ตอนที่แล้วการช่วยคนนี่ทำให้รู้สึกดีจริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปลมหายใจมหานที

โมจิ


หลังจากสิ้นเสียงของบุคคลที่ถูกเรียกว่านายน้อย ไม่นานก็ปรากฏร่างของกลุ่มชายฉกรรจ์ 8 คนโดยมีชายผมสีฟ้าอความารีนที่มีใบหน้าหยิ่งยโสเป็นจุดศูนย์กลาง

“หืม? มีคนอยู่งั้นเรอะ...พวกแก 2 คนจัดการมันแล้วเอาเจ้านั่นมาซะ” เมื่อสิ้นเสียงของชายผมสีฟ้า ชายฉกรรจ์ 2 ใน 7 ก็เข้าไปเปิดฉากโจมตีพัคแทยังทันที

“เดี๋ยวสิ อยู่ๆก็เข้ามาทำร้ายกันเลยเหรอ” พัคแทยังเอ่ยเสียงเย็น ใบหน้าแสดงออกถึงความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่มือทั้งสองกวัดแกว่งดาบคู่ที่สร้างจากปราณสุริยันเข้าตั้งรับการจู่โจมอย่างง่ายดาย ไม่นานชายหนุ่มตาทองก็สามารถเอาชนะชายทั้งสองจนอีกฝ่ายต้องล่าถอยออกมาตั้งหลัก

“เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ตระกูลข้าหมดเงินไปกับพวกแกตั้งเท่าไหร่ กะอีแค่สวะตัวเดียวก็เอาชนะไม่ได้” ชายผมฟ้าตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะสะบัดขาเตะร่างของลูกน้องทั้งสองของตนจนกระเด็นออกไปไกล

“อั่ก!”

“อึก!”

“ขออภัยขอรับนายน้อย” ลูกน้องทั้งสองกล่าวขอโทษด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

“เห้อ ช่างเถอะ ใช้เวลาที่เหลือใช้ประโยชน์จากเวทีการแข่งขันนี่เพื่อฝึกฝนตัวเองเพิ่มซะ ส่วนพวกแกที่เหลืออย่าเข้ามายุ่ง เพราะจากที่เห็น ยังไงพวกแกก็สู้มันไม่ได้ ข้าจะจัดการไอ้หน้าหล่อนี่เอง เห็นหน้าแล้วขัดใจเฟ้ย บังอาจหล่อเกินหน้าเกิดตาข้า ‘หลิวหยาง’ ไปได้!” เอ่ยจบชายหนุ่มผมฟ้าหริอหลิวหยางก็กระโดดเข้าโจมตีพัคแทยังที่ถือดาบคู่ด้วยมือเปล่า

“ไร้อาวุธงั้นเหรอ...หือ!?” ในขณะที่พัคแทยังกำลังงุนงงกับคู่ต่อสู้ จู่ๆเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างแล้วเอียงตัวหลบไปทางซ้ายตามสัญชาตญาน

“เพลงหมัดมหานที...คลื่นทลายทัพ!”

ตูมมม!

จากนั้นต้นไม้ใหญ่สามคนโอบนับสิบที่อยู่ด้านหลังของพัคแทยังก็หายไป ซึ่งเป็นผลมาจากการทะลวงหมัดของหลิวหยาง

“นาย...ตั้งใจฆ่ากันรึไง!?” พัคแทยังขมวดคิ้วมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง

“โฮ่!? หลบไวดีนี่ คงไม่ใช่ว่าบังเอิญหรอกนะ? งั้นถ้าอย่างนี้ล่ะ?” หลิวหยางง้างหมัดไปด้านหลังชั่วครู่ก่อนจะซัดหมัดที่มีเกลียวคลื่นที่เกิดจากการควบรวมกันของปราณวารีไปทางพัคแทยังด้วยรอยยิ้มกระหายเลือด

พัคแทยังก็ทำเช่นเดียวกับหลิวหยาง ต่างกันแค่หมัดของเขานั้นควบรวมปราณสุริยันที่แสนร้อนแรงแทน

“ฮ่าๆๆ มาซัดกันให้ตายไปข้างนึงกันเลย!” หลิวหยางแสยะยิ้มออกมาดร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“...” พัคแทยังไม่พูดอะไร ชายหนุ่มซัดหมัดสุริยันออกไปต้านทานเกลียวคลื่นจากหมัดของหลิวหยางด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

บึ้ม!

เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกัน พื้นดินโดยรอบก็เกิดการระเบิดขึ้นของสนามพลังทำให้คนที่ดูอยู่อย่างเหล่าลูกน้องของชายหนุ่มผมฟ้าอ้าปากค้างไปกับความรุนแรงของการต่อสู้นี้

“นายน้อย!” เหล่าชายฉกรรจ์ตะโกนเรียกหัวหน้าของพวกตนด้วยน้ำเสียงร้อนรน ก่อนที่จะพากันวิ่งไปยังใจกลางการต่อสู้ที่ยังคงเต็มไปด้วยไอน้ำที่เกิดจากการระเบิดของพลังขั้วตรงข้ามกัน

“โว้ย พวกเอ็งจะตะโกนอะไรกันนักหนาวะ” เสียงโวยวายที่ดังของหลิวหยางดังออกมาจากกลุ่มไอน้ำทำให้พวกเขาโล่งอก เพราะถ้านายน้อยของพวกเขาเป็นอะไรไป เห็นทีหัวพวกเขาคงหลุดออกจากบ่าแล้วถูกโยนร่างให้อสูรกินเป็นแน่

“นายน้อยชนะหรือไม่ขอรับ?” หนึ่งในลูกน้องของชายผมฟ้าถามออกมา

“เหอะ อย่างข้าหรือจะแพ้?” หลิวหยางแค่นเสียงพลางกอดอกเงยหน้าขึ้นฟ้า

“ข้าว่าแล้ว อสูรไร้พ่ายอย่างนายน้อยไม่มีทางแพ้ใครง่ายๆหรอก ฮ่าๆๆ” ลูกน้องอีกคนกล่าว

ตึง!

แต่ไม่กี่อึดใจต่อมาร่างของชายผมฟ้าก็หงายหลังล้มลงกับพื้นทราย ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยควันไหม้ที่เกิดจากพลังสุริยันของพัคแทยัง

“อ๊ากกก...นายน้อยยย!”

“เจ้าบ้านั่น!...บังอาจสังหารนายน้อย ข้าจะฆ่ามัน!”

“มันอยู่ที่ไหน!?”

“ข้าจะเอาเลือดหัวมันออก!”

“ตาย!”

“กรร!”

เหล่าลูกน้องของหลิวหยางกู่ร้องด้วยความเกรี้ยวกราด ทุกคนต่างกระจายกำลังกันเพื่อตามหาชายหนุ่มผู้สังหารนายน้อยของพวกเขา แต่อนิจจา ไม่ว่าหาอย่างไรก็หาไม่พบ

“แยกย้ายกันตามหา! เจ้าสารเลวนั่นน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล!” หลังจาก 1 ในลูกน้องของหลิวหยางพูดจบ ร่างทั้ง 7 ก็กระจายตัวกันออกตามหาพัคแทยังไปคนละทิศละทางด้วยความบ้าคลั่ง

.

.

.

อีกด้านหนึ่ง สถานที่ซึ่งห่างไกลจากการต่อสู้นับสิบกิโลเมตร ปรากฏร่างของชายหนุ่มตาสีทองคนหนึ่งที่ในมือกำลังอุ้มร่างสีขาวตัวน้อยเอาไว้ เงาร่างนั้นถอนหายใจออกมาก่อนจะพึมพำกับตนเองว่า

