573-574
3/10
Ep.573
เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนค่ายกลเคลื่อนย้ายจะเปิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ ซูเฉินจึงนำทุกคนกลับไปยังเมืองเทียนหวัง
พอเข้ามาในเมือง ซูเฉินก็มุ่งหน้าไปหาหานซานเฉียนก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากได้รับคำยืนยัน ว่ากำหนดเวลาเปิดที่แน่นอนของค่ากลเคลื่อนย้ายคือในอีกสามวัน เขาก็พาทุกคนในกลุ่มเที่ยวชมรอบเมืองเทียนหวัง ลิ้มลองอาหารต่างถิ่น และซื้อสิ่งของแปลกใหม่ที่แต่ละคนสนใจ
เพราะปัจจุบัน เขามีหินพลังงานมากพอที่จะให้ทุกคนสมปรารถนา! กินของอร่อยได้ตามใจชอบ! ซื้ออะไรก็ได้ที่อยากซื้อ!
หยางฮ่าวและคนอื่นๆ ไล่ซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ตันหลินและสาวๆก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการช็อปของผู้หญิงเช่นกัน
ในเวลาแค่สามวัน เมื่อเปิดเข้าไปใน [รถศึกอัจฉริยะ] จะพบว่าข้างในถูกยัดเต็มไปด้วยสิ่งของจนแทบล้น
ซูเฉินไม่ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะยังไงซะเขามีหินพลังงานมากมาย แม้ตันหลินและคนอื่นๆจะจ่ายดุกว่านี้หลายเท่า สำหรับเขาแล้วมันก็แค่ขนเส้นเดียวบนตัววัว
ในวันที่สี่ ซูเฉินพาทุกคนมายังตำแหน่งที่ตั้งของค่ายกลเคลื่อนย้าย เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ใช้งานมัน ซูเฉินเลยเกิดความกังวลเล็กน้อย หันมาเอ่ยถามเฉินเมิ่งเฟยว่า “ระหว่างการเคลื่อนย้าย จะไม่มีอันตรายใช่ไหม?”
“ผู้อาวุโสโปรดวางใจ ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่นี่อยู่มานานหลายร้อยหลายพันปีแล้ว มันไม่เคยมีปัญหา รับรองปลอดภัยแน่นอน” เฉินเมิ่งเฟยช่วยยืนยัน
ซูเฉินพยักหน้า รู้สึกโล่งใจขึ้นหลายส่วน
“ผู้อาวุโส ค่ายกลเคลื่อนย้ายพร้อมแล้ว”
หานซานเฉียนก้าวเข้ามา บอกว่าพร้อมเดินทางตลอดเวลา ยืนอยู่เบื้องหน้าซูเฉินด้วยท่าทีนอบน้อม
“เริ่มได้เลย”
ซูเฉินนำทุกคนเข้าไปในค่ายกลแสงทรงกลม และส่งสัญญาณให้หานซานเฉียนเปิดมัน
หานซานเฉียนไม่พูดไม่จา กดปุ่มเปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย
เห็นแค่เพียงลำแสงสีขาวสาดประกายขึ้นจากค่ายกลแสงทรงกลม ปกคลุมซูเฉินและคนอื่นๆเอาไว้
ซูเฉินรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว แล้วร่างของเขาก็เริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว
แต่ในจังหวะที่ซูเฉินใกล้จะหายไปทั้งตัว มุมปากของหานซานเฉียนพลันยกโค้งเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์โดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น
เจ้าตัวดีดนิ้วดังเป๊าะ ลูกบอลสีแดงพุ่งจากฝ่ามือ ยิงตรงไปยังขอบค่ายกลแสงทรงกลม ตามมาติดๆด้วยการระเบิดอย่างรุนแรง
ตลอดทั้งวงกลมแสงเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คล้ายกำลังพังทลาย
ซูเฉินพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขณะพยายามที่จะหยุดมัน ก็พบว่าสายเกินไปแล้ว
วินาทีถัดมา เขาพบว่าตัวเองถูกส่งมายังสถานที่ที่มืดสนิท รอบด้านมีเพียงความเงียบสงัดชวนน่าขนลุก
“พวกนายเป็นอะไรไหม?”
