ทีเรีย
“กรี๊ดดด!!!” โรสที่เจอดาเมจคริติคอลเข้าไปถึงกับทำตัวไม่ถูก กริชคู่ที่ถืออยู่ร่วงลงกับพื้น จากนั้นวิชาผสานที่ใช้ร่วมกับมิราจก็สลายไป
“...” ซุนหรงกับมิราจที่อยู่ใกล้ๆก็มองด้วยใบหน้าอึ้งตะลึง
‘นี่มันไม่ใช่วิชาแล้ว มันคืออวิชชาชัดๆ!’ ชายทั้งสองคิดพากันคิดในใจเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“หึๆๆ เป็นไงล่ะ เจอวิชาระดับเทพของผมเข้าไปถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าให้เลิกฟันใส่ผมได้แล้วพี่สาวก็ไม่ยอมฟังจนผมต้องงัดไม้นี้มาใช้ ดีนะที่ผมมีจิตสำนึกของพลเมืองดีอยู่เลยไม่ถอดกางเกงในด้วยน่ะ ไม่งั้นล่ะก็...หึๆๆ พี่สาวได้เห็นมังกรผงาดของจริงแน่...จะว่าไปนี่ตูกลายเป็นโรคจิตเหมือนที่ยัยพวกนั้นพูดแล้วเหรอวะ ไม่หรอกๆ เราแค่ทำให้พี่สาวหยุดอาละวาดเองนี่เนอะ อื้มๆ” ราฟฉีกยิ้มบอกโรสก่อนจะดึงกางเกงขึ้นมาสวมแล้วพูดกับตัวเองเสียงเบา
“ถ้าเข้าใจแล้วก็มาคุยกันก่อ...”
“ใครจะไปคุยกัน ไอ้โรคจิตชอบโชว์เอ๊ย...!” โรสที่ตั้งสติได้คำรามออกมาจากนั้นเธอก็เตรียมตัวพุ่งใส่ชายหนุ่มอีกครั้ง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า
“โรซาเรีย! เธอกับคู่หูหน่วยพิราบสีขาวหยุดก่อเรื่องกันได้แล้ว! เธอกำลังหาเรื่องกับชายที่เป็นผู้สังหารหายนะสีรุ้งด้วยมือเปล่าอยู่นะ” เสียงนั้นดังออกมาจากยานบินลำใหญ่ติดสัญลักษณ์หญิงสาวแสนสวยในชุดกรีกที่ลอยอยู่เหนือหัวของพวกเขา
“ว่าไงนะ!?” โรสที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่รีบหยุดการโจมตีของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน
“ชิ นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยจอมหว่านเสน่ห์จากวีนัสนี่เอง” โรสพูดขึ้นก่อนจะเก็บอาวุธแล้วเบนหน้ามามองดูราฟด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
“วะๆๆว๊าววว!!! นี่มันยานล่องหนนี่นา โคตรเท่!” ราฟที่ไม่ทันได้สังเกตุท่าทางของหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองยานบินลำนั้นพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นแต่เขาก็ต้องเลิกคิ้วเพราะเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่มันช่างคุ้นหูเขาเสียจริง
“เอ่อ แล้วคุณคนที่พูดเมื่อกี้เป็นใครเหรอครับ?”
“คิกๆ นี่เธอจำฉันไม่ได้งั้นเหรอ อะไรกัน ทั้งที่เพิ่งจะเจอกันบนเกาะนั้นแท้ๆ ฉันเสียใจนะเนี่ย...”
“หือ เสียงหวานขี้เล่นแบบนี้ หรือว่า...คุณทีเรีย!?”
“ปิ๊งป่อง! ผู้อำนวยการแห่งโรงเรียนวีนัสสุดสวย ทีเรีย มาแล้วค่า...!”
.
.
.
ก่อนหน้าที่ราฟจะถล่มตระกูลเทียน ทีเรียที่ได้ข่าวว่าประธานนักเรียนของเธอถูกจับตัวไปก็รีบระดมอาจารย์ผู้ใช้พลังสายต่อสู้ขึ้นยานรบของเธอเพื่อออกตามหาร่องรอยของคนที่ลักพาตัวเธอไป หลังจากที่พบว่าเป็นตระกูลเทียนที่ทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ เธอก็รีบออกคำสั่งให้ยานบินเข้าสู่โหมดล่องหนแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองเทียนหลงด้วยความเร็วสูงสุดทันที แต่เมื่อยานได้บินมาถึงเมืองนี้ก็พบว่าคนในเมืองหลับกันหมด จากนั้นหญิงสาวก็สั่งการให้ยานบินไปที่ตำหนักนภาครามที่เธอได้สัญญานของเลิฟที่สวมกำไลของโรงเรียนวีนัสที่ทำขึ้นให้นักเรียนโรงเรียนนี้โดยเฉพาะ แต่เธอก็ได้เห็นร่างของชายหนุ่มผมเทาที่แสนคุ้นตาคนหนึ่งกำลังทำลายประตูด้วยพละกำลังอันมหาศาลของเขา
“โชคดีจริงๆที่ไม่มีใครสังเกตุเห็นพวกเราเพราะดูเหมือนพวกเขาจะหลับกันหมด”
“เด็กนั่นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! เขาคิดว่าเขาเป็นเทพสงครามหรือไงถึงไปบ้าระห่ำเข้าถ้ำเสือไปคนเดียวแบบนั้น นี่เขามีความแค้นอะไรกับตระกูลเทียนกันแน่ถึงได้ยอมทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อมัน?” หนึ่งในคนที่มากับทีเรียพูดขึ้นหลังจากเห็นการกระทำของชายหนุ่มผมเทา
“...” ทีเรียที่อึ้งไปหลังจากเห็นชายหนุ่มคนนั้นครู่หนึ่งก็หัวเราะออกมาก่อนจะหันมาตอบคนของเธอว่า
“เขาเป็นคนที่มีเป้าหมายเดียวกับเรานั้นแหละ แถมมีความต้องการที่จะช่วยเลิฟมากกว่าพวกเราด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาถึงเร็วกว่าเราก้าวหนึ่ง เห้อ ความรักของพี่น้องนี่น่าอิจฉาจังเลยน้า...”
“...เมื่อกี้คุณบอกว่าเขาคือน้องชายของนักเรียนเลเฟียร่างั้นเหรอ ถ้างั้นเขาก็คือ...?”
“อื้ม เขาคือชายหนุ่มที่ฉันเล่าให้พวกคุณที่เป็นอาจารย์ของวีนัสฟังว่าอย่าคิดไปมีเรื่องกับเขาถ้าไม่อยากกลายเป็นละอองเลือดเหมือนกับมารวัชระระดับ SSS ตนนั้นนั่นล่ะ” ทีเรียยิ้มตอบพวกเขา
“...”
“แต่ทำไมผมถึงสัมผัสพลังที่แผ่ออกจากร่างของเขาไม่ได้เลยล่ะ”
“เพราะอย่างนั้นมันถึงทำให้เขาอันตรายยังไงล่ะ ภายใต้ท่าทางที่ดูเหมือนคนที่อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลานั่นซ่อนความโหดร้ายราวปีศาจไว้เต็มเปี่ยมเลยล่ะ”
“ถะ ถ้าอย่างนั้นเราจะทำยังไงต่อ ไปช่วยเขาอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่ต้องหรอก ขนาดมารวัชระที่เหมือนจะอมตะแบบนั้นยังไม่คณามือเขาเลย นับประสาอะไรกับเทียนเฉินที่อาศัยทรัพยากรของตระกูลเทียนในการเพิ่มระดับพลังกันล่ะ ตอนนี้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตระกูลเทียนอย่างตาเฒ่าเทียนซานไม่อยู่ คนพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรเขาคนนั้นได้หรอก พวกเราแค่รอดูไปเถอะว่าตระกูลเทียนจะเป็นยังไงต่อไป”
“แล้วนักเรียนเลเฟียร่าล่ะครับ”
“พวกเราไม่ต้องกังวลเรื่องของเธอแล้วล่ะ เพราะว่า...” ทีเรียพูดจบก็ชี้ไปที่หน้าจอโฮโลแกรมที่แสดงตำแหน่งของเลิฟ
“ตำแหน่งเปลี่ยนไปแล้ว!? แต่ทำไมถึงไปโผล่ที่เมืองลอยฟ้าอวาลอนได้ล่ะ” เหล่าอาจารย์ที่มาด้วยพากันสงสัย
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ แต่ที่มั่นใจได้ก็คือนักเรียนของเราปลอดภัยแล้ว” ผู้อำนวยการสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับเรื่องในตำหนักนภาครามต่อ
.
.
.
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละจ้ะ” ทีเรียที่ลงมาจากยานบินพร้อมกับคณะอาจารย์อธิบายสาเหตุที่เธอมาอยู่ที่นี่ก่อนจะยิ้มหวานให้กับราฟ จากนั้นเธอก็มองไปที่เทียนเฉินและพวกที่กำลังสลบอยู่แล้วหันมาพูดกับราฟอีกครั้งว่า
“เธอนี่เหลือเชื่อไปเลยนะ ขนาดเทียนเฉินใช้กระบี่พิฆาตมังกรเธอยังใช้ตัวเปล่ารับมือเขาได้ง่ายๆเลย อ้อ ฉันมีเรื่องที่อยากรู้อีกอย่างนึง...” ทีเรียเขย่งเท้าให้ใบหน้างามของเธอขึ้นมาหาราฟ
“ครับ?”
“เธอไม่ใช่คนบนโลกนี้ใช่มั้ย?” ผู้อำนวยการสาวถามด้วยใบหน้าจริงจัง
“!?”