คำขอของโลแกน
.
.
.
เช้าวันต่อมา
ครืดดดด
“ใครโทรมาแต่เช้าวะ” ราฟงัวเงียบ่นขึ้นมา
เมื่อคืนหลังจากที่เขาสอนโกโก้ให้ใช้ร่างมนุษย์จนคล่อง เขาก็ถูกเด็กสาวรบเร้าให้เล่นเกมเป็นเพื่อนของเธอจนดึกทำให้เขาพึ่งได้นอนไปสามชั่วโมง ถึงร่างกายเขาจะฟื้นตัวเร็ว แต่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจก็ต้องการการพักผ่อนเช่นกัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะรู้สึกหงุดหงิด
ราฟคลายมือของเด็กสาวที่นอนจดตัวกอดเขาเหมือนลูกแมวออกแล้วเอื้อมมือไปหยิบหูฟังที่โลแกนให้มาสวมแล้วกดแสดงภาพโฮโลแกรม
“โหลๆ อะไรกัน ลุงเองเหรอ มีอะไรอ่ะ” ราฟหาว ก่อนจะพูดเสียงเฉยชากับร่างโฮโลแกรมที่ปรากฏขึ้นมาเป็นชายวัยกลางคนร่างผอมในชุดนักวิจัย
“ไม่ได้เจอกันวันเดียวนายก็ไปหาเด็กสาวตัวน้อยน่ารักมาเลี้ยงต้อยแล้วงั้นเหรอ” โลแกนเอามือกุมคางพร้อมกับหรี่ตามองราฟ
“เง่ะ เลี้ยงต้อยบ้าอะไรล่ะลุง นี่โกโก้คู่หูสัตว์เลี้ยงผมเอง ผมใช้ปราณมายาทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์น่ะ เธอเป็นเหมือนลูกสาวผมนั่นแหละ” ราฟเละปากให้กับการคาดเดาสั่วๆของโลแกนก่อนจะถามเขากลับว่า
“แล้วลุงมีธุระอะไรถึงโทรมาแต่เช้าอ่ะ อย่าบอกนะว่าโทรมาสวัสดีวันจันทร์เหมือนพวกลุงป้าแถวบ้านไรงี้ ถ้าเป็นงั้นจริงผมวาร์ปไปเผาศูนย์วิจัยลุงจริงๆด้วย”
“บ๊ะ ไอ้เด็กนี่ ฉันแค่แซวเล่นเอง แล้วก็อย่าเผาบ้านลับของฉันเขียวนะโว๊ย! เห้อ ที่ฉันติดต่อนายมาก็เพราะอยากขอความช่วยเหลือจากนายนิดหน่อยน่ะ พอดียัยไป๋เสวี่ยฉีกับเจ้าไป๋ลู่อยากไปหาพัคแทยังที่โรงเรียนเพราะติดถึงมาก บ้าใช่มะ แค่จากกันแค่วันเดียวก็แหกปากโวยวายลั่นตำหนักละ แถมเจ้าแบคคัสกับยัยหนูมิร่าก็ไม่ยอมอยากไปด้วยอีก ฉันกลัวว่าพวกเขาจะไปก่อเรื่องข้างนอกเลยอยากฝากนายช่วยดูแลหน่อยน่ะ” โลแกนพูดเชิงขอร้องแกมบังคับจนราฟที่ได้ฝังถึงกับเบะปากอีกรอบ
“เง่ะ ทำไมผมต้องทำอ่ะ อีกไม่กี่วันผมก็ต้องไปเดท เอ๊ย ไปสำรวจดันเจี้ยนกับครูของผมแล้ว ไม่มีเวลาดูให้หรอ...”
“ฉันจะให้ค่าขนมนายพันล้านเหรียญ พร้อมกับเปิดบริษัทผลิตเทคโนโลยีที่ฉันเคยวิจัยไว้ให้นายเป็นเจ้าของทั้งหมด โดยสามารถเลือกผลิตขายตามใจชอบเลย เพราะนายเคยช่วยโลกกับฉัน แต่ถ้านายไม่สนใจก็ไม่เป็...”
