สองแขนที่แสนหนักอึ้ง
ฟุบบบ
ราฟปรากฏตัวที่ห้องอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเขามาถึงก็พบว่าโกโก้และโมจิกำลังนอนฟุบอยู่บนโซฟาคนละฝั่ง ราฟยิ้มอ่อนโยนให้พวกเธอ ก่อนที่เขาจะควบคุมสายลมอุ้มอสูรน้อยทั้งสองไปวางบนเตียงของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือเก็บห้องเพื่อเตรียมจัดปาร์ตี้ตอนเย็น
.
.
.
เวลา 6 โมงเย็น
ก๊อกๆ
“โอ๊ะ...มากันแล้วสินะ” ราฟที่กำลังจัดเตรียมของมาวางไว้บนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“ว้าววว...กลิ่นหอมจังเลย” เรเชลที่เดินเข้าห้องมาพร้อมกับซายะพูดขึ้นขณะเดินไปที่โต๊ะที่ถูกเตรียมเอาไว้ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ซายะไม่พูดอะไร เธอเพียงแค่เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างเรเชลพร้อมกับมองเตาหมูกระทะอย่างสนใจ
“นายซื้อมันมาจากไหนเหรอ” หญิงสาวผมขาวถามราฟพลางชี้ไปที่เตา
“อ้อ ฉันทำขึ้นเองน่ะ” ราฟตอบเธอยิ้มๆ
“แล้วนายชวนใครมาอีกบ้าง” ซายะถามต่อ
“ก็พัคแทยัง ครูหลิน แล้วก็คุณหมอลูซี่ที่เคยช่วยฉันไว้น่ะ”
“คุณหมอลูซี่? นายหมายถึงพี่ลูซี่ที่เป็นเพื่อนกับพี่อิงอิงอ่ะนะ” เรเชลถามพลางขมวดคิ้ว อย่าบอกนะว่าหมอนี่ไปเล่นหูเล่นตากับผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว
“เฮ้ๆ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า ก็อย่างที่ฉันบอกไปว่าฉันไปรบกวนให้เค้าช่วยนิดหน่อยเลยอยากเลี้ยงตอบแทน พอรู้ว่าเป็นเพื่อนกับครูหลินก็เลยชวนให้มาเลี้ยงทีเดียวเลย” ราฟหัวเราะเบาๆหลังจากเห็นท่าทางของเรเชลและซายะที่ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้พูดอะไรแต่เขาแอบเห็นคิ้วของเธอกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่เขาพูดออกมา
“แล้วไป” เรเชลพูดยิ้มๆ
“พวกเธอโอเคใช่มั้ย?”
“นี่เป็นงานเลี้ยงที่นายจัดนี่ นายจะชวนใครมาก็เรื่องของนาย อีกอย่างฉันกับเรชก็สนิทกับพี่ลูซี่อยู่” ซายะตอบเสียงเรียบ
“ใช่ๆ” เรเชลพยักหน้าพลางมองเด็กหญิงและเด็กชายที่กำลังนั่งเล่นเกมกันอยู่อย่างไม่สนใจใคร
“เจ้าแมวต๊อง ยิงอย่างนั้นมันจะไปซ่าใครได้ เอามานี่! ข้าจะยิงให้เจ้าดู”
“ยัยหมาบ๊อง เจ้าว่าใครเป็นแมวหา ข้าคือพยัคฆ์ทิวาผู้น่าเกรงขาม ไม่ใช่แมวต๊องอย่างที่เจ้ากล่าวหา...อ๊า อย่าแย่งข้าเล่นเซ่!”
“เด็กสองคนนั้นคือใคร?” เรเชลที่กำลังจะอ้าปากถามถูกหญิงสาวผมขาวที่นั่งข้างเธอชิงถามเสียงเย็น
“ใจเย็นก่อนแม่เอลซ่า หยุดปล่อยไอเย็นนั่นเลยนะ เดี๋ยวไฟในกระทะดับหมดหรอก” ราฟเดินไปที่กระทะแล้วเอามือที่เปล่งพลังความร้อนจากปราณสุริยันออกมาเพื่อกันไม่ให้ไฟดับลงก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมา
“เห้อ...เด็กผู้หญิงนั่นคือโกโก้ที่ฉันสร้างร่างมายาให้ เธอก็เคยเจอแล้วนี่ ส่วนอีกคนคืออสูรคู่หู่ของพัคแทยังที่ตอนนี้น่าจะกำลังจัดการปัญหาส่วนตัวอยู่” ราฟตอบซายะพลางส่ายหัวเบาๆ ให้ตายเถอะ แม่สาวน้อยน้ำแข็งนี่เกือบทำให้เตาปิ้งกลายเป็นอิกลูของเอสกิโมซะแล้ว
“หึ” ซายะไม่พูดอะไรต่อ เธอสลายไอเย็นแล้วกลับมานั่งข้างเรเชล จากนั้นก็หันไปคุยเล่นกันตามประสาเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มหายากที่ถึงกับทำให้ราฟมองตาค้าง
ก๊อกๆ
“ครับๆ” ราฟเดินไปเปิดประตูอีกรอบก็พบว่าเป็นหลิงอิงอิงกับลูซี่ตามคาด
“ที่นี้ก็เหลือพัคแทยังสินะ” ราฟพูดกับตัวเองแล้วโทรหาเพื่อนของเขา
“แทยังเพื่อนรัก นายจะมารึยัง พวกฉันหิวกันแล้วนะ รีบมา...” ราฟทักทายเพื่อนของเขาด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น
“แฮ่กๆ ชะ ช่...”
