เหล่านักข่าวผู้น่าสงสาร
“หืม อ้อ เข้าใจแล้ว” ลิลิธโบกมือครู่หนึ่ง จากนั้นชุดของเธอก็กลายเป็นชุดเดรสกระโปรงเปิดไหล่สีดำพร้อมกับร่างของเธอที่ถูกลดอายุลงจนกลายเป็นหญิงสาวอายุ 17 เทียบเท่ากับราฟ
“ข้าดูเป็นอย่างไรบ้าง” ลิลิธถามชายหนุ่มพร้อมกับหมุนตัว
“สวยมากเลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้หญิงสาวก่อนจะกล่าวต่อว่า
“ไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินไปอุ้มโกโก้ในร่างเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเขาแล้วพูดขึ้นว่า
“ไปข้างนอกกัน”
“ไปเที่ยวเหรอ? ไปๆ หนูอยู่แต่ในห้องทั้งวันเบื่อมากเลย ว่าแต่...พี่สาวคนสวยคนนี้จะมาเป็นนายหญิงอีกคนเหรอคะ” โกโก้มองลิลิธแล้วเอียงหัวถามอย่างน่ารัก
“คิกๆ นายหญิงงั้นรึ ช่างเป็นเด็กที่ปากหวานเสียจริง หืม...เจ้าคือทายาทของเฟนริลนี่ สมกับเป็นคนรักของข้าจริงๆที่สามารถทำให้ธิดาของจอมอสูรหมาป่ากลายเป็นผู้ติดตามได้” ลิลิธหันมายิ้มให้ราฟ
“เอ่อ ความจริงแล้วเด็กคนนี้หนีเที่ยวมาน่ะครับ ผมเห็นว่าน่ารักดีเลยรับมาอยู่ด้วย ตอนเจอกันครั้งแรกเด็กคนนี้มาหยอกล้อด้วยการงับหัวผมเล่นด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ” ราฟตอบลิลิธพลางมองโกโก้แล้วคิดว่า
‘เฟนริลงั้นเหรอ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นชื่อของหนึ่งในอสูรต่างมิติที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยสังหารผู้ใช้พลังระดับ SSS และทำลายเมืองในแดนมนุษย์ไปถึง 3 เมืองก่อนที่จะถูกผู้ใช้พลังที่เหลือขับไล่กลับมิติไปนี่ นี่โกโก้เป็นลูกของอสูรระดับนั้นงั้นเหรอ สุดยอดดด ว่าแต่ ทำไมอสูรหมาป่าถึงมีลูกเป็นหมาปอมได้วะ?’ ราฟคิดด้วยความสงสัย แต่ชายหนุ่มก็คิดได้ไม่นานเพราะเขาสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนหลายสิบคนกำลังแฝงตัวอยู่บริเวณรอบหอของเขา
เมื่อชายหนุ่มใช้เนตรสีทองมองดูก็พบว่าพวกเขาพกกล้องวิดีโอมาคนละตัว
“นี่น่ะเหรอ ที่พักของเชราฟ ดาร์เซีย คนที่ถล่มตระกูลเทียนด้วยตัวคนเดียวน่ะ มันน่าเหลือเชื่อจริงๆที่เขายังเป็นแค่นักเรียนผู้พิทักษ์อยู่”
“ถึงจะไม่น่าเชื่อแค่ไหนก็ตาม แต่วิดีโอที่ถูกถ่ายโดยสมาชิกหน่วยพิราบสีขาวทำให้เราเห็นภาพคนที่จัดการตระกูลหลินได้อย่างชัดเจน”
“จากข้อมูลที่หามา ที่อยู่ของเขาคือที่นี่ไม่ผิดแน่ แต่ยังไม่มีรายงานบอกมาว่าเขากลับมาแล้ว พวกเรารอที่นี่จนกว่าเขาจะปรากฏตัวกันเถอะ”
เสียงของเหล่านักข่าวที่พูดคุยกันเรื่องของราฟทำให้ชายหนุ่มกุมหัว
“ให้ตายเถอะ มีเรื่องวุ่นเข้ามาอีกแล้ว”
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” ลิลิธที่เห็นสีหน้าของราฟถามออกมา
“ดูเหมือนจะมีพวกนักข่าวมาหาข่าวเรื่องผมน่ะครับ” ชายหนุ่มตอบเซ็งๆ
“อ้อ เรื่องที่เจ้าไปถล่มตระกูลเทียนน่ะเหรอ”
“อื๋อ ลิลิธรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ เรื่องมันเพิ่งผ่านมาไม่นานเองนะ”
“อย่าดูถูกเหยี่ยวข่าวของแดนมารสิ...และยิ่งเป็นเรื่องของเจ้าข้าเลยสนใจเป็นพิเศษ...” ประโยคสุดท้ายหญิงสาวพูดเสียงเบาหวิวแต่ราฟที่หูผีก็ได้ยินเต็มๆทำให้เขามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน
‘จักรพรรดิโลหิตผู้เป็นที่น่าพรั่นพรึงไปทั่วแดนมารมาจนถึงแดนมนุษย์ก็มีด้านแบบนี้ด้วย น่ารักแฮะ’
“ก็ตามนั้นแหละครับ ผมขอเวลาไปจัดการกับพวกเขาแปปนึงนะ”
“ให้ข้าจัดการให้ดีหรือไม่ รับรองจะไม่ให้เหลือโลหิตแม้แต่หยดเดียว” ลิลิธที่เพิ่งจะใช้สัมผัสของเธอตรวจสอบพวกนักข่าวเสร็จหันมาเอียงหัวถามราฟอย่าน่ารักแต่ประโยคที่เธอพูดเมื่อครู่ทำให้ราฟต้องแอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจัดการเอง ลิลิธรออยู่นี่เถอะครับ” ราฟยิ้มแห้งๆให้กับความโหดของหญิงสาวก่อนจะหายออกตัวไปจากห้องด้วยพลังมิติของเขา
.