“เป็นอันว่าตกลงตามนั้น ผมจะทำให้สี่คนนั้นไม่กล้าก่อเรื่องที่ไหนเลย ถ้าพวกเขาสร้างปัญหาให้กับคนอื่นๆผมจะทำให้พวกเขารู้ว่าเกาะร้างนั่นคือสวรรค์สำหรับพวกเขาและไม่กล้ากลับสู่โลกภายนอกอีกตลอดชีวิตเลยคอยดู!” ราฟรีบนอบโลแกนด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมและชกหมัดใส่กันขณะมองไปที่ภาพโฮโลแกรมเสมือนจริงของอสูรทั้งสี่ตนที่อยู่ด้านหลังโลแกนซึ่งกำลังกอดคอกันด้วยสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเห็นท่าทีของราฟ
“โอ้ว เห็นอย่างนี้ฉันก็ค่อยสบายใจหน่อย งั้นฉันไปละ นายส่งพิกัดของนายมาด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้พวกเขาวาร์ปไปหานายตรงที่ๆไม่มีคนอยู่ ฝากด้วยนะ ลาล่ะ” โลแกนโบกมือลาราฟ
“ครับพ้มคุณสปอนเซอร์รายใหญ่ ฮ่าๆๆ” ราฟตอบกลับยิ้มๆก่อนจะวางสายไป
“...พวกนายเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าถ้าก่อเรื่องที่นั่น เจ้าเด็กติงต๊องนั่นไม่ปล่อยไว้แน่” โลแกนหันมาพูดกับสี่อสูรในร่างมนุษย์พร้อมหับหัวเราะออกมาเบาๆ
“...” พวกไป๋เสวี่ยฉีไม่ตอบอะไร เพราะกำลังคิดในใจว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีวันก่อเรื่องเด็ดขาด!
.
.
.
“ฮี่ๆ ดีจริงๆ อยู่ๆก็ได้เงินพันล้านเหรียญกับบริษัทเป็นของตัวเอง เอิ๊กๆ” ราฟที่พึ่งวางสายจากโลแกนพูดกับตัวเองยิ้มๆ ก่อนจะส่งพิกัดแท่นวาร์ปหน้าโรงเรียนให้โลแกนแล้วเดินทางไปรับพวกไป๋เสวี่ยฉีที่นั่น ชายหนุ่มผมเทามองมือถือที่มีการแจ้งเตือนถึงยอดเงินที่โอนเข้ามาจากโลแกนพันล้านเหรียญด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ไปรับพวกนั้นแล้วหาบ้านให้พวกเขาอยู่ดีกว่า ละค่อยกลับมานอนต่อที่หอ เอาตามนี้แหละ” ราฟพยักหน้ากับตัวเองก่อนจะเทเลพอร์ตไปยังแท่นวาร์ป
ฟุบบบ
หลังจากที่ราฟมาถึงแท่นวาร์ป เขาก็ไปหาที่นั่งรอพวกไป๋เสวี่ยฉีที่ม้านั่งแถวๆนั้นพร้อมกับเปิดดูบ้านไปจนถึงคฤหาสน์เพื่อใช้ในการอยู่ร่วมกับพวกเขา
“อืม บ้านหลังนี้อยู่ในตัวเมือง เป็นบ้านพร้อมสวนที่ตกแต่งกินพื้นที่กว้างสุดๆเลยแฮะ มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวเป็นสิบ ห้องอื่นๆก็มีพร้อม ห้องฝึกฝนก็มีแถมอัพเกรดได้อีก อัยย่ะ นอกจากนี้ยังมีบาเรียกันพลังระดับ SS แถมติดตั้งพื้นที่เก็บเสียงอีก ราคา 600 ล้านเหรียญเลยวุ๊ย ถึงจะโครตแพงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าล่ะนะ เพราะจะมีอสูรระดับ SS มาอยู่ด้วยนี่นะ พอรวมกับพื้นที่กว้างๆเหมาะกับการฝึกฝนกลางแจ้ง ไหนจะเรื่องความเป็นส่วนตัวอีก งั้นเอานี่แหละ ซื้อแม่มเลย! จึ้กเข้าให้!” หลังจากราฟเลื่อนดูบ้านนับร้อยๆหลัง เขาก็เห็นคฤหาสน์ที่ถูกใจแล้วกดซื้อทันทีพร้อมกับเงิน 600 ล้านที่พึ่งได้มาและเสียไปในเวลาไม่ถึงสองนาที
