หอมแก้ม
“นาย…ทำไมมาอยู่ที่นี่” ซายะถามราฟที่กำลังยิ้มบางๆอยู่บนโซฟา
“เดินเข้ามาสิ แต่หายตัวเข้ามานะเพราะฉันเห็นว่าน้องเธออยู่ แล้วนี่ฉันมาหาเธอเฉยๆไม่ได้รึไง?” ราฟฉีกยิ้มถามหญิงสาว
“...” ซายะที่ได้ยินที่ราฟถามกลับก็เงียบไป
“ฮ่าๆ เธอนี่จริงจังกับทุกเรื่องเลยนะ...นี่ ยื่นมือมาหน่อยสิ”
“?” ซายะขมวดคิ้วสงสัยในคำพูดของชายหนุ่ม แต่ก็ยื่นมือออกมาให้ราฟ
แปะ
ราฟยื่นมือของเขาไปจับมือของซายะจนทำให้เธอตกใจแล้วรีบชักมือกลับทันที
“นายทำบ้าอะไรน่ะ!?”
“เง่ะ ใจร้าย ฉันแค่ประทับตราสื่อสารทางไกลให้เธอเท่านั้นเอง เผื่อว่าเธอต้องการความช่วยเหลือตอนฉันไม่อยู่ ชิ คนอุตส่าห์เป็นห่วง ใช่ซี้ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด” ราฟบ่นอุบอิบจนซายะต้องพูดขึ้นมาว่า
“พอได้แล้ว ทำตัวเป็นคนขี้น้อยใจไปได้ ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะ” ซายะพูดเสียงเรียบแต่น้ำเสียงแฝงความดีใจไว้
‘นี่เขาทำให้เราโดยเฉพาะเลยสินะ...’
“ถ้าเธอชอบก็ดีแล้ว เดี๋ยวฉันต้องไปประทัยตราให้พวกพัคแทยังอีก”
“...”
“อื๋อ เป็นอะไรน่ะ ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ แถมลมหายใจยังถี่ขึ้นด้วย ไม่สบายเหรอ?” ราฟเอียงหัวมองหน้าของซายะก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้เธอแล้วเอามือแตะหน้าผากของหญิงสาว
ฉ่า...
“ไอ้บ้า” ซายะขมวดคิ้วพูดเสียงเบาจนทำให้ราฟเลิกคิ้ว
‘นี่ตูทำอะไรผิดวะ’
“อ้ะ จริงสิ เธอติดคำสัญญาเรื่องที่แพ้พนันฉันไว้นี่นา หุๆ เอาล่ะ ได้เวลาทำตามสัญญาแล้วนะคุณประธานสุดสวย” ราฟที่นึกขึ้นได้หันมาแสยะยิ้มชั่วร้ายให้ซายะ
“นะ นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เห็นจำได้เลย”
“ไม่เอาน่า ก็ตอนที่เธอคิดว่าฉันทำสัญญากับเผ่ามารไง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอย่างเธอไม่น่าความจำสั้นเลยนะ”
“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆนี่” ซายะพูบพลางหลบสายตาของราฟ
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันคงต้องเป็นฝ่ายหอมเธอเองสินะ แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันน่ะเป็นคนชอบหอมแบบรุนแรง อาจทำให้แก้มเธอเป็นรอยช้ำจนคนอื่นสังเกตุเห็นเอาได้ง่ายๆเลยนะ” ราฟแสยะยิ้มมองซายะที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่
“มะ ไม่ได้นะ ฉันจะหะ..หอมแก้มนายเอง”
“ก็แค่เนี้ย” ราฟหัวเราะเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงยื่นแก้มไปใกล้หญิงสาวแล้วหลับตาลง
“...”
“...”
1 นาทีต่อมา
ราฟที่หลับตารอมาสักพักสัมผัสไม่ได้ถึงริมฝีปากบางๆของซายะก็ลืมตาแล้วหันหน้าไปมองหญิงสาวเพื่อจะบ่นเธอ
ทันใดนั้นเอง
จุ๊บ…
“...” ราฟ
“...” ซายะ
ทันทีที่ราฟหันหน้าไป เขาก็ได้ถึงบางสิ่งที่นุ่มนวลกำลังแตะกับริมฝีปากของเขาพร้อมกับใบหน้าของซายะที่กำลังเบิกตาคู่งามกว้างด้วยความตกใจ
ตูมมม!!!
“เห้ย!” ราฟที่ถูกซายะระเบิดปราณเหมันต์ออกมาด้วยความตกใจถึงขีดสุดกระเด็นออกไปจนกระแทกเข้ากับผนังห้องเสียงดัง
“นาย! ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไหนว่าให้หอมแก้มเฉยๆไง!?”
“กะ ก็เธอช้าอ่ะ ฉันกึคิดว่าเธอไม่ยอมหอมแก้มฉันแล้วเลยหันไปดู ไม่คิดว่า...” ราฟอธิบายก่อนจะเอามือมาแตะที่ปากตัวเอง
“นั่นมันเป็นเพราะฉันกำลังทำใจอยู่ต่างหาก คิดว่าฉันใจง่ายรึไง นี่มันเป็นการหอมแก้มครั้งแรกของฉันเลยนะ! แต่นายกลับ...”
