บทที่ 5 พิเศษ
วิคเตอร์เดินทางไปกับไวโอเล็ตไปที่คฤหาสห์ขนาดใหญ่แบบเดียวกับที่จะสามารถเห็นในภาพยนตร์ได้เท่านั้น สถานที่แห่งนี้ใหญ่โตอย่างไร้เหตุผล ที่นี่มีกี่ห้องกันแน่? แค่ขนาดของสวนและรูปปั้นผู้หญิงกลางสวนก็รู้แล้วว่าที่นี่ต้องแพงมากแน่ๆ
แต่ตอนที่วิคเตอร์กำลังพยายามจะเข้าไปในบ้านของไวโอเล็ต เขาก็รู้สึกถึงการถูกห้ามไม่ให้เข้าไป? ในไม่ช้าวิคเตอร์ก็จำได้ว่าแวมไพส์ไม่สามารถเข้าบ้านของคนอื่นได้โดยไม่ได้รับเชิญ...วิคเตอร์รู้สึกว่าเขาก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน
ไวโอเล็ตมองมาที่วิคเตอร์ครู่หนึ่งขณะที่ผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นสาวใช้ชาวฝรั่งเศสปรากฏตัว ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในสายตาของฉัน ฉันก็รู้ว่าเธอไม่ใช่แวมไพร์
เธอมีผมสีบลอนด์มัดผมหางม้า นัยน์ตาสีฟ้า และรูปร่างสมส่วน เธอดูมีอายุระหว่าง 21 ถึง 30 ปี เธอไม่ได้สูงมากนัก ดูจากส่วนสูงแล้วเธอน่าจะสูงประมาณ 170 ซม.?
“คุณไวโอเล็ต ฉันเห็นว่าคุณพาแขกมาด้วย” สาวใช้พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลางซึ่งไม่มีความรู้สึกใดๆ
“นาตาเลีย คุณเชิญเขาเข้ามาได้ไหม” ไวโอเล็ตพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
“ค่ะ คุณไวโอเล็ต” เธอพูดขณะมองไปที่ไวโอเล็ต...
"คุณสามารถเข้าไปได้" เมื่อสาวใช้พูดคำเหล่านี้ วิคเตอร์ก็รู้สึกราวกับว่าพลังที่ขัดขวางไม่ให้เขาเข้าไปได้หายไป
“เอาน่า วิคเตอร์ คุณคงมีคำถามมากมายเลยใช่ไหม?” ไวโอเล็ตพูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
วิคเตอร์พยักหน้าเห็นด้วย
วิคเตอร์เดินไปหาไวโอเล็ตและเริ่มตามเธอไป ขณะที่เขากำลังเดินไปทางไวโอเล็ต วิคเตอร์รู้สึกว่าสาวใช้มองมาที่เขาเหมือนว่าเธอกำลังสำรวจเขาหรืออะไรทำนองนั้น
ไวโอเล็ตกับวิคเตอร์เดินผ่านสาวใช้แล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอชี้ไปที่โซฟาที่ดูหรูหราและขอให้วิคเตอร์นั่งลง
วิคเตอร์พยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่เขากำลังจะนั่งลงบนโซฟา เขาก็เห็นไวโอเล็ตเดินมาอยู่ข้างๆเขาและนั่งลง
กลิ่นของเธอ...กลิ่นของเธอเย้ายวนมาก...
วิคเตอร์ส่ายหัวหลายครั้งเพื่อพยายามควบคุมแรงกระตุ้น
“นี่ คุณควบคุมตัวเองได้ดีมากแม้คุณจะเพิ่งเกิดใหม่ก็ตาม” เธอแสดงความเห็นด้วยรอยยิ้มแปลกใจเล็กน้อย
“ฉันคิดว่าคุณจะกระโดดทับฉันและทำร้ายฉันบนโซฟาตัวนี้เพื่อให้คนรับใช้ในคฤหาสน์นี้เห็นซะแล้ว...แย่จัง”
ผู้หญิงคนนี้...แปลกเกินไปแล้ว
วิคเตอร์ตากระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด
“แม้ว่าฉันจะเห็นว่าข้อเสนอนั้นน่าสนใจ แต่ว่าฉันไม่ใช่คนชอบแสดงออกขนาดนั้นและฉันต้องการคำตอบมากกว่า”
“คุณพูดจริงเหรอ” เธอกระพริบตาสองสามครั้งขณะที่เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่สวยงาม
“ถ้าเธอพยายามอยู่กับผู้หญิงที่พูดความในใจตลอด 21 ปีในชีวิตของเธอ เธอก็จะได้รับลักษณะบางอย่างของเธอมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” วิคเตอร์พูดพร้อมกับยักไหล่
ด้วยเหตุผลบางอย่าง วิคเตอร์รู้สึกว่าอุณหภูมิรอบๆตัวของไวโอเล็ตเริ่มอุ่นขึ้น?