“เท่านี้คงไกลพอแล้วล่ะนะ ว่าแต่ชายคนนั้นคงไม่เป็นอะไรมากนะ เห้อ นิสัยชอบเอาจริงเวลาเห็นคนเก่งๆนี่ยังไงก็แก้ไม่หายสินะเรา” พัคแทยังใช้มือข้างที่ว่างเกาหัว ก่อนจะเปลี่ยนมาหยอกล้อกับลูกเสือน้อยที่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับพลังสุริยันที่เขาระเบิดออกมาเมื่อครู่เลย

“สมแล้วที่เป็นถึงลูกของพยัคฆ์ทิวา อสูรระดับ SS อันดับต้นๆของการจัดอันดับอสูร พลังของเรากลับเป็นผลสีกับมันเสียอีก” ชายตาทองพูดกับเจ้าตัวน้อยยิ้มๆ

“ก๊าววว?” ลูกเสือน้อยในอ้อมกอดของพัคแทยังเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยใบหน้าบ้องแบ๊วพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา

“โอย โครตน่ารักเลย นี่เรากลายเป็นทาสแมว(?)ไปแล้วเหรอเนี่ย ว่าแต่มันเป็นอสูรเพศไหนกันล่ะเนี่ย...” พัคแทยังเบนสายตามองไปอีกด้าน

“เพศผู้นี่เอง นี่...แกอยากมาอยู่กับฉันมั้ย? ฮะๆ แกคงฟังฉันรู้เรื่องหรอก...เอ๋!?” พัคแทยังชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากเห็นว่าเจ้าลูกเสือน้อยทำท่าทางคล้ายกับการพยักหน้า

“...” ชายหนุ่มชูตัวของมันขึ้นเหนือหัว

“นี่แกฟังฉันรู้เรื่องงั้นเหรอ?”

เจ้าเสือน้อยพยัคหนัาอีกครั้ง เมื่อพัคแทยังได้ยินเขาก็ยิ้มออกมา

“ดีล่ะ ในเมื่อแกตกลงแล้ว งั้นฉันจะพาแกไปกับฉันด้วย แต่ก่อนอื่นฉันต้องตั้งชื่อให้แกก่อน เอาเป็น...เจ้าขาวดีมั้ย?”

งับ!

เมื่อได้ยินชื่อที่พัคแทยังเอ่ย ลูกเสือน้อยก็อ้าปากงับนิ้วของชาบหนุ่มทันที

“เอ๋ ไม่ชอบชื่อนี้งั้นเหรอ งั้นชื่อ...เจ้าลาย?”

งับ!

“เสือน้อย?”

งับ!

“ทิวาน้อย?”

งับ!

“เหมียวน้อยจอมซน?”

แง่ง!

“เจ้าหิมะดีมั้ย? ตัวแกขาวเหมือนหิมะเลย โอ๊ะๆ ก็ได้ๆ ไม่เอาชื่อนี้”

“เจ้าหนูทิวา? โอเคๆ ไม่เอาก็ไม่เอา”

.

.

.

หลังจากที่ชายหนุ่มตาทองเอ่ยไปนับสิบชื่อ ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวเล็กจะยอมรับชื่อเหล่านั้นเลย

ในตอนนี้พัคแทยังกำลังนั่งมองลูกเสือขาวที่กำลังนอนบนตักของเขาอยู่อย่างสบายใจ

“เห้อ เห็นแกแล้วหิวขนมโมจิเลยแฮะ เสียดายจริงๆที่เอามันเข้ามากินในนี้ไม่ได้” ชายตาทองพูดออกมายิ้มๆขณะลูบหัวของมันไปพลางๆ

“แง๊ว!” เมื่อเจ้าตัวเล็กได้ยินที่พัคแทยังพูด หูของมันก็กระดิกเบาๆ จากนั้นมันก็ลุกขึ้นเอาหัวมาถูไถที่มือของชายหนุ่มเบาๆ

“หืม...นี่แกชอบชื่อโมจิงั้นเหรอ?” พัคแทยังยื่นนิ้วออกไปเกาคางให้มัน

“แง๊ววว” มันพยักหน้าก่อนที่จะหลับตาแล้วเพลิดเพลินไปกับการเกาของเจ้านายของมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด