คำเชิญชวนจากผู้นำตระกูลหลิน
“ราฟ!” เมื่อพวกซายะเห็นราฟโดนการโจมตีของพวกเธอเข้าเต็มๆ พวกเธอก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะไม่หลบมันจนทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักแบบนี้
“เจ้าบ้า! ทำไมถึงไม่หลบล่ะ ทั้งๆที่นายสามารถหลบได้แท้ๆ” ซายะขมวดคิ้ว เธอรู้สึกเสียใจจริงๆที่ใช้พลังทั้งหมดโจมตีใส่เขาด้วยอารมณ์ชั่ววูบโดยที่คิดว่าเขาจะหลบมัน
“นี่ ลืมตาสิ นายบาดเจ็บจนสลบไปเลยเหรอ!? ฉันขอโทษ!” เรเชลถามเสียงสั่นเครือ เมื่อเธอมองไปที่บาดแผลทั่วร่างของเขา เธอก็รู้สึกผิดจนน้ำตาไหลออกมา
ทางด้านหลินอิงอิงไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมองชายหนุ่มที่กำลังหลับตาอยู่ ก่อนจะพูดกับสองสาวที่กำลังเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปอยู่ว่า
“พวกเธอสองคนกลับไปก่อน ฉันจะพาเขาไปห้องพยาบาลเอง พวกเธอทุกคนก็แยกย้ายกันได้แล้ว” หลินอิงอิงพูดกับซายะและเรเชล ก่อนจะหันไปบอกนักเรียนคนอื่น จากนั้นก็สร้างมังกรสายฟ้าออกมาแบกร่างของราฟให้ลอยขึ้นแล้วใช้แหวนมิติของเธอเทเลพอร์ตออกไปจากที่นี่ทันที
“พวกเรากลับกันก่อนเถอะ คนบ้าอย่างหมอนั่นคงไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวเขาก็หาย” ซายะหันมาปลอบเรเชลที่เช็ดน้ำตาอยู่
“อื้อ” เรเชลพยักหน้าตอบ
หลังจากตกลงกันเสร็จทั้งคู่ก็พากันเดินกลับที่พักของพวกเธอ
“...” เหล่าไอรีนมุงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพากันเงียบกริบไม่พูดไม่จาไปพักใหญ่ จนกระทั่งซายะและเรเชลจากไปก็มีนักเรียนคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ว่า
“พวกนายเห็นเหมือนที่ฉันเห็นรึเปล่า”
“อือ เห็นชัดเต็มสองตาเลย”
“น้ำตาของฉันมันไหลออกมาไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ฮึกๆ”
“ประธานซายะ กับคุณหนูเรเชล แม้แต่ครูหลินก็ด้วย...”
“คนอย่างหมอนั่นมีดีอะไรถึงทำให้คนจากตระกูลหลักอย่างพวกเธอสามคนมาชอบได้นะ...”
“เจ้าพัคแทยังก็อีกคน นอกจากคุณหนูซูจีแล้ว เขาก็แทบจะเหมาผู้หญิงทั้งโรงเรียนของเราไปหมดเลย!”
“พัคแทยัง! ราฟ! เจ้าสองคนนี้เป็นศัตรูอันดับหนึ่งและสองของหนุ่มโสดอย่างพวกเรา!”
นักเรียนชายทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างพากันเงยหน้าขึ้นฟ้าตะโกนต่าทอชายหนุ่มผู้น่าอิจฉาทั้งสองพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาโดยมีนักเรียนหญิงมองพวกเขาราวกับกำลังมองคนบ้ากอดคอร้องไห้กันอยู่
ฟุบบบ
ตุบบบ
หลินอิงอิงพาราฟเข้ามาในห้องทำงานของเธอ จากนั้นก็มองร่างกำยำที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอกอดอกมองราฟด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือออกไปดึงแก้มของเขา
“จะแกล้งหลับไปถึงเมื่อไหร่?”
สิ้นเสียงของหญิงสาว ราฟก็ลืมตาขขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากมังกรสายฟ้าของหลินอิงอิงโดยไม่สนใจร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขาราวกับว่ามันเป็นเพียงแผลยุงกัดเท่านั้น
“แหะๆ หลอกครูหลินไม่ได้สินะครับ ว่าแต่ครูรู้ได้ไงว่าผมแกล้งอ่ะ?” ราฟเกาแก้มเขินๆก่อนจะถามเธอ
“คนที่เอาชนะผู้อาวุโสสูงสุดของตำหนักมารสยบฟ้าที่มีระดับพลัง SSS อย่างนายคงไม่บาดเจ็บเพราะโดนพลังของผู้ใช้พลังระดับ SS 1 คน และ ระดับ S 2 คนอย่างพวกฉันหรอก ที่นายหลอกพวกเธอได้ก็เพราะทั้งสองคนคิดว่านายลดการป้องกันทั้งหมดเพื่อพวกเธอ แต่ฉันที่เฝ้าดูนายมาตลอดมีเหรอจะไม่รู้ว่านายมันกะล่อนแค่ไหน” เมื่อหลินอิงอิงกล่าวจบก็แค่นเสียงหึ
“เห เมื่อกี้ครูบอกว่าเฝ้าดูผมเหรอ อย่างนี้เค้าเรียกว่าแอบรั...ก็ได้ๆ ยอมแล้วค้าบบ ว่าแต่ครูรู้ได้ไงอ่ะว่าผมจัดการมารฉายาแบ๊วนั่นไป?” เมื่อราฟเห็นเธอเรียกแส้สายฟ้าออกมาเขาก็ยกมือยอมแพ้
หลินอิงอิงถอนหายใจก่อนจะกล่าวว่า