.
.
ฟุบบบ
ราฟปรากฏตัวขึ้นห่างจากจุดที่พวกนักข่าวอยู่ไม่ไกลนัก
เมื่อมองไปที่พวกเขาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปากแล้วพูดกับตัวเองในใจว่า
‘มีแต่คนจากกิลด์นักช่าวแฮะ คนพวกนี้มีชื่อเสียงเรื่องตามไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ข้อมูลที่ต้องการด้วยสิ ถึงขนาดแอบลักลอบเข้ามาในโรงเรียนเพื่อหาข่าวเลย...เห้อ ใครใช้ให้เราหล่อเกิน(?)จนนักข่าวพากันสนใจกันล่ะ เอิ๊กๆ’ หลังจากเพ้ออยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มผมเทาก็ยกมือขึ้นมากางออก ก่อนจะมีสมุนไพรชนิดหนึ่งขึ้นมาบนมือของเขา
‘จริงๆเราปลอมตัวเป็นอีกคนเหมือนตอนเปลี่ยนเป็นเซร่าเฉยๆก็ได้ แต่ครั้งต่อไปเราก็ต้องทำแบบนี้อีกเรื่อยๆ สู้จัดการไม่ให้คนพวกนี้ตามมาอีกเลยดีกว่า หุๆ’ คิดได้ดังนั้นราฟก็ขยำสมุนไพรกำใหญ่ในมือจนแหลกแล้วใช้ปราณมายาทำให้มันล่องหน ก่อนจะใช้พลังสุริยันสร้างความร้อนเผาจนเกิดควัน จากนั้นเขาก็ควบคุมสายลมพัดพามันไปยังจุดที่พวกนักข่าวอยู่
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง
แกรกๆ
พวกนักข่าวที่กำลังเฝ้ารอการมาถึงของราฟอย่างใจจดใจจ่ออยู่ได้ยินเสียงบางอย่างจึงหันไปหาที่มาของเสียง จากนั้นก็พบว่ามีหนึ่งในนักข่าวกำลังเการ่างกายตัวเองอยู่
“นายเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงคัน...โอ๊ย” นักข่าวอีกคนถามแต่ตัวของเขาเองก็ต้องขมวดคิ้วและร้องออกมาเพราะรู้สึกคันเหมือนกัน
“อ๊ากกก คันโว๊ย! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน!” นักข่าวอีกคนร้องออกมาขณะเกาจนผิวแดงและมีรอยเล็บของเขาเต็มไปหมด
“เวรเอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ฉันกลับก่อนล่ะ คันชิบเลย เดี๋ยวค่อยโทรให้คนมาเปลี่ยนตัว ตอนนี้ขอไหาหมอก่อนโว๊ย”
หลังจากมีคนหนึ่งเริ่มถอย นักข่าวที่เหลือก็พากลับตามเพราะในตอนนี้ไม่มีใครสักคนในพวกเขาที่ไม่รู้สึกคัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากหอของราฟ พวกเขาก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกยิ้มให้พวกเขาอยู่
ชายคนนั้นมีผมสีเทา ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าคมคายกำลังใช้ดวงตาสีทองมองพวกเขา การที่พวกเขาที่เป็นยอดฝีมือในด้านการซ่อนตัวจากสายตาผู้คนแต่กลับไม่สามารถสัมผัสตัวตนของชายหนุ่มตรงหน้าได้เลยมันทำให้พวกเขารู้สึกตึงเครียด แต่เมื่อสังเกตุดีๆพวกเขาก็จำได้ว่าชายคนนี้คือคนที่พวกเขากำลังเฝ้ารออยู่
“เซราฟ ดาร์เซีย!?”
“แหมๆ อาศัยช่วงวันหยุดที่นักเรียนไม่ค่อยอยู่หอกันแอบลักลอบเข้ามาเนี่ย ไม่น่ารักเลยนะครับ” ราฟพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆให้กับท่าทางของพวกนักข่าวที่พากันเการ่างกายของตัวเองดังแกรกๆไม่หยุด