“นี่ ฉันสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?” เธอพูดขณะที่ดวงตาของเธอถูกผมของเธอซ่อนไว้
“เธอเป็นแม่ของฉัน”
ทันใดนั้นอุณหภูมิรอบตัวเธอก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ และไวโอเล็ตก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ เธอเป็นแม่ของคุณงั้นหรอ เธอเป็นแม่ของคุณสินะ ฉันลืมไปเลยว่าคุณมีแม่” เธอพยักหน้าหลายครั้งราวกับว่าเธอเข้าใจบางสิ่งที่สำคัญมาก
“และคุณก็เวอร์จิ้นด้วย แน่นอน คุณไม่มีแฟน!”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉัน...?” วิคเตอร์มองเธออย่างไม่เชื่อสายตา เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่มีแฟน?
“โอ้ มีเพียงมนุษย์ที่ยังบริสุทธิ์อยู่เท่านั้นที่สามารถกลายเป็นแวมไพร์ได้ ฉันก็เลยรู้ว่านายยังบริสุทธิ์อยู่”
นั่นไม่ใช่สิ่งที่วิคเตอร์อยากรู้ แต่ก็ช่างมันเถอะ
"..."
นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับวิคเตอร์ เขาคิดว่าแวมไพร์สามารถเปลี่ยนมนุษย์คนใดก็ได้ให้เป็นแวมไพร์ แต่จริงๆแล้วมันกลับมีข้อจำกัดนี้อยู่
ไวโอเล็ตเริ่มพูดเมื่อรู้ว่าวิคเตอร์กำลังคิดอะไรอยู่เงียบๆ
“ก่อนที่ฉันจะเริ่มอธิบายอะไร คุณรู้ใช่ไหมว่าเราเป็นอะไร?”
วิคเตอร์ตอบอย่างตรงไปตรงมา
"แวมไพร์...หรืออะไรที่ใกล้เคียงแวมไพร์"
“โอ้ ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
วิคเตอร์จัดระเบียบความคิดของตัวเองก่อนจะตอบว่า
"อย่างแรกเลย ฉันไม่พบจุดอ่อนของแวมไพร์ในร่างกายของฉันเลย ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม แสงแดด น้ำที่ไหลแรงๆ หรือไม้กางเขนของพระเยซู ฯลฯ ฉันไม่แพ้อะไรเลย”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไวโอเล็ตเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่วิคเตอร์พูด
“แต่ฉันไม่เคยเห็นแวมไพร์ที่มีความสามารถในการมองเห็น ‘โลกสีแดง’ มาก่อน แน่นอนว่าฉันกำลังพูดถึงภาพยนตร์ที่ฉันเคยดูนะ”
ไวโอเล็ตไม่ได้สนใจในเรื่องที่วิคเตอร์อธิบายเพิ่มเติมเลย เธอสนใจแต่คำว่า ‘โลกสีแดง’
“โลกสีแดงงั้นหรอ?” ไวโอเล็ตถาม
เมื่อวิคเตอร์ได้ยินไวโอเล็ตถามซ้ำเขาจึงอธิบายเพิ่มเติมว่า
“ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เมื่อฉันรู้สึกตื่นเต้นกับกลิ่นเลือด การมองเห็นของฉันจะเปลี่ยนไป โลกทั้งใบจะกลายเป็นสีแดง ฉันสามารถมองทะลุกำแพงและเห็นเงาของมนุษย์ได้ และเมื่อฉันมองดูหัวใจของมนุษย์ ฉันก็จะเห็นหัวใจสีแดงของพวกเขาที่กำลังเต้นเชิญชวนให้ฉันไปดื่มเลือดของพวกเขาอยู่ แต่เพราะฉันไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ฉันเลยเรียกมันว่าโลกสีแดง”
วิคเตอร์คิดว่าเขาควรเรียกมันว่าวิสัยทัศน์ของแวมไพร์ แต่เขาก็คิดว่ามันอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะดูเหมือนว่ามันจะเป็นพลังของเขาเพียงคนเดียว...ปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนละกัน
วิคเตอร์มองไปที่ไวโอเล็ต ถ้าจะพูดให้ถูกต้องเขามองไปที่คอของไวโอเล็ตก่อนจะพูดว่า
“แต่เธอเป็นคนเดียวที่แตกต่างออกไป เมื่อฉันมองเธอด้วยการมองเห็นนั่น ฉันมองเห็นแต่คอของเธอที่เรืองแสงสีแดงเท่านั้น”
ไวโอเล็ตมองมาที่วิคเตอร์ราวกับว่าเธอกำลังดูสัตว์หายาก
“อย่างที่ฉันคิด! ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่จะเปลี่ยนคุณเป็นแวมไพร์ คุณพิเศษกว่าที่ฉันคิด! และคุณยังสืบทอดคุณลักษณะของฉันด้วย” เธอพูดอย่างตื่นเต้นขณะที่เธอกอดวิคเตอร์
“อธิบายให้ฉันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น!” วิคเตอร์พูดขณะที่เขาดึงหน้าออกจากคอของไวโอเล็ต
แค๊กๆ!
ไวโอเล็ตแสร้งทำเป็นไอและเอนตัวออกห่างจากวิคเตอร์ เธอสวมบทบาทเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์และเริ่มพูด ท่าทางนี้จะน่าเชื่อมากขึ้นถ้าเธอไม่อยู่บนตักของเขา แต่วิคเตอร์ก็ไม่ได้บ่นอะไร