คำขอร้องของเด็กชาย
.
.
.
ฟุบบบ
ราฟกลับมาถึงห้องพร้อมกับโมจิ เมื่อโกโก้เห็นเขา เธอก็วางมือจากจอยเกมแล้ววิ่งเข้ามากอดราฟทันที
“ราฟฟฟ”
“ระวังหน่อย เดี๋ยวก็ล้มอีกหรอก” ราฟยิ้มกว้างอ้าแขนรับการสวมกอดของเด็กสาว
เมื่อคืนเขาบอกให้โกโก้เรียกเขาว่าราฟตอนอยู่ในร่างมนุษย์เพื่อให้ชินปากเวลาพาออกไปเดินเล่นข้างนอก ซึ่งเธอก็ยอมเรียกแต่โดยดี ราฟจึงเลิกเรียกตัวเองว่าป๊าและแทนตัวว่าฉันให้ชินปากเหมือนกัน ไม่งั้นขืนให้เด็กสาวแบบนี้เรียกเขาว่านายท่านมีหวังถูกคนแจ้งจับข้อหาทำอนาจารบังคับเด็กเรียกนายท่านอีก แค่คิดเขาก็ปวดหัวแล้ว แถมเมื่อเช้าโลแกนยังเข้าใจผิดหาว่าเขาเลี้ยงต้อยอีก
“ฉันพาเพื่อนใหม่มาเล่นกับหนูด้วยนะ สนิทกันไว้ล่ะ เพราะต้องเจอกันบ่อยแน่ๆ เด็กคนนี้ชื่อโมจิ เป็นสัตว์อสูรพยัคฆ์ทิวา คู่หูของพัคแทยังน่ะ” ราฟพูดยิ้มๆขณะเอี้ยวตัวหลบให้เด็กสาวเห็นเด็กชายที่ อยุ่ด้านหลัง
“...” โกโก้มองโมจิด้วยแววตาสนใจ เพราะเธอไม่เคยมีเพื่อนวัยเดียวกันเลยไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้
เด็กสาวมองโมจิครู่หนึ่งก่อนจะคลายกอดจากราฟแล้วพูดกับโมจิด้วยรอยยิ้มว่า
“หวัดดี ฉันชื่อโกโก้ เป็นอสูรเด็กที่น่ารักที่สุดในแดนอสูร” “ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าชื่อไป๋ลู่หรือโมจิ แต่ยังไงก็ต้องขอแก้คำพูดของเจ้าก่อน เพราะอสูรเด็กที่น่ารักที่สุดคือข้าต่างหาก!” โมจิเชิดหน้าใส่โกโก้
“หา ว่าไงน้า” โกโก้ยิ้มกระตุก ก่อนที่ทั้งสองจะจ้องตากันชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร
“ดูแล้วน่าจะสนิทกันได้เร็วดีนี่ ถ้างั้นเล่นเกมกันไปก่อนนะ ฉันจะไปซื้อของมาทำอาหารซะหน่อย”
“ค่า”
“ขอรับ” เด็กน้อยทั้งสองขานรับก่อนจะเดินไปเล่นเกมเพื่อแข่งกันว่าใครจะเป็นอสูรเด็กที่น่ารักที่สุด
ราฟมองพวกเขาอย่างเอ็นดู ก่อนจะมองข้อความในมือถือที่พึ่งส่งมาว่า
‘ผลการแข่งขันเอาชีวิตรอดได้ผลสรุปออกมาแล้ว
ผู้ชนะเลิศการแข่งขันและได้อันดับหนึ่งคือเซราฟ ดาร์เซีย จากโรงเรียนไอรีน
อันดับสองคือ วิเวียน เวล์ฟ จากโรงเรียนเทพสงคราม
อันดับสามคือ ยามาโมโตะ เคียวยะ จากโรงเรียนเทพสงคราม
อันดับสี่คือ หลิวหยาง จากโรงเรียนอาเธน่า
อันดับห้าคือวาเนสซ่า บาโธรี่ จากสำนักมารสยบฟ้า
อันดับหกคือ ชิโรคามิ ซายะ จากโรงเรียนไอรีน
อันดับเจ็ดคือ เรเชล เดอ ราธ จากโรงเรียนไอรีน
อันดับแปดคือ พัคแทยัง จากโรงเรียนไอรีน
อันดับเก้าคือลูน่า อาร์โกนอท จากโรงเรียนอาเธน่า
อันดับสิบคือ เฟยฮวา จากโรงเรียนวาเรีย
