ค่ายกลแปดทิศ
“เหอะ เลิกคิดหนีเถอะ ยังไงเจ้าก็หนีไม่รอด แต่ข้าก็ต้องยอมรับคำพูดของเจ้าว่าในตอนนี้ข้าไม่สามารถเล่นสนุกกับเจ้าได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าจะรู้สึกสนุกที่เห็นเจ้าสองคนร้องครวญครางไม่ได้นี่นะ...”
“พวกเจ้าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ มีใครอยากสนุกกับพวกนางบ้าง!?” เทียนหงถามด้วยรอยยิ้มเหี้ยมพลางมองหญิงสาวทั้งสองที่ตอนนี้กอดกันแน่นเพราะได้ยินเสียงตอบรับของคนหลายสิบชีวิตที่อยู่รอบตัวของเธอ
“ข้าขอรับ”
“ข้าด้วย”
“แน่นอนว่าข้าขอร่วมด้วย”
“คุณชายช่างใจกว้างราวมหาสมุทร”
“ฮี่ๆๆ ข้าไม่ได้ลิ้มรสเรือนร่างสตรีมานานแล้ว”
“หึๆ อย่าให้พวกนางตายก่อนล่ะ ข้าอยากเห็นเจ้าสวะนั่นมองพวกนางที่กำลังร้องด้วยความรัญจวนใจ เอ้า รออะไรอยู่ ถอดเสื้อผ้าพวกนางสิวะ ฮ่าๆๆ” เทียนหงกล่าวจบก็หัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่งโดยมีเทียนเฉินที่นั่งท้าวคางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่แยแส ดีเสียอีกที่ลูกชายของเขามีความสุข
“ถ้าอย่างนั้นในเมื่อข้าเป็นขุนพลอันดับหนึ่ง ข้าขอเริ่มก่อนละกัน ฮี่ๆๆ” ชายชุดดำที่มีร่างกายใหญ่โตราวยักษาพูดขึ้นก่อนจะเดินมาทางหญิงสาวทั้งสอง
“ริน พี่ขอโทษที่ปกป้องเธอไม่ได้นะ” เลิฟหันมาพูดกับน้องสาวของเธอด้วยเสียงสั่นเครือ
“หนูก็ขอโทษที่ปกป้องพี่ไม่ได้เหมือนกัน”
“งั้นเรามาตายไปพร้อมกันเถอะ”
“ค่ะ ถ้าต้องโดนพวกมันทำแบบนั้น หนูยอมตายดีกว่า” รินมองชายร่างยักษ์ที่เริ่มถอดกางเกงด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะเตรียมกัดลิ้นตายไปพร้อมกับพี่สาวของเธอ
“3”
“2”
“1...”
ตูมมม!
“ครอบครัวของฉันอยู่ที่ไหน!”
“ไหนๆ ขอสุดหล่อคนนี้ดูหน้าหน่อยดิวะ ว่าหมาตระกูลเทียนที่ชื่อว่าเฉินที่มันกล้าลักพาตัวครอบครัวฉันมามันหน้าตาเป็นยังไง!” ไม่ทันที่หญิงสาวทั้งสองจะกัดลิ้นของพวกเธอ ประตูทางเข้าก็ถูกเปิดออกเป็นครั้งที่สาม แต่เป็นการเปิดออกด้วยแรงระเบิดที่เกิดจากคลื่นกระแทกของหมัดแกร่งที่ถูกยื่นออกมาให้ทุกคนในห้องโถงเห็น ก่อนที่พวกเขาจะเห็นใบหน้าของคนที่บุกรุกเข้ามาในห้องโถงอย่างชัดเจน
“เอาล่ะ พี่สาวสุดสวย น้องสาวสุดน่ารัก ราฟสุดหล่อมาช่วยแล้ว! และสำหรับไอ้พวกหน้าตัวเมียทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ ต่อให้บรรพบุรุษของพวกแกขึ้นจากหลุมก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว เตรียมตัวไว้ได้เลย! เพราะฉันคนนี้เตรียมของมาสั่งสอนพวกหน้าไม่อายอย่างพวกแกไว้เพียบ!” สิ้นเสียงของเขา ชายหนุ่มผมเทาก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างสดใส แต่ก็สีหน้าของเขาก็กลับกลายเป็นเย็นชาทันที่ที่เห็นสภาพของหญิงสาวทั้งสองที่ถูกสวมกุญแจมือ ก่อนจะหันไปมองชายร่างยักษ์ที่กำลังอยู่ในท่าถอดกางเกงอยู่
“แก! ไอ้สว...”
เผละ
ยังไม่ทันที่เทียนหงจะพูดอะไรออกมา ร่างทั้งร่างของเขาก็แหลกเละกลายเป็นละอองเลือดด้วยหมัดของชายหนุ่มผมเทา หลงเหลือไว้แต่เพียงผ้าพันแผลที่ค่อยๆตกลงพื้น จากนั้นราฟก็โผล่ไปอยู่ตรงหน้าของเลิฟและรินที่มองเขาด้วยใบหน้าตกตะลึง
“ขอโทษที่มาช้านะ ยังไงก็ไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะแตะตัวของหญิงสาวทั้งสอง
“ดะ เดี๋ยวสิ” เลิฟไม่ทันได้พูดอะไรร่างทั้งสองก็หายไปจากห้องโถงตระกูลเทียน
“หงน้อย! อ๊ากกก! ไอ้เด็กเxย! ตายไปซะ! ฝ่ามือยูไล!” เทียนเฉินที่เห็นว่าลูกชายของเขาตายไปไม่หลงเหลือสัญญานของชีวิตก็สติแตกแล้วใช้ออกด้วยวิชาลับของเขาทันที
สิ้นเสียงของชายวัยกลางคน ฝ่ามือสีทองเท่าภูเขาขนาดย่อมก็ปรากฏขึ้นมาบนหัวของเทียนเฉินก่อนที่มันจะถูกเหวี่ยงลงมาใส่ชายหนุ่มผมเทาโดยไม่สนใจคนภายในห้อง
“ฝ่ามือยูไลของผู้นำตระกูล พวกเราถอย!” ชายร่างยักษ์ที่เป็นขุนพลอันดับหนึ่งรีบร้องเตือนทุกคนก่อนจะใช้ท่าร่างของตนหลบหนีออกมา
ตูมมม!!!
เมื่อฝ่ามือยักษ์กระแทกลงพื้นก็มีเสียงกรีดร้องของเหล่าลูกน้องของเทียนเฉินดังขึ้นมาจากใต้ฝ่ามือ ยกเว้นเหล่าขุนพลและชายสวมแว่นที่เป็นเลขาของเทียนเฉินที่รอดจากฝ่ามือนี้มาได้
เสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่นานก็หายไป นั่นเป็นสัญญานที่บ่งบอกว่าคนที่อยู่ภายใต้ฝ่ามือนั้นได้เสียชีวิตจนหมดแล้ว
“เจอพลังกดดันเทียบเท่าแรงโน้มถ่วง 100 เท่าที่ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังระดับ SSS ด้วยกันโดนเข้าไปยังเกรงกลัวของฝ่ามือนี้ไป เด็กนั่นไม่รอดแล้วล่ะ” หนึ่งในขุนพลพูดขึ้นพร้อมกับกลื่นน้ำลาย ถ้าเขาหลบไม่ทันคงไม่พ้นได้ไปคุยกับรากมะม่วงเป็นแน่
“อ๊ากกก หงน้อยของข้า! พวกเจ้ารีบตามร่องรอยมิติที่เจ้าเด็กนั่นใช้ส่งตัวครอบครัวของมันหนีไป แล้วตัดหัวพวกนางมาให้ข้าซะ!” เทียนเฉินที่เพิ่งสังหารราฟไปด้วยความโกรธแค้นสลายฝ่ามือยูไลก่อนจะรีบสั่งให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ตามหาเลิฟและรินทันที
“แหมๆ พูดจาโหดร้ายจังเลยนะ ถึงกับสั่งตัดหัวเลยเหรอ สมแล้วที่เป็นหัวหน้าตระกูลที่โสมมอันดับหนึ่ง”
“!?”
ทุกคนภายในห้องที่ได้ยินประโยคนั้นรีบหันไปมองพื้นที่ถูกทำลายเป็นรูปฝ่ามือขนาดยักษ์ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มผมเทานอนไขว้ขาพร้อมกับกระดิกเท้าไปมาอย่างสบายอารมณ์
“กะ แก...นี่เจ้ารอดมาได้ยังไง หรือว่า...อุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วง? เหอะ โชคดีจริงๆที่เจ้ายังไม่ตาย ข้าจะได้ทรมานเจ้าจนสาสมใจที่บังอาจสังหารลูกชายข้า!” เทียนเฉินกล่าวจบก็หัวเราะเสียงดังก่อนจะมองขุนพลทั้งเจ็ดว่า
“ขุนพลสวรรค์รับคำสั่ง! ใช้ค่ายกลแปดทิศซะจับตัวไอ้้เด็กเหลือขอนั่นมาให้แก่ข้า!”
“ขอรับ!” สิ้นเสียงตอบรับของชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ด ร่างของพวกเขาก็ทะยานร่างเข้าไปหาราฟแล้วใช้ออกด้วยวิชาค่ายกลทันที
“วิชาประสานพลัง....ค่ายกลแปดทิศ!”
“โห้ นี่เหรอค่ายกลที่ถูกกางไว้ทั่วเมืองนี้ ต้องขอบคุณมันรึเปล่านะที่ทำให้ฉันได้ออกกำลังกายยกใหญ่เลย” ราฟที่มองชายทั้งเจ็ดยืนล้อมตัวเขาอยู่พูดกับตัวเอง
“หึ เป็นยังไงบ้างล่ะที่เจอค่ายกลแปดทิศที่สะกดพลังของเจ้าไว้ ถึงจะขาดขุนพลโม่ไปแต่ยังไงก็ทำให้พลังของเจ้าหายไปถึง 7 ใน 8 นี่แหละคือพลังที่ทำให้ตระกูลเทียนกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง ที่นี้ก็จงยอมรับการจับกุมของพวกข้าซะ” ชายร่างยักษ์กล่าวด้วยรอยยิ้มยโสโอหัง