การปะทะกันระหว่างอสูรระดับ SS
“บ้าจริง!...ท่าร่างท่องนภา” เรเชลเคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าที่แสนงดงามที่ถึงแม้จะดูเหมือนเชื่องช้าแต่กลับสามารถหลบการโจมตีของอสูรพฤกษาได้อย่างฉิวเฉียด
“เจ้านี่ไม่มีจุดอ่อนเลยรึไง” เรเชลมองอสูรพฤกษาพลางใช้ความคิด ขณะที่คอยหลบการโจมตีด้วยหมัดของมันไปด้วย
“จริงสิ ไฟล่ะ ถ้าเป็นความร้อนล่ะก็ อสูรธาตุไม้อย่างเจ้านี่คงฟื้นตัวไม่ได้แน่ๆ” เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็ใช้ท่าร่างท่องนภาเคลื่อนตัวหลบอสูรพฤกษาแล้วพุ่งตัวเข้าไปในถ้ำที่เธออยู่เมื่อครู่จากนั้นก็โคจรปราณดึงดูดเปลวไฟบนกองเพลิงในเกาะติดกับดาบหินของเธอ
“คราวนี้แกเสร็จฉันล่ะ” เรเชลมองอสูรพฤกษาที่กำลังวิ่งเข้ามาโจมตีเธฮ
“เพลงดาบตัดนภาผสานเพลิง...ตาข่ายสวรรค์” ด้วยเจตดาบที่หลอมรวมกับเปลวเพลิง ทำให้แม้มันจะมาจากกองไฟ แต่เจตดาบก็ได้ทำให้มันกลายเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงจนสามารถแผดเผาทุกสิ่งที่ขวางทางของผู้ใช้มันได้
ฉัวะ
ฉัวะๆ
ฉัวะๆๆ
ฉัวะๆๆๆๆๆ....
“เร็วอีก เร็วอีกๆๆๆๆๆ” เรเชลพูดขณะตวัดดาบซ้ำไปมาจนเกิดเป็นรังสีดาบที่คล้ายกับตาข่าย ทำให้อสูรพฤกษาที่โดนฟันโดยเรเชลถูกตัดจนกลายเป็นชิ้นส่วนรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมจตุรัสนับร้อยและด้วยผลของเปลวเพลิงทำให้ร่างของอสูรพฤกษาไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก
“จบแล้วสินะ...” เรเชลลดดาบลงพลางถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนแรง
“ที่นี้ปล่อยฉัน...อั่ก!” หญิงสาวกล่าวไม่ทันจบ เธอก็ถูกรากไม้ขนาดยักษ์เลื้อยมารัดเธอด้วยความเร็วที่ถึงแม้เธอจะมองเห็นแต่ก็หลบไม่ทัน เพราะพลังปราณของเธอหมดไปกับการโถมใช้เพลงดาบใหม่ของเธอจนหมด ทำให้ไม่เหลือแรงต่อต้านใดๆในตอนนี้
“อย่าพึ่งดีใจสิ หันไปดูตรงนั้นก่อน” ชายหนุ่มผมเขียวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะชี้พัดไปยังทิศทางที่อสูรพฤกษาถูกเธอฟันจนไม่เหลือชิ้นดี
เรเชลที่มองตามชายหนุ่มเบิกตากว้างออกมา
“อะไรกัน!”
เศษชิ้นส่วนของอสูรพฤกษาในตอนนี้ได้หลอมรวมเข้ากับรากไม้ที่อยู่ในดินและได้กลายเป็นอสูรพฤกษาที่มีรูปร่างเหมือนกับใบหน้าขนาดใหญ่ที่กำลังเหลือบตาจ้องมองเธออยู่ จากนั้นไม่นานมันก็ใช้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆรวมตัวใหม่เกืดเป็นอสูรพฤกษาตัวเดิมที่เป็นชายร่างกำยำสูง 4 เมตรที่กำลังกางมือมาทางเรเชลคล้ายกับกำลังควบคุมรากไม้ที่พันตัวของเธออยู่
“เจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าเจ้าเด็กนี่เป็นราชาอสูรธาตุไม้น่ะ เพราะงั้นต่อให้เหลือแค่กิ่งไม้กิ่งเดียวก็สามารถฟื้นตัวได้ตลอด แถมระดับราชาอสูรยังมีพลังที่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตธาตุเดียวกับตนที่อยู่ในระยะ 50 เมตรได้อีก ที่นี้รู้รึยังว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์ชนะตั้งแต่แรกน่ะ แม่สาวน้อยนักดาบอัจฉริยะ ข้าขอยอมรับในความแข็งแกร่งของเจ้าที่สามารถสร้างเพลงดาบมาต่อกรกับเด็กน้อยของข้าได้อย่างสูสี” ชายผมเขียวยิ้มกว้างราวกับกำลังสนุกในความทุกข์ของหญิงสาว
“นายสามารถสร้างอสูรที่ร้ายกาจขนาดนี้ได้ นายเป็นใครกันแน่ แล้วทำไมถึงไม่ฆ่าฉันซะเลยล่ะ” เรเชลถามสิ่งที่เธอสงสัย เธอเริ่มเอะใจแล้วว่าชายตรงหน้าไม่ได้ตั้งใจจะสังหารเธอตั้งแต่แรก
“ข้าเป็นใครไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องรู้ ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่สังหารเจ้านั้น เพราะข้าพอใจ” ชายหนุ่มผมเขียวโบกพัดไปมาพร้อมกับเชิดหน้ายิ้มชวนให้คนมองรู้สึกหงุดหงิด
“...”