และพวกเขาทั้งสิบยังเป็นผู้เข้าแข่งขันที่เหลือรอดทั้งหมดจากการแข่งขันในครั้งนี้ ขอให้ผู้ชนะการแข่งขันทั้งสิบท่านกดยืนยันตัวตนเพื่อรับของรางวัลจากทางสมาคมผู้พิทักษ์ด้วย ขอบคุณค่ะ’
ราฟที่อ่านจบกดลิ้งค์เข้าไปรับรางวัลอันดับหนึ่ง มันคือ บัตรสอบวัดระดับผู้พิทักษ์ แร่ระดับ S ที่ใช้สำหรับสร้างอาวุธ พร้อมด้วยเงินรางวัลจำนวน 100 ล้านเหรียญโดยราฟกดแจ้งพิกัดแหวนมิติของเขาไว้ ไม่นานของรางวัลก็ถูกเทเลพอร์ตมาส่งถึงมือเขาพร้อมกับเงินที่โอนเข้าบัญชี
“เง่ะ ที่หนึ่งได้แค่บัตรวัดระดับฟรี กับแร่ใช้ทำอาวุธงั้นเหรอ ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้มันด้วยสิ เงินยังเข้าท่ากว่าอีก เก็บพวกมันไว้ก่อนก็แล้วกัน” ราฟบ่นออกมาเบาๆก่อนจะมีสายเข้ามา เมื่อเขาดูก็พบว่าเป็นหลินอิงอิง
“ว่าไงครับครูหลินคนสวย” ราฟพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ฉันเห็นผลการแข่งขันนั่นแล้ว ยินดีด้วยนะ ฉันโทรมาเพื่อจะบอกนายว่าฉันพึ่งได้รับสิทธิสำรวจดันเจี้ยนมาเหมือนกัน มะรืนนี้เจอกันที่แท่นวาร์ปหน้าโรงเรียนนะ เตรียมตัวมาให้พร้อมล่ะ” หลินอิงอิงพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
“เคครับพัม”
“ฉันโทรมาบอกแค่นี้ล่ะ ไว้เจอกัน” สิ้งเสียงของหญิงสาว เธอก็วางสายไปทิ้งให้ราฟอ้าปากค้างอยู่เพราะอดแกล้งหญิงสาว
“ชิชะ ฟังจากเสียงแล้วเธอคงจะดีใจมากเลยแฮะที่นักเรียนห้องเธอได้ที่หนึ่งเนี่ย แหม่ เราล่ะอยากเห็นหน้าเธอตอนมีความสุขจริงๆ ปกติเห็นทำหน้าบึ้งใส่ตลอด เอาไว้ไปขอหูฟังจากลุงมาให้เธอก็แล้วกัน หุๆ” ราฟพูดกับตัวเองจบเขาก็มองเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังเล่นเกมกันอย่างเมามันส์ ราฟยิ้มอย่างอ่อนโยนให้พวกเขาก่อนจะเทเลพอร์ตไปซื้อของมาทำหมูกระทะกินตามที่เคยพูดไว้ตอนอยู่บนยานของแอนนา
.
.
.
[ตลาดสดแถวสมาคมผู้พิทักษ์]
ราฟปรากฏตัวในตลาดก่อนจะเดินเลือกซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบไปทำหมูกระทะอย่างเพลิดเพลิน ในระหว่างที่ซื่อของเสร็จและเตรียมกลับหอพักของเขานั้น ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้ดังขึ้น เมื่อราฟหันไปมองเขาก็เห็นร่างของเด็กชายคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาในตลาดก่อนจะหายเข้าไปในสมาคมผู้พิทักษ์ด้วยใบหน้าร้อนรน จนคนแถวนี้พากันมองตาม
“จากเสียงหายใจที่หอบเหนื่อยแบบนั้นรวมกับดวงตาที่มีเส้นเลือดขึ้นจนแดงไปหมด เด็กคนนั้นคงจะวิ่งติดต่อกันหลายนาทีด้วยความเร็วสูงสุดโดยที่ฝืนตัวเองแน่ๆ เขารีบไปไหนกันนะถึงต้องทำถึงขนาดนี้น่ะ” ราฟพูดกับตัวเอง ก่อนจะเปิดสัมผัสหูผี เอ๊ย หูทิพย์ของเขาด้วยความสนใจ
.
