579-580
9/10
Ep.579
“เสี่ยวจือ นายพอจะสลัดพวกมันได้ไหม?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเสียงกระซิบ
หากเป็นในช่วงเวลาอื่น แล้วเจอพวกต่างเผ่าแบบนี้ เขาคงไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าพวกมัน
แต่ตอนนี้เขากำลังรีบไปเมืองเป่ยลู่ เพื่อตรวจสอบทางผ่านเขตแดน ไม่อยากเสียเวลา
[รถศึกอัจฉริยะ] ตอบว่า “เจ้านาย ความเร็วของรถฐานทัพอีกฝ่ายไม่ด้อยไปกว่าฉัน ยากที่จะสลัดหลุดพวกเขา”
สามารถเป็นเจ้าของรถฐานทัพที่มีความเร็วไม่ด้อยไปกว่า [รถศึกอัจฉริยะ] แสดงว่าฝ่ายผู้มาเยือนไม่น่าจะใช่ตัวตนเล็กจ้อย
ซูเฉินหรี่ตาลง เอ่ยถาม “ฝั่งตรงข้ามมีกี่คน? แล้วเป็นเผ่าพันธุ์อะไร? แข็งแกร่งมากแค่ไหน?”
ในเมื่อไม่สามารถสลัดได้ งั้นก็มีแต่ต้องลงมือ
แต่แน่นอน ว่าก่อนหน้านั้นต้องรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายให้ชัดเจน
“อีกฝ่ายเป็นเผ่าอมตะ มีทั้งสิ้น 100 ตน แข็งแกร่งที่สุดคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 นอกจากนี้ยังมีเลเวล 7 อีกสองตน ส่วนที่เหลือล้วนมีเลเวล 3 ขึ้นไป”
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินเริ่มเค้นสมอง
กำลังรบของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะไปที่ใดก็สามารถกลายเป็นขุมกำลังหลักได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในสายตาซูเฉิน แกร่งแค่นี้ยังไม่คณามือเขา
ด้วยกำลังรบของเขา หากเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 ทั่วๆไป ย่อมสามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขายังมีไพ่ตายอย่าง ด้วงเขมือบทองคำ , ต้นหลิววัชระ และหงส์เพลิง อยู่ในมือ
ซูเฉินออกคำสั่ง เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] และคุยกับสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเขา
“เสี่ยวเหยียน เสี่ยวหลิว พวกนายมากับฉัน รอรับมือลูกน้องเผ่าอมตะเลเวล 8”
เพื่อประหยัดเวลา ซูเฉินเตรียมสังหารอีกฝ่ายแบบสายฟ้าแลบ
“ขอรับ”
หงส์เพลิงและต้นหลิววัชระตอบพร้อมกัน
[รถศึกอัจฉริยะ] หยุดได้ไม่นาน ข้างหลังพวกเขาก็มีรถฐานทัพสีดำเจ็ดคันไล่ตามมา
เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้ก็กระจายตัว ขับรถฐานทัพวนล้อม [รถศึกอัจฉริยะ] เป็นวงกลม
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ชาวอมตะจำนวนมากก้าวลงจากรถฐานทัพ
“ทุกคนรออยู่ข้างใน”
ซูเฉินกำชับ เดินออกไปอย่างสบายๆ
“หือ? เป็นอย่างที่คิด มันคือเผ่ามนุษย์จริงๆ”
วินาทีนั้นเอง ชายชราจมูกบุบท่ามกลางชาวอมตะกวาดมองซูเฉิน กล่าวเสียงเย็น “มนุษย์ เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร? หากยอมสารภาพตามตรง ข้าสัญญาว่าเจ้าจะรอดพ้นจากการถูกถลกเนื้อเถือหนัง!”
“เสนอหน้าแบบนี้ ดูเหมือนว่านั่นคงเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 8”
ซูเฉินพึมพำ พริบตานั้นแสงสีม่วงทอประกายใต้ฝ่าเท้า ทั้งคนทั้งร่างวูบไหวพร่ามัว ตรงเข้าโจมตีชายชรา
“แส่หาที่ตาย!”
