ถือซะว่าชดใช้ให้ฉัน
“...” ลิลิธขมวดคิ้ว เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไอ้ร่างโครตเท่ห์นั่นคืออะไรอ่ะ...เง่ะ ฉันดูดมาไม่ได้เพราะเป็นการปลดผนึกพลังทางร่างกายของเผ่ามารโลหิตสินะ เห้อ วัยรุ่นเซ็ง” ราฟที่ยังคงลอยค้างอยู่บนอากาศพูดขี้นอย่างเสียดาย ก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า
“...แล้วนี่ทำอะไรอ่ะ อ้อเธออยากนวดให้ฉันก็ไม่บอก เลยจัดท่าทางให้ฉันสินะ งั้นขอฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน...หือ” ราฟที่กำลังพูดหยอกล้อหญิงสาวอย่างสนุกปากเลิกคิ้วขึ้นหลังจากเห็นลิลิธกัดฟันแน่นและเกร็งทั้งร่างของเธอจนมีเส้นเลือดปูดโปนไปทั่วร่างบางนั้นเพื่อเพิ่มแรงกระชากหัวของเขา
“เจ้าบังอาจดูหมิ่นข้า!” ลิลิธคำรามก่อนจะปล่อยมือทั้งสอง จากนั้นเธอจึงตะโกนชื่อวิชาออกมาเสียงดังว่า
“ฝ่ามือระเบิดโลหิต”
หญิงสาวฟาดฝ่ามือใส่ร่างของราฟอย่างรุนแรงจนชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงพลังที่กำลังจะปะทุออกมาจากการโจมตีของหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาเดาจากคำพูดของเธอว่าน่าจะเป็นจักรพรรดิโลหิต
‘ว่าแต่ถ้าเธอเป็นผู้หญิงก็ควรเรียกว่าจักรพรรดินีโลหิตไม่ใช่เหรอฟะ? แต่ท่าไม่ดีแล้วแฮะ ถ้าพลังนี่ปะทุออกมาต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่...เคลื่อนย้ายมิติ!’ ราฟคิดในใจอย่างกังวล เพราะกลัวว่ารอบๆจะโดนลูกหลงจึงใช้พลังมิติเคลื่อนย้ายตัวของเขาและจักรพรรดิโลหิตไปจากที่นี่ทันที
ฟุบบบ
ตูมมมม!
ครืนนนน...
ซ่าาาา...
ร่างของทั้งสองปรากฏออกมากลางท้องฟ้าบนมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ก่อนนี้แรงกระแทกที่เกิดจากการฟาดฝ่ามือระเบิดโลหิตด้วยร่างกายขั้นสูงสุดของเผ่ามารโลหิตอย่าง กายาเทพโลหิต ทำให้เกิดคลื่นพลังระเบิดออกเป็นวงกว้าง ส่งผลให้น้ำทะเลที่อยู่ด้านล่างซึ่งได้รับผลกระทบนี้เช่นกันได้กระจายตัวออกอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นวงแหวนน้ำขนาดใหญ่
“นี่เจ๊ อยู่ๆมาหาเรื่องกันทำไมฟะ ดูซิ เกือบทำให้โรงเรียนของฉันพังแล้วไหมล่ะ” ราฟมองมือทั้งสองข้างของหญิงสาวที่ยังคงแปะอยู่บนอกเขา โดยมีลิลิธเบิกตากว้างมองราฟอย่างตกตะลึง
“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่! เจ้าสัตว์ประหลาด!” ลิลิธกรีดร้องออกมาเสียงดัง
ในตอนที่เธอฟาดฝ่ามือใส่ชายหนุ่มด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดนั้น เธอคิดว่าร่างของเขาจะระเบิดออกมาและตกตายทันที เพราะฝ่ามือระเบิดโลหิตนี้มีความรุนแรงของพลังมากกว่าวิชาระเบิดโลหิตธรรมดาหลายเท่า แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้เมื่อสัมผัสกับชายหนุ่มตรงหน้านั้นราวกับว่าร่างกายของเขาเป็นเหมือนหลุมดำอันว่างเปล่าที่พร้อมดูดกลืนพลังของเธอเข้าไปอย่างไม่จบสิ้น
ตลอดชีวิตหลายพันปีเธอไม่เคยพบเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังที่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งยังสามารถใช้ร่างกายเปล่าๆรับการโจมตีจากฝ่ามือที่ปลุกพลังของเทพโลหิตของเธอได้อย่างไม่สะทกสะท้านอีก
“ข้าไม่ยอม!” ลิลิธกล่าวอย่างดึงดัน ก่อนจะอ้าปากกว้าง จากนั้นก็มีคลื่นพลังงานสีดำแดงระเบิดออกมาจากปากของเธอ
“คลื่นโลหิตทมิฬ” มันคือระเบิดพลังงานที่ถูกสร้างมาจากปราณและพลังชีวิตบางส่วนของเธอ
ราฟที่โดนพลังนี้เข้าไปถึงกับกระเด็นออกไปหลายกิโลเมตรกว่าจะตั้งตัวกลางอากาศได้
“เป็นพลังที่รุนแรงชะมัดให้ตายเถอะ ถ้าเธอใช้มันในเมือง เมืองนั้นคงหายไปทันทีเลยมั้งเนี่ย” ราฟเกาหัวก่อนจะใช้ดวงตาของเขามองหาเธอ
ราฟพบว่าหญิงสาวหายใจถี่ระรัวพร้อมกับมีเหงื่อออกเต็มตัว
“ดูท่าการใช้ท่านี้จะผลาญพลังของเธอไปมากเลยนะเนี่ย แต่สุดยอดไปเลยนะวิชานี้เนี่ย เอาไว้ค่อยลองดีกว่า ส่วนตอนนี้ก็...” ราฟพูดก่อนจะหายตัวแล้วไปโผล่ตรงหน้าของลิลิธ
“เจ้า! เป็นไปไม่ได้!” และแน่นอนว่าเมื่อเธอเห็นเขาก็มองราวกับว่ากำลังเห็นผี!
‘มันน่าจะตายไปแล้วนี่ พลังนี้คือวิชาของเทพปกรณัมที่ข้าเจอมาโดยบังเอิญเชียวนะ ถึงจะไม่รุนแรงเท่าของจริง แต่แค่นี้มันก็น่าจะสังหารเขาได้แล้วนี่ เพราะนอกจากเจ้ามารบ้าที่มีพลังแปลกๆนั่นแล้ว พวกจักรพรรดิมารตนอื่นก็ไม่กล้าต่อต้านวิชานี้เพราะกลัวตายกันหมด แต่เจ้านี่มัน...ผิดปกติเกินไปแล้ว!’ ลิลิธคิดในใจขณะมองหน้าของราฟพร้อมกับปากบางๆที่กำลังอ้าค้างอย่างลืมตัว
“เง่ะ ทำไมมองฉันอย่างนั้นอ่ะ ฉันก็คนปกตินี่ล่ะ แล้วฉันก็ยังไม่เคลียร์เลยนะเจ๊ ที่มาหาว่าฉันรังแกลูกศิษย์เจ๊เนี่ย ฉันแค่แกล้งบีบแก้มยัยนั่นเพราะหมั่นเขี้ยวเฉยๆเอง อ๊ะๆ อย่าคิดใช้พลังบ้านั่นอีกนะ” ราฟขมวดคิ้วก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปเอามือปิดปากของหญิงสาวไม่ให้ใช้คลื่นพลังนั่นโจมตีเขาได้อีก
‘ข้าเพียงแค่อ้าปากค้างเพราะตกใจเฉยๆ!’ ลิลิธค้านในใจอย่างอ่อนล้า นั่นเพราะวิชาของเทพปกรณัมนี้ได้ใช้พลังของเธออย่างมหาศาลจนเกินไป
“ช้าไม่เชื่อคำของสัตว์ประหลาดอย่างเจ้า! ปล่อยนะ อ๊ะ” ลิลิธสะบัดมือให้พ้นจากการจับกุมของเขา แต่เธอก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกเหมือนพลังปราณค่อยๆหายไปจากร่างของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถลอยได้อีกต่อไปจนร่วงลงจากท้องฟ้าและได้ราฟเข้าไปรับไว้ด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิง
“เจ้าดูดกลืนพลังของข้า!? เจ้าสัตว์ประหลาด เจ้าเป็นผู้ใช้พลังพิศดารอะไรกัน!” ลิลิธมองราฟด้วยความตื่นตระหนกและแววตาที่เริ่มสะท้อนให้เห็นถึงความหวาดกลัวแฝงยอมจำนน
ถ้าเป็นเวลาปกติ เธอสามารถฟื้นฟูพลังของเธอได้ในทันทีเพราะพลังในการรักษาตัวที่ดีเลิศของเผ่ามารโลหิต แต่เมื่อปราณถูกดูดกลืนไปจนหมด ก็ทำให้เธอกลายเป็นเพียงหญิงสาวที่ไร้พลังคนหนึ่งเท่านั้น อย่างนี้จะไม่ให้เธอกลัวเขาที่ทำแบบนี้ได้ง่ายๆได้อย่างไร
“ช่วยเห็นฉันเป็นคนปกติหน่อยเถอะนะ แล้วที่ฉันทำแบบนี้เพราะดูเหมือนเจ๊จะไม่ยอมจบเรื่องนี่ ช่วยฟังให้จบก่อนสิ ฉันจะบอกว่าเรามาแลกเปลี่ยนกันเถอะ...ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่การแลกเปลี่ยนก็เสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะนะ” ราฟยิ้มอย่างมีเลศนัยให้หญิงสาวที่ขมวดคิ้วสงสัย
“เจ้าหมายความว่ายังไง? แล้วนี่จะเรียกข้าว่าเจ๊ไปถึงเมื่อไหร่ ข้ามีนามอันน่าเกรงขามไปทั่วแดนมารว่า ลิลิธ!”
