หมู่บ้านที่ถูกทำลาย
“เด็กคนนี้เขามาขอความช่วยเหลือจากทางเราให้ไปช่วยหมู่บ้านของเขาที่ถูกสัตว์อสูรโจมตีน่ะค่ะ ฉันต้องใช้เวลาตรวจสอบสักพักแต่เขาต้องการให้คนไปช่วยเดี๋ยวนี้เลย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้” เทียร์สรุปให้ราฟฟังคร่าวๆ ราฟจึงหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนก้มหน้าอยู่
“นี่น้องชาย หมู่บ้านของนายอยู่ห่างจากที่นี่เท่าไหร่งั้นเหรอ?”
“สะ สิบกิโลครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับมาก่อนจะเงยหน้ามองราฟแล้วทำสีหน้าเศร้าเพราะคนที่ถามเขาเป็นเพียงคนที่แก่กว่าเขาไม่กี่ปีเท่านั้น ที่เขารู้เพราะราฟติดตราโรงเรียนไอรีนทำให้เขาเป็นนักเรียนที่อายุไม่เกิน 20 ปี
“อะไรกันนายน่ะ เห็นฉันแก่กว่าไม่กี่ปีก็หมดหวังแล้วงั้นเหรอ มีฉันไปช่วยตอนนี้ก็ดีกว่าไม่มีใครไปเลยนะ” ราฟที่เห็นท่าทางของเด็กชายก็ยิ้มบางๆ เขาไม่แปลกใจเพราะคนส่วนใหญ่คิดว่านักเรียนผู้พิทักษ์จะเป็นเหมือนกับคนที่มีปืนแต่ใช้ไม่เป็นเท่านั้น(มีความสามารถแต่เอาตัวรอดไม่ได้) พวกเขาไม่รู้ถึงการฝึกสอนที่โหดร้ายของโรงเรียนที่มักจะให้เข้าสู่สงครามไม่ก็ต่อสู้กันเองเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
“พี่ชายจะไปกับผมจริงๆเหรอครับ!? ขอบคุณมากๆครับ!” เด็กชายยิ้มดีใจ ก่อนจะคุกเข่าขอบคุณเขา ถึงแม้จะเป็นเพียงนักเรียนผู้พิทักษ์แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีใครมาช่วยเลย
“จะดีเหรอคะคุณราฟ ถ้ามีสัตว์อสูรบุกจริงๆมันอันตรายมากนะคะ” เทียร์เตือนเขาด้วยความเป็นห่วง ถึงนักเรียนผู้พิทักษ์จะแข็งแกร่งเพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้พลัง แต่ถ้าต้องลงสนามจริง แม้พวกเขาจะมีพลังที่สุดยอดและมั่นใจในตัวเองแค่ไหนก็อาจทำอะไรไม่ถูกจนพลาดท่าให้กับพวกมันได้ เคสแบบนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนเขา
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถ้าเห็นว่ามันอันตรายผมจะรีบถอยกลับทันที นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจสอบให้คุณเทียร์ด้วยว่ามันมีอสูรบุกจริงๆรึเปล่า คุณจะได้ประทับใจในตัวผมไงครับ อิๆ” ราฟอธิบายแบบขอไปที ก่อนจะหันไปบอกกับเด็กชายว่า
“นายชื่ออะไร? บอกพิกัดหมู่บ้านของนายมาสิ”
“ผมชื่อแจ็คครับ ส่วนพิกัดหมู่บ้านผมไม่รู้ครับ” เด็กชายตอบ
“...งั้นบอกชื่อหมู่บ้านนายมา”
“หมู่บ้านโคลฟเวอร์ครับ”
“ขอฉันหาพิกัดแปปนะ! เจอแล้ว! ป่ะ ไปกัน” ราฟพูดแล้วเปิดมือถือหาพิกัดในอินเทอร์เน็ต จากนั้นเขาก็แตะไหล่เด็กชายแล้วทำทีสะบัดมือ ก่อนที่ทั้งคู่จะหายไปจากสายตาของคนที่อยู่ในสมาคม
“แหวนเทเลพอร์ต!? ถึงว่าล่ะเจ้าหนุ่มนั่นถึงมั่นใจนักว่าจะหนีกลับมาได้ถ้าสู้ไม่ไหว ที่แท้ก็เป็นคุณขายจากตระกูลที่ร่ำรวยนี่เอง” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างอิจฉา แหวนเทเลพอร์ตนั้นเป็นที่ต้องการของเหล่าผู้พิทักษ์ที่ต้องเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา หากมีมันพวกเขาสามารถใช้เพื่อหลบหนีจากความตายได้โดยง่าย แต่ราคาของมันอย่างต่ำก็ 50 ล้านเหรียญ แถมมันยังไปไกลสุดได้แค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้น ถ้าไม่ใช่พวกผู้ใช้พลังระดับ S ขึ้นไปก็อย่าหวังว่าจะหาเงินได้เท่านี้เลย เมื่อมองดูจากท่าทางของราฟที่ดูเหมือนจะไม่เก่งอะไร แต่กลับครอบครองแหวนเทเลพอร์ตที่ไม่สนใจระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร จึงทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคุณชายโง่เขลาบ้าความยุติธรรมคนหนึ่งที่ครอบครองแหวนเทเลพอร์ตมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญเท่านั้น
.