สีหน้าของชายชราฉายแววดูแคลน กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากซูเฉิน สามารถระบุได้ว่าเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 7
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 กล้าเปิดฉากโจมตีผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 นี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายหรอกหรือ?
ระหว่างซูเฉินกำลังพุ่งตรงมาข้างหน้า ชายชราคว้าขวานสีดำทะมึนขนาดใหญ่ออกมา เตรียมสับลงใส่ซูเฉิน
แต่ใครจะทันคาดคิด ว่าขวานยักษ์เพียงถูกยกขึ้นเหนือศีรษะ เจ้าของๆมันก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นโถมกดเข้ามาจากทุกทิศทาง
พลังอำนาจนี้ ชวนให้ชายชราคล้ายรู้สึกเหมือนถูกโยนลงไปในหล่มโคลน ทุกการเคลื่อนไหวเชื่องช้าซบเซา
“พลังจิตขั้น 8!”
ชายชราตกใจ ร้องตะโกนว่า “รีบหยุดเขา!”
เจ้าตัวตระหนักดี ว่าหากต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการของพลังจิตเลเวล 8 ไม่ใช่สิ่งที่สามารถกระทำได้ในระยะเวลาอันสั้น
หากปล่อยให้ซูเฉินเข้าประชิด เขาจะตกอยู่ในอันตราย
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสั่งให้ลูกน้องซื้อเวลา
สองผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ที่อยู่ข้างกายชายชราสบตากัน โฉบซ้ายปาดขวา ตรงเข้าขวางหน้าซูเฉินอย่างไม่ลังเล
ซูเฉินเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว เขาเอื้อมมือออกไปและสะบัดเบาๆ สองลำแสงหนึ่งแดงหนึ่งทองทะยานออกไปทันที
มิใช่ใดอื่น เป็นหงส์เพลิงและต้นหลิววัชระ!
10/10
Ep.580
“ฆ่าพวกมันซะ!”
ซูเฉินชี้ไปทางชาวอมตะเลเวล 7 ทั้งสองตน พร้อมออกคำสั่ง
ต้นหลิววัชระแสยะยิ้มหยัน ระเบิดหมัดซัดเข้าใส่หนึ่งในสองชาวอมตะเลเวล 7
ตามมาติดๆด้วยเสียงดังตูม!
ชาวอมตะไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของต้นหลิววัชระ เลือกปะทะกับแผ่นเหล็ก ผลปรากฏว่ากระดูกทั้งตัวของมันถูกทำลาย และตาย]’ด้วยการโจมตีเพียงหมัดเดียว
แม้ต้นหลิววัชระจะอยู่แค่เลเวล 7 แต่อย่าลืมสิว่า ก่อนที่เขาจะตาย เคยครอบครองร่างในระดับเทวะ จนถูกเรียกขานว่ากายวัชระมิอาจทำลาย
แล้วผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ธรรมดาๆ จะสามารถเทียบกับเขาได้อย่างไร?
อีกด้านหนึ่ง หงส์เพลิงอ้าปากและพ่นลูกไฟอันร้อนแรง แผดเผาชาวอมตะเลเวล 7 อีกตนเป็นเถ้าถ่าน
ตัวมันแม้อยู่ในเลเวล 6 ทว่าลูกไฟที่พ่นออกมาคือไฟที่แท้จริง ทั้งยังประกอบไปด้วยอำนาจกฏเกณฑ์แห่งไฟ จึงทรงพลังชนิดยากหาผู้ใดเทียบ!