“ก็หมายความว่า ฉันได้ของที่ฉันต้องการแล้ว และฉันจะคืนยัยมารนั่นให้เจ๊ไง...ก็เจ๊เป็นอาจารย์ของยัยวาเนโลปี้ไม่ใช่เหรอ เรียกเจ๊แหละถูกแล้ว หรือจะให้เรียกว่าป้า มันก็ดูแรงไป แต่ฉันไปถือหรอกนะ ป้...”
“เรียกเจ๊ก็ได้!” ลิลิธรีบพูดตัดบทและมองราฟนิ่งๆ แล้วถามอย่างกังวลว่า
“เจ้าคิดจะทำลายแดนมารหรือไม่?” ที่เธอถามอย่างนี้เพราะหลังจากที่เห็นพลังของราฟที่เธอสัมผัสได้เมื่อครู่ มันทำให้เธอกลัวจับใจ
‘บางทีพลังของเขาอาจเทียบเท่าเทพอสูรโบราณก็เป็นได้’ ลิลิธอดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้
“ทำไมฉันต้องทำงั้นอ่ะ ไม่ว่าใครก็ตาม ทุกคนล้วนมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง ฉันแค่อยากจะอยู่อย่างสงบก็เท่านั้นเอง แต่ทำไมถึงมีเรื่องเข้ามาตลอดเลยก็ไม่รู้ เซ็งค่ดๆ” พูดจบชายหนุ่มผมเทาก็มองลิลิธที่ตอนนี้ไม่ต่างจากคนธรรมดาคนหนึ่ง
“เจ้าคิดจะทำอะไร” หญิงสาวกล่าวอย่างไม่ไว้ใจ
“เง่ะ ทำไมรู้สึกเหมือนเดจาวูแปลกๆแฮะ แล้วนี่หน้าฉันมันดูเหมือนโจรข่มขืนมากเลยเหรอ ทำไมมีแต่คนถามฉันแบบนี้ตลอดเลย ตั้งแต่ลูกสาวของเจ๊แล้วนะ” ราฟคิ้วกระตุก เขามองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจ
“ดีที่มีสัตว์ทะเลตายกันนิดเดียว เอาล่ะไปกันเถอะ ฉันอยากกลับไปนอนแล้ว ส่วนเจ๊ก็เอาลูกศิษย์ของเจ๊กลับไป โอเคนะ”
“...” ลิลิธไม่ตอบอะไรเพราะเธอกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ราฟเลยคิดเอาเองว่าเธอตกลง ก่อนจะทำให้เธอลอยด้วยลมของเขาแล้วเอื้อมมือปลาหมึกเข้าโอบเอวเธออย่างถือวิสาสะ
“เจ้า!”
“ถือว่าชดใช้ที่เจ๊พยายามฆ่าฉันก็แล้วกัน” ราฟยิ้มกว้างอย่างเอาแต่ใจ ลิลิธที่เห็นแบบนั้นก็เลยปล่อยให้เขาทำตามใจ เพราะเธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดัแค่ไหนที่ชายหนุ่มไม่เอาเรื่องเธอ ถ้าเป็นคนอื่นอาจโมโหจนสังหารเธอและลูกศิษย์ของเธอก็เป็นได้
“ไปล่ะนะ”
ฟุบบบ
.
.
.
หน้าหอของราฟ
ในตอนนี้กำลังมีกลุ่มนักเรียนจับตามองหอพักของเขาอยู่ และเมื่อเห็นว่ามีคนจับกลุ่มกันอยู่ ย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีคนสงสัย เมื่อพวกเขารู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ทุกคนก็เลือกที่จะดูผลลัพท์(เรื่องของชาวบ้าน)อย่างสนใจ นั่นทำให้มีกลุ่มคนที่รู้เรื่องที่ราฟ...สาวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“นายคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเคลียร์กับเจ้าราฟนั้นได้มั้ย”
“ฉันว่าไม่ได้หรอก เจ้าราฟนั่นมันเลวจะตาย”
“ใช่จากข่าวลือเห็นว่าเขาฟันผู้หญิงมาเป็นร้อยคนเลยนะ”
“สารเลวจริงๆ”
“ใช่ แบบนั้นมันน่าอิจ...น่าเกลียดเกินไปแล้ว!”
“แต่พวกเขาอาจตกลงกันได้แล้วก็ได้นะ”
“หึ ไม่ว่ายังไงฉันก็มั่นใจว่าทั้งคู่ไม่สามารถตกลงกันได้และอาจทะเลาะกันจนห้องพังก็ได้ จากนั้นฉันจีบเธอต่อเอง...”
ฟุบบบ
“...” ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างออกรสนั้น จู่ๆก็มีชายหญิงสองคนปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าโดยที่ฝ่ายชายกอดเอวฝ่ายหญิงที่หน้าแดงก่ำกำลังเหนื่อยหอบและเหงื่อออกคล้ายกับพึ่งผ่านศึกหนักกันมา ส่วนฝ่ายชายนั้นมีสีหน้าที่เปี่ยมสุขราวกับได้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับตัวเขา
“...”
“...ทะ ทะเลาะกันจริงๆด้วย แต่เป็นบนเตียงสินะ”
“บะ น่าอิจฉา! แบบนี้มันจะน่าอิจฉาเกินไปแล้วววว”