ช่วยไม่ได้ ใครดีใครได้สิ ตัวตนที่ทรงพลังแบบนั้นมาชอบลูกสาวฉัน คนเป็นพ่อก็ต้องสนับสนุนเป็นธรรมดา จริงมั้ยไอ้คนหวงลูก” หลินเล่ยยักคิ้วยิ้มให้เคนที่กัดฟันกรอด เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ของเขาหวงลูกสาวมากขนาดไหน
“ไอ้เด็กนั่นมันกล้าดียังไงมาทำตัวแบบนั้นกับซายะจังของฉัน! คอยดูนะ ถ้ามันทำลูกสาวฉันร้องไห้ล่ะก็ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!” เคนเอ่ยด้วยความโมโห
“ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นมีความรู้สึกที่ดีกับเด็กๆของเรา จึงไม่ต้องกลัวว่าเขาจะลงมือทำอะไรที่ไม่ดีกับแดนมนุษยหนอก ถ้าเขาทำฉันก็มันใจว่าพวกเธอเอาเขาอยู่แน่ๆ...มั้งนะ” ประโยคหลังมิเชลพึมพำเสียงเบา เพราะเธอก็ยังไม่แน่ใจในความกะล่อนของเด็กหนุ่มที่ลูกสาวเธอชอบเหมือนกัน หญิงสาวทำได้เพียงเชื่อมั่นใจสัญชาตญานในการมองคนเท่านั้น
“จะบอกว่าเธอใช้ลูกสาวของเธอเป็นหลักประกันความปลอดภัยของแดนมนุษย์งั้นเหรอ?” ฟรองซีนเลิกคิ้วถามมิเชล
“ก็ครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งเป็นเพราะฉันเห็นแล้วว่าลูกสาวของฉันมีความสุขแค่ไหนตอนนี้ได้อยู่กับเด็กหนุ่มคนนั้น พวกตาแก่ข้างฉันอีกสองคนที่เหลือก็คงรู้สึกไม่ต่างกันหรอก เพราะพวกเราได้ส่งคนแอบติดตามความสัมพันธ์ของลูกสาวพวกเรากับเซราฟดาร์เซียมาสักพักแล้ว” มิเชลเอ่ยยิ้มๆพลางหันไปมองหลินเล่ยกับเคนที่นั่งข้างๆเธอก่อนจะหันมาให้ความมั่นใจแก่ทุกคนว่า
“พวกนายรู้แค่ว่าฉัน หลินเล่ย เคนได้ตรวจสอบบุคคลิกและนิสัยของเขาแล้ว เขาไม่เป็นอันตรายต่อแดนมนุษย์ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ล่ะนะ ฉันรับประกันได้และถ้าเขามีแววว่าจะเป็นภัยต่อแดนมนุษย์เมื่อไหร่ฉันนี่แหละที่จะจัดการเขาเอง” มิเชลพูดเสียงจริงจัง
“ถ้าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเราอย่างเธอว่าอย่างนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย” โจนาธานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกปนเสียดายที่อดได้อาวุธซูพริลมาทดลองอีกครั้ง
“ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วเรามาโหวตกันเถอะ ว่าจะยอมไม่ยุ่งกับเซราฟ ดาร์เซียหรือจะรวมตัวกันจัดการเขาที่อาจเป็นภัยกับแดนมนุษย์ในอนาคตดี? ใครเห็นด้วยเรื่องที่จะไม่ยุ่งกับเขาก็ยกมือขึ้น” คาเรนพูดยิ้มๆแล้วยกมือขึ้น
หลังจากสิ้นเสียงคาเรน เหล่าผู้นำตระกูลหลักทอีกแปดคนที่เหลือก็ยกมือขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน
มิเชลที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า
“จบเรื่องนี้แล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นเรามาต่อเรื่องที่ว่าใครจะได้เป็นผู้นำตระกูลหลักอีนดับหนึ่งแทนตระกูลเทียนกันเถอะ!”
.
.
.
[คฤหาสน์ที่ราฟซื้อไว้ให้พวกสามอสูรในตำนานอยู่]
ฟุบบบ
“ฮู่ววว พอได้อาบน้ำแล้วค่อยสดชื่นขึ้นหน่อย”
ราฟปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าบ้านในชุดกางเกงวอร์มสีดำและรองเท้าแตะคู่โปรดหลังจากอาบน้ำที่หอเสร็ง ตรงไหล่ของเขามีโกโก้ในร่างปอมเกาะไหล่เอาหน้ามาถูคออ้อนเขาอยู่
ในตอนแรกเขากะจะเอาอสูรกุ้งมังกรยักษ์จากทะเลสาบที่จับมาได้ไปทำอาหารกินที่หอพักของเขา แต่ด้วยความที่มันตัวใหญ่เกิน ชายหนุ่มจึงเลือกมาทำที่บ้านใหม่แทนโดยพาโกโก้ที่กำลังนอนเล่นอยู่มาด้วย
เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปสิ่งที่เขาพบก็คือห้องรับแขกที่โคตรจะกว้าง ภายในห้องมีของตกแต่งมากมายโดยเฉพาะทีวีสี่มิติที่กำลังฉายอนิเมะที่คุ้นๆว่าตัวเอกจะชื่อมากิจังอะไรนี่แหละ
กลางห้องมีโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่พร้อมกับโต๊ะวางของด้านหน้าที่มีฟิกเกอร์ของมากิจังขนาด 1:8 นับสิบตัวตั้งอยู่
‘ดูท่าจะเป็นฝีมือของโอตาคุหนุ่ม แบคคัสสินะ’ ราฟคิด
ในขณะที่ราฟกกลังเดินพร้อมกับมองสำรวจภายในห้องอยู่นั้นก็มีเสียงที่ฟังดูอิดโรยสายหนึ่งดังขึ้นมาว่า
“หยุดก่อนราฟ ได้โปรดช่วยข้าด้วยยย...”
“เสียงนี้...แบคคัสเหรอ? เสียงมาจากในห้องนี้นี่...เห้ย!?” ราฟมองหาเจ้าของเสียงไปทั่วก่อนที่สายตาจะมาหยุดลงที่พื้นข้างโซฟาที่มีร่างผอมแห้งของอาชาพฤกษาในร่างมนุษย์นอนคว่ำอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาที่ในตอนนี้ซูบตอบของแบคคัสกำลังเงยหน้ามองราฟพร้อมกับชูมือมาทางเขา
“ใครกันที่ทำให้นายเป็นแบบนี้ ศัตรูบุกงั้นเหรอ!?” ราฟลุกขึ้นมาประคองแบคคัสให้ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาก่อนจะใช้เนตรสีทองกวาดตามองไปทั่วบ้าน
‘ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือร่องรอยมิติอยู่เลย เป็นคนที่ลบล่องรอยเก่งจริงๆ ศัตรูอยู่ไหนกัน?’ ในขณะที่ราฟกำลังมองหาผู้ที่ลักลอบเข้ามาโจมตีแบคคัสอยู่นั้น ชายหนุ่มผมเขียวก็พูดขึ้นมาว่า
“หิววว...หิวเหลือเกิน ขะ ขอข้าวให้ข้ากินหน่อย”
“...”