.
.
ฟุบบบ
“วะ เหวอออ!” เด็กชายที่พึ่งเคยเทเลพอร์ตครับแรกตกใจจนล้มลงหน้าทิ่มพื้น
ราฟมองรอบๆครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ที่นี่ไม่ใช่ว่าถูกสัตว์อสูรบุกงั้นเหรอ ทำไมมันถึงเหมือนโดนวางเพลิงเลยล่ะ? ปกติถ้าอสูรบุกจริงมันแค่ฆ่าทุกคนที่หลบหนีไม่ได้ แต่ไม่สนใจที่จะเผาที่อยู่อาศัยนี่ เพราะพวกมันต้องการยึดพื้นที่เพื่ออาศัย ไม่ใช่ทำลายทุกอย่างจนหมดแบบนี้ นี่แม้กระทั่งอาหารก็ไม่คิดจะเหลือไว้เลยด้วยซ้ำ” ราฟขมวดคิ้วถาม เมื่อเด็กชายเงยหน้าขึ้นมองภาพตรงหน้า เขาก็เบิกตากว้าง
“ปะ เป็นไปไม่ได้ ทำไมทุกคนถึงหายไปหมดเลยล่ะ!? ตอนผมวิ่งมาขอความช่วยเหลือทุกคนยังรอดอยู่เลย มากสุดก็แค่บาดเจ็บเท่านั้น ศพก็ไม่มี ถ้าถูกฆ่าหรือกินก็น่าจะมีเลือดอยู่บ้างสิ! นี่พึ่งผ่านมา 10 นาทีเองนะ!” แจ็คพูดอย่างร้อนรน เขาวิ่งไปทั่วหมู่บ้านแต่ก็ไม่เจอใครอยู่เลย
“ท่านพี่! ทุกคน! พวกท่านอยู่ที่ไหน!?” เด็กชายแหกปากตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา
‘เด็กคนนี้ใช้เวลาแค่ 10 นาทีแต่กลับไปถึงสมาคมผู้พิทักษ์ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน กว่า 10 กิโลเมตรได้ เป็นพลังใจที่น่านับถือจริงๆ’ ราฟมองเด็กชายพลางคิดในใจ ก่อนจะหลับตาสูดกลิ่นในอากาศที่อยู่ที่นี่ แล้วลืมตามอองเด็กชายแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“นายแน่ใจนะว่าเห็นสัตว์อสูรบุกมาจริงๆ?”
“ผมแน่ใจครับ ผมเห็นเต็มสองตาว่าสัตว์อสูรที่บุกมาคือออร์ค!”
“งั้นเหรอ...จากที่เคยเรียนมาถ้าเป็นออร์คมันก็ต้องมีกลิ่นสาบเพราะไม่อาบน้ำสิ หรือมันจะเป็นออร์คที่รักสะอาดวะ แต่ที่เราได้กลิ่นมันมีแต่กลิ่นของมนุษย์นี่” ราฟพูดกับตัวเอง แจ็คที่ได้ยินก็เบิกตากว้าง
“ระ หรือว่าที่โจมตีหมู่บ้านของผมเป็นฝีมือของมนุษย์ครับ?”
“ก็อาจเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นอสูรบุกจริงทำไมถึงไม่มีการแจ้งเตือนไปที่สมาคมล่ะ รอยเท้าก็เหมือนรอยรองเท้าของมนุษย์ไม่ใช่ออร์คที่มักจะเดินเท้าเปล่าอีก แถมถ้ามีไฟไหม้จริงๆมันก็น่าจะลามไปนอกหมู่บ้านสิ ควันก็ไม่มีให้เห็น ไม่งั้นพนักงานดับเพลิงคงมาแล้ว มันดูเหมือนว่ามีใครควบคุมเปลวเพลิงอยู่เลย” ราฟวิเคราะห์อย่างใจเย็น เขามั่นในในประสาทรับกลิ่นของเขามาก ต่อให้เขาอยากดมกลิ่นในร่มผ้าของหญิงสาวเขาก็ทำได้...แค่กๆ แต่เขาไม่เคยทำเพราะมันผิดหลักการของเขาที่ต้องให้ผู้หญิงสมยอมก่อนเท่านั้น
“ละ แล้วเราจะทำยังไงต่อดีครับ?”
“นายมีของใช้ของคนที่รู้จักมั้ย เอามาให้ฉันหน่อย หาที่ยังไม่ถูกเผานะ”
“คะ ครับ!” เด็กขายตอบรับก่อนจะวิ่งไปที่บ้านของเขา ไม่นานเขาก็กลับมาหาราฟที่ยืนรออยู่พร้อมกับยื่นของในมือให้ราฟ
“...”
ราฟพูดอะไรไม่ออกเพราะสิ่งที่อยู่ในมือของเด็กชายนั้นคือ...
เสื้อในของผู้หญิง!