หลังจากที่ราฟกดซื้อบ้านไป ก็มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ส่งมาบอกว่าเขาได้กลายเป็นเข้าของบ้านแล้ว และสามารถเข้าอยู่ได้เลย ราฟเลยเปิดหาแม่บ้านเพื่อจ้างให้ไปทำความสะอาดคฤหาสน์โดยจ่ายเป็นรายเดือนเดือนละ 1 แสนเหรียญ โดยทางบริษัทจะเลือกให้และมีการเคลมว่าหากไม่พอใจยินดีคืนเงิน ราฟเลยเลือกใช้บริการของบริษัทนี้
หลังจากที่กดใช้บริการและส่งรูปบ้านไป ทางบริษัทที่ตรวจสอบบ้านของเขาเรียบร้อยก็ติดต่อเขามาว่าขอเวลาครึ่งชั่วโมงในการทำความสะอาดก่อนที่จะสามารถเข้าพักได้
ราฟที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมา
“บ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นกลับใช้เวลาทำความสะอาดแค่ครึ่งชั่วโมง สุดยอดไปเลย
“ท่านราฟคะ พวกข้ามาถึงแล้วค่ะ” เสียงของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมด้งขึ้น เมื่อราฟเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับไป๋เสวี่ยฉี ไป๋ลู่(โมจิ) แบคคัส และมิร่ายืนมองเขาอยู่อย่างสงบเสงี่ยม
“โอ้ว มากันแล้วเหรอ ฉันซื้อบ้านไว้แล้ว แต่ต้องรออีกครึ่งชั่วโมง พวกเธออยากไปไหนกันก่อนมั้ย เดี๋ยวฉันพาทัวร์เอง บริษัทราฟทัวร์ยินดีรับใช้ อิๆ แล้วก็เลิกเรียกท่านเทิ่นได้แล้ว มันรู้สึกจั๊กจี้ยังไงไม่รู้” ราฟเอ่ยอย่างสบายอารมณ์
“ขะ ข้าอยากไปดูร้านขายเกม” แบคคัสพูดเป็นคนแนกอย่างเกร็งๆ
“เง่ะ จะกลัวฉันไปถึงไหนเนี่ย ฉันไม่จับนายกินหรอก ฉันก็คนปกตินี่ล่ะ พวกนายทำตัวปกติเหมือนตอนคุยกับเรเชลแล้วก็พัคแทยังก็ได้น่า เรียกฉันราฟก็พอ เข้าใจมั้ย? แบคคัส ไป๋เสวี่ยฉี โมจิ มิร่า” ราฟพูดยิ้มๆพลางตบไหล่แบคคัสแล้วกวาดตามองพวกไป๋เสวี่ยฉีอย่างเป็นกันเอง อสูรระดับสูงทั้งสี่มองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มว่า
“ได้เลย...ราฟ!”
“ต้องอย่างน๊านนน” ชายหนุ่มผมเทาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างออกมา
“เอาล่ะ แบคคัสอยากไปร้านเกม แล้วที่เหลือล่ะ?”
“ข้าอยากไปกินสุกี้หม้อรวม!” “เธอรู้จักคำนี้ได้ไงฟะ!? เสียใจด้วยตอนนี้มันปิดอยู่ เอาที่อื่นก่อน”
“งะ งั้นคาเฟ่ที่ผู้หญิงชอบไป!” “โอเค ร้านเกมกับคาเฟ่นะ แล้วพวกเธอสองคนล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำถามของราฟไป๋เสวี่ยฉีก็ยิ้มหวานออกมา ส่วนโมจิก็ยิ้มอย่างตื่นเต้น ก่อนที่สองพยัคฆ์ทิวาจะตอบพร้อมกันว่า
“ไปหาพัคน้อย!”
“ไปหานายท่าน!”