ตอนที่แล้วแบบว่า...ข้าหิวแล้วอ่ะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปความพิโรธของจักรพรรดิโลหิต

ลิลิธ


“เง่ะ นี่เธฮเป็นมารรึหมาเนี่ย ได้กลิ่นยันวิญญาน ฉันเป็นมนุษย์ปกติเนี่ยแหละ ออกไปได้แล้ว ฉันทนไม่ไหวขึ้นมาเธอจะเสียใจทีหลังนะ” ราฟขมวดคิ้วสงบสติอารมณ์ที่พุ่งพล่าน

‘ยัยมารนี่ไม่ระวังตัวเลยรึไง ฮึ่ม เห็นแล้วมันน่าฟัด...แค่กๆ น่าจับมากอดจริงๆ ไม่ๆ เราจะไม่บังคับใครให้มากินตับกับเราเด็ดขาดรวมทั้งยัยมารหุ่นสะบึมนี่ด้วย’ คิดเสร็จราฟก็จับไหล่ทั้งสองข้างของวาเนสซ่าแล้วดันเธอออกไป

“ชิ แค่นี้ทำเป็นหวงตัว สั่งอาหารมาให้ข้าด้วย ขอเป็นสเต็กเนื้อแบบมีเดียมแรร์นะ ถ้าข้าผอมลงจะราคาตกได้ เพราะงั้นช่วยดูแลข้าดีๆด้วยล่ะ” มารสาวเบะปากก ก่อนจะกลับไปเล่นเกมต่อโดยไม่ลืมบอกให้เขาสั่งอาหาร

“ยัยมารนี่ปรับตัวเร็วแท้” ราฟคิ้วกระตุก แต่ก็สั่งอาหารตามที่เธอบอก

“งืมมม ข้าก็เอาเหมือนนางนะนายท่าน บ๊อกๆ” โกโก้ที่งัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันพูดเสริม

“ได้เลยจ้ะหนูโกโก้ เดี๋ยวป๊าสั่งเพิ่มให้สิบจานเลย” เมื่อราฟเอ่ยจบก็หันไปเอาหน้าถูกกับตัวของโกโก้อย่างมีความสุขแล้วกดสั่งอาหาร

“งั้นวันนี้ก็กินเหมือนกันหมดนี่แหละนะ” ชายหนุ่มผมเทากล่าวจบก็หันไปมองวาเนสซ่าที่กำลังยิงปืนสู้กับศัตรูอย่างเมามัน

“จุ๊ๆ เป็นถึงศิษย์เอกของจักรพรรดิมารทำไมเล่นเกมอ่อนอย่างนี้ล่ะจ๊ะตัวเธอ”

“พูดเหมือนเจ้าเล่นเก่งมากอย่างนั้นแหละ” วาเนสซ่าสวนกลับโดยไม่หันมามองหน้าชายหนุ่ม

“บร๊ะ ช่างกล้าพูด มานี่ ฉันจะโชว์สกิลการเล็งระดับเทพให้ดู”

“ไม่”

“เอามาดิ นี่เกมฉันนะ”

“เจ้าให้ข้าเล่น เพราะงั้นตอนนี้ข้าคุม มันคือหลักการสากลว่าด้วยการมอบอำนาจในการเล่นเกม”

“หลักการอะไรของเธอฟะ แล้วเธฮรู้มั้ยว่าหลักการที่ว่ามันสู้มือพิฆาตไฟฟ้าไม่ได้น่ะ” ราฟแสยะยิ้มชี้ไปที่ปลั๊กที่เสียบอยู่

“จะ เจ้าคนชั่ว เอาไป” วาเนสซ่าหน้างอแล้วส่งจอยให้ราฟเล่นอย่างไม่ยินยอม

“ฉันแกล้งเธอเลยเฉยๆน่า เล่นต่อเถอะ ฉันจะดูเธอเล่นรออาหารมาส่ง”

เมื่อวาเนสซ่าได้ยินดังนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มกว้างออกมาแล้วหันกลับไปเล่นเกมต่อ

‘ยัยนี่มัน...เด็กติดเกมนี่หว่า’ ราฟหัวเราะในใจ

.

.

.

10 นาทีต่อมา

ก๊อกๆ

“อาหารน่าจะมาถึงแล้ว” ราฟที่กำลังนั่งดูวาเนสซ่าเล่นเกมพร้อมกับปล่อยสายฟ้าฟาด(?)ใส่โกโก้ที่นอนหงายท้องแลบลิ้นอย่างมีความสุขลุกขึ้นอุ้มอสูรปอมตัวน้อยเดินไปเปิดประตูรับอาหารมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนจะจัดเรียงพวกมันอย่างสวยงาม

“เอ้า มากินได้แล้วยัยเด็กติดเกม” พูดจบราฟก็นั่งลงบนเก้าอี้แล้ววางโกโก้ไว้ตรงเก้าอี้ช้างๆเขา

“แป๊บนึง ข้ากำลังจะได้ MVP”

“...”