“อึก รู้สึกว่าตัวเองชั่วร้ายเลยแฮะ...แต่สัมผัสเมื่อกี้ดีและนุ่มมากเลยนะ เธอใช้ลิปอ่ะไรอ่ะ เหวอออ...!” ราฟหายตัวหลบฝนดาบน้ำแข็งที่ถูกปล่อยออกมาจากซายะไปโผล่อีกมุมหนึ่ง
“ฉันแปดเปื้อนเพราะนายแล้ว คิดว่าจะรับผิดชอบยังไง” ซายายิ้มเย็นทั้งที่หน้ายังแดงก่ำอยู่
“เอิ่ม มันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ ใช้คำว่าแปดเปื้อนเนี่ย เอางี้มั้ย ฉันจะจูบเธอกลับเอง แล้วเราก็ถือว่าหายกัน…”
“เลิกพูดเล่นแล้วออกจากห้องนี้ไปซะ!” หญิงสาวตะโกนใส่ราฟทั้งน้ำตา
“...” ราฟที่เห็นน้ำตาของหญิงสาวหุบยิ้มของตนแล้วหยุดอยู่กับที่ปล่อยให้ฝนน้ำแข็งของหญิงสาวโจมตีเขา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถทำอะไรร่างกายของราฟได้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาซายะที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่
“...” ราฟมองดูหยาดน้ำตาของหญิงสาวที่หยดลงพื้นแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าจากแหวนมิติออกมาซับน้ำตาให้เธอ
“ฉันขอโทษ” ราฟพูดเสียงอ่อน
“...” ซายะไม่พูดอะไร เธอเงยหน้าขึ้นมองราฟแล้วกำหมัดชกใส่หน้าราฟ
“นายไม่รู้หรอกว่าจูบนั้นมันสำคัญกับฉันมากแค่ไหน” หญิงสาวพูดขณะยังคงชกหน้าราฟไม่หยุด
“ฉันขอโทษ” ราฟพูดประโยคเดิมก่อนจะเอื้อมสองมือออกไปด้านหลังของซายะแล้วโอบกอดเธอไว้เพราะกลัวมือเธอเจ็บจากการชกร่างของเขา
“...” ซายะไม่ตอบราฟ เธอเงยหน้ามองดูเขาเงียบๆ
“ปล่อย” หญิงสาวผมขาวพูดเสียงเบา
“ไม่ปล่อย จนกว่าเธอจะหายโกรธ” ราฟตีหน้ามึนตอบหญิงสาว
“...”
หลายนาทีต่อมาหญิงสาวก็พูดขึ้นหลังจากที่ใจเย็นลงว่า
“ฉันให้อภัยนายก็ได้ เพราะเห็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรอกนะ”
ราฟยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของซายะ
“แต่นายต้องสัญญากับฉันมาก่อน”
“ว่ามาเลย”
“อย่าตาย แล้วกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้”
สิ้นเสียงของซายะ ราฟก็มองเธออย่างอ่อนโยนแล้วยิ้มให้หญิงสาว
“เธอเป็นห่วงฉันจริงๆด้วย”
“...สัญญามา”
“ฉันสัญญาว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ดีมาก...แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้วไอ้คนโรคจิต”
“เง่ะ กำลังโรแมนติกเลย จบเพราะไอ้คำว่าโรคจิตนี่แหละ” ราฟเบะปากพลางปล่อยหญิงสาวจากอ้อมกอด
แชะ!
“ซวยละ!” เสียงที่ฟังดูเหมือนเสียงถ่ายรูปดังขึ้นพร้อมกับเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่ง
“!?” ทั้งราฟและซายะหันขวับไปมองที่มาของเสียง จากนั้นก็พบกับยาโตะที่ทำหน้าตกใจโดยที่มือของเขากำลังถือมือถืออยู่
“ดูเหมือนว่าจะมีคนเห็นฉากเลิฟซีนของเรานะ” ราฟเกาหัวยิ้มๆ
“เลิฟซีนบ้าอะไรของนาย...ยาโตะ เอามือถือมานี่!”
“ชิ ไม่น่าเปลี่ยนจากอัดวิดีโอมาเป็นถ่ายรูปเลยเรา...ใครจะไปให้กันล่ะ อุตส่าห์ได้คลิปที่พี่สาวแสนเย็นชาจูจุ๊บกับหนุ่มทั้งที แถมยังเป็นพี่ราฟที่กำลังดังตอนนี้อีก ดีจริงๆที่กลับมาหยิบของที่ลืมไว้เลยได้ของดีติดมือ เคี๊ยกๆๆ” ยาโตะพูดพลางหลบการโจมตีของซายะด้วยการสร้างโล่น้ำแข็งขึ้นมาบังไว้ ก่อนจะมองราฟแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หวัดดีฮะพี่ราฟ พี่คือไอดอลของผมเลย ข่าวลือที่ว่าพี่เป็นเสือผู้หญิงนักท่องราตรีคงจะจริงสินะครับ ถึงทำให้พี่ผมยอมทำแบบนั้นได้เนี่ย นับถือๆ...ไปล่ะยัยพี่จอมโหด” พูดจบยาโตะก็ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีออกจากห้องทันที
“...ไอ้น้องบ้า” ซายะเอามือกุมหัวของเธอก่อนจะพูดกับราฟที่ยิ้มแห้งๆว่า
“ยิ้มอะไร ถ้าไม่มีธุระอีกก็ไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน นายคิดว่าประธานนักเรียนว่างมากนักหรือไง?”
“จ้าๆ ไปก็ได้” ราฟพยักหน้ารับก่อนจะเตรียมจากไป แต่ก็หันมาฉีกยิ้มให้ซายะแล้วพูดขึ้นมาว่า
“อย่ามัวแต่คิอดถึงรสจูบที่เร่าร้อนของเราจนลืมทำงานประธานล่ะ ฮ่าๆ”
“รี่บออกไปซะที!”
เมื่อราฟจากไป ซายะก็นั่งบนเก้าอี้ฟุบหน้าที่ยังคงแดงก่ำลงบนโต๊ะแล้วพูดเสียงเบาว่า
“เฟิร์สคิสของฉัน...”