ซูเฉินสร้างบอลไฟ ให้แสงสว่างแก่รอบๆ ตะโกนเรียกเบาๆ
“ซูเฉิน พวกเราไม่เป็นไร”
ตันหลินกับพวกสาวๆวิ่งตามแสงสว่างมารวมตัวกันข้างกายซูเฉิน
“พี่เฉิน พวกเราอยู่ที่ไหน?” หยางฮ่าวตามเข้ามา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย
หวู่หยางกวาดสายตามองรอบๆ ใบหน้าซีดเผือดผิดปกติ
ซูเฉินเองก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน ที่แน่ๆเขารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ทวีปเสวียนเทียน ว่าแต่เขาถูกค่ายกลเคลื่อนย้ายส่งตัวมาที่ใดกัน?
“เฉินเมิ่งเฟย เธอรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ถึงอย่างไร เฉินเมิ่งเฟยเคยมีประสบการณ์ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายมาก่อน ซูเฉินจึงฝากความหวังไว้กับเธอ
“ผู้อาวุโส ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เฉินเมิ่งเฟยแสดงสีหน้าขมขื่น
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินขมวดคิ้วทันใด หลังจากเค้นสมองครู่หนึ่ง ก็รีบเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] สนทนากับสัตว์เลี้ยงวิญญาณที่อยู่ข้างใน
“เสี่ยวเหยียน นายรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน”
[พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่หงส์เพลิงจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เจ้านาย ดูเหมือนพวกเราจะถูกส่งเข้ามาในจุดเชื่อมมิติ”
“จุดเชื่อมมิติคืออะไร?” ซูเฉินถามร้อนรน
หงส์เพลิงอธิบาย “จุดเชื่อมมิติคือพื้นที่อิสระที่ถูกแยกออกมาต่างหากท่ามกลางมิติที่ว่างเปล่า สถานที่แห่งนี้ปลอดภัยก็จริง แต่ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้”
4/10
Ep.574
“เจ้านาย มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อยย้ายหรือไม่?”
หลังจากหงส์เพลิงอธิบายเสร็จ มันก็เอ่ยถาม
ซูเฉินไม่ได้ปิดบัง บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่หานซานเฉียนทำลายค่ายกลระหว่างการเคลื่อนย้าย
หงส์เพลิงกล่าวด้วยหัวใจที่สั่นเครือว่า “โชคดีจริงๆ นับว่าพวกเราโชคดีมากที่ถูกส่งมายังจุดเชื่อมมิติ เพราะถ้าที่ๆถูกส่งมา เป็นจุดมิติโกลาหลแล้วล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีใครรอดไปได้”
“เสี่ยวเหยียน จุดมิติโกลาหลคืออะไร?” ซูเฉินปาดจมูกพลางเอ่ยถาม
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องจุดมิติโกลาหลมาก่อนเลย แต่เท่าที่ฟังดู ชื่อก็ดูน่ากลัวอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน
“จุดมิติโกลาหลคือพื้นที่ที่ไหลเวียนไปด้วยกระแสอากาศชนิดพิเศษซึ่งเกิดจากรอยแยกในมิติ มันเต็มไปด้วยพลังในการฉีกมิติ เมื่อเข้าไป ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ ก็มีโอกาสสูงที่จะตาย”
ได้ยินแบบนั้น ทุกคนต่างสูดหายใจเย็นเยียบ ทั้งหมดแอบลอบร้องว่า โชคดี
ใบหน้าของซูเฉินกลายเป็นมืดมนอย่างสิ้นเชิง คุณสามารถจินตนาการได้ หากครั้งนี้พวกเขาถูกส่งเข้ามายังจุดมิติโกลาหล เกรงว่านอกจากซูเฉินที่พอมีแข็งแกร่งอยู่บ้างแล้ว หวู่หยางและคนอื่นๆอย่าคิดหมายว่าจะรอดไปได้
และผู้ร้ายที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นี้คือหานซานเฉียน เพราะแบบนี้ไง ตลอดมาเขาถึงต้องขุดรากถอนโคน ไม่เคยไว้ชีวิตศัตรูคนใด
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินก็เข้าใจเช่นกัน ว่าอาศัยหานซานเฉียนเพียงลำพัง ต่อให้อีกฝ่ายมีความกล้ามากกว่านี้ถึง 10 เท่า ก็ไม่น่าจะกล้าทำอะไรกับค่ายกลเคลื่อนย้าย
เบื้องหลังเขา จะต้องมีใครบางคนสั่งการอยู่แน่
ไม่ว่าจะเป็นพวกต่างเผ่า , ราชวงศ์เฝิงซี หรือวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู ก็ล้วนน่าสงสัย และอาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่ทั้งสามขุมกำลังจะร่วมมือกัน
รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้มาได้ ซูเฉินถึงได้เห็นความชั่วร้ายในจิตใจมนุษย์ ขณะเดียวกันก็ปลุกเขาให้ได้สติ ว่าในอนาคต จะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
หลังจากถอนหายใจเบาๆ ซูเฉินก็เริ่มถามต่อว่า “เสี่ยวเหยียน นอกจากจุดมิติโกลาหลกับจุดเชื่อมต่อมิติแล้ว ยังมีอะไรอีก?”