.
.
[สมาคมผู้พิทักษ์]
ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเหล่าผู้พิทักษ์ระดับต่างๆที่พากันมองหาภารกิจที่ถูกร้องขอมาไปทำ ปรากฏร่างของเด็กชายอายุ 12 ปีคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาที่สมาคมจนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนที่อยู่ข้างใน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าจะยื่นคำร้อง โปรดยืนยันตัวตนแล้วกรอกรายละเอียดก่อนนะคะ” พนักงานประชาสัมพันธ์ของสมาคมผู้พิทักษ์สาขาเมืองไอรีนยิ้มหวานให้กับเด็กหนุ่ม
“ผมไม่ได้มายื่นคำร้อง! ผมมาขอความช่วยเหลือ! ตอนนี้หมู่บ้านของผมถูกฝูงอสูรบุกโจมตี ได้โปรดส่งคนไปช่วยหมู่บ้านของผมด้วยเถอะครับ!” เด็กหนุ่มพูดไปร้องไห้ไป ก่อนจะคุกเข่าเอาหัวโขกกับพื้นไม่หยุดจนเลือดไหลออกมา “ยะ หยุดก่อนเถอะค่ะ ทางเราขอเวลาตรวจสอบก่อนนะคะ ถ้าเรื่องที่คุณว่ามาเป็นเรื่องจริงทางเราจะรีบส่งคนไปช่วยโดยเร็วเลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวอย่างใจเย็น
“มะ ไม่ได้นะ ต้องไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ทุกคนกำลังสู้กับพวกมันอยู่ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง พวกมันโหดร้ายมากเลย มันฆ่าคนในหมู่บ้านผมไปหลายคนแล้ว พวกคุณช่วยไปกับผมก่อนได้มั้ยครับ!?” เด็กหนุ่มหันไปขอร้องเหล่าผู้พิทักษ์ที่นั่งอยู่ในสมาคมมองดูเขาอยู่
“เสียใจด้วยเจ้าหนู ถ้าไม่มีคำสั่งจากสมาคมพวกฉันเคลื่อนไหวโดยพลการไม่ได้ เพราพถ้าไปแล้วไม่มีอสูรอยู่เท่ากับว่าเสียเวลาช่วยคนอื่นไปฟรีๆ เว้นแต่นายจะไปจ้างพวกทหารรับจ้าง แต่บอกไว้ก่อนนะว่าพวกนั้นคิดราคาแพงมาก ไม่เหมือนกับสมาคมผู้พิทักษ์ที่จ่ายพวกเราด้วยภาษีประชาชนอย่างนาย ทำให้นายไม่ต้องจ่ายเงินสักแดงน่ะ เพราะงั้นก็รอไปก่อนนะ” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาปลอบเด็กชาย
“ตะ แต่ว่า...” เด็กชายกัดฟันจนมันส่งเสียงดังกรอด เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อทำให้มีเลือดไหลออกมาเพราะความโกรธตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับคุณเทียร์ ให้ผมคนนี้ช่วยมั้ย?” ในขณะที่เด็กชายกำลังกล่าวโทษตัวเองอยู่นั้นก็มีเสียงทุ้มนุ่มชวนให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลายดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสมาคมหันไปมองตามเสียงนั้นกันหมดและพบกับชายหนุ่มผมเทาหน้าตายิ้มแย้มกำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาเอาศอกทั้งสองข้างพิงโต๊ะประชาสัมพันธ์ และประสานมือเข้าด้วยกันพร้อมกับมองหน้าสวยๆของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“อ๊ะ คุณราฟ!?” เทียร์พูดขึ้นด้วยความตกใจ เธอจำเขาได้เพราะเคยถูกชายหนุ่มช่วยไว้จากความหึงหวงของคุณหนูตระกูลชิโรคามิ
“แหม ดีใจจังที่คุณจำผมได้ด้วย ทำเอาผมเขินจนทำตัวไม่ถูกเลยนะครับเนี่ย ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันงั้นเหรอครับ เห็นทำหน้าเครียดเชียว” ราฟแกล้งถามหญิงสาวอย่างเนียนๆ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเข้าหูดี เดี๋ยวคนอื่นระแวงเขาหมดพาลทำให้เขาอดฟังเรื่องดีๆในอนาคต