พบเจอชาวบ้าน
“...พี่ของนาย คือผู้หญิงงั้นเหรอ”
“ครับ ผมมีพี่สาว ทำไมเหรอครับ?” แจ็คพยักหน้าตอบก่อนจะถามอย่างสงสัย
ราฟที่เห็นของที่อยู่ในมือของแจ็คพูดอะไรไม่ออก เขามองเด็กชายแล้วถามเขาว่า
“ไม่มีอย่างอื่นที่ไม่ถูกไฟเผาแล้วเหรอ?”
“ไม่มีแล้วครับ ผมหาจนทั่วแล้ว ทุกอย่างถูกเผาไม่เหลือเลย คิดว่าบ้านของคนอื่นก็เป็นเหมือนกัน ของขิ้นนี้ผมเป็นสิ่งเดียวที่ผมเจอแล้วยังมีสภาพดีอยู่ ไม่ต้องห่วงครับ แค่ปัดขี้เถ้าออกก็ใช้ได้แล้ว!” เด็กชายยิ้มอย่างไร้เดียงสา
“...” ราฟเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา
“นายรู้รึเปล่าว่าฉันจะทำอะไรกับของชิ้นนี้”
“ไม่รู้ครับ” แจ็คส่ายหน้า
“ฉันจะดมมัน! นายรับได้เหรอ นี่มันของพี่สาวนายนะ”
“...ถ้ามันจะช่วยพี่สาว กับคนในหมู่บ้านได้ ผมไม่สนใจหรอกครับ คุณทำมันเถอะครับ ถ้าช้ามากกว่านี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะโดนพวกมันทำอะไรบ้าง”
“ให้ตายเถอะ เอาวะ” ราฟตัดสินใจหยิบของในมือแจ็คขึ้นมาก่อนจะสูดดมกลิ่นของ ‘เสื้อชั้นในลายลูกไม้สีดำ’ เข้าไปเต็มปอด
‘อื้ม สดชื่...เอ๊ย ไม่ใช่ละ...เห้อ ดีนะที่ไม่มีใครอยู่นอกจากพวกเรา ไม่อย่างนั้นมีหวังถูกหาว่าเป็นไอ้โรคจิตแน่เลยตู’ ราฟคิดในใจอย่างปลงตกก่อนจะเงยหน้าออกจากมัน แล้วตามกลิ่นที่พึ่งสัมผัสมาเข้าไปในป่า โดยมีแจ็คเดินตามมา ระหว่างทางเขาเจอเข้ากับรอยเท้ามนุษย์มากมายหลายสิบคู่ จึงทำให้เขามั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว
หลังจากที่เดินกันมาได้สักพัก ทั้งคู่ก็พบกับทางตัน และรอยเท้าที่เขาตามมาก็หายไป ราฟเงยหน้ามองหน้าผาสูงชัน ก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสกับผนังหิน เปรี๊ยะ! ตูมมม “กับระเบิดแล้วก็...พลังมายางั้นเหรอ? โชคดีที่เราดูดซับมัน ไม่งั้นพวกข้างในคงรู้ตัวซะก่อน” ราฟขมวดคิ้ว เมื่อกี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงระเบิดแต่มันก็ถูกดูดความเสียหายโดยราฟ ทำให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ราฟใช้พลังเนตรมองทะลุเข้าไปก็พบกับโพรงถ้ำจนาดใหญ่ด้านใน
ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือดูดซับม่านมายาที่ใช้ซ่อนทางเข้าจนหมด จากนั้นปากถ้ำก็เปิดเผยออกมา
“นายรออยู่นี่นะ ฉันจะซ่อนตัวนายไว้ หาที่หลบแล้วอย่าขยับตัวล่ะ” ราฟหันมาบอกแจ็ค ก่อนจะสร้างภาพมายารอบตัวเด็กชายให้กลายเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง
“คะ ครับ” แจ๊ครับคำก่อนจะไปหาที่ซ่อนอย่างเชื่อฟัง เมื่อราฟเห็นดังนั้นเขาก็วางใจแล้วทำให้ตัวเองล่องหน ก่อนจะเดินเข้าไปในถ้ำอย่างเงียบเชียบ ระหว่างทางราฟได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวและกลิ่นคาวเลือดลอยมาแตะจมูก ทำให้เขารีบวิ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุดในระดับที่ไม่ทำให้เกิดคลื่นกระแทกจนถ้ำถล่มทันที
วูบบบ!
เมื่อราฟมาถึง เขาก็เห็นเหล่าออร์คร่างกายสีเขียวกำยำสูงกว่าสามเมตรจำนวนนับสิบกำลังนั่งล้อมวงสังสรรค์กันอยู่ ด้านข้างของพวกมันมีร่างเปลือยเปล่าของมนุษย์หลายคนนอนไร้สติอยู่ ห่างออกไปไม่ไกลก็มีกลุ่มคนที่น่าจะเป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านโคลฟเวอร์ถูกจับขังไว้ในกรงเหล็กขนาดยักษ์
ที่ราฟคิดว่าพวกเขาคือคนในหมู่บ้านเพราะเขาได้กลิ่นเดียวกับเสื้อในจากหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีที่อยู่ในกลุ่มคนที่ถูกจับขัง
ราฟใช้เนตรสีทองที่ดูดกลืนมาจากพัคแทยังมองไปที่พวกออร์ค ก่อนที่สีหน้าที่มักจะประดับไปด้วยรอยยื้มของเขาจะเปลี่ยนเป็นไร้อารมณ์ทันที
.