พิจารณาจากเรื่องที่ว่าไม่สามารถอยู่ในที่แห่งนี้ได้ตลอดไป ไม่ช้าก็เร็วต้องเผชิญกับจุดมิติแห่งอื่น ดังนั้นซูเฉินเลยต้องการรู้ข้อมูลตั้งแต่เนิ่นๆ
“ภายนอกจุดเชื่อมต่อมิติคือความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น และในความเวิ้งว้างส่วนใหญ่จะมีแต่จุดมิติโกลาหล ไม่ค่อยมีจุดเชื่อมต่อมิตินัก” หงส์เพลิงกล่าว
“ไม่ใช่ว่ามิติท้ารบเองก็อยู่ภายในมิติหรอกหรือ?” ซูเฉินถามด้วยความสงสัย
มิติท้ารบเป็นสถานที่สำหรับสามมหาอำนาจต่อสู้กัน เช่นนั้นก็สมควรถูกสร้างขึ้นท่ามกลางมิติอันเวิ้งว้างว่างเปล่าสิถึงจะถูก แต่ถ้ารอบๆมีแค่จุดมิติโกลาหล งั้นมิติท้ารบจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
“มิติท้ารบ มีอยู่จริง แต่เป็นในทวีปมิติ ไม่มีจุดมิติโกลาหลอยู่ในทวีปแห่งนั้น แต่ก็จะไม่มีจุดเชื่อมต่อมิติ เช่นกัน” หงส์เพลิงอธิบาย
“หมายความว่าถ้าเราออกจากจุดเชื่อมต่อมิติ เราก็ต้องเผชิญกับจุดมิติโกลาหลอันไม่มีที่สิ้นสุดถูกไหม? แล้วแบบนั้นจะไม่ตายเอาหรอ?” ซูเฉินขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม
“ไม่หรอก”
หงส์เพลิงกล่าวด้วยความมั่นใจ “จุดเชื่อมต่อมิติถือเป็นตำแหน่งพักค้างระหว่างการเคลื่อนย้ายมิติ หากทำลายพื้นที่ตรงส่วนนี้ การเคลื่อนย้ายก็จะดำเนินต่อไป ทว่าเฉพาะปลายทางของการเคลื่อนย้ายเท่านั้น ที่จะกลายเป็นแบบสุ่ม”
“นายหมายความว่า ถ้าพวกเราทำลายจุดเชื่อมมิติแห่งนี้ พวกเราจะไม่ได้ถูกส่งไปยังทวีปเสวียนเทียน แต่มีแนวโน้มที่จะเข้าไปยังทวีปของเผ่าพันธุ์อื่น?”
ซูเฉินสูดหายใจลึก กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“ขอรับ” หงส์เพลิงพยักหน้าอย่างแรง
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินก็เงียบไป
หากเลือกอยู่ที่นี่ เขาจะติดแหง่กไปตลอดชีวิต เรื่องนี้เขาไม่ยอมแน่นอน
แต่หากทำลายจุดเชื่อมต่อมิติ ก็ต้องเสี่ยงดวงกันเล็กน้อย เพราะปลายทางจะเป็นแบบสุ่ม มีโอกาสสูงที่จะถูกส่งไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายของเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง
และหากเผ่าพันธุ์นั้นมีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะอยู่ล่ะจะทำยังไง?
เกรงว่าคงหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ ระหว่างซูเฉินกับพวกมัน มีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้
ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดซูเฉินก็ตัดสินใจออกไปจากที่นี่
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ตราบใดที่ไม่เผชิญหน้ากับการดำรงอยู่ระดับเทวะเข้า ก็ไม่น่าจะอันตรายจนเกินรับมือ
และการดำรงอยู่ระดับเทวะก็ไม่ใช่หมาแมว เอาจริงๆแทบไม่มีโอกาสที่จะพบเจอ
นอกจากนี้ การดำรงอยู่เช่นนั้น คงมุ่งมั่นอยู่กับการฝึกฝนแน่นอน ไม่เข้ามาก้าวก่ายเรื่องราวทางโลกง่ายๆ
ดังนั้น แม้พวกเขาจะถูกส่งไปยังทวีปของเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง แต่ซูเฉินก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถหลบหนี ฝ่าวงล้อมออกมาได้