ตู๊ดดด...
เสียงของพัคแทยังดังออกมาเพียงแค่นั้น ก่อนที่มันจะถูกตัดสายไป
“อื๋อ สัญญานไม่ดีเหรอ ช่างเถอะ เดี๋ยวหมอนั่นก็คงมาเองแหละ” ราฟยักไหล่ ก่อนจะหันมามองสี่สาวด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่รู้ว่าเจ้าแทยังจะมาตอนไหน ฟังจากเสียงแล้วเหมือนจะยุ่งอยู่ งั้นพวกเรามากินหมูกระทะกันโลดดด!” ราฟพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง จากนั้นก็เริ่มปาร์ตี้กับสี่สาวและเด็กน้อยอีกสองคนที่เขาต้องเดินไปใช้สองแขนอุ้มให้ออกมาจากการเล่นเกมเพื่อมากินอาหารด้วยกัน โดยมีเสียงร้องโวยวายของเด็กน้อยทั้งสองที่ยังอยากเล่นเกมอยู่และเสียงหัวเราะของสี่สาวที่พากันขำท่าทางของเด็กน้อยทั้งสอง
.
.
.
เช้าวันต่อมา
พัคแทยังลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกถึงบางสิ่งที่กดทับแขนของเขาทั้งสองข้างอยู่
เมื่อเขาก้มหน้ามองบางสิ่งที่ว่า เขาก็ขมวดคิ้วทันที
“เดจาวู? ทำไมซูจีมานอนบนเตียงเราอีกแล้วล่ะ หรือว่าเรื่องที่พี่เสวี่ยฉีมาที่ห้องเราเมื่อวานจะแค่ฝันไป” พัคแทยังคิดในใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถ้าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเป็นแค่ฝัน งั้นวันนี้ก็เป็นวันที่เขาจะได้กินหมูกระทะฝีมือเพื่อนของเขาแล้วสิ...
“เจ้าตื่นแล้วเหรอพัคน้อย” เสียงงัวเงียที่ฟังแล้วแสนจะหวานหูดังขึ้นมาจากแขนอีกข้างของพัคแทยังที่เขายังไม่ทันหันไปมองว่าอะไรที่ทับเขาอยู่ แต่เมื่อชายหนุ่มได้เห็นเจ้าของเสียง เขาก็เหงื่อแตกพลั่กทันที
“พะ พี่เสวี่ยฉี!?” พัคแทยังพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเขามองหญิงสาวตรงหน้าดีๆก็พบว่าเธอกำลังโป๊อยู่ พอมองไปที่ชเวซูจีอีกครั้งก็ทำให้เข้าอ้าปากค้าง เพราะคุณหนูตระกูลชเวคนนี้ก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเช่นกัน
‘ไม่นะ...’
พัคแทยังเปิดผ้าห่มของเขาเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
แน่นอนว่าเขากำลังเปลือยอยู๋และพัคน้อยของจริงก็กำลังตื่นมาเคารพธงชาติอยู่เช่นกัน
‘ชัดเลย’
“ทำไม่ไม่พูดอะไรเลยล่ะ ทั้งที่เมื่อคืนเจ้าโหดร้ายกับพวกข้าทั้งสองคนอย่างกับราชันย์หมาป่าที่กำลังคลั่งแท้ๆ ดูซิ ทำเอาข้าปวดไปหมดทั้งตัวเลย” ไป๋เสวี่ยฉีใช้แขนดันตัวที่เปลือยเปล่าของเธอขึ้นมาอย่างช้าๆเผยให้เห็นซาลาเปาคู่ที่ชวนให้ชายหนุ่มตาทองรู้สึกร้อนวูบวาบที่จมูกลามไปจนถึงทั้งร่างกาย
“คิกๆ เจ้านี่น่ารักจริงๆเลยนะ” ไป๋เสวี่ยฉียิ้มหวานให้พัคแทยังแล้วโน้มตัวลงไปหอมแก้มชายหนุ่มเบาๆ ทำให้หน้าของเขาแดงก่ำทันที
“อือ...เสียงดังกันจังเลย...โอ๊ยยย...” ชเวซูจีที่งัวเงียตื่นขึ้นมาอีกคนลุกขึ้นพร้อมกับใช้มือขยี้ตาเบาๆ (ไรท์ไม่แนะนำให้ทำจริงนะครับ เดี๋ยวตาติดเชื้อ ^_^ ) เผยให้เห็นซาลาเปาอีกคู่ที่ถึงแม้จะสู้ไป๋เสวี่ยฉีไม่ได้ แต่มันก็ทำให้ชายหนุ่มตาทองคนนี้เลือดสูบฉีดได้เหมือนกัน