.
.
ภายในคุกที่ชาวบ้านถูกขังอยู่
“ท่านลุง ยังไหวอยู่รึเปล่าคะ?” เจน หรือพี่สาวของแจ็คพูดด้วยความกังวลขณะประคองร่างของชายชราที่กำลังหายใจรวยรินอยู่ เจ้าพวกออร์คบ้านั่นบุกเผาทำลายหมู่บ้านของพวกเธอไม่พอ ยังทุบตีผู้คนจนบาดเจ็บสาหัสแล้วจับมาขังในกรงอีก นอกจากนี้ยัง...
หญิงสาวหันไปมองร่างเปลือยของชายหญิงที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเธอหลายสิบชีวิตที่เพิ่งจะถูกพวกมันจับไปรุมระบายความใคร่ของพวกมันจนสลบไป
“อั่ก! ข้าไม่เป็นไรมากหรอก พวกเจ้าก็อดทนกันเอาไว้ก่อน ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานแจ็คจะต้องตามคนมาช่วยพวกเราแน่” ชายชราพูดด้วยเสียงอ่อนแรง
“ไอ้พวกชาติชั่วพวกนั้น มันกล้าข่มเหงคนหนุ่มสาวของพวกเรา มันจะต้องไม่ตายดี!” หญิงชราคนหนึ่งกัดฟันพูดมองเหล่าออร์คที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานหลังจากปลดปล่อยอารมณ์ใส่ผู้โชคร้ายเหล่านั้น เจนก็หันไปมองพวกออร์คด้วยแววตาเกลียดชังเช่นกัน
.
.
.
ทางด้านของเหล่าออร์ค “แผล็บ นังผู้หญิงนั่นน่าจับมากระแทกจริงๆ เสียดายที่มีคนจองไว้ก่อนแล้ว” ออร์คตนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับเลียปากมองเจนด้วยสายตาหื่นกระหาย
“แกอย่าพูดเสียงดังไป เดี๋ยวพวกมันก็ได้รู้หรอกว่าเราเป็นใคร” ออร์คอีกตนกลาาวเตือน
“จะไปกลัวอะไรวะ กรงนั่นมันติดตั้งเครื่องเก็บเสียงไว้อยู่แล้วน่า” ออร์คตนแรกพูดอย่างไร้ความกังวล
“แล้วของเล่นฆ่าเวลาพวกนี้ล่ะ” ออร์คอีกตนถามพลางมองไปที่บรรดาร่างเปลือยไร้สติที่นอนสลบอยู่บนพื้น
“ถึงจะน่าเสียดาย แต่คงต้องฆ่าปิดปากล่ะนะ เพราะพวกมันได้ยินที่พวกเราพูดกันตอนเล่นสนุกหมดแล้ว” ออร์คที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าตอบ
“แล้วเมื่อไหร่ผู้ว่าจ้างของเราจะมาซักทีล่ะเนี่ย นี่ถ้าเขาไม่ใข่คนจากตระกูลหลักข้าคงจัดอีนังนั่นไปแ้ว!” ออร์คตนแรกพูดขึ้นอย่างหัวเสีย
“อีกสักพักแหละ ข้ายังงงอยู่เลยว่าเขาให้พวกเราเผาหมู่บ้านนั้นทำไม ทั้งๆที่ถ้ามีใครมาตรวจสอบจริงๆคนก็จะรู้กันหมดว่ามันไม่ใช่ฝีมือของสัตว์อสูร”
“อย่าสงสัยมากเลย แค่ทำตามที่เขาสั่งก็พอ งานที่ได้เงินดีแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆหรอกนะ แถมยังได้ปลดปล่อยน้องชายข้าอีก โคตรคุ้มเลย ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆ ใช่ๆ โคตรคุ้มเลย ได้เจอสวะอย่างพวกแกเนี่ย!”
“ใช่มั้ยล่ะ...!?”
“!?” เหล่าออร์คนับสิบพากันหยิบอาวุธของตนแล้วโจมตีไปที่ต้นตอของเสียงที่ไม่คุ้นหูทันที
ตูมมม!
ปรากฏฝุ่นควันจากเศษดินที่เกิดจากแรงกระแทกของบรรดาอาวุธต่างๆที่เหล่าออร์คถือ
“1 2 3 4 5...19 แหม่ มีสวะในนี้ทั้งหมด 19 ‘คน’ เลยงั้นเหรอ เป็นพวกที่ฉลาดดีนี้ ปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรเพื่อจับคนในหมู่บ้านมา ถามหน่อยดิ นอกจากระบายแหนมตุ้มจิ๋วแล้ว พวกนายต้องการทำอะไรกับพวกเขางั้นเหรอ แล้วใครกันที่จ้างพวกนายทำเรื่องสถุนแบบนี้?”