“แล้วนาย...คุณจะปล่อยฉันไปได้รึยัง” เรเชลชักกังวลในสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้เสียแล้ว สิ่งมีชีวิตที่สามารถบงการอสูรระดับราชาได้นอกจากผู้ใช้พลังสายฝึกสัตว์ระดับ SS ที่แข็งแกร่งแล้วก็มีเพียงแต่...
‘อสูรที่มีระดับอย่างน้อยคือ SS’ เมื่อคิดได้ดังนี้หญิงสาวก็หวาดกลัวไปสุดขั้วหัวใจ ก่อนจะขยับปากออกมา
“ฉันขอยอ...อื้อออ” เรเชลไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากบางสีชมพูธรรมชาติของเธอก็ถูกปิดด้วยลูกองุ่นยักษ์จากเถาวัลย์กลายพันธุ์เส้นหนึ่ง ด้วยความที่มันถูกจับใส่ปากโดยไม่ได้บอกกล่าว ทำให้ผลถูกฟันของเธอกัดจนน้ำจากเนื้อองุ่นไหลเจ้าลงคอของเธอ
ไม่นานเถาองุ่นก็ขยับออกจากปากของหญิงสาว
“...”
เรเชลืี่เห็นโอกาสรีบขขับปากขอยอมแพ้เพื่อให้แหวนเทเลพอร์ตเธอออกจากการแข่งขัน แต่ปากของเธอกลับไม่มีเสียงเปล่งออกมา
“ข้าไม่ขอยให้เรื่องของข้าไปถึงหูพวกมนุษย์บ้าการล่าพวกนั้น เพราะฉะนั้น ช่วยเงียบไปสักพักก็แล้วกัน”
‘ผลไซเรเนีย ผลไม้อสูรที่ทำให้ผู้ที่กินทันไม่สามารถส่งเสียงได้ชั่วคราว...’ เรเชลนึกถึงสิ่งที่อาจารย์วิชาปรุงยาคลาส S สอน(ไม่ใช่อาจารย์ที่เคยสอนพวกราฟ)
‘ผลของมันต้องใช้ผลซาเวร่่าที่ช่วยสร้างเสียงมาหักล้าง แต่เราไม่มีมัน คงต้องรอให้ผลของมันหมดไปตามเวลา...ดูเหมือนอสูรตนนี้ไม่ได้ต้องการฆ่าเรา งั้นตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน สบโอกาสเมื่อไหร่ค่อยหนี’
“เหมือนเจ้าจะตัดสินใจได้ดีทีเดียว เอาล่ะ งั้นก็ตามข้ามา ใช้เวลาไม่นานหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าช่วยอะไรบางอย่าง” ชายผมเขียวเอ่ย แต่ถึงจะบอกว่าตามมา แต่ร่างของเรเชลที่ถูกตรึงด้วยรากต้นไม้อยู่นั้นไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ เรียกได้ว่าจำยอมตามไปจะดูเข้าท่ากว่่า
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละเจ้าหัววัชพืช”
“หัววัชพืช? หาที่ตาย!” ชายผมเขียวที่ได้ยินวาจาดูหมิ่นสีผมที่แสนงดงามของเขาคำรามออกมาเสียงดัง ก่อนจะสะบัดพัดของเขาก่อเกิดเป็นคลื่นพฤกษาที่รวมคัวกลายเป็นหอกยักษ์ขนาดเท่ารถบรรทุกไปยังทิศทางต้นกำเนิดเสียง
ฉึก!
ตูมมม!
การโจมตีของชายหนุ่มผมเขียวได้ทำให้ตรงจุดที่เป็นเป้าหมายการโจมตีเกิดการระเบิดกลายเป็นหลุมดินขนาดใหญ่
ในจุดที่ไม่ไกลจากตรงนั้นปรากฏร่างบิดเบี้ยวสีแดงสูงกว่า 7 เมตรร่างหนึ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า เป็นอสูรมนุษย์หมาป่า!
“ฮี่ๆๆ ใช่ได้นี่เจ้าน่ะ เป็นแค่อสูรธาตุไม้แท้ๆแต่กลับสร้างพลังทำลายได้ขนาดนี้ โอ๊ะๆ อย่าโจมตีตอนคนเค้าพูดสิวะ!”
“แกคือเจ้าคนเมื่อตอนนั้น!? ไม่สิ อสูรตนนี้มีขนสีแดงและตัวใหญ่กว่าหลายเท่าเลย ไหนจะพลังที่แผ่ออกมาอีก การแข่งขันบ้านี่ทำไมถึงมีพวกระดับสูงอยู่เยอะนักนะ!?” เรเชลพูดกับตัวเองขณะมองไปยังอสูรที่มาใหม่
“พลังแห่งมิติ...ไม่สิ ข้าสัมผัสไม่ได้ถึงความผันผวนของมิติเมื่อครู่...ภาพมายาสินะ เท่าที่เห็น เจ้าไม่ใช้ผู้ใช้ปราณมายา...ไอเทมธาตุมายาล่ะสิ” ชายผมเขียวเอ่ยถามขณะจับพัดขยับไปมาสั่งให้หอกพฤกษษาเคลื่อนไหวโจมตีอสูรขนแดงตรงหน้า แต่ก็ยังไม่สามารถโจมตีมันโดน
“ก็บอกว่าอย่าพูดกับตัวเองไปแล้วโจมตีข้าไปเซ่!”