ตอนที่แล้วลิลิธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปหญิงสาวผู้ถูกข่มเหง?

ความพิโรธของจักรพรรดิโลหิต


“...ว่าแต่เจ้าเกรย์สันมันสำนึกผิดที่หนีออกไปลองใช้พลังที่โลกมนุษย์แล้วรึยังนะ นี่ก็ผ่านมาจะเดือนนึงแล้วด้วย” หญิงสาวผมดำรัตติกาลที่มีใบหน้าสวยสดงดงามราวสวรรค์สร้างพูดกับตัวเอง ในตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์รูปหัวกะโหลกสีทองอร่ามโดยที่มือข้างขวาท้าวคาง ส่วนมือซ้ายกำลังสะบัดกระดูกสันหลังเล่นไปมา กระดูกสันหลังนี้เป็นของดยุคเผ่ามารตนหนึ่งที่พึ่งจะเข้ามาประกาศแย่งชิงตำแหน่งผู้ปกครองอาณาเขตแล้วถูกเธอกระชากหัวออกลงไปนอนกองกับพื้นเมื่อครู่

“มองอะไรของเจ้า เห็นแล้วขวางลูกตาข้าจริงๆ” หญิงสาวมองหัวบนพื้นที่เป็นของดยุคคนดังกล่าวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะถึงยังไงเป็นมารโลหิตที่มีพลังชีวิตที่สูงสุดในแดนมาร และยังเป็นถึงดยุคที่เป็นผู้ใช้พลังระดับ SSS ขั้นสูง แค่หัวหลุดจากตัวแค่นี้นั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ตอนนี้ดยุคที่มีพลังแข็งแกร่งเป็นรองเพียงเหล่าจักรพรรดิมารคนนั้นกำลังทำหน้าไม่อยากจะเชื่อเหมือนกับไม่รู้ว่าตนเองแพ้ได้อย่างไร

“เจ้ามัน...”

ไม่ทันที่ดยุคคนนั้นจะพูดอะไรออกมา เมื่อสิ้นเสียงของหญิงสาว ลิลิธก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนที่ร่างและหัวของดยุคมารจะระเบิดออกเป็นละอองเลือดแล้วสลายหายไปในอากาศราวกับไม่เคยมีตัวตนนี้อยู่

พับๆๆๆ

หลังจากที่ลิลิธดีดนิ้วไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงกระพือปีกชองนกตัวหนึ่งกำลังพุ่งมาทางเธอด้วยความเร็วเสียง

“หืม...ไอมารนี้ เมฟิสโตงั้นเหรอ”

ฟิ้วววว

“ท่านอาจารย์! เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ท่านรีบไปช่วยศิษย์น้องหญิงเร็ว ตอนนี้นางถูกมนุษย์ที่ทรงพลังจับตัวไป แฮ่กๆ”

“เมื้อกี้เจ้าพูดว่าไงนะ!?” ลิลิธที่ได้ยินคำกล่าวของเมฟิสโตในร่างเหยี่ยวโลหิตก็ปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างจนผู้คนทั่วทั้งเขตปกครองที่ 2 ถูกแรงกดดันจนหายใจไม่ออก บางคนที่เป็นมารระดับต่ำทนรับมันไม่ไหวก็ถึงกับสลบเหมือดทันที

“เอ่อ ใจเย็นก่อนท่านอาจารย์ จิตสังหารของท่านจะทำชาวเมืองตายกันหมดนะขอรับ” เมฟิสโตที่ใช้วิขาโลหิตผันแปรทำให้ร่างของเขาหลอมรวมกับเหยี่ยวกลายพันธุ์ในตอนแรกเปลี่ยนร่างของเหยี่ยวเป็นร่างเดิมของเขาก่อนจะฝืนร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ร้องห้ามปรามความโกรธของจักรพรรดิมารที่อาจแผ่แรงกดดันจนทำให้คนทั้งเขตปกครองที่ 2 ตายยกเมืองได้

“มันเป็นใครกัน!? ผู้ที่จับศิษย์เอกของข้าไป ข้าจะไปกระชากหัวมันออกมา!” ลิลิธคำรามอย่างน่าเกรงขาม ดวงตาที่เฉยชาเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นกระหายเลือด

‘เอาแล้วไง จอมฉีกกระชากผู้น่าพรั่นพรึงแห่งแดนมาร กลับมาแล้ว’ เมฟิสโตคิดในใจพร้อมกับขนที่ลุกชัน

“ข้าก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใครเหมือนกัน แต่พอมันสีมผัสพลังที่ข้าใช้ควบคุมวิชาปั่นป่วนโลหิตมันก็สามารถใช้วิชานี้ย้อนกลับมาทำลายร่างหลักของข้าได้ด้วยการดีดนิ้วเหมือนที่อาจารย์ทำได้ แต่ยังดีที่ข้ารอบคอบเลยแอบแบ่งไอมารทั้งไว้ในจุดปลอดภัยจึงรอดมาได้ ท่านเคยมีลูกศิษย์ลับๆที่แดนมนุษย์รึเปล่า” เมฟิสโตถามอาจารย์ของเขาในสิ่งที่เขาคาใจ