“แล้วใครกันวะที่บอกว่าหิวอ่ะ...ช่างยัยนั่นเถอะเนอะหนูโกโก้ เรามากินกันเถอะ แล้วค่อยไปนอนด้วยกัน ตลอดหลายวันมานี้ป๊าคิดถึงหนูม๊ากมากเลย”

“ข้าก็คิดถึงนายท่านเหมือนกัน บ๊อกๆ” โกโก้เห่าเสียงเล็กแหลมอย่างน่ารัก

“แอร๊ย น่ารักที๊สุด!” ราฟยิ้มกว้างขณะขยี้หัวของโกโก้ ก่อนจะล้างมือด้วยปราณเหมันต์

‘หลังใช้ปราณนี่แล้วเย็นมือชะมัด พาลทำกับข้าวของเราเย็นไปด้วยเลย ลำบากเราต้องใช้ปราณสุริยันช่วยอีก ให้ตายเถอะ วันหลังไปแช่น้ำเอาปราณวารีซะหน่อยดีกว่า ชีวิตจะได้สะดวกขึ้น หุๆ’ ราฟคิดในใจก่อนจะลงมือรับประทานอาหาร

“เย้ เป็นไงล่ะเจ้าพวกไก่อ่อน เจอข้าเข้าไปหงอยเลยดิ...อ๊า พวกเจ้าเริ่มกินกันแล้วงั้นเหรอ ใจร้ายที่สุด ไม่รู้จักการรอคอยกันเลยรึไง” วาเนสซ่าที่กำลังยิ้มกว้างเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยทันที

“ก็เรียกแล้วเธอไม่มาเอง เอ้า อย่ามัวแต่ทำหน้าปลาปักเป้าสิ สเต็กเย็นหมดแล้วเนี่ย” ราฟพูดจบก็เรอออกมาอย่างไม่สนใจว่าในห้องยังมีหญิงสาวอยู่ด้วย

“กรี๊ด น่าเกลียดที่สุด ทำไมเรอไม่ปิดปากยะ” วาเนสซ่าเอามือปิดจมูกของเธอ

‘เอ๋ แต่ไม่เห็นจะได้กลิ่นเหม็นเลย มีแต่กลิ่นหอมเหมือนที่เราดมตัวเขา ร่างกายของเจ้านี่มันจะแปลกไปถึงไหนกันนะ’ วาเนสซ่าคิดในใจ

“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เจ้าบอกว่าสเต็กเย็นแล้วงั้นเหรอ อย่างนี้ก็ไม่อร่อยน่ะสิ” มารสาวพูดจบเธอก็ทำหน้าหน้าเศร้า

“ทำหน้าเป็นหมาหงอยเหมือนยัยนักดาบตอนนั้นไปได้ เห้อ” ราฟถอนหายใจ ก่อนจะหยิบจานสเต็กของวาเนสซ่าขึ้นมาแล้วใช้ปราณสุริยันอุ่นให้

“ว้าววว เจ้านี่มันสารพัดประโยชน์จริงๆ ขอบใจนะ” หญิงสาวผมดำตาเป็นประกาย เธอยื่นมือออกไปรับจานมาจากราฟแล้วเริ่มทานอย่างมีความสุข

“เหอๆ ก็ไม่เห็นต่างจากคนปกติเท่าไหร่นี่” ราฟมองหญิงสาวยิ้มๆ

.

.

.

ณ แดนมาร

สถานที่แห่งนี้คือดินแดนที่เต็มไปด้วยชาวมารที่ทรงพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการในการกลืนกินพลังชีวิตจากวิญญานของสิ่งมีชีวิตเผ่าอื่นโดยเฉพาะมนุษย์

และถึงแม้ว่าชื่อแดนมารนี้จะฟังแล้วชวนให้นึกถึงดินแดนเช่นนรกอเวจีที่เต็มไปด้วยแผ่นดินแยกที่คอยสูบผู้คนลงใต้พิภพ หรือการมีเปลวเพลิงพุ่งทะลุพื้นดินขึ้นมาแผดเผาผู้คนที่เดินผ่าน แต่แท้จริงแล้วนั้น ดินแดนที่ถูกเรียกว่าแดนมารกลับเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์และสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ที่สุดแสนจะอุดมสมบูรณฺพร้อมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งต่างจากที่มนุษย์ทุกคนคิดราวฟ้ากับเหว เว้นก็แต่ผู้ใช้พลังหรือผู้พิทักษ์บางกลุ่มที่เคยเดินทางมาที่นี่เท่านั้น

ภายในแดนมารนั้นได้แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 9 อาณาเขต โดยมีจักรพรรดิมารทั้ง 9 ปกครองแต่ละอาณาเขต ซึ่งทุกอาณาเขตนั้นตัดขาดออกจากกัน ทำให้มีรูปแบบการปกครองในแบบของตนเอง บ้างเผด็จการ บ้างประชาธิปไตย บ้างราชาธิปไตย ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือแบบที่ไร้รูปแบบการปกครอง โดยคนที่มีอำนาจมากที่สุดคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นเขตปกครองที่ป่าเถื่อนและมีสงครามขนาดเล็กเกินขึ้นทุกวัน ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ใช้รูปแบบการปกครองนี้ก็คือ ลิลิธ หรือที่ผู้คนในแดนมารต่างพากันขนามนามให้เธอว่า จักรพรรดิโลหิต!

ตำหนักเทพโลหิต...สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในแดนมาร เรียกอีกชื่อว่า อาณาเขตมารลำดับที่ 2 ซึ่งเรียกตามการจัดอันดับผู้แข็งแกร่งของจักรพรรดิมารทั้ง 9 ที่เคยประลองกันเมื่อ 500 ปีก่อน

[โถงกลางของตำหนักเทพโลหิต]

“น่าเบื่อชะมัด เจ้าพวกบ้านั่นตีกันอีกแล้ว ข้าไม่น่าบ้าจี้ใช้รูปแบบการปกครองปลาใหญ่กินปลาเล็กนี่ตามที่เจ้าบ้าเมฟิสโตบอกเลย เจ้าศิษย์ตัวดีนั่น... คอยดูนะ กลับมาเมื่อไหร่ข้าจะใช้แส้โลหิตผสานรูนสลายพลังฟาดให้ก้นลายเลยคอยดู นี่ยังไม่นับเรื่องที่พาวาเนสซ่าออกไปด้วยอีกนะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด