บทที่ 331 ปรมาจารย์เต๋า ปะทะ หมอผี
บทที่ 331 ปรมาจารย์เต๋า ปะทะ หมอผี
(ฉลองครบรอบ 1 ปีที่ลงนิยายในเว็บนี้ เปิดให้อ่านฟรีจ้า)
หลังจากยิงกันอยู่สักพัก กระสุนของทั้งสองฝ่ายก็หมด
กระสุนที่ได้มาจากคลังแสงครั้งล่าสุดบวกกับที่สะสมจากการโจมตีพื้นที่บริเวณรอบๆ จนถึงปัจจุบัน หลังจากการต่อสู้กับคลื่นซอมบี้ครั้งก่อนก็มีเหลืออยู่อีกไม่มากนัก แม้แต่กองกำลังหลักที่จากไปก็ไม่ได้นำออกไปใช้ พวกเขาทิ้งไว้ให้โมเย่ใช้ป้องกันฐาน
อาวุธของพวกเรือนจำอิงเฉิง เดิมเป็นอาวุธของเจ้าหน้าที่เรือนจำซึ่งมีอยู่ไม่มาก
การยิงโดยทั่วไปมีระดับความแม่นยำไม่สูงนัก ดังนั้นหลังจากทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการยิงระยะไกลจึงมีความสูญเสียเกิดขึ้นไม่มาก มีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ในบรรดาคนที่สูญเสียไปเหล่านั้น ฝ่ายของเรือนจำอิงเฉิงมีจำนวนมากกว่า สุดท้ายแล้วการที่พวกเรือนจำอิงเฉิงพุ่งมาโจมตี ภูมิประเทศของอวิ๋นติ่งวิลล่าก็ไม่อำนวยให้พวกเขาสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการยิงจบลง คนของเรือนจำอิงเฉิงก็รู้แล้วว่าวันนี้ที่นี่จะเป็นของพวกเขา
พวกเขาได้ตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้วว่า กองกำลังหลักของอวิ๋นติ่งวิลล่าได้ออกไปแล้ว ผู้คนที่ยังเหลืออยู่ที่นี่ มีเพียงผู้ชรา ผู้ป่วย คนอ่อนแอ และคนทุพพลภาพ
บางทีหลังจากวันนี้ รีสอร์ทที่สวยงามแห่งนี้อาจเป็นของพวกเขา
ที่นี่ดีกว่าคุกที่น่าสยดสยองแห่งนั้นมาก
ความตื่นเต้นเหลือจะกล่าว ปรากฏอยู่บนใบหน้าของนักโทษหลายคน
ได้ยินมาว่าที่นี่มีผู้หญิงอาศัยอยู่เยอะมาก และพวกเธอก็ทั้งสวยและสะอาด!
จางต้าหลงก้าวเดินอยู่ท่ามกลางเหล่าลูกสมุน พลางแทะขาสัตว์ประหลาดที่ยังมีเลือดติดอยู่ ขณะที่จ้องมองสตรีที่อยู่ท่ามกลางผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่า ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยตัณหาราคะ
มีความขัดแย้งโดยตรงระหว่างเรือนจำอิงเฉิงของจางต้าหลงกับเย่จงหมิง แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานการตายของเมิ่งหลิน อย่างไรก็ตามแม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ
อย่างไรก็ตาม จางต้าหลงไม่คิดว่าเขาจำเป็นต้องเกลียดชังเย่จงหมิง และไม่คิดว่าเขาจำเป็นต้องล้างแค้นให้กับเมิ่งหลิน
แต่พอได้เห็นพลังของเย่จงหมิงที่อิงเฉิง
เขาก็ตระหนักได้ว่า หากเขายังต้องการให้ความทะเยอทะยานของเขาเป็นความจริง เย่จงหมิงก็คือหินขวางทางที่เขาต้องจัดการ
ส่วนวิธีการจัดการ เขาจะต้องลงมือเองหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ
ต้องรักษาหน้า? จางต้าหลงเคยคุยเรื่องนี้กับลูกสมุน และในใจรู้สึกไม่พอใจอย่างที่สุด เพราะสิ่งนี้กินไม่ได้!
หากมีใครสามารถให้ยาวิวัฒนาการระดับ 4 ดาวกับเขาตอนนี้ จางต้าหลงก็เต็มใจที่จะคุกเข่าและก้มหัวให้ เขายินดีทำแม้กระทั่งก้มหยิบสบู่! (ผู้แปล - ?)
ดังนั้นเมื่อหอการค้าหลิงมาติดต่อ จางต้าหลงจึงตกลงร่วมมือโดยไม่ต้องคิด และเลือกการโจมตีอวิ๋นติ่งวิลล่าที่เป็นงานง่ายที่สุด
ด้วยเหตุนี้ จางต้าหลงจึงไม่แม้แต่จะร้องขอของรางวัล เขาต้องการดูว่าทำไมเย่จงหมิงที่แข็งแกร่งจนเขากลัว ถึงได้อพยพมาจากที่ไกลๆ และมาตั้งฐานที่อวิ๋นติ่งวิลล่า! มันต้องมีความลับที่คนอื่นไม่รู้
จางต้าหลงเป็นคนโลภมาก เจ้าเล่ห์ ไม่มีบรรทัดล่าง เป็นคนขี้ขลาดที่มีความคิด ด้วยปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างเส้นทางให้เขากลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเก้าดาวในชีวิตก่อน
วันนี้เขาต้องครอบครองที่นี่ให้จงได้
จางต้าหลงหยุดเท้า ด้านหน้าของเขาห่างออกไปประมาณ 20 เมตร คือโม่เย่ผู้ห้าวหาญ
“ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะ เจ้าหน้าที่โม่ อดีตตำรวจติดอาวุธกลายมาเป็นหมาเฝ้าบ้านได้ยังไงเนี่ย?”
จางต้าหลงหัวเราะคิกคัก และกวาดสายตามองดูผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่า แต่เขาก็ไม่พบใบหน้าอื่นใดที่อยู่ในความทรงจำ
“คนเลวก็คือคนเลว แม้แต่ในวันโลกาวินาศก็ยังทำชั่ว!”
พอได้ยินคำพูดของโม่เย่ จางต้าหลงก็กางมือออก และโยนขาสัตว์ประหลาดในมือลงพื้น
“เจ้าหน้าที่โม่ พูดแบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรือไง นี่มันวันโลกาวินาศ แกไม่คิดถึงตัวเองบ้างเลยเรอะ? ถ้ายังคิดจะรักษาสันติภาพของโลกอยู่อีก งั้นทำไมต้องมาหลบภัยในมือของเย่จงหมิงด้วยล่ะ? มันแค่เก็บแกไว้เป็นหมาเฝ้าบ้านตอนกลางวัน เอาแกไว้อุ่นเตียงตอนกลางคืนแค่นั้น”
“ข้าล่ะ อยากเห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่โม่ตอนอยู่บนเตียงจริงๆ”
เหล่าลูกสมุนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และมีบางคนที่เห็นด้วย
“ลูกพี่ ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานลูกพี่ก็จะได้สัมผัสด้วยตัวเอง”
“ผู้หญิงคนนี้เก่งมากนะ เหมือนกับนางเสือดาวตัวเล็กๆ คงมีรสชาตเคี้ยวได้หนึบหนับดี!”
“ข้าชอบผิวสีงาช้างแบบนี้ มันมีเสน่ห์ดี”
จู่ๆ คำหยาบคายมากมายก็ดังขึ้น ทำให้ผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าตัวสั่นด้วยความโกรธ
แต่โม่เย่ไม่ได้มีสีหน้าที่แสดงถึงความโกรธเลย
“บอกบทกันจบหรือยัง?” โม่เย่ยกดาบส่องจันทร์ชี้หน้าจางต้าหลง “ครั้งก่อนฉันส่งแกเข้าคุก แต่ครั้งนี้ฉันจะส่งแกไปลงนรก”
แล้วคนของทั้งสองฝ่ายก็เข้าปะทะกันที่ทางเข้าอวิ๋นติ่งวิลล่า
คนหลายร้อยคนกระจายกันอยู่ในทุกๆด้าน การต่อสู้ระดับนี้ไม่พบเห็นอย่างแน่นอนในยามสงบ อย่างไรก็ตามในวันโลกาวินาศ กรณีเช่นนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ในเวลานี้ผู้คนยังคงรู้สึกไม่สบายใจกันอยู่บ้าง
สิบวินาทีต่อมา ผู้คนหลายสิบคนก็ล้มลงนอนกองอยู่บนพื้น ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส การบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกตกตะลึง
อย่างไรก็ตามวันโลกาวินาศได้เริ่มมาหลายเดือนแล้ว มือของทุกคนล้วนแต่เปื้อนเลือด ความรู้สึกไม่สบายใจจึงถูกระงับอย่างรวดเร็ว และการต่อสู้ที่น่าสลดใจก็เริ่มรุนแรงขึ้น
เมื่อโม่เย่ได้ปะทะกับจางต้าหลง ***ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel*** เธอก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของชายผู้นี้ได้ในทันที
แตกต่างรูปร่างหน้าตาที่ห้าใหญ่สามหนาของจางต้าหลง รูปแบบการต่อสู้ของชายคนนี้ ทั้งแปลกประหลาดและละเอียดอ่อนมาก แทนที่เขาจะปะทะกับโม่เย่ตรงๆ เขากลับเคลื่อนที่ไปรอบตัวโม่เย่ และทุกๆ สองวินาที ภูติผีสีดำจะปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ตัวเขา มันมีแม้กระทั่งโครงกระดูกติดเนื้อเน่าที่ห่อหุ้มด้วยหมอกสีดำ
(ผู้แปล – ห้าใหญ่สามหนา = ห้าใหญ่คือ มือใหญ่ เท้าใหญ่ หูใหญ่ ไหล่กว้าง และสะโพกหนา ส่วน สามหนาก็คือ เอวหนา ขาหนา และคอหนา)
เพียงครู่เดียว ภูติผีก็ปรากฏขึ้นมาเกือบสิบตัว
โม่เย่รู้มาจากเย่จงหมิงว่า จางต้าหลงมีอาชีพ ‘หมอผี’ สิ่งที่เห็นควรจะเป็นทักษะอาชีพของเขา
(ผู้แปล – จำอาชีพของจางต้าหลงที่เคยแปลไว้ครั้งก่อนไม่ได้… ลืมอีกแล้วหาไม่เจอ ? …เอาอันใหม่นี่ล่ะนะ)
“เจ้าหน้าที่โม่ รีบเปิดใช้งานทักษะอาชีพของแกซะ ไม่งั้นรออีกสักครู่ แกจะไม่มีโอกาสได้สู้กลับ”
โม่เย่ไม่พูด แต่โบกมือไปทางจางต้าหลง
จางต้าหลงตะลึง นี่มันหมายความว่ายังไง?
ครู่ต่อมา เขาก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
กระดาษยันต์สีเหลืองที่มีลายอักขระสีแดงชาดของลัทธิเต๋าได้ปรากฏขึ้นในอากาศ มันเคลื่อนไหวหมุนวนไปมาอย่างยืดหยุ่น ทุกๆการเคลื่อนไหวจะเกิดกระแสลมพัดลงมา
“ปรมาจารย์เต๋า! ยันต์ลมหวน!”
โม่เย่ลงมืออย่างฉับพลัน เธอเปิดใช้ทักษะอาชีพทันที เธอรู้ว่ายิ่งได้ชัยชนะเร็วขึ้นเท่าไร ผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าก็จะยิ่งสูญเสียน้อยลงเท่านั้น
เธอเห็นแล้วว่าผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าเสียเปรียบเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าอันธพาลจากเรือนจำอิงเฉิง
“เอ๋ น่าสนุกดีนี่!” จางต้าหลงยิ้มพร้อมกับสั่นหัว และพูดชื่นชม ภูติผีที่ยืนอยู่ใต้ยันต์ลัทธิเต๋า ยังคงถูกสายลมพัดกระหน่ำ
ร่างที่ประกอบไปด้วยหมอกสีดำจางหายไป ภายใต้คมมีดของสายลม แต่มันก็ไม่ได้สลายไป
“ไม่เลว!”
จางต้าหลงยิ้มและกำลังจะอัญเชิญภูติผีต่อไป แต่ทันใดนั้น ยันต์ลัทธิเต๋าบนท้องฟ้าก็กระพริบ ดาบสายลมขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่าใบมีดสายลมมากหลายเท่าก็พุ่งออกมาจากยันต์ไปยังจางต้าหลง
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ม้าหลายร้อยตัวก็ปรากฏขึ้นบนถนนที่นำไปสู่อวิ๋นติ่งวิลล่า บนหลังม้าที่เข้มแข็งคึกคักแต่ละตัว มีนักรบถือหอกพู่แดงอยู่
คนของบ้านตระกูลโหลวมาถึงแล้ว