ต่อให้เป็นเวทมนต์ธาตุไฟของซูเฉิน ที่ผสานเข้ากับ [เพลิงทะเลทราย] ก็ยังไม่อาจเทียบได้ สุดท้ายสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ได้ในการโจมตีเดียว
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
ชายชราเผ่าอมตะเห็นลูกน้องเลเวล 7 สองตนถูกฆ่าตายในพริบตา บังเกิดความหวาดกลัวแทบอกแตกตาย หัวใจถึงขั้นหยุดเต้น
ในขณะนั้นเอง เขาบังเกิดความตื่นตระหนกขึ้นมา ว่าชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่ศัตรูที่เขาจะสามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน หากต้องการรอดชีวิต มีแต่ต้องร้องขอความเมตตาเท่านั้น
“ผู้อาวุโส ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ!” ชายชราเผ่าอมตะเปล่งเสียงร้องดัง ไม่สนใจศักดิ์ศรีของผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 อีกต่อไป
ซูเฉินไม่หวั่นไหน ง้างแขนข้างหนึ่ง พริบตานั้นเอง ภูเขาสีสันละลานตาก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของชายชราเผ่าอมตะ
กระแสแสงห้าสายสะท้อนออกมาจากตัวมัน ปลดปล่อยแรงกดดันคุกรุ่นรุนแรง
ทั้งๆที่ภูเขาตรงหน้ามีขนาดแค่สิบจั้งแท้ๆ แต่ในความรู้สึกของชายชรา มันราวกับภูเขาสูงตระหง่าน มิใช่สิ่งที่จักสามารถสั่นคลอนได้
“นี่คือ … สิ่งประดิษฐ์เทวะ!”
เห็นภูเขาห้าสีทิ้งดิ่งลงมา แววตาของชายชราเผ่าอมตะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
โครมมม!
ตามมาด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งตนทั้งร่างของชายชราถูกทับจมลงไปใต้ดิน
[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ที่มีน้ำหนักมากถึง 108,000 ไม่ใช่เรื่องตลก เกรงว่านอกเสียจากต้นหลิววัชระและด้วงเขมือบทองคำที่ครอบครองร่างกายแข็งแกร่งเป็นพิเศษแล้ว ผู้ฝึกตนธรรมดาย่อมไม่อาจต้านทาน
และชายชราเผ่าอมตะเป็นตัวอย่างที่ดี
ณ ขณะนี้ ศพมันที่อยู่ใต้ภูเขาถูกบดเป็นแอ่งเนื้อเหลว จบชีวิตลงอย่างสิ้นเชิง
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ชาวอมตะรอบๆหวาดกลัวจนสูญเสียจิตวิญญาณ เตลิดหนีไปทุกทิศทาง
“ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าปล่อยทิ้งไว้แม้แต่ตัวเดียว!”
ซูเฉินออกคำสั่ง ง้าแขนและชก [หมัดดาวตก]
เงาหมัดนับร้อยพรั่งพราว ดับชีวิตชาวอมตะ 40-50 ตนในที่นี้ทันที
หงส์เพลิงและต้นหลิววัชระโจมตีพร้อมกัน สังหารชาวเผ่าอมตะที่เหลือได้ในไม่กี่อึดใจ
“เขา … ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!”
เฉินเมิ่งเฟยบน [รถศึกอัจฉริยะ] เมื่อเห็นซูเฉินนำสัตว์เลี้ยงวิญญาณสองตัวออกมา แล้วสามารถทำลายล้างกลุ่มของผู้แข็งแกร่งเลเวล 8 ได้ในชั่วพริบตาเดียว เธอก็ต้องทอดถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ
ซูเฉินเปิด [ฟังก์ชั่นเก็บอัตโนมัติ] หลังจากรวบรวมชิ้นส่วนราวๆ 300 ชิ้น เขาก็กลับมาที่รถ
“เสี่ยวจือ เดินทางไปเมืองเป่ยลู่ต่อ”
ซูเฉินเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ ทิ้งตัวลงที่นั่งคนขับ เริ่มตรวจสอบชิ้นส่วน
[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งเครื่องเต็มกำลัง มุ่งตรงไปยังเมืองเป่ยลู่
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเมืองใหญ่
หน้าประตูเมืองเป่ยลู่ในขณะนี้ มีชาวเต่าเขียวจำนวนมากกำลังเดินทางเข้าออก ดูมีชีวิตชีวามาก
ตรงจุดนี้ แทบไม่ต่างจากเมืองมนุษย์เลย
ซูเฉินกวาดสายตามองไปด้านหน้า มุมปากยกโค้งเล็กน้อย “เสี่ยวจือ–”
“–เปิดฉากยิงเข้าไปในเมือง!”