เทพอสูรโบราณ
“เงียบทำไม ตอบคำถามฉันมาสิ” หลินอิงอิงถามย้ำอีกครั้ง แต่เสียงที่หวานใสในทีแรกกลับกลายเป็นเสียงเย็นชาจนน่าใจหาย
“อะแฮ่ม ขอแนะนำให้รู้จักกับวาเนโลปี้ มารสาวผู้มีดีกรีเป็นถึงมิสแกรนด์แห่งแดนมาร เอ๊ย ศิษย์เอกชองจักรพรรดิโลหิตผู้โด่งดังๆๆๆ....” ราฟกระแอมเล็กน้อย ก่อนจะแนะนำตัวหญิงสาวที่ตนอุ้มอยู่ให้ครูสาวคนสวยรู้จัก
“วาเนสซ่าย่ะ! นี่นายตั้งใจพูดผิดใช่มั้ย? แล้วก็ปล่อยฉันได้...กรี๊ดดด” วาเนสซ่ายังพูดไม่ทันจบเธอก็ถูกราฟโยนไปไว้บนโซฟา
“ก็บอกแล้วไงว่าชื่อวาเนโลปี้น่ารักกว่าเยอะ” ราฟยักไหล่บอกหญิงสาว ก่อนจะหันไปมองครูสาวผมชมพูที่กำลังจ้องเขาอยู่พร้อมกับคิ้วที่ขมวดกันแน่น
“เมื่อกี้นายพูดว่ามารงั้นเหรอ?” หลินอิงอิงลุกขึ้นยืนแล้วเรียกมังกรสายฟ้าออกมาโดยอัดปราณไว้เต็มที่เพื่อที่จะจัดการมารสาวตรงหน้า
“ครับผม แต่ครูไม่ต้องห่วง เพราะผมกำราบเธอไว้ไม่ให้สามารถใช้พลังได้แล้ว” ราฟเดินเข้าไปชวางระหว่างหญิงสาวทั้งสองโดยมีวาเนสซ่าพยักหน้ารัวๆ ถ้าตัวของเธอในตอนนี้ที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้โดนสายฟ้านี้เขาไปได้ล่ะก็ตายทันทีแบบไม่ต้องสืบ เพราะพลังของสายฟ้าที่เธอสัมผัสได้จากหญิงสาวผมชมพูคนนี้คล้ายกับมีพลังของธาตุศักดิ์สิทธิ์ผสมอยู่ด้วย
“งั้นเหรอ...ฉันจะเชื่อนายก็แล้วกัน แต่ถ้ามารตนนี้มีท่าทีที่ดูอันตรายกับคนในโรงเรียนนี้ล่ะก็ เธอได้รับสายฟ้าสวรรค์ของฉันไปกินแน่” หลินอิงอิงสลายสายฟ้าของเธฮไป
“สะ สายฟ้าสวรรค์ เจ้าคือคนของตระกูลหลินงั้นเหรอ?” วาเนสซ่าอ้าปากค้างก่อนจะไม่พูดอะไรอีกเพราะกลัวทำให้หญิงสาวตรงหน้าไม่พอใจ
“จริงสิ มารอย่างเธอแพ้ทางตระกูลหลินที่เป็นตระกูลผู้ใช้พลังของสายฟ้าผสมกับธาตุศักดิ์สิทธิ์และเป็นศัตรูตัวฉกาจของเผ่ามารนี่นะ งั้นพอดีเลย ครูหลินคนสวย มาช่วยผมถามอะไรยัยนี่หน่อยได้มั้ย ถ้าครูตกลงเดี๋ยวผมให้หอมแก้ม” ราฟพูดยิ้มๆพร้อมกับหันแก้มขวาแล้วชี้นิ้วจิ้มแก้มของเขาไปทางหญิงสาว
“ใครจะไปหอมแก้มนายกัน” หลินอิงอิงปฏิเสธทันที
“แหมๆ เขินกันก็ไม่บอก งั้นให้ผมหอมแก้มครูแทนละกัน เป็นการแสดงความรักระหว่างศิษย์อาจารย์ไง”
“เลิกพูดเล่นได้แล้ว ตกลงจะให้ช่วยมั้ย ไม่งั้นฉันกลับแล้วนะ” หลินอิงอิงพูดพร้อมกับเดินไปที่ประตูห้องอย่างหัวเสีย
‘พอได้ยินว่านักเรียนที่รอดในการแข่งเป็นกลุ่มสุดท้ายรวมทั้งเจ้าเด็กนี่จะกลับมาวันนี้จากปากพี่แอนนาก็อุตส่าห์มาเล่นกับโกโก้เพื่อรอแสดงความยินดีที่ผ่านการแข่งมาได้ แต่เขากลับพาผู้หญิง(เผ่ามาร)เข้าห้องมาด้วยเนี่ยนะ ฮึ่ย’ หลินอิงอิงคิดอย่างอารมณ์เสียและคิดที่จะไประบายอารมณ์โดยรับงานกำจัดสัตว์อสูรที่สมาคมผู้พิทักษ์ แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกไปก็ถูกราฟที่ใช้มือข้างที่ว่างจากการอุ้มโกโก้อยู่จับข้อมือของเธอไว้ แล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ใจเย็นสิครับครูหลิน ผมแค่พูดเล่นนิดหน่อยเอง ครูไม่รู้หรอกว่าตอนอยู่ที่เกาะร้างผมคิดถึงครูหลินแค่ไหนน่ะ แต่ตอนนี้ผมอยากให้ครูช่วยผมจริงๆนะ” ราฟยิ้มให้หญิงสาวพลางคิดว่าครูของเขาเวลาที่โดนเขาแกล้งนี่ช่างน่ารักจริงๆ
ภายในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานั้น ราฟต้องอยู่ในเกาะร้างโดยที่เขาไม่ได้หยอกล้อกับครูสาวเลย มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับขาดอะไรไป
‘พอได้กลับมาแกล้งเธอแล้วค่อยสบายใจขึ้นหน่อย เคี๊ยกๆๆ เอ้ย คิกๆ’
“ถะ ถ้านายพูดอย่างนั้นฉันจะอยู่ช่วยก่อนก็ได้” หลินอิงอิงพูดเสียงเบาก่อนจะไปยืนอยู่ข้างๆราฟที่ยิ้มดีใจที่ครูสาวยอมช่วยเขา ก่อนจะมองวาเนสซ่าบนโซฟาแล้วถามเธอว่า
“เอาล่ะ ฉันมีคำถามที่อยากจะถามเธอนิดหน่อย แต่เธอต้องบอกมาตามตรงนะ ไม่อย่างนั้นเธอโดนครูคนสวยของฉันฟาดสายฟ้าใส่แน่” กล่าวจบราฟก็ยกเก้าอี้สองตัวมาให้หลินอิงอิงแล้วก็ตัวของเขานั่ง ส่วนโกโก้นั้นก็ยังอยู่ในอ้อมอกของเขาอยู่
“...” วาเนสซ่ามองพวกราฟนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“อยากถามอะไรก็ถามมา”
“ต้องอย่างนั้น” ราฟฉีกยิ้มกว้างก่อนจะถามเธอว่า
“ทำไมถึงอยากได้ตัวพัคแทยังขนาดนั้น”
“...เพราะเขาเป็นเผ่าเทวะตนสุดท้ายซึ่งเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้พวกข้าสามารถสร้างอาวุธที่สามารถจัดการพวกเทพอสูรโบราณที่กำลังบุกมาที่โลกได้ยังไงล่ะ” วาเนสซ่าตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
ราฟกับหลินอิงอิงที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วทันที
“เทพอสูรโบราณ? เธอหมายถึงสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่ถือกำเนิดในยุคแรกเริ่มของโลกน่ะเหรอ ไม่ใช่ว่าพวกเขาตายกันไปหมดเพราะถูกเหล่าเทพปกรณัมสละชีวิตเพื่อสังหารไปทั้งหมดแล้วรึไง?” หลินอิงอิงถามด้วยความตกใจ ถ้านี่เป็นความจริงถ้างั้นโลกก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว
“เทพอสูรโบราณ? ผมเคยได้ยินชื่อของเทพปกรณัมมาบ้าง แต่เทพอสูรโบราณนี่พวกเขาเป็นใครเหรอ?” ราฟที่พึ่งเคยได้ยินชื่อนี้หันมาถามหลินอิงอิง
“พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในตำนานของประเทศต่างๆที่ต้องการปกครองโลกเพียงผู้เดียว แต่ด้วยความที่พวกเขามีหลายกลุ่ม ทำให้พวกเขาต้องทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงเขตปกครอง ทำให้พวกเทพปกรณัมต้องสละชีวิตและใช้พลังของพวกเขาทั้งหมดส่งพวกเทพอสูรโบราณออกไปให้ห่างไกลจากโลก”
“...ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพราะเรื่องนี้รู้กันแค่สิบตระกูลหลักที่พิทักษ์แดนมนุษย์มาหลายพันปีแล้วเท่านั้น พวกเขาเก็บเรื่องนี้ไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนกลัว ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องแต่งซะอีก เพราะไม่มีข้อมูลของพวกเขาจากที่อื่นเลย ไม่นึกว่าพวกมารจะรู้ข้อมูลส่วนนี้ด้วย” หลินอิงอิงอธิบายราฟเสียงเครียด ก่อนจะถามเขาว่า
“เธอโกหกพวกเราอยู่รึเปล่า”
“ไม่ ผมสามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจ การหายใจ แววตา ท่าทางทุกอย่างแล้ว ถึงจะไม่อยากยอมรับเรื่องนี้ก็เถอะ แต่เธอไม่ได้พูดโกหก” ราฟถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตัวปัญหาตัวเป้งกำลังจะโผล่มาแล้ว ชีวิตสบายๆที่เขาฝันไว้เมื่อไหร่จะมาถึงซะทีล่ะเนี่ย