“ไม่ ตลอดสองพั...ห้าร้อยปีที่ข้ามีชีวิตอยู่ข้ารับแค่พวกเจ้าสามคนเป็นศิษย์เท่านั้น เรื่องที่มันอาจฝึกวิชาในตำนานอย่างวิชากลืนฟ้าก็ลืมไปได้เลยเพราะเจ้าบ้าปีศาจกลืนฟ้านั่นไม่ยอมสอนให้ใครแน่ มันต้องมีพลังพิศดารอะไรสักอย่าง และจะต้องเป็นพลังระดับสุดยอดมากๆ เพราะมันสามารถเข้าใจในวิชาที่สัมผัสได้ถึงระดับที่ข้าเข้าใจในทันที ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แปลกที่เจ้าจะพ่ายแพ้” ลิลิธสลายจิตสังหารของเธอแล้ววิเคราะห์พลังของบุคคลที่ลูกศิษย์ของเธอกล่าวถึงอย่างใจเย็นสมกับเป็นหนึ่งในจักรพรรดิมารที่ปกครองอาณาเขตของตนมาได้ตลอดหลายพันปี

“ท่านจะทำยังไงต่อ?” เมฟิสโตถามอย่างร้อนรน เพราะเป็นห่วงศิษย์น้องของเขา ถึงเขาจะโหดร้ายกับคนอื่น แต่กับศิษย์น้องของเขา ไม่ว่าจะเป็นวาเนสซ่าหรือเกรย์สัน เขาก็ห่วงใยราวกับทั้งสองน้องแท้ๆ

“...” ลิลิธไม่ตอบคำถามของเขา เธอยื่นนิ้วชี้ของเธอไปกรีดกลางหน้าผากของเมฟิสโตจนเลือดออกแล้วแช่นิ้วค้างไว้ครู่หนึ่งก่อนจะดึงกลับโดยมีมารหนุ่มทำหน้างงอยู่

“เมื่อครู่ท่านทำอะไรเหรอ?” เมฟิสโตถามด้วยความสงสัย

“เลิกทำหน้างงแล้วโคจรปราณฟื้นฟูได้แล้ว ข้าเพียงใช้วิชาสำนึกโลหิตตรวจสอบความทรงจำของเจ้าก็เท่านั้น”

“สะ สมแล้วที่เป็นท่านอาจารย์” เมฟิสโตกล่าวชมพลางลอบปาดเหงื่อ อาจารย์ของเขาคงไม่ได้ค้นความทรงจำส่วนอื่นที่เขาไปมีชู้กับภรรยาของขุนนางมารทั้งหลายหรอกนะ

“อืม จากที่ข้าเห็นจากความทรงจำของเจ้า มนุษย์คนนี้เป็นตัวอันตรายอย่างแท้จริง ทั้งที่อายุน้อยขนาดนี้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปมันอาจลงมือทำลายแดนมารของเราก่อนที่พวกเทพอสูรโบราณจะบุกมาก็ได้ ข้าต้องรีบกำจัดมันโดยเร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป!” ลิลิธกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แล้วท่านจะไปจัดการมันตอนไหนกัน?” เมฟิสโตถามอย่างตื่นเต้น

จักรพรรดิโลหิตแสยะยิ้มก่อนจะใช้แหวนมิติสร้างประตูขึ้นมา ภาพอีกด้านคือโรงเรียนไอรีนที่เธอเห็นมันจากตราที่ติดบนหน้าอกของชายหนุ่มผมเทาในความทรงจำของเมฟิสโต

“ตอนนี้เลย”

“ฮะ เอาจริงเหรอท่านอาจารย์ ที่นั่นมีวัลคีรี่อยู่นะ ไหนข้อห้ามให้จักรพรรดิมารอย่างท่านข้ามอาณาเขตของมนุษย์เพื่อความปลอดภัยอีก”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ข้าจะเร้นกายเข้าไปสังหารมนุษย์นั่นคนเดียวแบบไม่ทำให้ยัยเด็กจากตระกูลกาเซียรับรู้ได้” ลิลิธกล่าวอย่างมั่นใจก่อนจะพูดเสริมว่า

“...และถึงจะมีใครจับได้ ข้าก็แค่บอกว่าเจ้าคนหัวเทานั่นจับศิษย์ข้าไปแล้วมารับกลับ แล้วมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อยจนเผลอสังหารมันไปก็เท่านั้นเอง...”

“...ส่วนเจ้าก็ไปดูเจ้าเด็กบ้านั่นด้วย เดี๋ยวมันแอบหนีไปอีก” หญิงสาวหันมากำชับ

“ขอรับ!” เมฟิสโตรับคำอย่างมีความสุข ที่นี้ศิษย์น้องของเขาก็จะปลอดภัยแล้ว เพราะอาจารย์ของเขาเป็นผู้ลงมือเอง

โอกาสสำเร็จเรียกได้ว่าเต็มร้อย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด