พายุบนท้องฟ้า
“นี่เธอ!” เฟยฮวาชักสีหน้าเตรียมเดินเข้าไปเอาเรื่องหญิงสาวที่ทำร้ายนายท่านของเธอแต่ก็ถูกราฟเอามือขวางไว้ เธอจึงส่งเสียงชิออกมาแล้วถอยออกไป
ถึงจะเห็นแบบนั้นเรเชลก็ยังไม่หยุดปล่อยหมัดใส่ชายหนุ่ม
“ทำไม...ทั้งที่นายมีพรรคพวกที่สามารถเปิดประตูมิติได้ ทำไมถึงไม่ตามหาฉัน ทำใมถึงปล่อยให้ฉันเอาตัวรอดอยู่คนเดียวตั้งหลายวัน ทั้งนายทั้งพัคแทยังเป็นเพื่อนของฉันแท้ๆ พวกนายมัน…เลวที่สุด!”
“...” ราฟไม่พูดอะไรออกมา เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปแล้วเอื้อมมือไปสวมกอดเธอด้วยความเร็วที่เธอไม่สามารถหลบได้
“นายจะทำอะไร!? ปล่อยฉันนะ! อ๊ะ...” พูดได้เท่านี้เรเชลก็สลบไป
“ทำไมเธอถึงสลบไปล่ะ เมื่อกี้นายทำอะไร?” พัคแทยังถามด้วยความเป็นห่วง
“แค่สกัดจุดให้หลับไปน่ะ เฟยฮวา ช่วยพาเธอไปพักที่ห้องของฉันหน่อยสิ”
“ค่ะ” เฟยฮวามุ่ยปากแต่ก็หยิบขวดแก้วที่เต็มไปด้วยทรายขึ้นมาแล้วเปิดฝาขวดออก จากนั้นเธอก็ควบคุมทรายให้กลายเป็นเปลแบกเรเชลให้ลอยขึ้นแล้วเดินจากไป
“หมดอารมณ์อยากพักเลยแฮะ เอาล่ะลุง มาเริ่มขั้นต่อไปกันเลยเถอะ” ราฟบิดขึ้เกียจแล้วหันมาบอกโลแกน
“นายไม่สนใจเธอหน่อยเหรอ” พัคแทยังถาม
“ใครว่าฉันไม่สนล่ะ ตอนนี้ปราณในร่างของเธอเหือดแห้งไม่มีเหลือ ฉันเลยทำให้เธอหลับแล้วถ่ายเทปราณของฉันไปให้เธอไว้แล้ว ประมาณหนึ่งชั่วโมงเธอน่าจะฟื้น ไว้ถึงตอนนั้นฉันค่อยไปหาเธออีกที”
“นายนี่ มีวิธีแสดงความเป็นห่วงที่แปลกดีนะ”
“คงงั้น” ราฟยักไหล่
“ในที่สุด...หลังจากที่ฉันวิจัยเพื่อหาวิธีในการจัดการกับบาเรียมาเป็นเวลาหลายสิบปี วันนี้จะเป็นวันที่บาเรียที่ปกคลุมโลกไว้มานานหลายพันปีจะต้องถูกควบคุมโดยพวกเรา! วันนี้จะเป็นวันเปลี่ยนโลก! ราฟ เริ่มได้เลย” โลแกนพูดขณะส่งข้อมูลพิกัดของแร่ซูพริลยักษ์ที่เขาพาราฟไปเจอตอนแรกให้
“จัดไป! พูดก็พูดเถอะ เจ้าหูฟังนี่โครตดี ใช้แทนมือถือได้เลย ทำไมลุงไม่เอาออกตลาดขายอ่ะ” ราฟมองพิกัดที่ขึ้นบนจอโฮโลแกรมในหูฟังที่โลแกนส่งให้
“ฉันแค่ทำมันไว้เล่นๆ ถ้านายอยากเอาไปผลิตขายก็ตามใจเลย ถือว่าตอบแทนที่ช่วยฉันไว้” โลแกนบอกแบบขอไปที่ เพราะเงินเขามีเยอะแล้ว แค่เงินจากบริษัทยานบินที่เขาเป็นเจ้าของก็ทำเงินให้เขาไม่รู้เท่าไหร่
“โหย ป๋าสุดๆ นี่ถ้าลุงเป็นผู้หญิงผมเข้าไปหอมแก้มแล้วนะบอกเลย” ราฟพูดยิ้มๆ
“รีบๆออกไปเลย!”
“ฮ่าๆๆ ฉันไปก่อนนะพัคแทยัง ไว้เจอกัน”
“ระวังตัวด้วยล่ะ” ชายหนุ่มตาทองบอกเพื่อนของเขา
“ขอบใจ” ราฟพูดจบก็ใช้งานแหวนเทเลพอร์ตที่โลแกนให้เพื่อใช้ไปยังพิกัดที่มีแร่ซูพริลตั้งอยู่
.
.
.
[พื้นที่ภูเขาหิมะ]
ฟุบบบ
ราฟมาโผล่ใกล้ๆจุดที่มีแร่ซูพริลตั้งอยู่ เขาหยิบรีโมทของโลแกนขึ้นมากดรหัสลับ จากนั้นคริสตัลสีดำก้อนมหึมาก็เผยออกมาจากภาพมายา
ชายหนุ่มผมเทามองมันขณะนึกย้อนไปถึงเมื่อสิบห้าวันก่อน วันที่เขามาที่นี่กับโลแกนครั้งแรก
ในตอนนั้น หลังจากที่ทั้งคู่สวมหมวกย้ายข้อมูลความรู้ของโลแกนที่มาจากพลังพิเศษ ‘การวิจัย’ ของเขาแล้วหลับไป เมื่อราฟลืมตาตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่าเวลาผ่านไปเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น เขารู้สึกถึงข้อมูลต่างๆที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนอยู่ในหัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยาการต่างๆที่ก้าวล้ำไปไกลจากยุคปัจจุบันหลายสิบหรืออาจจะร้อยปีที่เป็นผลมาจากพลังในการวิจัยเพื่อสรรสร้างสิ่งต่างๆของโลแกน มันทำให้เขาตื่นเต้นกับความรู้เหล่านี้มาก เพราะความรู้พวกนี้สามารถนำไปทำในสิ่งที่เขาอยากทำมาตลอดตั้งแต่ตอนอยู่โลกก่อนได้
อย่างไรก็ตาม ราฟดีใจได้ไม่นานนัก เพราะเมื่อมองไปที่โลแกน เขาก็พบว่าชายวัยกลางคนผู้นี้สลบไปเพราะความหนาวเย็นไปแล้ว โชคดีที่ราฟรู้ว่าเขายังหายใจอยู่เพราะลมหายใจที่ปล่อยออกมา อากาศที่หนาวจัดทำให้สังเกตุได้ไม่ยาก
หลังจากราฟใช้พลังสุริยันสร้างความอบอุ่นให้โลแกน เขาก็ใช้พลังหมื่นพิษปรุงยาปลุกนักวิจัยขึ้นมาเพื่อหาที่พูดคุยกันต่อถึงแผนการจัดการบาเรีย
หลังจากผ่านไปได้ไม่ถึงวันพวกพัคแทยังก็ตามมาสมทบ เมื่อรู้ว่าพวกราฟกำลังจะทำอะไรอยู่พวกเขาก็บอกว่าจะอยู่เพื่อคอยเอาใจช่วย
จนเมื่อเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน ในที่สุดทั้งสองคนก็หาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับบาเรียได้ นั่นก็คือ เขาต้องดูดซับพลังของแกนบาเรียบนเกาะที่ถูกสร้างจากเศษชิ้นส่วนของแร่ซูพริลเพื่อซึมซับคุณสมบัติที่สามารถใช้เครื่องมือของโลแกนควบคุมได้ของมัน จากนั้นก็ให้ราฟดูดซับพลังงานจากแร่ซูพริลตรงหน้าจนหมดแล้วส่งพลังงานที่ถูกควบคุมโดยราฟกลับเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้แร่ซูพริลยักษ์ที่เป็นแหล่งกำเนิดของบาเรียบนโลกก็จะถูกควบคุมโดยราฟ ซึ่งเขาจะติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมบาเรียที่โลแกนพึ่งสร้างเสร็จไว้กับมันอีกที ทำให้มนุษย์สามารถควบคุมการเปิดปิดของบาเรียได้ตามต้องการ
“เอาล่ะ เริ่มล่ะนะ ฮึบ!” ราฟสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วใช้สองมือแตะเข้าที่คริสตัลสีดำก่อนจะโคจรปราณในร่าง
“ดูดกลืน!”
ซูม ซูมมมมม
พลังงานจากแร่ระดับดวงดาวถูกสูบเข้าสู่ร่างกายของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเหมือนกับถูกดูดเข้าสู่หลุมดำอย่างไรอย่างนั้น
ราฟที่ได้รับพลังอันมหาศาลของแร่จากอวกาศนี้รู้สึกเจ็บปวดหลังจากที่ไม่ได้รู้สึกมานาน เขารู้สึกราวกับร่างกายจะระเบิดออกมา
ด้วยความเจ็บปวดนี้ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นฟ้าคำรามออกมาด้วยเสียงดังปานท้องฟ้าพิโรธ
“อ๊ากกก” เสียงคำรามของเขาก่อให้เกิดคลื่นเสียงที่ดังแผ่ออกไปไกลหลายร้อยเมตร อากาศที่ถูกเสียงผ่านกลายเป็นคลื่นพายุหมุนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
.
.
.
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง การกระทำของราฟได้ทำให้ทุกคนที่อยู่บนเกาะรับรู้
“อะไรกัน แสบหูชะมัดเลย หรือจะเป็น...อสูรระดับสูง!?”
“เกาะนี้มีภัยธรรมชาติด้วยงั้นเหรอ?”
“ทำไมพายุถึงลอยขึ้นฟ้าแบบนั้น? หรือจะเป็นสิ่งที่เคยได้ยินมา...การถือกำเนิดของดันเจี้ยน?”
“มีไอเทมพิเศษที่สร้างพายุได้โผล่มารึเปล่า ต้องไปดูซะแล้ว!”
“มันอยู่ที่พื้นที่อื่น แต่ตอนนี้บาเรียที่กั้นเขตแดนหายไปแล้ว ไปดูดีกว่า!”
เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ยังคนอยู่รอดบนเกาะนี้พูดขึ้นเมื่อสังเกตุเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า พวกเขาคาดเดาไปต่างๆนาๆ ก่อนที่คนส่วนใหญ่ที่ต้องการแสวงโชคจะเลือกเดินทางไปยังจุดที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นกำเนิดพายุหมุนนี้จากทั่วพื้นที่บนเกาะ