“พอดีฉันสนิทกับผู้อำนวยการโรงเรียนไอรีนแล้วเธอก็มาบอกฉันว่าโรงเรียนเรามีผู้ใช้พลังระดับ SSS เพิ่มอีกคนแล้ว และยังเป็นแค่นักเรียนที่มีจุดเด่นคือมีผมสีเทาแถมชอบยิ้มกวนประสาทคนหนึ่ง ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นนาย” “อย่างนี้นี่เอง งั้นในเมื่อครูรู้แล้วว่าผมเก่งครูก็ต้องให้ผมไปสำรวจดันเจี้ยนกับครูด้วยนะ” ราฟฉีกยิ้มให้หญิงสาว
“ที่ฉันพานายมาที่นี่ก็เพื่อจะคุยเรื่องนี้นี่แหละ แล้วก็มีอีกเรื่องคือผู้นำตระกูลหลินหรือก็คือพ่อของฉันอยากพูดคุยกับนายเป็นการส่วนตัวหน่อยน่ะ”
“พ่อของครู? พลินเล่ยน่ะเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมอ่ะ” ราฟเกาหัวอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลินอิงอิงส่ายหน้า
“ในเมื่อครูหลินคนสวยเป็นคนชวน ผมที่เป็นนักเรียนสุดที่รักของครูก็ต้องตกลงอยู่แล้ว ฮี่ๆ” เมื่อราฟพูดจบเขาก็ฉีกยิ้มหวานให้เธอ
“...” หลินอิงอิงไม่ได้พูดอะไร เธอขี้เกียจโต้ตอบกับชายหนุ่มตรงหน้า เพราะทุกครั้งมักจะจบที่เธอเป็นฝ่ายแพ้ให้กับความกวนประสาทของเด็กนี่ตลอด
หลินอิงอิงส่งจดหมายใบหนึ่งให้กับราฟ ชายหนุ่มผมเทามุ่ยปากเพราะไม่ได้กวนหญิงสาวต่อ แต่เขาก็ยื่นมือไปรับมันจากเธอ
เมื่อเขาเปิดออกมาก็พบว่ามันคือบัตรเชิญเข้าร่วมงานประมูลของโรงประมูลตระกูลเทียน
“นี่มัน?” ราฟเงยหน้าถามด้วยความสงสัย
“พ่อของฉันต้องการเชิญนายไปเป็นแขกพิเศษร่วมกับเขาในห้องรับรองของตระกูลหลินน่ะ วันเวลาและสถานที่ก็อยู่ในบัตรนั่นแหละ...”
“...ส่วนเรื่องสำรวจดันเจี้ยนรอผลการแข่งขันออกก่อนค่อยว่ากันอีกที” หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบ
ราฟพยักหน้าก่อนจะบอกหญิงสาวผมชมพูว่า “งั้นผมขอตัวก่อนนะ มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย”
“นายหมายถึงเรื่องสาวคนใหม่ที่หอมแก้มกันบนฟ้านั่นน่ะเหรอ?” คำถามนี้ของหลินอิงอิงแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“เง่ะ นี่ครูก็เชื่อข่าวลือนั่นเหรอ ผมดูเหมือนโจรข่มขืนขนาดนั้นเลยรึไง?” ราฟไหล่ตกถามเธอเสียงเศร้า
“คิกๆใครจะไปเชื่อเรื่องงี่เง่าแบบนั้นล่ะ เพราะถ้าเธอคนนั้นโดนนายบังคับทำเรื่องอย่างว่าจริงๆ เธอที่ยอมแพ้จนออกจากการแข่งขันก็ต้องรีบฟ้องผู้อำนวยการโรงเรียนวีนัสให้มาเอาเรื่องนายทันทีแล้วสิ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นคุณทีเรียจะมาเรียกร้องอะไรเลย มีแต่จะถูกใจนายด้วยซ้ำนี่?” ว่าจบหญิงสาวก็กัดฟันกรอด ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงหว่านเสน่ห์คนอื่นไปทั่วอย่างนี้นะ! “ฉลาดสมกับเป็นครูหลินของผม อย่างนี้จะไม่ให้ผมระกได้ยังไง อิๆ” ราฟยกนิ้วโป้งให้เธอ
“เลิกล้อเล่นได้แล้ว! ที่ฉันอยากรู้ก็คือ...ทำไมนายถึงหอมแก้มเธอแบบนั้น? แล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นก่อนหน้านี้กัน?”
“เอ่อ คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้...” ราฟอธิบายให้หญิงสาวฟัง
“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจละ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้นายไปได้แล้ว อบ่าลืมไปอธิบายให้ซายะกับเรเชลฟังด้วยล่ะ ถึงยังไงพวกเธอก็เป็นน้องสาวที่น่ารักของฉัน” หลินอิงอิงที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็บอกนักเรียนจอมกวนของเธอ
“ครับพ้ม หลังเสร็จธุระเรื่องนี้ผมก็ว่าจะไปหาพวกเธออยู่แล้ว” ราฟตอบรับเธอแล้วเตรียมตัวจากไป แต่เขาก็หยุดตัวเองแล้วหันหน้ามาหาครูสาว
“...อ้อ ผมรู้นะว่าครูอยากอยู่กับผมนานๆแต่ทำไม่ได้เพราะที่นี่คือโรงเรียนน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะเดี๋ยวผมจะกลับมาชดเชยให้ด้วยการให้ครูกอดผมตามที่ต้องการเลย!” ราฟพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“เจ้าเด็กบ้า! จะไปไหนก็ไปเลย!”
“ฮ่าๆๆ”